เศรษฐาชี้อย่าเทียบคดีโจ๊กกับบิ๊กต่อ

"เศรษฐา" ชี้คำสั่งเด้ง "บิ๊กโจ๊ก" ออกจากราชการเป็นอำนาจ "รรท.ผบ.ตร." ตามขั้นตอน ไม่ห่วงถูกเปรียบเทียบคดีบิ๊กต่อ มั่นใจกระบวนการยุติธรรม "กิตติ์รัฐ" ย้ำทุกอย่างดำเนินการตามกฎหมาย ฝากตำรวจภาค 8 ไม่ยุ่งเกี่ยวสิ่งผิด กม. "สมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ"  ยัน "สุรเชษฐ์" ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ทำหน้าที่นายกสมาคมฯ ต่อ "ดีเอสไอ" เร่งตามจับแก๊งเครือข่ายเว็บพนันโกฟุก

ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 (กองบิน 6)  วันที่ 19 เม.ย. เวลา 07.50 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต มี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ร่วมลงพื้นที่ ถึงคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ออกจากราชการไว้ก่อนว่า ในข้อเท็จจริงแล้ว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ถูกให้มาช่วยราชการที่ทำเนียบรัฐบาล โดยระหว่าง 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีการดำเนินการตรวจสอบ และเมื่อวันที่ 18 เม.ย. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ในฐานะรักษาราชการแทน ผบ.ตร. ได้มาหาพูดคุยกัน และแจ้งให้ทราบว่าจะต้องรีบให้ส่งตัวกลับ เพื่อให้ตนได้รับทราบและเพื่อจะได้ไปดำเนินการต่อ

นายเศรษฐากล่าวว่า คำสั่งเมื่อวันที่ 18 เม.ย. ไม่เกี่ยวข้องกับการที่ตนตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณะเกี่ยวกับความขัดแย้งในเรื่องคดีของบุคลากรภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานกรรมการ, นายชาติพงษ์ จีระพันธุ อดีตรองอัยการสูงสุด กรรมการ, พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรอง ผบ.ตร. กรรมการและเลขานุการ ขึ้นมาตรวจสอบ โดยการตรวจสอบก็ตรวจสอบไป เพราะมีอีกหลายเรื่องที่ต้องตรวจสอบ

"คณะกรรมการฯ ทั้ง 3 ท่านที่ดำเนินการตรวจสอบนั้น ได้ตรวจสอบทั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็กำลังตรวจสอบกันอยู่ เรื่องเมื่อวันที่ 18 เม.ย. เป็นคนละเคสคนละกรณีกัน ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ไม่มีใครไปก้าวก่ายหรือเร่งรัดอะไร ผมมั่นใจในความสามารถและความเป็นมืออาชีพของทั้ง 3 ท่านอยู่แล้วว่าจะต้องทำให้เร็วที่สุด เพราะเป็นเรื่องที่สังคมจับตามองอยู่" นายเศรษฐากล่าว

ถามว่า ที่มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพราะเกรงจะมีการไปแทรกแซงในเรื่องคดีใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็เป็นไปตามที่รักษาการ ผบ.ตร.ได้บอกไว้ว่าเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม เป็นเรื่องของคณะกรรมการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการจัดการกันมา

เมื่อถามว่า มีหลายฝ่ายที่ตั้งข้อสังเกตเทียบการดำเนินการ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กับพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ นายกฯ กล่าวว่า แต่ละกรณีก็มีความแตกต่างกันไป เรามั่นใจในกระบวนการยุติธรรมว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ท่าน

ส่วน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยืนยันว่าการดำเนินการเรื่องดังกล่าวไม่ได้หนักใจอะไร  ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนและกระบวนการตามกฎหมาย ซึ่งเมื่อวันที่ 18 เม.ย.ได้เรียนขั้นตอนให้นายกฯ ได้รับทราบหมดแล้ว

ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 จ.ภูเก็ต พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวมอบนโยบายข้าราชการตำรวจภาค 8 ที่มารอต้อนรับคณะนายกรัฐมนตรี ตอนหนึ่งระบุว่า  สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอให้ทุกท่านทำงานนำหน้า เรื่องผลประโยชน์โดยมิชอบจะยิ่งหมดไปเรื่อยๆ อยากให้ช่วยกัน ตนก็พยายามจะทำให้เป็นต้นแบบให้ดีที่สุด ไม่ว่าใครจะมาเป็น ผบ.ตร.ก็คิดว่าทุกคนมีความเหมาะสมทุกคน

"ถ้าตัวท่านเองเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนโยบายของท่านนายกฯ ในเรื่องยาเสพติด บ่อนการพนัน พนันออนไลน์ แก๊งทวงหนี้ สถานบริการ คิดว่ามันจะกลายเป็นสิ่งที่เป็นภัยคุกคามต่อตำแหน่งของท่านเอง ขอให้ช่วยกัน เพราะว่าช่วงนี้เราต้องทำให้ประชาชนเห็นว่าเราเป็นตำรวจที่ดีกับเขา แล้วความเชื่อมั่นจะกลับมาเองโดยอัตโนมัติ" พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าว

รรท.ผบ.ตร.กล่าวว่า ตนมีความมั่นใจว่าทุกท่านทำได้ ก็ไม่อยากจะมีบทลงโทษต่อพวกท่านเมื่อกระทำความผิด ถึงเวลาต้องย้ายไปช่วยราชการตนเข้าใจดี แต่ถ้าไม่มีความเด็ดขาด คิดว่าตำรวจที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาท่านคงจะไม่เกรงกลัวท่าน คงจะแอบทำโน่นทำนี่ เกิดความเสียหายกับท่านด้วย จึงขอความร่วมมือขอให้ช่วยกัน เพื่อให้องค์กรของเรามีเกียรติภูมิและมีที่ยืนอยู่ในสังคมนี้อย่างสง่างาม

วันเดียวกัน สำนักเลขาธิการสมาคมชาวปักษ์ใต้ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ออกแถลงการณ์กรณีมีคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ออกจากราชการไว้ก่อน เนื่องจากถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดกฎหมายอาญาคดีฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์ ตอนหนึ่งระบุว่า สมาคมชาวปักษ์ใต้ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ขอยืนยันว่าสมาคมให้ความเคารพกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมทุกขั้นตอนเป็นที่ตั้ง แต่เนื่องจากปัจจุบัน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ยังคงเป็นนายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ ในพระบรมราชูปถัมภ์  การดำเนินกิจกรรมหรือกิจการต่างๆ ของสมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ ยังคงดำเนินการไปในทางปกติภายใต้การนำของท่านต่อไป

"สำหรับกระบวนการทางกฎหมายนั้น  ยังคงมีอีกหลายขั้นตอน และยังเกี่ยวข้องกับบทกฎหมายหลายฉบับที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของท่านได้ คำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนดังกล่าวในทางกฎหมายท่านก็ยังสามารถอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวได้ โดยมีสิทธิชี้แจงข้อเท็จจริงและอุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการคัดเลือกกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) หรือยังสามารถดำเนินการทางศาลได้อีกหลายวิธี ประกอบกับตราบใดที่ศาลยังไม่ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุด ก็ยังถือว่าท่านยังคงเป็นผู้บริสุทธิ์ตามหลักกฎหมาย" แถลงการณ์ของสมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ ระบุ

ขณะที่ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรอง ผบช.น. แสดงความเห็นกรณี รรท.ผบ.ตร. มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์พร้อมพวกออกจากราชการไว้ก่อนว่า คดีเว็บพนันมินนี่ไม่มีเส้นทางการเงินถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แต่เว็บ BNK Master ของ สน.เตาปูน มี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงถูกออกหมายจับ และศาลก็พิจารณาแล้วมีการออกหมายจับ

"ขบวนการที่ลูกน้องของบิ๊กโจ๊กกระทำผิดและโอนเงินมาให้ทางฝั่งของบิ๊กโจ๊ก ซึ่งถือว่าเป็นการฟอกเงิน และบิ๊กโจ๊กมีการแก้เกมคือให้ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสงขลามาแจ้งความเอาผิดกับลูกน้องตนเอง เพื่อจะเข้าข่ายความผิดตาม ม.157 จะได้โอนสำนวนไปยัง ป.ป.ช. คนมองว่าถ้ามีการโอนไป ป.ป.ช.ทำคดีไม่ดี มีการบิดพลิ้วสำนวนก็ติดคุก และตอนนี้เองคณะ  ป.ป.ช.ที่เคยช่วยบิ๊กโจ๊กก็ถูกตั้งคณะกรรมการสอบ" พล.ต.ต.วิชัยกล่าว

อดีตรอง ผบช.น.กล่าวว่า ในส่วนคดีของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ไปร้องขอให้ตรวจสอบนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน  ถ้าสอบแล้วพบว่ามีความผิดก็ต้องมีการดำเนินคดีแบบเดียวกัน ซึ่งทนายตั้มเพิ่งมาร้องไม่นาน จึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบอีกเยอะ ว่าหลักฐานที่ทนายตั้มได้มาได้อย่างไร คาดว่าคงใช้เวลาอีกสักระยะ

"ส่วนตัวคิดว่าบิ๊กต่อจะกลับมาดำรงตำแหน่งยาก เพราะยังสอบสวนไม่แล้วเสร็จ ถึงจะมีการกำหนดกรอบเวลาไว้แล้วที่ 60 วัน แต่ถ้าการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ ก็สามารถขยายเวลาได้ ซึ่งไม่น่าจะทันที่บิ๊กต่อเกษียณราชการ อย่างไรก็ตามการสอบสวนถึงจะไม่แล้วเสร็จก่อนบิ๊กต่อเกษียณอายุราชการ คดีความก็ยังคงดำเนินการต่อ ถ้าพบว่ามีความผิดก็จะถูกดำเนินคดีในฐานของตำรวจ เพราะเรื่องเกิดขึ้นในขณะที่เป็นตำรวจ" อดีตรองผบช.น.กล่าว

ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)           มีความคืบหน้ากรณีกองคดีการฟอกเงินทางอาญาได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนกลุ่มเครือข่ายประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย   โดยมีการนำเงินที่ได้มาจากเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์เครือข่ายโกฟุกและจากกลุ่มธุรกิจผิดกฎหมายนำมาฟอกเงินเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้มีการตรวจค้นในพื้นที่ต่างๆ อยู่รวม 27 จุดนั้น ล่าสุดคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการสอบสวนเสร็จสิ้น และมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาจำนวน 7 ราย ในฐานความผิด “ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำผิดฐานหมิ่นประมาท ร่วมกันจัดให้มีการเล่นหรือชักชวนผู้อื่นให้พนันออนไลน์ ร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันเป็นอั้งยี่”

ทั้งนี้ นายระวี อักษรศิริ ผู้อำนวยการกองคดีการฟอกเงินทางอาญา หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้นำส่งสำนวนคดีพิเศษ จำนวนทั้งสิ้น 6 ลัง จำนวน 34 แฟ้ม ให้พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษดำเนินการตามกฎหมายแล้ว

นอกจากนี้ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ ได้สั่งการให้ติดตามตัวผู้ต้องหาที่หลบหนีหมายจับอีกจำนวน 11 ราย ให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว และให้สืบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ก้าวไกล' รุมจวก 'เศรษฐา' เก่งแต่ใช้ปากต่อว่าคนอื่นแต่ทำงานไม่ได้เรื่อง

'ชุติพงษ์' ฟาด 'เศรษฐา' แก้ปัญหาสารเคมี ถ้าใช้ปากทำงานมาเป็นฝ่ายค้านดีกว่า ไม่ต้องเป็นรัฐบาล ชี้มีอำนาจแต่สั่งการไม่ได้ผลสักอย่าง 'ทวิวงศ์' เผยเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีที่อยุธยา