กินข้าวค้างสต๊อกกลบจำนำข้าว

"เสี่ยอ้วน" พาชิม "ข้าวสารในสต๊อก 10 ปี" หุงแล้วยังหอมนุ่มกินได้ พร้อมเปิดประมูลปลาย พ.ค.นี้ เอาเงินเข้ารัฐจ่ายคืนเจ้าของโกดัง ลั่นให้เกิดความยุติธรรมกับทุกฝ่าย คาดราคากลาง 18 บ./กก. เผยเป็น 2 โกดังสุดท้ายของโครงการจำนำข้าว 1.5 แสนกระสอบ

ที่ จ.สุรินทร์ วันที่ 6 พฤษภาคม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน บริษัทเซอร์เวเยอร์ผู้ตรวจสอบคุณภาพและรับข้าวสารเข้าคลัง สมาคมโรงสี ผู้ส่งออกข้าว อาทิ บริษัท ธนสรรไรซ์ จำกัด, บริษัท นครหลวงค้าข้าว จำกัด, บริษัท เจ.พี.ไรซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (1998) จำกัด และคณะผู้สื่อข่าว ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาลตามโครงการรับจำนำข้าว โดยร่วมเปิดโกดังที่คลังกิตติชัย หลัง 2 อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ และเก็บตัวอย่างข้าวรวม 9 ตัวอย่างมาดูลักษณะทางกายภาพ และนำมาหุงแจกบรรดาสื่อมวลชนที่ร่วมลงพื้นที่ ให้ร่วมกันชิมข้าวสวยที่ได้จากข้าวสารในโกดังทั้ง 2 แห่งกินกับผัดกะเพราไก่และไข่เจียว

โดยนายภูมิธรรมกล่าวว่า อยากทำให้เกิดข้อสรุปที่ชัดเจนสิ้นข้อสงสัย จึงเชิญสื่อมวลชนทุกแขนง เจ้าของโรงสี ผู้ส่งออก ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้การจังหวัด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นสักขีพยาน ตนทำกับข้าวมาให้ด้วย และจะเป็นผู้สังเกตการณ์ให้เจ้าหน้าที่เซอร์เวเยอร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน เอาข้าวใส่ถุงให้ผู้สื่อข่าวส่งตัวแทนขึ้นรถตำรวจไปอีกโรงสีหนึ่งเพื่อหุงรับประทาน

 นายภูมิธรรมกล่าวว่า สำหรับที่นี่มีข้าวจำนวน 112,711 กระสอบ และที่พูนผลเทรดดิ้ง 32,879 กระสอบ รวมประมาณ 150,000 กระสอบ เป็นข้าวปี 56/57 ถึงวันนี้ก็ 10 ปีพอดี เป็นข้าวที่เก็บรักษาอย่างดี เจ้าของโรงสี เจ้าของโกดังรมยาตามมาตรฐาน ปิดโกดังแน่นหนา ไม่มีนกเข้า ไม่มีฝนตกที่ทำให้ข้าวเสีย ที่มีปัญหาข้าวบูดเน่าคือการเก็บรักษาที่ไม่ดี โรงสีทั้งสองถือว่ามีการเก็บรักษาที่ดี  โรงสีกิตติชัยรมยาทุก 2 เดือน โรงสีพูนผลรมยาทุกเดือน  และจากนี้จะนำทาน ชวนท่านผู้ว่าฯ ท่านผู้การและสื่อมวลชนทานด้วยกัน ทำผัดกะเพราไข่เจียวไว้ จะได้ทานได้เต็มที่กินได้เต็มที่ ซึ่งผู้ถือกุญแจทั้ง 3 ส่วน ถือกุญแจคนละดอกมาเปิดต่อหน้า อยากเจาะถุงไหนชี้เลย จะได้เอาข้าวออกมาไปหุงชิมทั้งสองโรง

"หลังจากนี้เร็วที่สุดภายในหนึ่งสัปดาห์น่าจะสามารถเปิดประมูลได้ จะทำให้เร็วที่สุดและอิสระ ผมพิสูจน์ขั้นต้นให้แล้ว จะประมูลเหมากองเอาไปทั้งหมดขายทั้งหมด เอาเงินเข้ารัฐจ่ายคืนเจ้าของโกดังตามความเหมาะสม เป็น 2 โกดังสุดท้ายของโครงการจำนำข้าว ซึ่งจะได้พิสูจน์ว่าข้าว 10 ปียังทานได้ เป็นข้าว 2 โกดังสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ จนผมมาเป็นรัฐมนตรี ให้พิสูจน์กันไปเลยจัดการให้จบ ไม่ต้องการให้เรื่องคั่งค้าง" นายภูมิธรรมกล่าว

นายภูมิธรรมกล่าวว่า หากสิ้นข้อสงสัยภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ตนจะเปิดประมูลสาธารณะให้ทุกคนที่มีสิทธิ์เข้าร่วมในโครงการประมูลได้ คาดว่าราคากลางจะอยู่ที่ 18 บาท/กก. ซึ่งราคาประมูลจะมากน้อยอยู่ที่กระบวนการ โดยจะป้องกันไม่ให้มีการละทิ้งข้าว คาดว่าจะจัดอันดับผู้ประมูลอันดับ 1-5 และมีมาตรการที่เข้มข้น หากประมูลไปแล้วไม่สามารถเอาไปได้จะมีการปรับและเลื่อนลำดับอื่นขึ้นมา โดยให้คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเสนอให้ชัดเจน ซึ่งข้าว 2 โกดังนี้เป็นข้าว 2 โกดังสุดท้ายของโครงการรับจำนำข้าว ตั้งแต่ปี 2556/57 ร่วมสิบปีที่เข้าสู่โครงการจำนำข้าวในช่วงนั้น

"ถ้าดูทางกายภาพเมล็ดข้าวยังมีจมูกข้าว ยังดูสวยงาม สีสันอาจมีความเหลืองมากขึ้นซึ่งเป็นธรรมชาติของข้าวอายุ 10 ปี เรากำลังมาเคลียร์เอาเงินเข้ารัฐ คาดว่าจะได้เงินประมาณ 200-400 ล้านบาทกลับเข้ามาโดยไม่หักค่าใช้จ่าย ซึ่งต้องมาจ่ายคืนค่าเช่าค่าใช้จ่ายอื่นคืนเข้ารัฐ"

นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่า ครั้งที่แล้วมีคนบอกว่าไม่จริงจัดฉาก ข้าวจริง 5 ปีก็เน่าแล้ว ซึ่งข้าว 5 ปีหรือ 2 ปีก็เน่าได้ถ้าไม่เก็บรักษาอย่างดี แต่ที่เห็นมีการเข้าออกอย่างเคร่งครัด ไม่มีน้ำรั่วที่ทำให้ข้าวเสียหาย มีการรมยาที่โกดังกิตติชัยรมยาทุก 2 เดือน ที่โกดังพูนผลรมยาทุกเดือน เป็นไปตามมาตรฐานที่ได้กำหนดไว้ในโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งมีเซอร์เวเยอร์ที่ลงทะเบียนกับกรมการค้าต่างประเทศ ที่ได้รับมาตรฐานเพื่อความโปร่งใสชัดเจน ให้เกิดความยุติธรรมกับทุกฝ่าย สะสางโครงการจำนำข้าวใน 2 โกดังสุดท้าย ให้สิ้นสงสัยจบกระบวนการยุติธรรมในขั้นตอนต่างๆ

จากนั้นนายภูมิธรรมได้ให้ผู้สื่อข่าวและผู้เข้าร่วมทุกคนได้ชิมข้าวพร้อมกับผัดกะเพราและไข่เจียว โดยมีสื่อมวลชนจำนวนมากร่วมชิมด้วย หลายคนบอกว่ายังกินได้มีความหวานอยู่ โดยนายภูมิธรรมกล่าวว่า กลิ่นหอมอาจจะอ่อนไปนิดแต่ความนุ่มนวลใช้ได้ นอกจากนี้ผู้ส่งออกข้าวที่ร่วมชิมมีความเห็นตรงกันว่า คุณภาพและรสชาติยังใช้ได้ ไม่มีแมลงเจาะ หากนำไปขัดเพิ่มเชื่อว่าตลาดส่งออกยอมรับได้

 ทั้งนี้ ข้อมูลจากองค์การคลังสินค้า (อคส.) ระบุว่า โครงการรับจำนำข้าวปี 2556/57 จ.สุรินทร์ 1.คลังกิตติชัย  หลัง 2 (ข้าวหอมมะลิ 100%) รับมอบข้าวสารตั้งแต่วันที่ 3  มกราคม 2557 ถึง 10 มีนาคม 2557 เก็บข้าวแล้ว 10 ปี 2 เดือน รวมปริมาณทั้งสิ้น 26,094 ตัน หรือ 258,106 กระสอบ จาก 24 โรงสี และได้มีการระบายข้าวสารแล้ว 3 ครั้ง คงเหลือ 11,656 ตัน หรือ 112,711 กระสอบ 2.คลัง บจก.พูนผลเทรดดิ้ง หลัง 4 (ข้าวหอมมะลิ 100%) รับมอบข้าวสารตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2557 ถึง 29 เมษายน 2557 เก็บข้าวแล้ว 10 ปี 7 วัน มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 9,567 ตัน หรือ 94,637 กระสอบ จาก 6 โรงสี ซึ่งระบายข้าวสารแล้ว 4 ครั้ง คงเหลือ 3,356 ตัน หรือ 32,879 กระสอบ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง