ยันโผ‘นิด2’นิ่งแล้ว แจงแม้วไม่ป่วยทิพย์

โผ ครม.นิ่งแล้ว!  "เศรษฐา" ยันไม่มีแกว่ง บอกถึงเวลาเหมาะสมรู้เอง เลี่ยงตอบเก้าอี้หดเหลือแค่นายกฯ ตำแหน่งเดียว "ประเสริฐ" ยันพรรคเพื่อไทยไร้แรงกระเพื่อม "2 แคนดิเดต" รมต.ใหม่ย่องรับแบบฟอร์มกรอกประวัติ "ชัย" แข็งไม่มีสัญญาณเปลี่ยนโฆษก รบ. “บิ๊กป้อม” ส่ง 4 ชื่อโควตา "พปชร." ถึงมือนายกฯ "ธรรมนัส" ยัน “ไผ่” ชื่อแรก แนบ 3 ชื่อสำรอง  "อนุทิน" ยัน ภท.ไม่มีขยับ "ทวี" โบ้ยประชาชาติขอเก้าอี้เพิ่ม แค่สื่อถึงเลือกตั้งครั้งหน้า "ราชทัณฑ์" แจงยิบปม "ทักษิณ" ป่วยทิพย์

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 23 เม.ย. เวลา 11.50 น. นายเศรษฐา ทวีสิน  นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)  กรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุส่งรายชื่อบุคคลที่จะมาเป็นรัฐมนตรีถึงนายกฯ  โดยนายกฯ ย้อนถามว่า “หรือครับ ไม่ทราบ” ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ร.อ.ธรรมนัสให้สัมภาษณ์ว่าได้ส่งรายชื่อแล้ว นายเศรษฐากล่าวว่า ต้องถาม ร.อ.ธรรมนัส เพราะยังไม่ได้รับ

ทั้งนี้ ในประเด็นดังกล่าวนั้น ก่อนหน้าการให้สัมภาษณ์ของนายกฯ เวลา 09.30 น. ก่อนประชุม ครม. ร.อ.ธรรมนัสได้เข้าพบนายเศรษฐาบนตึกไทยคู่ฟ้า โดย ร.อ.ธรรมนัสให้สัมภาษณ์ว่า เราได้ส่งรายชื่อนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร เขต 1 และทางพรรคก็ได้ส่งรายชื่อสำรองไป 3 รายชื่อเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งยังบอกรายละเอียดให้ไปถามนายกฯ

นายเศรษฐากล่าวถึงช่วงเวลาในการปรับ ครม.ว่า เมื่อมีความพร้อมจะปรับ เพื่อดูแลปัญหาของประชาชน เมื่อถามย้ำว่าการพิจารณาต้องอิงกับงบประมาณของประเทศด้วยหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่จำเป็น เมื่อซักว่ามีโอกาสจะเลื่อนการปรับ ครม.ไปอีก 2 เดือนหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า เมื่อไหร่เหมาะสมที่ผมจะปรับ ท่านก็ทราบเอง

ถามว่า นายกฯ มีแนวคิดที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพียงตำแหน่งเดียวหรือไม่ นายกฯ ยิ้มโดยไม่ตอบคำถาม และกล่าวเลี่ยงว่า ขอคำถามต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แสดงว่าโผยังไม่นิ่ง ตอนนี้ยังแกว่งอยู่หรือไม่ นายเศรษฐา หัวเราะและกล่าวว่า ไม่มีแกว่ง  ทุกอย่างนิ่งแล้ว และเป็นไปตามที่บอกไปว่าถึงเวลาปรับเดี๋ยวก็จะปรับ

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงแรงกระเพื่อมการปรับ ครม.ในส่วนของพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า ไม่มี ขอให้สบายใจได้ แต่ส่วนตัวยังอยู่ ยืนยันไม่มีแรงกระเพื่อมภายในพรรค และตนรู้จัก สส.ภายในพรรคทุกคน เพราะเคยเป็นอดีตเลขาธิการพรรค

ถามว่ามีชื่อ น.ส.จิราพร สินธุไพร  สส.ร้อยเอ็ด จะมานั่งเป็นรัฐมนตรี นายประเสริฐกล่าวว่า น.ส.จิราพรก็เป็น สส. มาถึง 3 สมัย

ซักถึงโควตาตำแหน่งรัฐมนตรีพรรค พท.ในสัดส่วนของภาคอีสานยังมีอยู่หรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า ไม่ทราบเพราะการปรับ ครม.ขึ้นอยู่กับนายกฯ  ท่านคงมีเหตุผลหลายอย่างในการปรับหรือไม่ปรับ และตนไม่ขอวิจารณ์ในกรณีที่มีชื่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ซึ่งเป็นอดีตหัวหน้าพรรคในสนามเลือกตั้งที่ผ่านมาถูกปรับออก

พอถามว่า เรื่องการปรับ ครม.ควรจบหรือไม่ เพราะรัฐมนตรีทำงานกันอย่างหวาดระแวง นายประเสริฐกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องไปถามนายกฯ เอง

แคนดิเดต รมต.รับแบบฟอร์ม

ส่วนนายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีชื่อเป็นรัฐมนตรีว่า วันนี้ต้องให้กำลังใจนายกฯ  เพราะได้รับการบอกกล่าวมาหลายทางว่าให้ตนมาให้กำลังใจในเวลานี้ ให้ท่านมีสมาธิในการทำงาน ในส่วนของตนนั้นนายกฯ ได้มอบหมายงานให้ทำอยู่แล้ว ก็ยังมีความสุขในการทำงาน ไม่อยากคิดอะไรตรงนี้ เพราะเป็นคนทำงาน อยู่ตรงไหนก็สามารถทำงานได้หมด และขอให้เกียรติและให้กำลังใจกับรัฐมนตรีทุกคนที่ยังทำงานอยู่ ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ผู้ที่มีรายชื่อเป็นรัฐมนตรีในส่วนของพรรค พท. ทั้งนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการ รมว.การคลัง และ น.ส.จิราพร สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด ได้เข้ามารับแบบฟอร์มเพื่อนำไปกรอกประวัติแล้ว

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเปลี่ยนโฆษกรัฐบาลว่า ไม่มีนะ ตนไม่เคยได้ยินข่าว และขอย้ำว่าไม่มี ตนกองเชียร์ไม่เยอะ

"เรื่องคุณจิรายุผมก็ไม่ทราบจริงๆ  เข้าใจว่ามีข่าว กองเชียร์ท่านคงเยอะ คงอยากให้ท่านเข้ามาทำงาน ส่วนใหญ่เป็นคนในทวิตตอร์ซึ่งเป็นคนจำนวนหนึ่ง ส่วนคนที่อยากให้ผมทำหน้าที่ต่อและไม่เล่นโซเชียลก็มีเยอะแยะ" นายชัยกล่าว

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการเสนอรายชื่อรัฐมนตรีในส่วนของโควตาพรรคที่ว่าง 1 ตำแหน่งว่า เราได้ส่งรายชื่อนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร เขต 1 และทางพรรคก็ได้ส่งรายชื่อสำรองไป 3 รายชื่อเรียบร้อยแล้ว เมื่อถามย้ำว่า ได้ส่งรายชื่อไปเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ก็ตามที่เป็นข่าว ก็แล้วแต่นายกรัฐมนตรี

ถามว่า 3 รายชื่อสำรองมีใครบ้าง ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ขอให้ถามนายกรัฐมนตรี เมื่อถามย้ำว่าส่งรายชื่อไปเรียบร้อยทั้งหมดแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์ สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.ส่งรายชื่อไปหลายวันแล้ว เมื่อถามว่าส่งรายชื่อไปแล้วก็ต้องไปเลือกกันอีกทีใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า "มันต้องเอาไผ่เป็นคนแรกก่อน"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ 3 รายชื่อสำรองของพรรค พปชร. ได้แก่ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา,  นายอนันต์ ผลอำนวย สส.กำแพงเพชร เขต 3 และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ อดีต รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม  ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร.

ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกระแสการปรับ ครม.ว่า ได้ยืนยันไปแล้วรัฐมนตรีของพรรค ภท.ทั้ง 8 คน เรายังให้ทุกท่านได้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป เพราะทุกคนก็ทำงานอย่างเต็มที่ ทำตามนโยบายของรัฐบาลและของพรรคมาตลอด

ถามว่า กระทรวงมหาดไทยจะยังคงเป็นของพรรค ภท.เหมือนเดิมหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการหารืออะไร เมื่อเช้านายกฯ ก็ถามว่าในส่วนของพรรค ภท.มีการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่ ตนก็ยืนยันว่าในส่วนของพรรคไม่มีการเปลี่ยนแปลง

ซักว่ามีกระแสข่าวพรรค พท.อยากจะได้กระทรวงมหาดไทยกลับคืน นายอนุทินย้อนถามว่า ใครพูด ไปฟังกระแสอะไรก็ไม่รู้

พอถามว่าที่นายกฯ ถามเมื่อเช้าแสดงว่าการปรับ ครม.จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า พูดตามตรงเรื่องนี้เป็นอำนาจนายกฯ คนเดียว เราก็ต้องถือว่าเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา เรื่องใดที่ไม่เกี่ยวข้องกับเราแล้ว การที่เรากราบเรียนยืนยันไปแล้วว่าในส่วนของพรรค ภท.ที่รับผิดชอบดูแลอยู่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงก็เท่านั้น และไม่กล้าถามด้วย

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชพท.) กล่าวถึงการปรับ ครม.ว่า ขณะนี้นายกฯ ยังไม่ได้ส่งสัญญาณการปรับ ครม.มาที่พรรค เราก็ทำหน้าที่ที่เราได้รับมอบหมาย ซึ่งในส่วนของพรรคเราได้รับมอบหมายให้ดูแลกระทรวง พม. ก็จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่  หากมีการพูดคุยถึงเวลานั้นเราจึงค่อยมาพิจารณากันอีกครั้ง

กรมคุกแจงแม้วไม่ป่วยทิพย์

ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวถึงกรณีระบุพรรคมีความชอบธรรมที่จะได้รัฐมนตรีอีกหนึ่งตำแหน่งว่า  เราไม่ได้พูดถึงขนาดนั้น เพียงแต่ว่าตามกฎเกณฑ์แล้วเราได้โควตาเพียงคนเดียว และได้สื่อไปในทำนองว่าถ้าเรามีโอกาสในการเลือกตั้งครั้งหน้าและเราได้ สส.มากขึ้น เพราะภาคใต้เป็นพื้นที่ที่เราอยากให้มีคนดูแล โดยเฉพาะคนที่รู้พื้นที่ดี ซึ่งประชาชาติมี สส.เขต ที่คนในจังหวัดชายแดนภาคใต้เลือกมา แต่ในฐานะที่มาร่วมรัฐบาลนี้ สส.ก็จะได้สะท้อนปัญหาของประชาชน เราไม่ได้พูดว่าต้องมาอีกหนึ่งตำแหน่ง เพราะพรรคที่มี สส.มากกว่าประชาชาติคือพรรคชาติไทยพัฒนา เราต้องเคารพในกติกาตรงนี้ด้วย

พ.ต.อ.ทวีกล่าวถึงกรณี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ร้อง ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบเรื่องการช่วยเหลือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ป่วยทิพย์ไม่ต้องติดคุกว่า   เรื่องนี้กรมราชทัณฑ์ได้ออกมาชี้แจงแล้ว เรื่องนี้ร้องเรียนกันมาหลายรอบแล้ว คงไม่มีอะไร ขอให้เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช.ที่เป็นหน่วยงานกลางเข้ามาตรวจสอบ

"ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะร้องได้ ก็คงต้องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ และถือเป็นเรื่องธรรมดาในการทำงาน แต่ขอยืนยันการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการกระทรวงยุติธรรม และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ถ้าอะไรที่กฎหมายไม่เขียนให้เราทำได้ เราก็จะไม่ทำ และถึงแม้ทำได้ เราจะต้องดูความเหมาะสม ส่วนตัวยินดีให้การตรวจสอบ เป็นเรื่องปกติและเป็นเรื่องที่ดี ถ้ามีการสงสัยและจะมีหน่วยงานกลางเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยทราบว่าเคยให้ผู้ตรวจการแผ่นดินมาแล้ว ซึ่ง นพ.วรงค์ก็พูดเองว่าผู้ตรวจการแผ่นดินได้ยุติการสอบเรื่องนี้ไปแล้ว" พ.ต.อ.ทวีกล่าว

วันเดียวกัน กรมราชทัณฑ์เผยแพร่เอกสารชี้แจงกรณีมีการร้องเรียนนายทักษิณไม่ต้องติดคุก โดยประเด็นแรกการส่งนายทักษิณไปรักษาที่ รพ.ตำรวจ ยืนยันเจ้าหน้าที่พยาบาลเวรเรือนจำได้ตรวจติดตามอาการ นายทักษิณพบมีอาการนอนไม่หลับ แน่นหน้าอก วัดความดันโลหิตสูง ระดับออกซิเจนปลายนิ้วต่ำ พยาบาลเวรเรือนจำ รวมทั้งแพทย์จาก รพ.ต่างประเทศ (สิงคโปร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) พบมีโรคประจำตัวหลายโรคที่อยู่ระหว่างการรักษาติดตามอาการ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ความดันโลหิตสูง พังผืดในปอด กระดูกสันหลังเสื่อม โดยโรคที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษคือโรคหัวใจ อาจมีความเสี่ยงต่อชีวิตจึงส่งตัวไปรักษา รพ.ตำรวจ

ประเด็นที่ 2 การส่งตัวไป รพ.ตำรวจผิดกฎกระทรวงหรือไม่ ก็ยืนยันการรับตัวนายทักษิณเรือนจำได้ดำเนินการตามมาตรฐานเจ้าหน้าที่พยาบาล ได้ตรวจติดตามอาการแล้วพบว่ามีอาการตามที่กล่าวแล้วในประเด็นแรก จึงได้นำตัวส่งออกรักษาตามความเห็นของแพทย์ ประเด็นที่ 3 ไม่มีการตัดผมนักโทษตามระเบียบ ยืนยัน

เรือนจำจะจัดให้ผู้ต้องขังเข้าใหม่ได้รับการตัดผมภายในระยะเวลาที่เหมาะสม แต่ทั้งนี้ไม่เกิน 7 วัน กรณีรายนายทักษิณส่งตัวไปรักษาก่อน

ประเด็นที่ 4 การจัดให้อยู่ชั้น 14 ซึ่งเป็นห้องพิเศษ อยู่ต่อเนื่อง 180 วัน ผิดกฎกระทรวงที่กำหนดนั้นกรณีอดีตนายกทักษิณ รพ.ตำรวจได้กำหนดห้องสำหรับการพักรักษา ซึ่งเป็นไปตามกฎกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.2563 กล่าวคือสถานพยาบาลที่ทำการรักษาจัดให้ และเป็นไปตามแผนการรักษาของแพทย์ และประเด็นที่ 5 การให้พักโทษกรณีพิเศษ นายทักษิณได้เข้าคุณสมบัติที่ได้รับประโยชน์จากการพักการลงโทษ กรณีอายุ 70 ปีขึ้นไป และไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หรือช่วยเหลือตัวเองได้น้อย (โดยผลการประเมินตามแบบประเมินคัดกรองปัญหาสุขภาพผู้สูงอายุ ระยะยาวในชุมชน กรมอนามัยคะแนนไม่เกิน 11 คะแนน) ซึ่งการประเมินดังกล่าวเป็นไปตามแบบเกณฑ์การประเมิน โดยผู้ทำการประเมินได้ดำเนินการประเมินตามสภาพข้อเท็จจริงที่ได้พบเห็นในช่วงระยะเวลาขณะนั้น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง