งบ2566ขาดดุล วงเงิน3.1ล้านล. จัด‘อีเวนต์’พรึ่บ

“บิ๊กตู่” นั่งหัวโต๊ะ ครม. เคาะงบปี 66 วงเงิน 3,185 ล้านล้านบาท ขาดดุลเฉียด 7 แสนล้านบาท พ่วงปรับแผนก่อหนี้จากการอุ้มราคาน้ำมัน หน้าใหญ่สุดๆ จัดงบประมาณ 4,180 ล้านเสนอตัวจัดเอ็กซ์โปภูเก็ต พ่วงทุ่ม 6,781 ล้านบาทเสนอตัวเจ้าภาพพืชสวนโลก 2 สมัย พร้อมสั่ง ทส.ศึกษาเสนอประชุมเจ้าภาพมรดกโลก “นายกฯ” ย้ำปีนี้ต้องแก้หนี้ครู-ตำรวจให้ได้ คนแก่เฮ! อนุมัติเงินเพิ่มผู้ประกันตนมาตรา 33 และ 39

เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงถึงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 จำนวน 3,185,000 ล้านบาท และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี โดยสาระสำคัญคือ 1.เห็นชอบกรอบวงเงินและโครงสร้างงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 งบประมาณรายจ่าย 3,185,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2565 จำนวน 85,000 ล้านบาท หรือ 2.74% ประกอบด้วยรายจ่ายประจำ 2,390,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 16,990.5 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.72% และคิดเป็นสัดส่วน 75.04% ของวงเงินงบประมาณ รายจ่ายลงทุน 695,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 83,066.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 13.57% คิดเป็นสัดส่วน 21.82% ของวงเงินงบประมาณ และรายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ 100,000 ล้านบาท เท่ากับปี 2565 คิดเป็นสัดส่วน 3.14% ของวงเงินงบประมาณ

นายธนกรแถลงต่อว่า 2.รายได้สุทธิจำนวน 2,490,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 90,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.75% และ 3.งบประมาณขาดดุล 695,000 ล้านบาท ลดลงจากปีงบประมาณ 2565 จำนวน 5,000 ล้านบาท หรือลดลง 0.71% และคิดเป็นสัดส่วน 3.89% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ทั้งนี้ วงเงินงบประมาณ 3,185,000 ล้านบาท เท่ากับกรอบวงเงินตามแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 2566-2569) ที่ ครม.ได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2564 โดยงบลงทุนและงบชำระคืนต้นเงินกู้มีสัดส่วนอยู่ภายในกรอบที่กำหนดตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561

ด้าน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงว่า ครม.เห็นชอบกรอบวงเงินประจำปีงบประมาณ 2566 รวมทั้งสิ้น 143,734 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.งบประมาณด้านการอุดมศึกษา ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม วงเงิน 114,634 ล้านบาท และ 2.งบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ วงเงิน 29,100 ล้านบาท ตามที่สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติเสนอ เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ตามนโยบายสำคัญของรัฐบาลและความเร่งด่วนของประเทศ

นายธนกรยังแถลงอีกว่า ที่ประชุม ครม.ยังอนุมัติปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2565 ครั้งที่ 1 ซึ่งเสนอโดยคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ ซึ่งปรับปรุงแผนการก่อหนี้ใหม่ โดยปรับเพิ่ม 20,700 ล้านบาท จากเดิมจากตามมติ ครม. 28 ก.ย.2564 วงเงิน 1,344,783.84 ล้านบาท เป็น 1,365,483.84 ล้านบาท รวมทั้งปรับปรุงแผนการบริหารหนี้เดิม เปลี่ยนแปลง 31,588.34 ล้านบาท จากวงเงินเดิมตามมติ ครม.28 ก.ย.2564 จำนวน 1,505,369.64 ล้านบาท เป็น 1,536,957.98 ล้านบาท

นายธนกรแถลงอีกว่า แผนก่อหนี้ใหม่ 20,700 ล้านบาท จะประกอบด้วย แผนการก่อหนี้ใหม่ของรัฐวิสาหกิจ 700 ล้านบาท ส่วนอีก 20,000 ล้านบาท เป็นแผนเงินกู้เพื่อดำเนินโครงการหรือเพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการทั่วไปของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) โดยปรับเพิ่มเงินกู้ระยะสั้น เพื่อเสริมสภาพคล่องในรูปแบบ credit line เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อนำไปชดเชยราคาน้ำมันขายปลีกตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 16 พ.ย.2564 ส่วนแผนบริหารหนี้เดิม ที่ปรับเพิ่มขึ้น 31,588.34 ล้านบาทนั้น ประกอบด้วยแผนบริหารหนี้เดิมของรัฐบาลปรับเพิ่มขึ้น 52,793 ล้านบาท และแผนการบริหารหนี้เดิมของรัฐวิสาหกิจ ปรับลดลงสุทธิ 21,204.66 ล้านบาท

“ท่านนายกฯ เน้นย้ำเรื่องความเหมาะสมและความสอดคล้องกับสภาพคล่องทางการเงินในแต่ละช่วงเวลา ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการเงินกู้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ครม.ได้ให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่างๆ ของการกู้เงิน” นายธนกรกล่าว
วันเดียวกัน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ เผยว่า ครม.อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณ 4,180 ล้านบาท ให้ไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดงาน Specialised Expo ณ จังหวัดภูเก็ต ภายใต้ชื่องาน EXPO 2028 - Phuket, Thailand โดย ครม.เคยมีมติเมื่อวันที่ 16 พ.ย. อนุมัติในหลักการ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ได้ลงนามในหนังสือเสนอตัวเป็นเจ้าภาพเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2564 ซึ่งองค์การนิทรรศการนานาชาติ (BIE) มีข้อกำหนดว่า การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบกรอบงบประมาณก่อนการยื่นเสนอตัวอย่างเป็นทางการ

สั่ง ทส.ลุยมรดกโลก
น.ส.ไตรศุลีกล่าวอีกว่า ครม.เห็นชอบในหลักการให้ไทยเสนอเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 46 และมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการจัดทำร่างข้อเสนอโครงการ รายละเอียด แผนงานและกิจกรรม และประมาณการค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องเสนอ ครม.เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนจัดส่งให้ศูนย์มรดกโลก โดยคณะกรรมการมรดกโลกจะพิจารณาการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 46 ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 45 ระหว่างวันที่ 19-30 มิ.ย.2565 ณ เมืองคาซาน สหพันธรัฐรัสเซีย

ด้าน น.ส.รัชดากล่าวว่า ครม.ยังอนุมัติกรอบวงเงินจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก จังหวัดอุดรธานี พ.ศ.2569 วงเงิน 2,500 ล้านบาท และจังหวัดนครราชสีมา พ.ศ.2572 วงเงินงบ 4,281 ล้านบาท รวมวงเงินทั้งสิ้น 6,781 ล้านบาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอด้วย

มีรายงานว่า ในการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์อารมณ์ดีเป็นพิเศษ โดยช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ได้หยิบยกกรณีพรรคการเมืองเสนอนโยบายให้เงินประชาชนเดือนละ 3,000-5,000 บาทว่า ที่รัฐบาลมีนโยบายเยียวยาช่วงนี้ เพราะอยู่ในสถานการณ์โควิด-19 แต่ที่พรรคการเมืองออกมาพูดเรื่องการแจกเงินนั้น พูดเช่นนี้ได้อย่างไร ไม่รับผิดชอบ พูดมาแล้วทำได้หรือไม่ เป็นพรรคไหนนั้นไม่ทราบ แต่คนพูดเป็นทั้งนักการเมือง เป็นทั้งอดีตรัฐมนตรี เสนอมาแบบนี้ได้อย่างไร พูดแบบนี้ไม่มีความรับผิดชอบ

“เดี๋ยวผมขอดูเรื่องเกี่ยวกับการหาเสียงก่อนว่าจะมีกฎหมายไหนกำกับดูแลได้หรือไม่ ให้อาจารย์วิษณุไปช่วยดูข้อกฎหมายเกี่ยวกับการหาเสียงทำได้หรือไม่ มีงบประมาณหรือไม่ พูดเกินจริงไปหรือเปล่า” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว และว่า การทำงานช่วงนี้อย่าหาเสียงเกินไป ยังไม่ใช่ช่วงที่ควรทำ ถึงเวลาเลือกตั้งค่อยว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง ช่วงนี้ช่วยกันทำงานไปก่อน คงต้องอยู่กันอีกปีกว่า และขอขอบคุณทุกคนที่ให้ความร่วมมือตลอด 3 ปีกว่าที่ผ่านมา หวังว่าจะร่วมมือกันเช่นนี้ตลอดไป

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ปี 2565 จะเป็นปีแห่งการแก้หนี้สินครัวเรือน โดยจะแก้ปัญหานี้สินให้ประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่มีอาชีพครูและตำรวจ ซึ่งรัฐบาลนี้ต้องทำให้สำเร็จให้ได้ และให้รายงานมาเป็นระยะ พร้อมกับบอกให้ประชาชนรู้ด้วยว่ารัฐบาลกำลังทำอะไรอยู่ ส่วนที่ ครม.เห็นชอบตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติขออนุมัติงบประมาณปี 2566 ดำเนินโครงการอาคารที่ทำการพร้อมที่จอดรถและอาคารที่พักอาศัยของข้าราชการตำรวจวงเงินเกิน 1,000 ล้านบาทนั้น เพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของข้าราชการชั้นผู้น้อยและประชาชนผู้มีรายได้น้อย ต้องไปดูว่าเมื่อเกษียณอายุราชการแล้วเขาไปอยู่ที่ไหน มีเงินเลี้ยงดูอย่างไร เรื่องนี้ต้องมีความคืบหน้าและให้รายงานทุก 3 เดือน

ขณะที่นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวเสริมว่า หากงบประมาณนี้ไม่ผ่านการพิจารณาของสภา จะให้การเคหะแห่งชาติสร้างแฟลตให้ตำรวจมาเช่า

“เอสเอ็มอี-คนแก่” เฮ
น.ส.รัชดาระบุว่า ครม.มีมติเห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ของธนาคารออมสิน หรือโครงการซอฟต์โลนออมสินฟื้นฟูท่องเที่ยวไทย วงเงิน 5,000 ล้านบาท ที่ปล่อยสินเชื่อต่อรายไม่เกิน 5 แสนบาท ดอกเบี้ย 3.99% ต่อปี ไม่ต้องมีหลักประกัน โดยขยายกลุ่มเป้าหมายของโครงการให้ครอบคลุมธุรกิจอื่นที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อาทิ ผู้ผลิตรายย่อย ผู้ค้าส่ง ผู้ค้าปลีก เพื่อให้ SMEs ได้รับการช่วยเหลืออย่างทั่วถึงและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และขยายระยะเวลารับคำขอสินเชื่อออกไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย.2565 จากเดิมที่สิ้นสุดวันที่ 30 ธ.ค.2564

ด้าน น.ส.ไตรศุลีแถลงว่า ครม.ยังอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ ระยะเวลา และอัตราการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพเป็นการเฉพาะในช่วงที่มีการลดอัตราเงินสมทบ ทั้งนี้ เพื่อกำหนดอัตราการจ่ายเงินบำเหน็จชราภาพของผู้ประกันตนในช่วงที่มีการลดอัตราเงินสมทบ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 มี.ค.2564 โดยกำหนดให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพให้แก่ผู้ประกันตน ซึ่งออกเงินสมทบเข้ากองทุนในช่วงเวลาที่ลดอัตราเงินสมทบตั้งแต่วันที่ 1-31 ม.ค.2564 ให้คำนวณจากอัตราเงินสมทบเพิ่มขึ้นอีก 0.45% ของค่าจ้าง และกำหนดให้การจ่ายเงินบำเหน็จชราภาพให้แก่ผู้ประกันตน ซึ่งออกเงินสมทบเข้ากองทุนในช่วงเวลาที่มีการลดอัตราเงินสมทบตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.-31 มี.ค.2564 ให้คำนวณจากอัตราเงินสมทบเพิ่มขึ้นอีก 1.3% ของค่าจ้าง

“การปรับเพิ่มอัตราเงินสมทบกรณีชราภาพดังกล่าว มีผลทำให้ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ได้รับเงินบำเหน็จชราภาพเพิ่มขึ้น 347 บาทต่อคนต่อสามงวด สำหรับผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ได้รับเงินบำเหน็จชราภาพเพิ่มขึ้น 146 บาทต่อคนต่อสามงวด โดยในภาพรวมผู้ประกันตนได้รับเงินบำเหน็จชราภาพเพิ่มขึ้นรวมทั้งหมด 1,906 ล้านบาท จำแนกเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จำนวน 1,783 ล้านบาท และ ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 จำนวน 123 ล้านบาท” น.ส.ไตรศุลีกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สพฐ.ทำโครงการเงินอุดหนุนรายหัวลดความเหลื่อมล้ำการศึกษา

โฆษกรัฐบาลเผย สพฐ.ทำโครงการสนับสนุนเงินอุดหนุนรายหัว อนุบาล – ประถม – มัธยม – ปวช. พร้อมเงินสนับสนุนอุปกรณ์การเรียน มุ่งลดความเหลื่อมล้ำ ลดภาระผู้ปกครอง

รัฐบาลตีปี๊บ มิ.ย.ลงทะเบียน 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์

​โฆษกรัฐบาลเผย OFOS สร้างคน ยกระดับ ศักยภาพคนไทย พร้อมลงทะเบียน มิ.ย.2567 ตั้งเป้ายกระดับคนไทยสร้างสรรค์ มีคุณภาพ 296,610 คน ภายในปีงบประมาณ 2567 ต่อยอดพัฒนา 20 ล้านคน ในเวลา 4 ปี