นายกฯเย้ยสีสันจบแล้ว รมว.กห.ปัด‘ตบทรัพย์’

“เศรษฐา” บอกสีสันอภิปรายจบแล้ว ขอทำงานต่อ “ราเมศ”    จวกนิสัยด้อยค่าพรรคการเมือง แทนที่จะใช้ข้อเท็จจริงสู้ “สุทิน” หยามฝ่ายค้านรู้ไม่จริง “ฟริเกต-เรือดำน้ำ” เหมือนคลำหา  คาดปมเรือดำน้ำจบใน เม.ย. ไม่เชื่อปมตบทรัพย์

เมื่อวันที่ 5 เม.ย. นายเศรษฐา ทวีสิน  นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ที่เสร็จสิ้นลงไปแล้วว่า สำหรับฝ่ายตนแล้ว อะไรที่เป็นประโยชน์หรือเข้ากับบริบทสถานการณ์ปัจจุบัน โดยคำนึงถึงขีดจำกัดต่างๆ และสามารถนำไปปฏิบัติได้ ตนน้อมรับ และได้ให้ทีมงานสรุปทั้งหมด แต่จะไม่เป็นการตอบโต้ทางสื่อ

ผู้สื่อข่าวถามว่า การอภิปรายที่ผ่านมา นายกฯ เก็บทุกเม็ดเก็บทุกดอกในการชี้แจง นายเศรษฐาตอบว่า จริงๆ แล้วยังไม่ครบ แต่ไม่อยากให้อุณหภูมิสูง ตนคิดว่าหลายเรื่องต้องตอบโต้ เพราะคือมุกเดิมๆ   อะไรที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติและเพื่อประชาชนจริงๆ เราจะรับไว้พิจารณา   ไม่อยากให้เดือดจนกระทั่งฝ่ายเราเองต้องโกรธเกินไป เพราะจะกลายเป็นว่าหัวหน้าทีมเดือดมาก เดี๋ยวลูกน้องจะเดือด แล้วทุกอย่างตีตกหมด เราต้องกลับมาพิจารณาให้เป็นเหตุเป็นผล ต้องให้โอกาสด้วย สีสันจบไปแล้วตอนนี้ก็ทำงานต่อ

นายสุทิน คลังแสง รมว.การคลัง   กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านอภิปรายเรื่องเรือดำน้ำและเรือฟริเกตว่า ไม่ได้ดุเดือดหรือรุนแรง เพราะเขาไม่ได้รู้จริงเท่าไหร่  เหมือนกับคลำหา ไม่ว่าจะเป็นเรือฟริเกตหรือเรือดำน้ำก็คลำหา ส่วนเรื่องเรือฟริเกตที่ฝ่ายค้านมองว่ารัฐมนตรีไปตัดงบทำไมทั้งที่พรรคก้าวไกลอุตส่าห์เชียร์นั้น   ตนมองว่าเป็นเหลี่ยมทางการเมืองของฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นอย่างนี้ตลอด ถ้าเราไปขาว เขาก็ไปดำ ถ้าเราไปดำ เขาก็ไปขาว  ถ้าเราให้ข้อมูลไปก็ยังมีมุมมาว่าเราอีก เพราะฉะนั้นจะไม่ชกตามเสียงเชียร์ แต่ชกไปตามแผนของเรา

เมื่อถามถึงกรณีฝ่ายค้านอภิปรายว่ามีคนในรัฐบาลโทร.หากองทัพเรือขู่ตัดงบประมาณเหมือนเป็นการตบทรัพย์เรื่องเรือฟริเกต นายสุทินระบุว่า เสียดายตนฟังตรงนี้ไม่ทัน ไม่รู้ว่าเขาพูดว่าอย่างไร ถ้าโทร.ไปจริงคงไม่ใช่เรื่องตบทรัพย์ อาจเป็นเรื่องการให้กำลังใจ และขอให้กองทัพเรือใจเย็นๆ ได้เรืออยู่หรอก ส่วนที่นายกฯ ระบุว่าการที่พรรคก้าวไกลเชียร์ให้ซื้อเรือฟริเกตเพราะฝ่ายค้านได้เงินทอนด้วยใช่หรือไม่นั้น ก็เป็นการย้อนตรรกะเฉยๆ เมื่อคุณคิดทางลบกับคนอื่น ทำให้คนอื่นคิดทางลบกับคุณได้เหมือนกัน เท่านั้นเอง

ซักว่าทั้งสองฝ่ายมีตัวแทนนายหน้าผู้ค้าอาวุธอยู่เบื้องหลังเหมือนแย่งโครงการกัน นายสุทินตอบว่า ตนไม่รู้หรอก แต่โดยธรรมชาติการค้าขายที่ไหนจะมีเรื่องของตัวแทนเป็นปกติ ส่วนจะเป็นเรื่องผลประโยชน์หรือแย่งชิงอะไรกันนั้น ตนไม่รู้เลย แต่คิดว่าไม่ถึงขั้นนั้น หากได้ผลสรุปเรื่องเรือฟริเกตจะยืนอยู่บนหลักการเดิมคือจีทูจี

เมื่อถามว่า งบจัดซื้อเรือฟริเกตไม่อยู่ในแผนงบปี 68 ใช่หรือไม่ นายสุทิน บอกว่า ยังไม่สรุปว่าไม่เข้า อาจจะนำเข้าก็ได้ ขอรอดูการพูดคุยเรื่องเรือดำน้ำก่อน ซึ่งมันเชื่อมโยงกันอยู่

เมื่อถามอีกว่า จะใช้เวลาตัดสินใจเรื่องเรือดำน้ำนานแค่ไหน รมว.กลาโหมชี้แจงว่า พยายามจะเร่ง อยากจะให้จบภายในเดือน เม.ย. หรือถ้าจบเร็วกว่านี้ก็ดี พอมีสัญญาณที่ชัดงบประมาณปี 68 น่าจะเดินได้

พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านอภิปรายกองทัพอย่างดุเดือดว่า ไม่ดุเดือดเลย เป็นเหตุเป็นผล เมื่อถามว่ามีการกล่าวหาเรื่องการตบทรัพย์โครงการจัดซื้อเรือฟริเกต พล.ร.อ.อะดุงไม่ตอบคำถาม

เมื่อถามเรื่องเรือดำน้ำ เดือน เม.ย.นี้จะเกิดความชัดเจนใช่หรือไม่ ผบ.ทร. ปฏิเสธว่า ยัง และขณะนี้ รมว.กลาโหม กำลังหาทางออกให้กองทัพเรืออยู่ โดยกองทัพเรือทำหน้าที่เสนอไปแล้ว ฉะนั้นการจะเปลี่ยนหรือจะทำอย่างไรเป็นเรื่องของหน่วยเหนือ โดยนายกฯ กับ รมว.กลาโหมพยายามช่วยเหลืออยู่ อย่างน้อยตนขอบคุณทั้งสองท่านที่พูดเสมอว่ายังไม่ลืมศักยภาพของกองทัพเรือ ที่มีหน้าที่รักษาอธิปไตยและผลประโยชน์ทางทะเลของชาติบ้านเมือง

ถามว่า จะเป็นเรือดำน้ำหรือเรือฟริเกตก็ได้ใช่หรือไม่ ผบ.ทร.ระบุว่า ขอรอ รมว.กลาโหมเป็นผู้ตัดสินใจ ต่อข้อถามว่าจะมีการเสนองบจัดซื้อเรือฟริเกตในงบประมาณปี 68 หรือไม่ ผบ.ทร.กล่าวว่า บรรจุไม่ทันแล้ว

วันเดียวกัน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า หลังปิดสมัยประชุมสภา 9 เม.ย.นี้แล้ว มีโอกาสที่จะเปิดสมัยประชุมวิสามัญ ก่อนเปิดสมัยประชุมอีกครั้ง 3 ก.ค. เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ที่รัฐบาลเสนอ ซึ่งสภาต้องพิจารณาภายใน 15 วัน และเห็นว่ารัฐบาลจะจัดทำร่างกฎหมายงบประมาณ 2568 เสร็จเรียบร้อยภายในเดือน เม.ย.เข้า ครม. เพื่อให้ความเห็นชอบกลางเดือน เม.ย. ซึ่งถ้าส่งมาสภาจะต้องเปิดประชุมสมัยวิสามัญ อาจจะเป็นช่วงเดือน พ.ค.หรือ มิ.ย.เพื่อพิจารณาวาระ 1 และตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาพิจารณา แต่หากเปิดสมัยประชุมวิสามัญแล้วหากมีเรื่องอื่นที่สำคัญ ก็คงจะให้เวลาในการพิจารณาตามสมควร

ประธานสภาฯ ยังกล่าวถึงการ อภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 ตลอด 2 วันที่ผ่านมาว่า การประท้วงเป็นเรื่องธรรมดา เพื่อให้มีสีสันของสภา  แต่ถือว่าน้อยมาก ตนอยู่ในสภามากว่า 40 ปี แม้จะเป็นการอภิปรายแบบ 152 ไม่ลงมติ แต่ไม่มีการประท้วงแบบมีองครักษ์พิทักษ์ มีบ้างนิดหน่อย แต่ภาพรวมถือว่าเป็นการอภิปรายที่ดี แม้จะใช้เวลา 2 วัน ดึกไปหน่อย แต่การอภิปรายครั้งต่อไปเชื่อว่าวิปทั้งสองฝ่ายจะเข้าใจในการจะไปบริหารว่าจะใช้เวลาเท่าใด เพราะว่าถ้าใช้เวลามากเกินไปจะอภิปรายซ้ำซาก

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า คนที่จะให้ความเห็น รวมถึงประเมินการทำงานประชาชนได้ดีที่สุดคือประชาชน ตนหวังว่าสิ่งที่เราได้แสดงออกในการอภิปรายตลอดสองวันที่ผ่านมา เราได้ทำหน้าที่ฝ่ายค้านเชิงรุก ในมุมหนึ่งคือการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างเข้มข้นเชิงนโยบาย ไม่ว่าจะเป็นการรักษาคำมั่นสัญญาที่ได้ให้ไว้ ในการนำเสนอปัญหาเรื่องการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานราชการต่างๆ ให้รัฐบาลได้เห็น และนำไปแก้ไขปัญหา อีกมุมหนึ่ง เราก็นำเสนอทางออกที่รัฐบาลยังคิดไม่ครบและมองไม่เห็น เดินผิดทิศผิดทาง

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในส่วนนายกฯ ถือว่าประชาชนผิดหวัง นอกจากไม่มีสาระในการตอบแล้ว ยังใช้วิธีการด้อยค่าพรรคการเมืองอื่น ทั้งๆ ที่ควรเอาชนะกันด้วยข้อมูลข้อเท็จจริง ทุกเรื่องนายกรัฐมนตรีจะบอกก่อนว่า งงๆ ทุกเรื่องไป และไม่ได้เอาสาระข้อเท็จจริงมาชี้แจงตอบข้อซักถามเลยแม้แต่น้อย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ โดดป้อง 'อุ๊งอิ๊ง' ปมแบงก์ชาติ อ้างแค่สะท้อนความต้องการประชาชน

นายกฯ ป้อง “อุ๊งอิ๊ง“ สปีชเวทีเพื่อไทย แค่สะท้อนความต้องการประชาชน ลั่น ไม่เคยบีบบังคับใคร เข้าใจความเป็นอิสระ เตรียมคุย ”รมว.คลัง“ หาทางทำงานร่วมแบงค์ชาติ