นิดไปหัวหินพิธาขึ้นเหนือ ปัดปาดหน้านักโทษวีไอพี

“เศรษฐา” อยู่หัวหิน   ตรวจสถานีรถไฟ พอใจภาพรวม รับ ขากลับจราจรแน่น “พิธา” ขึ้นเหนือ ปัดสวมบทจอมปาด อ้างได้ สส.เยอะสุดในเชียงใหม่ “เชาว์” เย้ย “อุ๊งอิ๊ง” ดีเอ็นเอ “แม้ว” ท่าดีทีเหลว ยกสาดน้ำฉ่ำ 21 วัน กลายเป็นสาดน้ำทิพย์

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 12 เม.ย. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ได้ใช้เวลาช่วงวันหยุดสงกรานต์อยู่ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยเช้าวันหยุดวันแรกได้เดินตลาดเช้าหัวหิน ทำบุญใส่บาตร และแวะทักทายประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอย พร้อมแวะซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งและข้าวเหนียวมะม่วงอกร่อง เมนูโปรดที่ร้านประจำ

จากนั้นช่วงบ่าย นายเศรษฐาได้สวมเสื้อลายไก่ชนสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งเป็นเสื้อซอฟต์พาวเวอร์ ประจำ จ.พิษณุโลก ไปยังสถานีรถไฟหัวหิน โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม, นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี,     พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, ปลัดกระทรวงคมนาคม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ นายเศรษฐาได้เดินทักทายประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติ และสอบถามถึงการให้บริการของรถไฟไทย

 ต่อมานายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ว่า  จากการปรับปรุงสถานีรถไฟแห่งนี้พบว่าดีขึ้น แยกเป็น 2 ส่วนคือ ฮาร์ดแวร์กับซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์คือเรื่องสถานที่ที่เปิดใหม่ ดูโล่ง กว้างขวาง แต่ยังขาดความร่มรื่น พื้นที่สีเขียว จึงได้บอกนายสถานีให้เติมต้นไม้สีเขียวให้ดูนิ่มนวลลงบ้าง ส่วนซอฟต์แวร์คือเรื่องเวลาการเดินทางของรถโดยสาร ผู้โดยสารชาวไทยระบุว่าเมื่อมีรถไฟรางคู่ มีการเข้าเทียบชานชาลาตรงเวลา ใช้เวลาเดินทางจาก กทม.มาหัวหินเพียง 3 ชั่วโมงกว่า และค่าโดยสารจากหัวหินไป กทม.เพียง 40 กว่าบาท ถือว่าราคาถูก เป็นตั๋วราคาชั้นประหยัดที่ถือว่าเหมาะสมแล้ว ประชาชนเข้าถึงได้ โดยรวมทั้งหมดถือว่าดี และคิดว่าผู้โดยสารน่าจะพอใจ อย่างไรก็ตาม การรองรับผู้โดยสารทางรถไฟในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ถือว่าเพียงพอ และคิดว่าคนน่าจะใช้บริการเพิ่มมากขึ้นจากการปรับปรุงสถานที่และลดระยะเวลาการเดินทาง ไม่เหมือนกันทางถนนที่การจราจรหนาแน่น

นายกฯ ยังกล่าวถึงภาพรวมการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทั้งประเทศ ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 11 เม.ย.ว่า ได้พูดคุยและรับประทานข้าวร่วมกับ รมว.คมนาคมและปลัดกระทรวงคมนาคม  ทราบว่าการเดินทางเมื่อวันที่ 11 เม.ย. ยังเป็นแค่วอร์มอัป แต่วันจริงคือวันที่ 12 เม.ย. แต่ไม่ต้องห่วง เพราะเรามีสายด่วน และมีคนส่งวิดีโอให้ดูตลอดเวลา แต่ในช่วงเดินทางกลับน่าจะมีปัญหา รถอาจจะหนาแน่นนิดหน่อย เพราะยังมีบางช่วงที่ไม่สามารถคืนพื้นผิวจราจรได้

จากนั้นนายกฯ ได้ขึ้นไปตรวจชานชาลาขบวนรถดีเซลรางนั่งปรับอากาศชั้นที่ 2 จากสุราษฎร์ธานีถึงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ที่เข้าเทียบชานชาลาในเวลา 14.30 น. โดยเมื่อขบวนเทียบชานชาลานายกฯ ได้เข้าไปทักทายผู้โดยสารที่ออกมาจากขบวน รวมถึงโบกมือทักทายผู้ที่อยู่ในขบวนรถไฟ ขณะที่ประชาชนได้โบกมือทักทายเช่นกัน และก่อนกลับยังได้ร่วมถ่ายรูปกับประชาชนอย่างเป็นกันเอง

ช่วงสายวันเดียวกัน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เดินทางไปที่เทศบาลตำบลอุโมงค์ อ.เมืองฯ จ.ลำพูน เพื่อร่วมงานอุโมงค์จุ้มใจ๋ ซึ่งจัดโดยเทศบาลตำบลอุโมงค์ โดยทันทีที่นายพิธามาถึง ประชาชนจำนวนมากได้นำพวงมาลัยมะลิสดมาคล้องคอให้เพื่อเป็นการต้อนรับ จากนั้นนายพิธายังได้ร่วมฟ้อนรำกับกลุ่มผู้สูงอายุในพื้นที่ มีท่าทีรำไปเขินไป โดยระบุว่าเคยรำอยู่เหมือนกันสมัยอยู่ตอนประถมศึกษาปีที่ 1

ทั้งนี้ บรรยากาศเป็นไปอย่างครึกครื้น บรรดานางรำผู้สูงอายุเข้ามาห้อมล้อมนายพิธา ขอกอด ขอถ่ายรูป พร้อมระบุเป็นภาษาท้องถิ่นว่า “หล่อแต๊ หล่อว่า มองได้ตึงวัน หล่อกว่าในทีวี” และยังมีช่วงหนึ่งนายพิธาถูกฉุดกระชากไปถ่ายรูปจนตัวเซ แต่นายพิธายังยิ้มแย้ม  ก่อนลงไปนั่งคุกเข่าพูดคุยกับผู้สูงอายุ พร้อมกับดื่มน้ำลำไย และระบุว่า เรื่องลำไยไว้ใจลำพูน

นอกจากนี้ นายพิธายังได้ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ โดยจุดแรกไปที่วัดล่ามช้าง เพื่อปักธง ก่อพระเจดีย์ทราย ก่อนจะอธิษฐานไม้งาม และนำไปค้ำไว้ที่ต้นโพธิ์ ซึ่งเป็นพิธีกรรมของคนภาคเหนือ  จากนั้นได้เข้าไปสักการะพระประธานในพระอุโบสถ และกราบนมัสการเจ้าอาวาส ทั้งนี้ นายพิธาสวมเสื้อลายดอกพื้นสีส้ม พร้อมสวมกางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ ผู้สื่อข่าวจึงแซวว่า ใส่กางเกงขาสั้นแข่งกับนายกฯ เศรษฐาหรือไม่ แต่นายพิธาปฏิเสธโดยบอกว่า   กางเกงมีคนจัดมาให้ มันก็ไม่ได้สั้นมาก

นายพิธายังให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ หลังถูกตั้งคำถามเป็นนักปาดว่า ยืนยันว่าตนไม่ได้มาตามนายทักษิณ ชิน​วัตร​ อดีตนายกรัฐมนตรี แต่มาตามว่าผู้สมัคร อบจ.และพี่น้องประชาชนมาใช้วันสุดท้ายก่อนปิดยาวช่วงสงกรานต์ให้เป็นประโยชน์ อยากเชิญชวนประชาชนไปเลือกตั้ง อบจ.ให้เยอะ ให้ความสำคัญเท่ากับการเลือกตั้งระดับชาติ อยากให้มาใช้สิทธิ์ เพราะหากคนมาใช้สิทธิ์น้อยก็ไม่ตรงตามหลักประชาธิปไตย และเสียดายงบประมาณในการเลือกตั้งด้วย ที่ครั้งหนึ่งใช้ 6-7 หมื่นล้าน

ส่วนที่เดินทางมาช่วงเดียวกับนายทักษิณซ้ำถึง 2 ครั้งแล้ว นายพิธาชี้แจงว่า ไม่ใช่เป็นความบังเอิญ ตอนที่มาครั้งนั้นเพื่อต้องการเรียนรู้การดับไฟป่า และเป็นช่วงที่ จ.เชียงใหม่ประสบปัญหาสภาวะทางอากาศสูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ตนมี สส. 7 คนจาก 10 คน และได้รับคะแนนความไว้วางใจเป็นอันดับ 1 ต้องลงมาช่วย สส.ทำงาน และกลับไปจะได้อภิปรายได้ถูกต้อง ไม่ใช่ความบังเอิญ ตนตั้งใจมาจริงๆ และไม่ได้ต้องการมาเพื่อการเมืองแต่อย่างใด แต่ต้องการทำหน้าที่อดีตหัวหน้าพรรค หากมีโอกาสอยากเข้าโรงพยาบาลดูแลผู้ป่วยเรื่องทางเดินหายใจว่าหนักขึ้นจริงหรือไม่

"ผมคิดว่านักการเมืองถ้ายึดโยงกับประชาชนก็ขึ้นมาทั้งนั้น เข้าใจว่า รมว.สาธารณสุข รมว.มหาดไทย เพิ่งลงพื้นที่ เราเป็นฝ่ายค้านก็ต้องมาทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล ต้องขึ้นมาปกติอยู่แล้ว ไม่มีนัยทางการเมืองแต่อย่างใด" นายพิธา ย้ำ

เมื่อถามถึงกระแสของพรรคก้าวไกล ใน จ.เชียงใหม่ นายพิธาตอบว่า ไม่ได้คิดว่าพรรคไหนเป็นเจ้าถิ่นของใคร ประชาชนไม่ใช่สมบัติของนักการเมืองท่านไหน แต่ตนมีความรับผิดชอบกับเชียงใหม่ เพราะเขาเลือกตนมาถล่มทลาย มาเป็นอันดับ 1 ของเชียงใหม่ และจำนวน สส.ที่มีอยู่ และพื้นที่ที่มีไฟป่าเยอะเป็นเขตของพวกตนทั้งนั้น เพียงแต่ว่าพอเป็น สส.แล้วไม่มีงบประมาณ  ทำได้แค่ตรวจสอบรัฐบาลหรือเสนอแนะ ต้องลงพื้นที่เพื่อให้ สส.ทำงานได้ เพราะ 10 ปากว่าไม่เท่าตาเห็น

เมื่อถามถึงการเลือกตั้งท้องถิ่น ที่ขณะนี้เกิดการแข่งขันกันหลายกลุ่ม ทั้งพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย และกลุ่มทัศนีย์​ บูรณุปกรณ์ นายพิธามองว่า เป็นสีสันทางการเมือง การแข่งขันย่อมเป็นเรื่องดี แต่ตนคิดว่ายังเร็วเกินไป หลังจากนี้จะมีเรื่องนโยบายและไดนามิกทางการเมือง ช่วงนี้ขอสื่อสารให้คนมาเลือกตั้ง อบจ.ให้เยอะก่อน อยากให้รู้ว่าการเลือกตั้ง อบจ.มีศักดิ์มีศรีไม่แพ้ สส.

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้กล่าวสวัสดีวันสงกรานต์และวันปีใหม่ของไทยประจำปี 67 ว่า ขอให้ทุกคนประสบความสุข ความเจริญ สุขภาพกายใจแข็งแรง ปราศจากโรคภัย ความเศร้าหมอง และขอให้สมหวังในพรทุกประการ ตนขอส่งความปรารถนาดีไปยังพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคน ขอให้ร่วมกันทำความดีเพื่อเป็นมงคลต่อชีวิต และเป็นการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ให้ทุกครอบครัว มีความรักความสามัคคีเกื้อกูลระหว่างกัน และเพื่อให้ครอบครัวเป็นสถาบันที่เข้มแข็งตลอดไป

ขณะที่ นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กเรื่องดีเอ็นเอ “ทักษิณ” ท่าดีทีเหลว? มีเนื้อหาตอนหนึ่งระบุว่า สาดน้ำฉ่ำสงกรานต์ 21 วัน ที่ตั้งท่าให้เป็นผลงานชิ้นโบแดง แจ้งเกิดให้กับอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของนายทักษิณ ชินวัตร ที่อยู่ระหว่างพักโทษ แต่เอาเข้าจริงกลายเป็นบทพิสูจน์แรกที่ชี้ให้เห็นว่า “ดีเอ็นเอทักษิณเหลวตั้งแต่เริ่ม” เพราะตอนแรกก็ตีปี๊บเล่นใหญ่ ประกาศ "สงกรานต์ทั้งเดือน" จากนั้นรัฐบาลรับลูกเคาะแผน “สงกรานต์ 21 วัน” เริ่มตั้งแต่ 1-21 เม.ย. แต่จนถึงตอนนี้น้ำยังแห้ง กลายเป็น “สาดน้ำทิพย์” จนนักท่องเที่ยวออกอาการเหวอ ถือปืนฉีดน้ำเก้อไปตามๆ กัน

นายเชาว์ระบุว่า ขณะที่รัฐบาลได้แต่อ้ำๆ อึ้งๆ ไม่มีคำแถลงชี้แจงอย่างเป็นทางการ แตกต่างจากที่ตีปี๊บไว้ตอนแรก ส่วน “อุ๊งอิ๊ง” แม่งานซอฟต์พาวเวอร์ ที่เป็นคนจุดประเด็นเรื่องนี้ หายเข้ากลีบเมฆ อาจเป็นเพราะมัววุ่นอยู่กับกิจกรรมครอบครัวสุขสันต์ ถ่ายภาพพ่อเทวดากับลูกเล่นน้ำในสระเพลินอยู่ก็เป็นได้  งานหลวงจึงแผ่วไปเยอะ”

 “ที่นายทักษิณแสดงความมั่นใจในตัวอุ๊งอิ๊งว่าจะนำทีมพลิกเกมได้ไม่ยาก เพราะเป็นดีเอ็นเอระหว่างตัวเองกับคุณหญิงพจมานผสมกัน จะเป็นผู้นำที่ดีได้นั้น คงต้องเข็นกันหนัก เพราะบทพิสูจน์ที่ออกมาดูเหมือนว่าดีเอ็นเอนายทักษิณจะท่าดีทีเหลว” นายเชาว์ระบุทิ้งท้าย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รมต.ใหม่ถวายสัตย์ เศรษฐานำเข้าเฝ้าฯ3พ.ค. แม้วควงสุวัจน์ทัวร์ภูเก็ต

มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ "มาริษ" เป็น รมว.ต่างประเทศ "นายกฯ" เตรียมนำ รมต.ชุดใหม่เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ 3 พ.ค.นี้

'จิราพร' คาดได้เป็นเสนาบดีเพราะ'เศรษฐา' ต้องการพลังคนรุ่นใหม่!

'น้ำ จิราพร' เผยได้เป็นรัฐมนตรีป้ายแดงเพราะนายกฯ หวังใช้พลังคนรุ่นใหม่ขับเคลื่อนงาน รับ อายุน้อยสุดในครม. ตื่นเต้นแต่ไม่ตระหนกพร้อมทำทุกหน้าที่