นักโทษเขย่าโผครม. อ้วนพานายกฯกินข้าวเที่ยง เอ็กซ์คลูซีฟรร.หรูกลางกรุง

"ภูมิธรรม" พานายกฯ กินข้าวเที่ยงแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับนักโทษที่โรงแรมหรูกลางกรุง ท่ามกลางกระแสข่าวปรับ ครม. ขณะที่ "พิชัย ชุณหวชิร" นั่ง รมว.คลังแน่ ลาออกจากเก้าอี้ประธานบอร์ด    ตลท. ประธานกรรมการบริษัท บางจากฯ  แล้ว "เอกนัฏ" ดอดพบ "พีระพันธุ์" หลังโผ  รทสช.ยังไม่นิ่ง สะพัด "สุชาติ" กรอกคุณสมบัติแล้ว นักวิเคราะห์โซเชียลฟันธง ระบอบทักษิณฟื้นเต็มตัว

เมื่อเวลา 11.55 น. วันที่ 25 เมษายน  2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง เดินทางมายังโรงแรมโรสวูด ถนนสุขุมวิท ด้วยรถตู้เลกซัส เลขทะเบียน สร 30 กรุงเทพมหานคร โดยมีรถของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ติดตามมาด้วยในขบวน

ทั้งนี้ มีรายงานว่าการเดินทางมาครั้งนี้เพื่อพบและรับประทานอาหารกลางวัน กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางมาถึงก่อนแล้ว ท่ามกลางกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่คาดว่าน่าจะแล้วเสร็จ     อย่างไรก็ตาม ทางโรงแรมไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าว จึงทำได้แค่ปักหลักอยู่ด้านหน้าโรงแรมเท่านั้น

ต่อมาเวลา 13.35 น. นายเศรษฐา  กลับออกมาภายหลังรับประทานอาหารกลางวันกับนายทักษิณ โดยใช้เวลารับประทานอาหาร 1 ชั่วโมงครึ่ง ทั้งนี้ นายกฯ ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชน และเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัยเกษม นิติสิริ  ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ไหว้ศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตา ศาลยาย โดยปฏิเสธว่า ไม่มีอะไรเกี่ยวกับการปรับ ครม. ไปที่ไหนก็ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นั่น ไม่มีอะไรพิเศษ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงนี้มีข่าวปรับ ครม.จะไปนั่งที่ไหนหรือไม่ นายชัยเกษมตอบว่า ไม่ชอบนั่ง ชอบเดิน ให้ช่วยอะไรก็ทำที่นั่น

ถามอีกว่า ข่าวการปรับ ครม.ตอนนี้ จะมีการสลับจากตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ หรือไม่ แคนดิเดตนายกฯ ผู้นี้ตอบว่า เรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของตน จะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ไม่สามารถรู้ได้ เพราะเป็นเรื่องของพรรค ของผู้บริหาร ถ้าพรรคใช้ให้ทำอะไรก็ทำ ถ้าไม่ใช้ก็ไม่ทำ ตนอยู่สบายๆ ทำอะไรก็ขอให้มีความสุข เป็นคนง่ายๆ

เมื่อเวลา 15.45 น. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เดินทางเข้าพบนายพีระพันธุ์  สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค รทสช. ที่ห้องทำงานตึกบัญชาการ 1 ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง กระทั่งเวลา 17.20 น. นายเอกนัฏ เดินทางกลับโดยหลบกลุ่มผู้สื่อข่าวออกทางประตูตึกบัญชาการ 2 ท่ามกลางกระแสข่าวการปรับ ครม. โดยมีรายงานว่ายังเหลือพรรค รทสช.พรรคเดียวที่ยังไม่ลงตัว

ขณะเดียวกัน ที่มีรายงานข่าวว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค รทสช. ได้มายื่นตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วย  และอีกตำแหน่งที่อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนในส่วนของนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.การคลัง เนื่องจากพรรคเพื่อไทย จะเพิ่มนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรมว.การคลัง มาเป็น รมช.การคลัง อาจทำให้ตำแหน่ง รมช.การคลังมีถึง 3 คน จึงอาจต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้มีความเหมาะสม

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ว่า  รัฐมนตรีในส่วนของพรรคภูมิใจไทยทั้ง 8 คน เบื้องต้นตนประเมินแล้วทุกท่านทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งได้นำกราบเรียนนายกรัฐมนตรีว่าในส่วนของพรรคภูมิใจไทยขอเป็นเหมือนเดิม ไม่มีการปรับอะไร ซึ่งท่านก็รับทราบ

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า นายพิชัย ชุณหวชิร ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (บอร์ดตลท.) คนที่ 18 ได้ลาออกจากการเป็นประธานกรรมการบอร์ด ตลท.แล้ว โดยมีผลเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น  จำกัด (มหาชน) (BCP) แจ้งต่อ ตลท.ว่า  นายพิชัยได้ลาออกจากตำแหน่งกรรมการ และประธานกรรมการบริษัท เนื่องจากมีภารกิจมาก มีผลตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน 2567 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ การลาออกของนายพิชัย คาดว่าเพื่อรับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แทนนายเศรษฐา ที่จะมีการปรับครม.เร็วๆ นี้

นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง  ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีกระแสข่าวเตรียมนั่งเก้าอี้โฆษกรัฐบาลว่า มีการทาบทามและมีการพูดคุยกันกับทางผู้ใหญ่ แต่คิดว่าคงต้องรอให้โผ ครม.มีความเรียบร้อย แล้วจึงค่อยเคาะออกมา เป็นเรื่องจริงที่มีผู้ใหญ่เจรจามา

 เมื่อถามว่า ผู้ใหญ่หมายถึงนายกฯ ใช่หรือไม่ นายจักรพลกล่าวว่า “ใช่ครับ แน่นอนครับ เพราะเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด ซึ่งต้องเป็นนายกรัฐมนตรีในการพูดคุยเรื่องทิศทางและความเป็นไปได้ความเหมาะสมของเรา รวมถึงรายชื่ออื่นๆ ซึ่งท่านก็ถามความเห็น ความสมัครใจ ความพร้อมว่าเราอย่างไร และเราก็ได้คุยกันมาเป็นระยะแล้ว”

 ถามต่อว่า หากทุกอย่างนิ่งแล้วส่วนตัวพร้อมรับตำแหน่งเลยหรือไม่ นายจักรพล กล่าวว่า หากทุกอย่างนิ่งแล้วตนคิดว่าด้วยประสบการณ์ทั้งที่เคยเป็นผู้แทนฯ มีความเข้าใจในฝ่ายนิติบัญญัติ และทำงานฝ่ายบริหารมา 7 เดือน ก็คิดว่าจะสามารถประสานได้ทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งหากได้รับความไว้วางใจก็จะทำให้ดีที่สุด

การเมืองเหมือนโรงละคร

วันเดียวกันนี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน   เฟซบุ๊กไลฟ์โดยคาดว่า โผล่าสุดการปรับ ครม.จะลดลงมาแค่ปรับเสริม โดย รมต.เก่าไม่ถูกเขี่ยออกสักคน แต่จะเพิ่มคนใหม่ตามโควตาของพรรคร่วมรัฐบาลให้มานั่งเก้าอี้ รมต.ที่ว่างอยู่

อีกทั้งประเมินว่า พรรคเพื่อไทยมีคนใหม่ 2 คน จะเข้ามาเสริมเป็น รมต. คือ นายพิชัย เป็น รมว.การคลัง กับ น.ส.จิรพร สินธุไพร เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ ตามโควตาที่ว่างเว้นอยู่ ส่วน พปชร.ก็เพิ่มคนใหม่เข้ามาในโควตาว่าง 1 ตำแหน่งเช่นกัน

"นายเศรษฐาไม่สามารถปรับใหญ่ได้ เพราะเวลากำลังใกล้หมดแล้ว ดังนั้น การปรับใหญ่ไปก็ไม่ได้อะไร นอกจากความหมางใจกัน แล้วยังถูกเย้ยหยัน ไม่ว่าเสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล ดังนั้นใช้ใครไปทำงานท้ายสุดก็ฆ่าเกลี้ยง เหตุนี้นายสุทิน คลังแสง หมอชลน่าน ศรีแก้ว และ รมต.คนอื่นที่เป็นข่าวจะถูกปรับออกก็ยังอยู่กันครบถ้วน"

นายจตุพรกล่าวว่า การเมืองเหมือนโรงละคร เป็นการปล่อยข่าวแต่ละเรื่องให้อื้ออึงก่อน จึงต่อรองกัน เหมือนข่าวแก้กฎหมายจัดระเบียบกลาโหม แล้วมาตั้งคณะกรรมการศึกษาที่หลัง สุดท้ายไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น แค่ส่งสารว่า กองทัพอย่าวอแวกับการเมืองเลือกตั้งนะ

อย่างไรก็ตาม ท่วงทำนองนายสุทิน ในฐานะ รมว.กลาโหมที่ผ่านมา เป็นนักประนีประนอมตลอด และจะมาเป็นยักษ์ขึ้นมาได้อย่างไร ดังนั้น เมื่อมีชื่อ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ (คนสนิท พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) มาเป็น รมช.กลาโหม กลับถูกคนที่เรียกตัวเองเป็นเสื้อแดงคัดค้าน อันที่จริงแล้วจะค้านต้องค้านตั้งแต่พรรคเพื่อไทยตระบัดสัตย์ตั้งรัฐบาลร่วมกับฝ่ายหนุนรัฐประหารปี 57 แล้ว

นายจตุพรย้ำว่า พวกหนุนการตระบัดสัตย์ย่อมเลวกว่าพวกตระบัดสัตย์เสียอีก  เพราะรู้ว่าพวกตระบัดสัตย์ทำชั่ว ยังไปหนุนอีก จึงเลวกว่า ดังนั้นอย่าพยายามอธิบายถึงคุณงามความดีกันอีก เพราะการไปสนับสนุนพวกผิดคำพูดที่ให้ไว้กับประชาชน ย่อมทำลายศักดิ์ศรีนักประชาธิปไตย ซึ่งต่อสู้กันด้วยชีวิตและเลือดเนื้อของประชาชน

"เมื่อเกมใกล้หมดเวลา ใครจะมายื้ออย่างไร ก็อยากดูน้ำหน้าทั้งสองฝ่ายว่า ฝ่ายหนึ่งกล้าแหกดีล อีกฝ่ายจะมีน้ำยากล้าคุมดีลหรือไม่ ถ้าสู้กันจนย่อยยับอีก ประเทศคงโชคร้ายอาจเจอแอ่นแอ๊นอีกเหมือนเดิม" นายจตุพรระบุ

ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช ระบุว่า สัญญาณการคืนสู่อำนาจของ “ระบอบทักษิณ” ชัดขึ้นเรื่อยๆ หนทางการหวนสู่อำนาจของระบอบทักษิณกำลังดำเนินไปอย่างราบรื่น ไร้อุปสรรคใดๆ ทั้งสิ้น หลังจากได้จับมือฮั้วอำนาจกับกลุ่มอนุรักษนิยมแล้วทุกอย่างก็เป็นไปอย่างสะดวกโยธิน ทั้งคดีความของนายทักษิณ ที่ยังเหลืออยู่ 1 คดี เกี่ยวกับการกระทำผิด ม.112 ซึ่งกำลังรอคำสั่งของอัยการสูงสุด ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2567 ถ้าหากอัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่ฟ้อง นายทักษิณก็จะไม่มีคดีเป็นชนักติดหลังเลย

ฟันธง 'ยิ่งลักษณ์' กลับสะดวก

ส่วนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั้น ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษายกฟ้องไปแล้ว 2 คดี ยังคงเหลือเพียงคดีเดียวเท่านั้น ที่ศาลฎีกาฯ มีคำพิพากษาไปแล้วไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ นอกนั้นแทบจะไม่ต้องลุ้นคำพิพากษาแต่อย่างใดเลย เห็นได้ชัดจากกรณีที่อัยการสูงสุด (อสส.) ชี้ขาดไม่อุทธรณ์คดีโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยมิชอบไปแล้ว

ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติเอกฉันท์ ไม่อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลฎีกาฯ คดีโรดโชว์สร้างอนาคตประเทศไทย ส่งผลให้คุณยิ่งลักษณ์ไม่มีคดีใดๆ ค้างเหลืออยู่ในชั้น ป.ป.ช.อีกต่อไป ยังคงเหลือคดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว ถูกศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุก 5 ปีเท่านั้น

นายเทพไทเชื่อว่า หลังจากนี้หนทางการควบคุมอำนาจรัฐในการปกครองประเทศของนายทักษิณผ่านรัฐบาลชุดนี้ จะราบรื่นและง่ายดาย และจะเป็นผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองมากที่สุดในประเทศไทย รวมถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์จะได้เดินทางกลับประเทศไทยได้อย่างสะดวก ไม่มีอะไรติดขัดเลย อย่าว่าแต่ไม่ต้องติดคุกเลยแม้แต่วันเดียวเท่านั้น อาจจะถึงขั้นไม่ต้องรับโทษเลยก็ได้

ที่โรงแรมแคนทารี โคราช อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนากล้า เปิดการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2567 นำโดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า, นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เป็นต้น

ที่ประชุมเป็นไปตามระเบียบวาระ อาทิ ประธานแจ้งที่ประชุมรับรองรายงานการประชุม การเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคแทนตำแหน่งที่ว่าง ผลการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของสมาชิกและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค  โดยมีวาระที่น่าสนใจและเป็นเรื่องสำคัญคือ การได้มาซึ่ง สส.ปราจีนบุรี จากพรรคก้าวไกล มาสมัคร และการเปลี่ยนชื่อพรรคชาติพัฒนากล้ากลับมาเป็นพรรคชาติพัฒนาตามเดิม ส่วนโลโก้พรรคจะมีการเติมหางขึ้นเล็กน้อย

 นายสุวัจน์ให้สัมภาษณ์ว่า ตอนนี้มีการเปลี่ยนชื่อจากพรรคชาติพัฒนากล้ากลับมาเป็นพรรคชาติพัฒนาตามเดิม   และปัจจุบันพรรคชาติพัฒนามี สส.ทั้งหมด 3 คน เดิมที่มี 2 คนจากการเลือกตั้ง และขณะนี้เราได้เพิ่มมาอีก 1 คน มาร่วมกับเราในวันนี้คือ สส.แจ้ นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี เดิมทีสังกัดพรรคก้าวไกล มาสังกัดพรรคชาติพัฒนา

เขายังกล่าวถึงการปรับ ครม.ว่า ยังไม่ทราบว่าจะปรับเมื่อไหร่ แต่ว่าระยะเวลาของสภา 1 ปีแล้ว เป็นระยะเวลาที่เหมาะสมถ้านายกฯ จะเห็นว่าการปรับ ครม.จะทำให้การทำงานในการพัฒนาประเทศหรือการแก้ไขปัญหาของประชาชนดีขึ้น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ภูมิธรรม' ช่วยอีกคนป้อง 'อุ๊งอิ๊ง' ย้ำ แบงค์ชาติ ไม่ใช่องค์กรที่แตะต้องไม่ได้

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โพสต์ข้อความระบุว่า “แบงค์ชาติ”ไม่ใช่องค์กร หรือสถาบันที่“ประชาชน”จะกล่าวถึงหรือ“วิพากษ์ วิจารณ์ ” หรือ“แตะต้อง” ไม่ได้ เจตจำนงพรรคเพื่อไทยที่หัวหน้าพรรค นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้สื่อสารกับสังคมถึงกรณีแบงค์ชาติในวันประชุมของพรรคที่ผ่านมา

นายกฯ โดดป้อง 'อุ๊งอิ๊ง' ปมแบงก์ชาติ อ้างแค่สะท้อนความต้องการประชาชน

นายกฯ ป้อง “อุ๊งอิ๊ง“ สปีชเวทีเพื่อไทย แค่สะท้อนความต้องการประชาชน ลั่น ไม่เคยบีบบังคับใคร เข้าใจความเป็นอิสระ เตรียมคุย ”รมว.คลัง“ หาทางทำงานร่วมแบงค์ชาติ