นิดเน้นปรับเก้าอี้ศก. คาด1-2วันสะเด็ดน้ำ/‘ธรรมนัส’กินรวบกระทรวงเกษตรฯ

โผ ครม.ใกล้สะเด็ดน้ำ   นักการเมืองมีชื่อเข้า-ออก ดอดขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าพบ “เศรษฐา” คึกคัก   “ภูมิธรรม” ปัดหม่ำข้าวร่วม “แม้ว” รับ ถ้าปรับ ครม.ต้องปรับโฆษกด้วย “บิ๊กป้อม” ประชุม พปชร. ส่งชื่อเดียวแต่อุบใครเข้าวิน “อนันต์” ยังแอบหวัง ประกาศลั่นโควตากำแพงเพชร แต่เคาะ  “อรรถกร” เข้าวิน “ธรรมนัส” ยึดกระทรวงเกษตรฯ เบ็ดเสร็จ คาด 1-2 วันโผจบแน่

เมื่อวันที่ 26 เม.ย. มีความเคลื่อนไหวเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)   ที่คาดว่ารายชื่อใกล้จะแล้วเสร็จ โดยในช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายเศรษฐา ทวีสิน  นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ได้เรียกรัฐมนตรีที่มีรายชื่อติดโผเข้าพบ โดยเวลา 15.53 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ซึ่งเป็นผู้ที่มีรายชื่อติดโผว่าจะได้เข้ามาเป็นรัฐมนตรีช่วยในโควตาของ รทสช. ได้เดินทางมาพร้อม น.ส.พิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ สส.บัญชีรายชื่อ รทสช. ด้วยรถคนละคัน   ทันทีเมื่อลงจากรถทั้ง 2 คนได้เดินขึ้นทางด้านหลังตึกไทยคู่ฟ้า ผู้สื่อข่าวพยายามเรียกนายสุชาติ แต่นายสุชาติได้เอามือปิดหน้าและไม่หันมามองแต่อย่างใด และรีบเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที

จากนั้นเวลา 16.00 น. นางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้เดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าในเวลาไล่เลี่ยกัน  ก่อนที่เวลา 16.13 น. นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเดินทางขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทางด้านหลังเช่นกัน กระทั่งเวลา 16.25 น. นายสุชาติและ น.ส.พิชชารัตน์เดินทางออกจากทำเนียบฯ ไป

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามนายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่มีรายชื่อว่าจะถูกปรับออก ว่าได้รับการประสานให้เข้าพบนายกฯ ด้วยหรือไม่ ซึ่งนายไชยาระบุว่า ไม่ได้รับการประสาน ตอนนี้ปฏิบัติภารกิจอยู่ที่ จ.นครพนม และในวันที่ 27  เม.ย. จะลงพื้นที่จันทบุรีและระยองร่วมกับนายกฯ

นอกจากนี้ มีรายงานด้วยว่า นายกฯยังได้เรียกให้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข เดินทางมาพบด้วยเช่นกัน แต่ นพ.ชลน่านติดภารกิจที่ จ.น่าน ทำให้ไม่สามารถเดินทางมาได้

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ออกมาปฏิเสธกระแสข่าวกินข้าวมื้อเที่ยงเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ร่วมกับนายเศรษฐาและนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หรือไม่ว่า เป็นการไปกินข้าวกับนายกฯ ผู้สื่อข่าวถามว่ามีนายทักษิณร่วมวงกินข้าวด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรมปฏิเสธว่า ไม่มีอะไรเลย ตนคุยกันสองคนกับนายกฯ เป็นเรื่องพูดคุยเกี่ยวกับการเร่งรัดในการทำงาน

เมื่อถามอีกว่า วงกินข้าวดังกล่าวมี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ร่วมวงด้วย ถือว่าเป็นการไปตรวจสอบคุณสมบัติรายชื่อรัฐมนตรีใหม่หรือไม่ นายภูมิธรรมอ้างว่า เราคุยเรื่องการทำเอฟทีเอ ไอยูยู และงานด้านต่างประเทศหลายๆ เรื่อง ยืนยันว่าการคุย 3 คน ไม่มีการพูดคุยเรื่องปรับ ครม.

ปัดหม่ำข้าวกับ ‘แม้ว’

เมื่อถามย้ำว่า มีการคุยระหว่างนายกฯ กับนายทักษิณเรื่องปรับ ครม.หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่เห็นเลย พร้อมยืนยันว่าการไปคุยที่โรงแรมเมื่อวันที่ 25 เม.ย. ไม่มีนายทักษิณ และเราไม่ได้พบนายทักษิณ

ซักว่า การปรับ ครม.จะเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ เพื่อลดแรงกระเพื่อมทางการเมือง นายภูมิธรรมตอบว่า การปรับ ครม.เป็นเรื่องของนายกฯ ซึ่งนายกฯ จะดูการทำงานของรัฐมนตรีทั้งหมด หากเดินหน้าดีจะเดินหน้าไป ถ้ามีปัญหาต้องมาหารือกัน ขณะนี้ยังไม่มีการหารือเรื่องนี้อย่างชัดเจน มีเพียงแต่ข่าวที่ออกมาว่าจะปรับนู่นปรับนี่ อย่างไรก็ดี ถ้าเราเห็นว่า ไม่มีอะไรจำเป็นจริงๆ ก็ไม่อยากให้มีการปรับอะไรมาก ทั้งหมดนี้การปรับขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และการตัดสินใจของนายกฯ เป็นหลัก

เมื่อถามว่า โฆษกประจำสำนักนายกฯ จะต้องมีการปรับตามกระแสข่าวหรือไม่ นายภูมิธรรมระบุว่า ถ้า ครม.ไม่ปรับ จะปรับโฆษกได้อย่างไร ถ้า ครม.ปรับชัดเจนอาจจะมีการปรับโฆษก เพราะเรื่องโฆษกรัฐบาลเป็นเรื่องเล็กกว่าการปรับ ครม.

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวที่นายกรัฐมนตรีทาบทามนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ให้มาเป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแทนว่า โนคอมเมนต์ เมื่อถามย้ำว่าได้รับการแจ้งจากนายกฯ เรื่องการปรับเปลี่ยนตำแหน่งดังกล่าวหรือไม่ นายชัยปฏิเสธว่า ไม่มี

ต่อมาในเวลา 17.25 น. ก่อนนายเศรษฐาขึ้นรถเดินทางกลับบ้าน เมื่อเห็นกลุ่มสื่อมวลชนที่ดักรออยู่จึงเดินลงมาทักทายอย่างอารมณ์ดี พร้อมกล่าวว่า “คอยอะไร เย็นแล้ว วันนี้วันศุกร์ กลับไปพักผ่อนเถอะ”

จากนั้นนายกฯ ให้สัมภาษณ์กรณีเรียกรัฐมนตรีและบุคคลที่มีชื่อในโผการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้าว่า มาคุยเรื่องงาน ยังมีเรื่องค้างอยู่เยอะแยะไปหมด งานเยอะๆ

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางเข้ามาด้วย และมีชื่อจะได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีครั้งนี้ นายเศรษฐากล่าวว่า เคยกินข้าวกับนายสุชาติ จึงเรียกมาถามไถ่เรื่องพื้นที่ ซึ่งจะลงพื้นที่ จ.จันทบุรี ในวันที่ 27 เม.ย. เพื่อดูว่าจะมีอะไรหรือเปล่า ซึ่งนายสุชาติมากับ น.ส.พิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเป็นผู้ประสานงานของพรรค และมีอะไรก็คุยกับ น.ส.พิชชารัตน์ถ้าจะประสานอะไร

เมื่อถามว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ ส่งชื่อ ครม.หรือยัง นายเศรษฐากล่าวว่า ส่งเมื่อไหร่สื่อก็รู้เอง

ถามอีกว่า แต่มีเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเข้ามาพบนายเศรษฐาด้วย นายเศรษฐากล่าวว่า ทุกวันศุกร์จะเตรียมเรื่องการประชุม ครม. ที่จะมีในวันอังคาร ก็มาเซ็นเรื่องที่จะเข้า ครม.

เมื่อถามว่า น.ส.จิราพร สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด และนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เข้ามาด้วย นายกฯ กล่าวว่า จะลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดช่วงต้นเดือน พ.ค. และยังได้คุยเกี่ยวกับเรื่องกรมประชาสัมพันธ์กับนางพวงเพ็ชรด้วย เป็นการสั่งงานธรรมดา และก็สั่งงานทุกคน

เมื่อถามว่า สุดสัปดาห์นี้การปรับ ครม.จะเรียบร้อยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เดี๋ยวสื่อก็ทราบเอง เมื่อถามว่าตอนนี้มีโผหลายโผเขย่ากันออกมา นายเศรษฐากล่าวว่า ตนเองอ่าน บางคนไม่มีหรอก ก็ปล่อยให้เขย่ากันไป

ถามย้ำว่า เห็นรายชื่อแล้วเป็นไปตามโผที่ออกมาหรือไม่ ผิดถูกมากน้อยแค่ไหน นายเศรษฐากล่าวว่า เหมือนกับอ่านนิยาย สนุกๆ ไป ไม่มีอะไร เดี๋ยวก็ทราบเอง

เมื่อถามว่า โผในส่วนของพรรคเพื่อไทยนิ่งแล้วหรือยัง นายกฯ กล่าวว่า เพื่อไทยไม่เคยไม่นิ่ง นิ่งตลอด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คุมได้มั่นคง

ถามย้ำว่า รายชื่อเป็นไปตามโผที่ออกมาหรือไม่ นายกฯ ไม่ตอบคำถามดังกล่าว พร้อมกล่าวว่า ขอบคุณครับ  เมื่อถามยืนยันได้หรือไม่ว่าการรับประทานอาหารที่โรงแรมโรสวูดเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมาไม่มีนายทักษิณร่วมโต๊ะด้วย นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีครับ

พปชร.พรรคอนุรักษนิยมทันสมัย

ช่วงเช้าวันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินทางมายังที่ทำการพรรค เพื่อเป็นประธานการประชุมใหญ่สามัญพรรคพลังประชารัฐ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2567 โดยมีกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรคเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม พล.อ.ประวิตรถึงความเหมาะสมของ 4 แคนดิเดตรัฐมนตรีของพรรคที่ส่งรายชื่อไป ได้แก่ นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร,  นายอนันต์ ผลอำนวย สส.กำแพงเพชร,  นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค และนายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา โดย พล.อ.ประวิตรได้ย้อนถามว่าอยากรู้ไปทำไม ผู้สื่อข่าวจึงตอบว่า อยากรู้เพราะเป็นการบริหารประเทศ ซึ่ง พล.อ.ประวิตรตอบว่า บริหารได้อยู่แล้ว ได้คนเดียว เมื่อถามย้ำว่าจะเอาคนหนุ่มหรือคนมีอายุ แต่ พล.อ.ประวิตรไม่ได้ตอบคำถาม

จากนั้น พล.อ.ประวิตรกล่าวเปิดประชุมตอนหนึ่งว่า วันนี้พรรคพลังประชารัฐของประกาศตัวเองว่าเราขอเป็นพรรคอนุรักษนิยมทันสมัย ที่มีอุดมการณ์แน่วแน่ในการปกป้องสถาบัน และบริหารเศรษฐกิจที่ทันสมัย เพื่อสร้างชีวิตที่สดใสให้กับคนไทยทั้งประเทศ ด้วยสโลแกนใหม่ที่ว่า ปกป้องสถาบัน ทันสมัยเศรษฐกิจ มีชีวิตที่สดใส และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งอีกไม่นานพรรคจะได้ประกาศรายละเอียดทั้งหมดอีกต่อไป” พล.อ.ประวิตรกล่าว

ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า รายชื่อ ครม.เรียบร้อยใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรระบุว่า ให้ไปถามนายกฯ ก่อนย้อนถามว่า ไปเอามาจากไหน ผู้สื่อข่าวจะตอบว่ามีกระแสข่าว พล.อ.ประวิตรจึงตอบว่า ก็เป็นเรื่องของกระแสข่าว เมื่อถามย้ำว่า ส่งไปชื่อเดียวใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า เออ ชื่อเดียวๆ เมื่อถามอีกว่า เป็นนายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร บอกว่า “ไม่ใช่” ก่อนที่จะแกล้งว่า “ไม่รู้ๆ   ไม่บอก”

ขณะที่ นายอนันต์ ผลอำนวย สส.กำแพงเพชร พปชร. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีชื่อเป็นแคนดิเดตรัฐมนตรี ว่า เมื่อ 3 วันที่แล้วได้แจ้งว่าได้ส่งชื่อของตนไปแล้วในนามของ พปชร. แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร จึงขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ

เมื่อถามอีกว่า จ.กำแพงเพชรได้ สส.ยกจังหวัดมา 2 ครั้ง ควรจะมีรัฐมนตรีแล้วหรือไม่ นายอนันต์กล่าวว่า ในครั้งแรกที่คุยกันโควตานี้คือของ จ.กำแพงเพชร ครั้งแรกให้เกียรตินายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชรให้ไปจนสุดก่อน และชื่อที่ต่อจากนายไผ่คือตน ซึ่งไม่ได้คิดอะไร เพราะอยู่ตรงไหนก็ทำงานได้ เป็น สส.ก็ทำงานเต็มที่โดยไม่ทิ้งพื้นที่ เมื่อถามย้ำว่า หากผลออกมาอย่างไร จะไม่มีปัญหาอะไรภายในพรรคใช่หรือไม่ นายอนันต์กล่าวว่า “โอ้โห ไม่มีปัญหาอะไร อันนี้เป็นเรื่องปกติ ผลออกมาเป็นอย่างไรเราต้องยอมรับ เพราะเราตัดสินใจอะไรเองไม่ได้”

นอกจากนี้ ภายหลังการประชุมใหญ่สามัญ นายอนันต์ นายไผ่ รวมถึงนายวราเทพ แกนนำกำแพงเพชร ได้มายืนรอรถยนต์เพื่อเดินทางกลับ ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า หากรัฐมนตรีไม่ได้มาจาก จ.กําแพงเพชร พรรคจะแตกหรือไม่ นายวราเทพกล่าวว่า ขอไม่พูด ขณะที่นายไผ่ กล่าวติดตลกว่า พรรคไม่ใช่แก้ว เช่นเดียวกับนายอนันต์ที่ระบุว่า พรรคนี้ตอกเสาเข็มหนาแน่น แข็งแรงแน่นอน

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ถามนายไผ่ว่า ถอดใจแล้วหรือไม่ นายไผ่ตอบว่า ไม่ได้ถอดใจ เมื่อถามว่าในอนาคตยังมีโอกาสใช่หรือไม่ นายไผ่กล่าวว่า ก็มีโอกาส แต่เพื่อความชัดเจนจะมีการยื่นให้คณะกรรมการกฤษฎีกาชุดใหญ่ตีความ เพราะนายกฯ ต้องการความชัดเจนที่ได้รับการยืนยันจากคณะกรรมการชุดใหญ่ ส่วนจะเสนอให้กฤษฎีกาตีความเมื่อไหร่  นายไผ่กล่าวว่า อยู่ที่นายกฯ

เน้นปรับด้านเศรษฐกิจ

ต่อข้อถามว่า จะเป็นรอบหน้าใช่หรือไม่ นายไผ่ตอบว่า ก็หวังว่าอย่างนั้น แต่ยืนยันว่าขณะนี้ไม่มีอะไร ชิวๆ ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า โควตารัฐมนตรียังเป็นของ จ.กำแพงเพชรใช่หรือไม่ นายไผ่กล่าวว่า  ไม่ทราบ ต้องดูว่าผู้ใหญ่ในพรรคคุยกันอย่างไร แต่ไม่ว่าใครในพรรคจะเป็นรัฐมนตรี ทำงานได้หมด เรายังมีบุคลากรที่เก่งอีกเยอะ

มีรายงานด้วยว่า ในสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐนั้น จะมีการผลักดันให้นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา พรรค พปชร. มาเป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ ตามโควตาที่ว่างอยู่ แทนนายไผ่ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ ทำให้ต้องผลักดันนายอรรถกรแทน ขณะที่ในส่วนของพรรค รทสช. ช่วงเย็นวันเดียวกันนี้ได้มีการประชุมกรรมการบริหารพรรค และได้แจ้งในที่ประชุมพรรคว่า นายอนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรและสหกรณ์ จะถูกปรับออก และแจ้งว่าบุคคลที่จะเข้าไปเป็นรัฐมนตรีสัดส่วนของพรรคคือนายสุชาติ ที่จะได้เข้าไปเป็น รมช.พาณิชย์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ นายเศรษฐามุ่งเน้นไปที่กระทรวงเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง ที่มีการเพิ่มให้นายพิชัยและนายเผ่าภูมิเข้ามาเป็น รมช.การคลังอีก 1 คน เมื่อรวมกับนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง และนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.การคลัง ในสัดส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ยังอยู่ที่เดิมแล้ว ทำให้กระทรวงการคลังมีรัฐมนตรีทั้งสิ้น 4 คน เพื่อต้องการมุ่งเน้นการขับเคลื่อนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยความเคลื่อนไหวล่าสุดนายพิชัยได้เข้าไปดูห้องทำงานที่กระทรวงการคลัง และนายเผ่าภูมิได้ยื่นเอกสารลาออกจากตำแหน่งเลขานุการ รมว.การคลังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ขณะที่ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อมีการปรับนายไชยา พรหมา และนายอนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรและสหกรณ์ออกนั้น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสกรณ์  ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ขอแลกโควตา รมช.พาณิชย์ ของพรรค พปชร.กับ โควตา รมช.เกษตรและสหกรณ์ของพรรคเพื่อไทยให้นายอรรถกร เพื่อต้องการบริหารงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างเบ็ดเสร็จภายใต้พรรค พปชร. โดยในส่วนโควตา รมช.พาณิชย์ พรรคเพื่อไทยได้ส่งต่อให้กับพรรค รทสช.ที่ส่งชื่อนายสุชาติเข้ามารับตำแหน่งดังกล่าว แล้ว น.ส.จิราพรขยับไปเป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ อย่างไรก็ตามคาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายใน 1-2 วันนี้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' อวดคนอีสาน 10 เดือน ผลงานเพียบ ไตรมาส 4 ได้เงินหมื่นแน่

นายกฯ พบชาวหนองพอก อวดผลงาน 10 เดือน ราคาพืชผลการเกษตรดี ยันเร่งแก้ปัญหาน้ำประปา ปราบหนี้นอกระบบให้หมด ย้ำ 'ดิจิทัล วอลเล็ต' ไตรมาส 4 ได้แน่