อัยการส่อเลื่อนสั่ง112ทักษิณ

"เศรษฐา" ปาฐกถาเปิดหลักสูตร วปอ.จูเนียร์ ชี้ไม่ผิดหลายคนมาเรียนหาคอนเนกชัน ขอนำไปใช้ประโยชน์ขับเคลื่อนประเทศ อย่าเบียดเบียนผู้อื่น "อุ๊งอิ๊ง" แจงภาพ "ทักษิณ" ลงสระน้ำ ใช้ดัมเบลฟองน้ำออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อ "ทวี" ยัน "แม้ว" ป่วยจริงแพทย์ 3 รายการันตี ชี้ลงสระตามคำแนะนำหมอ เหน็บ "หมอวรงค์" บอกบางคนสงสัยก็ใช้วิธีทางการเมืองพูดให้เสียหาย "ภูมิธรรม" ขออย่าโยงการเมืองหมด ตีมึนไม่รู้ ปชป.ขอเข้าร่วมรัฐบาล "พิธา" เล็งขอเวลาศาล รธน.เพิ่มชี้แจงคดียุบพรรคก้าวไกล

ที่หอประชุมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ วันที่ 9 เม.ย. เวลา 13.50 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง เป็นประธานพิธีเปิดหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรสำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต  (วปอ.บอ.) รุ่นที่ 1 ซึ่งมีบุคคลที่มีชื่อเสียงร่วมหลักสูตร อาทิ น.ส.แพทองธาร  ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, น.ส.ธนนนท์ นิรามิษ ภรรยานายอนุทิน​ ชาญ​วี​ร​กูล​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ รมว.มหาดไทย, น.ส.รัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายชัยชนะ เดชเดโช สส.พรรคประชาธิปัตย์, นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ คณะทำงานคนสนิทนายกรัฐมนตรี  เป็นต้น

นายเศรษฐากล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “บทบาทของผู้นำในอนาคตในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ” ตอนหนึ่งระบุว่า วปอ.​ ชื่อหลักสูตรบอกชัดเจนอยู่แล้ว​เป็นหลักสูตรที่มีเกียรติ​ มีศักดิ์ศรี และเป็นส่วนหนึ่งที่จะนำพาประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองได้ในอนาคต รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 1 ซึ่งเข้าใจว่ามีหลายคนอยากมาเรียนกันเยอะ เนื่องจากเป็นคอร์สที่มีความต้องการที่จะเข้ามาเรียนอย่างสูง เชื่อว่าทุกท่านได้รับการคัดเลือกมาด้วยความเหมาะสม มีการอบรมเป็นอย่างดี ไหนๆ ก็มาแล้ว​ ก็อย่าขาดเรียน เข้ามาก็เข้ายาก​ และขอให้เรียน​ ซึ่งตนมั่นใจว่าหลักสูตรสถาบันนี้ให้ความรู้แน่นอน

"นอกจากความรู้แล้วเรื่องของคอนเนกชัน หรือเรื่องเครือข่ายในการทำงานร่วมกันเป็นเรื่องที่สำคัญ​ ผมเชื่อว่าหลายๆ ท่านมาในที่นี้เพราะเหตุผลนี้ ถามว่าผิดไหม ไม่ผิด แต่คอนเนกชัน​ต่างๆ เหล่านี้ต้องใช้ให้เป็นประโยชน์แก่ตัวเอง​ แก่ผู้อื่น โดยไม่ไปเบียดเบียนหรือไปทำให้เกิดความไม่เหมาะสม ผมเคยพูดไปหลายครั้งแล้วเรื่องนี้​ ผมไม่อยากจะเน้นย้ำ​แต่ว่าสังคมของเราในช่วงนี้มีความเหลื่อมล้ำกันสูงมาก​ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่มีการแพร่ระบาดโควิด-​19 คนรวย รวยขึ้น คนจน จนลง จึงต้องพูดอย่างตรงไปตรงมาที่สุด เรื่องนี้เป็นเรื่องที่บั่นทอนความมั่นคงของประเทศพอสมควร" นายเศรษฐากล่าว

นายก​ฯ กล่าวว่า​ พวกเราทุกคนที่อยู่ในที่นี้ ตนเชื่อว่าเป็นอนาคตของชาติ และจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องที่พวกเราทุกคนควรตระหนักดี​ถึงเรื่องนี้​ เพราะฉะนั้น​เรื่องของเราที่จะต้องมีความพยายามในการลดความเหลื่อมล้ำลงมา ตนถือว่าเป็นหน้าที่ของทุกคน วันนี้ตำแหน่งหน้าที่การงานอาจจะไม่ใหญ่โตมากมาย การประพฤติตัวตรงนี้​ก็จะเป็นที่จับตามองของสาธารณชนค่อนข้างมาก​ มีการใช้โซเชียลมีเดียต่างๆ นานา​ ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม เรามาอยู่ในที่นี้ มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่​ มีองค์กรอิสระ​ นักธุรกิจ​ มีนักการเมือง เป็นการผสมผสานอย่างลงตัว​ ซึ่งสถาบันก็ได้คิดมาดีแล้ว​ เพราะฉะนั้นเรื่องเหล่านี้เราจะให้ความสำคัญในเรื่องของการใช้โซเชียลมีเดีย​

"ขอย้ำอีกครั้ง​ อะไรที่เป็นการทำให้คนรู้สึก หรือไม่มีโอกาสได้เข้ามาตรงนี้เวลาจะทำอะไรขอให้คิด เพราะพวกท่านเป็นที่จับตามอง เพราะรายชื่อก็มีการประกาศชัดเจนว่าใครได้ ใครอยู่ในคอร์สนี้บ้าง ชื่อคอร์สก็บอกอยู่แล้ว Future Reader ผู้บริหารแห่งอนาคต​ ตนมองว่าเป็นเรื่องสำคัญของอนาคตของพวกท่านทุกคนส่งต่อไปสู่อนาคตของประเทศชาติ" นายกฯ กล่าว

นายเศรษฐากล่าวว่า หลังจากที่พวกท่านจบคอร์สในเดือน ก.ย.นี้แล้ว จะมีการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง อาจจะมีโครงการแต่ละคน หากสามารถช่วยคนที่อยู่ฐานรากของสังคมได้ ก็ขอให้ช่วยอย่างจริงจัง ใครมีเส้นสายในแง่ของช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าให้กับเกษตรกรในพื้นที่ ก็อยากให้ลงมาช่วยพิจารณาช่วยเหลือกัน ใช้เครือข่ายที่ตัวเองมีอยู่ช่วยเหลือประชาชน ตนคิดว่าสังคมไทยจะมั่นคงยิ่งขึ้น โดยมีฐานรากของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ตนคิดว่าระยะเวลาการอบรม 6 เดือนนี้จะเป็นมิตรภาพที่แน่นแฟ้น และมีส่วนพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต

ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ถึงการโพสต์ภาพนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ลงสระเล่นน้ำกับหลานโดยมีดัมเบล จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงอาการป่วยจริงว่า  จริงๆ แล้วเป็นดัมเบลฟองน้ำและท่อฟองน้ำ เพื่อใช้ในการออกกำลังกายในน้ำ เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อกลับมา แต่ไม่ได้ว่ายน้ำเยอะ เป็นเพียงการเดินในน้ำโดยใช้ดัมเบลฟองน้ำ ซึ่งไม่มีใครเอาดัมเบลเหล็กลงน้ำ ไม่ใช่นั้นคงจม ซึ่งลูกของตนก็ยังใช้เล่นด้วย เพราะว่ายน้ำไม่เป็น โดยนายทักษิณได้ให้หลานหนีบดัมเบลฟองน้ำไว้ทั้ง 2 ข้างและเดินตาม ซึ่งก็เป็นการบริหารกล้ามเนื้อ

ซักว่าหากครั้งต่อไปจะโพสต์อะไรจะต้องมีการชี้แจงอย่างละเอียดหรือไม่  น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ไม่ ตนก็คงจะโพสต์เหมือนเดิม ไม่เป็นไร และอะไรที่เป็นกระแส ก็พร้อมที่จะตอบคำถาม ไม่เช่นนั้นชีวิตตนก็จะต้องเปลี่ยนไป ทำอะไรต้องมาระวังนู่นนี่นั่น ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ได้ตั้งใจจะโพสต์เพื่อทำร้ายใคร หรือเพื่อให้เป็นกระแสอยู่แล้ว แต่เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตนงานยุ่งมาก

"เมื่อเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมามีเวลาว่างอยู่กับลูก และไปนอนบ้าน รู้สึกว่าคุณตาตื่นมามีความสุขหลานๆ มีความสุข อิ๊งค์ก็มีความสุข จึงเป็นสิ่งที่ต้องการจะสื่อ สื่อให้ตัวเอง ไม่ได้คิดว่าจะเป็นประเด็น ถ้าเป็นประเด็นก็อธิบายได้" น.ส.แพทองธารกล่าว

แพทย์แนะนำทักษิณลงสระ

เมื่อถามว่า สภาพร่างกายของนายทักษิณขณะนี้เป็นอย่างไรบ้าง น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ดีขึ้นเยอะ แข็งแรงขึ้น แต่ต้องมีการออกกำลังกายเรื่องกล้ามเนื้อเล็กน้อย เพราะอยู่ในพื้นที่จำกัดมานาน โดยบางส่วนต้องมีการฟื้นฟูโดยการออกกำลังกายในน้ำ เพราะอายุเยอะแล้ว ไม่ควรที่จะไปวิ่งเพื่อให้เกิดการกระแทก ดังนั้นการว่ายน้ำจึงปลอดภัยที่สุด และยังคงต้องไปตรวจเช็กอาการกับแพทย์อยู่อย่างต่อเนื่อง

พอถามว่า ภายหลังจากมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ นายทักษิณว่าอย่างไร  น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ไม่มีการพูดคุยในเรื่องนี้เลย ปล่อยผ่านไป

ถามว่า หลังจากนี้จะมีการโพสต์รูปนายทักษิณอีกหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า "ใช่ๆ คงจะโพสต์ต่อ หรือควรจะหยุดโพสต์ไหม" เมื่อย้อนถามกลับว่าเรื่องนี้จะทำให้เกร็งหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า "ไม่เลยค่ะ" ถามอีกว่ารู้สึกอย่างไรที่มีคนคอยจ้องจับผิดความเคลื่อนไหวอยู่ตลอด น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนจ้องจับผิด แต่ไม่เป็นไร เราก็เป็นธรรมชาติของเราอยู่แบบนี้ ถ้าไม่ชอบหรือไม่ถูกใจก็ต้องขอโทษด้วย

ถามถึงกำหนดการเดินทางกลับจังหวัดเชียงใหม่ของนายทักษิณช่วงสงกรานต์ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า

ยังไม่แน่ใจ ยังไม่ยืนยันเวลา น่าจะเป็นวันที่ 12 หรือ 13 เม.ย.

ซักว่าวันที่ 10 เม.ย. นายทักษิณจะเดินทางไปฟังคำสั่งของสำนักงานอัยการสูงสุดคดีมาตรา 112 หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ยังไม่ทราบ อาจจะต้องไป ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูล ยังไม่ได้คุยกับนายทักษิณในเรื่องนี้ แต่ถ้าทางอัยการนัดก็คงจะต้องไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ในการแถลงข่าวของสำนักงานอัยการสูงสุด นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เคยระบุว่า คดี 112 ของนายทักษิณ ทางคณะพนักงานสอบสวนได้มีการสอบสวนสำนวนใหม่ จึงทำให้วันที่ 10 เมษายนนี้ ตัวนายทักษิณจะต้องมารับฟังคำสั่งด้วยตนเองว่า ทางอัยการจะเห็นสมควรสั่งฟ้องทางคดีหรือไม่ โดยคำสั่งจะแบ่งออกเป็น 3 แนวทาง คือ 1.สั่งฟ้อง 2.ไม่สั่งฟ้อง 3.เลื่อนนัดฟังคำสั่ง ถ้าหากสำนวนที่สอบเพิ่มเติมนั้นยังไม่ครบถ้วน แต่ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร จะต้องแจ้งให้ตัวนายทักษิณทราบ หากอัยการมีคำสั่งเห็นสั่งฟ้อง จะต้องนำตัวนายทักษิณเข้าสู่กระบวนการศาลทันที แต่หากมีคำสั่งไม่ฟ้องคดีดังกล่าว ถือว่าสิ้นสุด เนื่องจากเป็นคดีนอกราชอาณาจักรที่อัยการสูงสุดมีอำนาจสอบสวนและพิจารณาเด็ดขาด

ส่วน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี นำเอกสารทางการแพทย์เกี่ยวกับการรักษาตัวของนายทักษิณมาเผยแพร่ ระบุอาจไม่ได้ป่วยจริงถึงขั้นได้ 9 คะแนนที่ต้องได้รับการพักโทษว่า ไม่ทราบ นพ.วรงค์ได้หลักฐานมาอย่างไร แต่จากการสอบถามแพทย์ที่ทำการรักษา 3 คน แพทย์คนแรกมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่ รพ.ตำรวจ ส่วนแพทย์อีก 2 คน เป็นแพทย์รพ.ตำรวจ ซึ่งทั้ง 3 คนบอกว่าภาพที่ปรากฏเล่นดัมเบลในน้ำเป็นการฟื้นฟูผู้ป่วยที่ทำกายภาพในน้ำ เป็นดัมเบลโฟมที่มีน้ำหนักเบา ซึ่งค่อนข้างปลอดภัยกับผู้ป่วยที่ต้องการฟื้นสภาพร่างกาย เสริมสร้างกล้ามเนื้อไหล่และข้อศอก สำหรับผู้ป่วยที่มีประวัติการผ่าตัดไหล่ และเป็นการปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์เพื่อกายภาพเสริม

ถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่านายทักษิณป่วยถึงขั้นได้แค่ 9 คะแนน พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า เป็นเรื่องของแพทย์ ตนได้สอบถามกับแพทย์แล้ว ภาพที่ปรากฏเป็นการทำกายภาพในน้ำ ซึ่งเป็นไปตามคำแนะนำของแพทย์

"บางคนเวลาสงสัยจะมีวิธีทางการเมือง พูดให้คนเสียหายไปก่อน นี่คือความแตกต่าง ซึ่งเอกสารที่ นพ.วรงค์นำมาเผยแพร่เป็นเอกสารนั้น ผมยังไม่เห็น ยังไม่ได้อ่าน แต่ดูจากข่าวที่มีคนโทร.มาถามเท่านั้น" พ.ต.อ.ทวีกล่าว

ถามว่าเรื่องนี้จะส่งผลต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่อาจจะเจอข้อหา ม.157 หรือไม่นั้น พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า มันเป็นกระบวนการการทำงาน ไม่ได้ดำเนินการด้วยคนคนเดียว และทำตามหลักวิชาชีพ ตามหลักฐาน พร้อมออกตัวว่านี่ไม่ใช่ความเห็นของตน แต่เป็นความเห็นของแพทย์ ตนได้อ่านเอกสารทางการแพทย์ตลอดเวลา ซึ่งเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องไปสอบถามเจ้าหน้าที่ แต่ในหน้าที่ของรัฐมนตรี ถ้ามีคนสอบถามหรือสงสัย เราไม่ควรไปโกรธคนสงสัย แต่ควรหาข้อเท็จจริงและชี้แจง

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของนายทักษิณว่า ก็ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร เท่าที่ดูแค่ออกมาเล่นน้ำกับลูกหลานในสระเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่อยู่ในบ้านกับครอบครัว เอามาพูดกันเรื่องยกดัมเบลไปกันใหญ่ ทั้งที่เป็นการออกกำลังกายในน้ำ อย่าพยายามไปขยายให้เป็นประเด็น เพราะบ้านเมืองสงบดีอยู่แล้ว

ถามว่าการที่นายทักษิณออกมาระบุในที่ประชุมสามัญพรรคเพื่อไทยว่า น.ส.แพทองธารมีดีเอ็นเอเดียวกัน จะต้องเพิ่มบทบาทอื่นอีกหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า นายทักษิณพูดความจริง เพราะพ่อลูกก็ต้องมีดีเอ็นเอเดียวกัน  ส่วนบทบาทที่จะเห็นทางการเมือง คือ น.ส.แพทองธารเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณกับ น.ส.แพทองธารเขาเป็นพ่อลูกกัน เป็นสายเลือดแยกออกไม่ได้ อยู่ในบ้านทานข้าวพูดคุยธรรมดา อย่ามองทุกอย่างเป็นการเมือง

"เรื่องงานของ น.ส.แพทองธารก็ดำเนินการปกติ และนายทักษิณก็พูดนานแล้วว่าหากประสบการณ์อะไรที่เขามีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนทั้งรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็สามารถปรึกษาได้ อย่ามองว่าท่านมาจะกลายเป็นผู้มีอิทธิพลทางการเมือง นายทักษิณก็คือนายทักษิณ  เคยเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น" นายภูมิธรรมกล่าว

ซักว่า น.ส.แพทองธารมีดีเอ็นเอเดียวกับนายทักษิณ เป้าหมายก็เป็นนายกฯ เช่นเดียวกันใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องไปถาม น.ส.แพทองธาร เมื่อถามว่ามีความมั่นใจเหมือนที่นายเศรษฐาพูดว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไปพรรคเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้งหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เป็นความเชื่อและความมั่นใจของสมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกคน สิ่งที่นายเศรษฐาพูดก็เป็นการแสดงให้เห็นว่าผู้นำพูดเช่นนี้ และกรรมการบริหารพรรคก็คิดเช่นนี้ ดังนั้นสมาชิกพรรคถ้ายังจับมือร่วมกันอย่างดีเราชนะแน่นอน ผลงานจะเป็นตัวกำหนด

นายภูมิธรรมกล่าวถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ท้าให้เปิดชื่อคนประสานขอเข้าร่วมรัฐบาลหลังนายกฯระบุมีการขอเข้าร่วมรัฐบาลผ่านคนอื่นเข้ามาว่า ต้องไปถามพรรค ปชป. และเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีการติดต่อผ่านตนเข้ามา

พปชร.ยัน 'ไผ่' คุณสมบัติครบ

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ แถลงข่าวการประชุมคณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืน เมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงโควตาเก้าอี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ยังเหลืออยู่ 1 เก้าอี้ โดยก่อนหน้านี้ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้องพิจารณาคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรค พปชร. ทำให้  พล.ต.อ.พัชรวาทได้ชี้ไปที่ ร.อ.ธรรมนัส  ทำให้ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า “เรื่องการเมืองมาถามผม” ก่อนที่ พล.ต.อ.พัชรวาทจะเดินออกจากวงสัมภาษณ์ทันที

ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เมื่อวานนี้ได้หารือกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ถึงเรื่องอะไรก็ตามที่นายกฯได้สั่งการในส่วนของการปรับ ครม.ของพรรค ซึ่งขอยืนยันที่เป็นอยู่ในขณะนี้ก็พยายามรักษาให้เหมือนเดิม ส่วนโควตาที่ยังเหลืออยู่ พล.อ.ประวิตรและคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐมอบหมายให้นายไผ่ แต่เนื่องจากยังมีกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับวินิจฉัยประเด็นดังกล่าวด้วยเหตุผลหลายอย่าง โดยขณะนี้เรากำลังขับเคลื่อนอยู่ ฉะนั้นขอให้ฟังว่านายกฯ จะมีนโยบายอย่างไร

ถามว่า นายไผ่ศาล รธน.มีคำวินิจฉัยไม่รับพิจารณาคุณสมบัติ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ที่ไม่รับคำร้องเพราะไม่ใช่อำนาจของศาล รธน. แต่ไม่ใช่ปฏิเสธ  ขณะนี้จากที่ตนในฐานะผู้ประสาน นายไผ่ยังมีคุณสมบัติแน่นอน ซึ่งหัวหน้าพรรคได้มอบนโยบายไว้กับตนแล้ว แต่เป็นความลับซึ่งไม่อาจพูดได้

วันเดียวกัน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมหลังมีกระแสพรรคอาจจะถูกยุบในวันที่ 21 เม.ย.ว่า รายละเอียดคดีนี้เยอะ มีโทษหนักกว่าคดีที่ผ่านมา คงจะต้องมีการขอเวลาตามขั้นตอนกฎหมาย เพื่อที่พรรคจะได้ชี้แจงเพิ่มเติม อีกทั้งพรรคเองมีปฏิทินที่ระบุช่วงไทม์ไลน์ของหน่วยงานต่างๆ ทั้ง กกต., ป.ป.ช. และศาล รธน. ซึ่งในแต่ละส่วนจะมีการแก้ไขปัญหาตามแต่ละจุด โดยทีมกฎหมาย ทีมยุทธศาสตร์ คาดว่าหลังสงกรานต์นี้ นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล อาจจะแถลงแนวทางการต่อสู้คดีอย่างเป็นทางการ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ โดดป้อง 'อุ๊งอิ๊ง' ปมแบงก์ชาติ อ้างแค่สะท้อนความต้องการประชาชน

นายกฯ ป้อง “อุ๊งอิ๊ง“ สปีชเวทีเพื่อไทย แค่สะท้อนความต้องการประชาชน ลั่น ไม่เคยบีบบังคับใคร เข้าใจความเป็นอิสระ เตรียมคุย ”รมว.คลัง“ หาทางทำงานร่วมแบงค์ชาติ