ในหลวง-ราชินี ทรงเวียนเทียน วันวิสาขบูชา

"ในหลวง-พระราชินี" ทรงเวียนเทียน เนื่องในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวิสาขบูชา 2567  "สมเด็จพระสังฆราช" ประทานพระคติธรรม ชวนพุทธศาสนิกชนพัฒนาตนเองตามหลักไตรสิกขา ทั่วไทยพร้อมทำบุญตักบาตร จัดกิจกรรมถวายเป็นพุทธบูชา

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม เวลา 17.13  น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี  เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวิสาขบูชา พุทธศักราช 2567 ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง

ครั้นเสด็จพระราชดำเนินถึง เสด็จเข้าพระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนรุ่ง ทรงรับกระทงดอกไม้วางบนพานหน้าฐานชุกชี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่ง แล้วทรงจุดเทียนห่วงบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ พระพุทธเลิศหล้านภาไลย   ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองใหญ่ที่หน้าธรรมาสน์ศิลา ทรงกราบ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศที่หน้าธรรมาสน์ศิลา ทรงกราบ

แล้วเสด็จออกไปยังชานพระอุโบสถ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พลอากาศโทภักดี แสง-ชูโต รักษาราชการผู้อำนวยการกองพระราชพิธี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเทียน ทรงจุดไฟจากโคมไฟฟ้า แล้วพระราชทานเพื่อเชิญไปถวายเจ้าอาวาส สำหรับจุดเทียนบูชาพระรัตนตรัยตามพระอารามหลวงที่ได้ ทรงพระราชอุทิศไว้ ได้แก่ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม วัดบวรนิเวศวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม วัดราชประดิษฐ สถิตมหาสีมาราม วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพมหานคร และวัดนิเวศธรรมประวัติ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

จากนั้น รักษาการผู้อำนวยการกองพระราชพิธี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเทียนชนวน  ทรงจุดไฟจากโคมไฟฟ้า แล้วทรงถือเทียนนั้นไว้ เจ้าพนักงานศุภรัตนำโคมเทียนมาขอพระราชทานจุดไฟ สำหรับ ทรงถือเมื่อเวลาเสด็จพระราชดำเนินเวียนเทียนประทักษิณพระอุโบสถ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พระราชวงศ์ และข้าราชการ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ขอพระราชทานต่อเทียนที่ทรงถืออยู่นั้น เสร็จแล้ว ทรงนำสวดสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย

หลังจากนั้น ทรงรับโคมจากเจ้าพนักงานศุภรัต ทรงพระดำเนินเลี้ยวขวาเวียนรอบพระอุโบสถครบ 3 รอบ แล้วเสด็จเข้าพระอุโบสถ ทรงโปรยดอกมะลิที่ธรรมาสน์ศิลา พระเทพวชิรเมธาจารย์ เจ้าอาวาสวัดมกุฏกษัตริยาราม ขึ้นนั่งยังธรรมาสน์ศิลา ทรงจุดเทียนดูหนังสือเทศน์พระราชทานแก่เจ้าพนักงานพระราชพิธี เชิญไปตั้งที่ธรรมาสน์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม ทรงศีล พระเทพวชิรเมธาจารย์ เจ้าอาวาสวัดมกุฏกษัตริยาราม ถวายศีล และถวายพระธรรมเทศนา เรื่อง “วิสาขบูชากถา” จบแล้ว ทรงหลั่งทักษิโณทก

จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์แด่พระราชาคณะที่ถวายพระธรรมเทศนา และทรงประเคนสบงถวาย พระสงฆ์ 4 รูป ที่สวดรับอนุโมทนา พระสงฆ์ถวายอดิเรก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงรับการถวาย ความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วเสด็จออกจากพระอุโบสถ ไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ

วันเดียวกัน สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรม เนื่องในดิถีวิสาขบูชา วันพุธที่ 22 พฤษภาคม 2567 ความว่า “ดิถีวิสาขบูชา คล้ายดิถีประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง ควรที่พุทธบริษัททั้งหลาย จักได้พร้อมเพรียงกันบำเพ็ญบุญกิริยา กระทำสักการบูชาพระรัตนตรัยเป็นกรณีพิเศษ

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงถึงพร้อมด้วยพระบริสุทธิคุณ ปราศจากกิเลสเครื่องเศร้าหมอง และทรงถึงพร้อมด้วยพระมหากรุณาคุณ สั่งสอนเวไนยสัตว์ให้บรรลุถึงสุขประโยชน์ ตามควรแก่ธัมมานุธัมมปฏิบัติได้ ทั้งนี้ ก็ด้วยพระปัญญาคุณ จึงควรที่สาธุชนทั้งหลาย จักได้มุ่งมั่นเจริญ “ไตรสิกขา” ตามรอยพระบาทของพระบรมศาสดา เพื่อความสมบูรณ์พร้อมด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา บนวิถีแห่งอริยมรรค ขอจงอย่าประมาทมัวเมา เผลอปล่อยเวลาในชีวิตให้ล่วงผ่านไปเปล่าดาย โดยปราศจากการอบรมเจริญไตรสิกขา หากแต่ควรตระหนักไว้เสมอว่าชีวิตมนุษย์เป็นของน้อย มรณภัยอาจมาถึงได้ทุกขณะ ไม่จำกัดเฉพาะแต่เมื่อถึงวัยแก่เฒ่าแต่เท่านั้น ถ้าปล่อยขณะให้ผ่านไปโดยปราศจากศีล สมาธิ และปัญญา ชีวิตนี้ก็นับว่าไร้ค่า น่าเสียดาย

เพราะฉะนั้น การระลึกถึงความตาย หรือการเจริญ “มรณัสสติ” จึงนับเป็นมงคล เป็นเหตุนำมาซึ่งความเจริญ มิใช่เรื่องน่าหดหู่เศร้าหมอง หากแต่เป็นเครื่องช่วยระงับความโลภ ความโกรธ และความหลงให้สงบลง ทั้งยังช่วยปลุกเร้าจิตใจให้เบิกบานหาญกล้าที่จะบำเพ็ญคุณความดียิ่งๆ ขึ้นไป เมื่อบุคคลรู้จักปล่อยวางจากการยึดถือสิ่งทั้งปวงว่าเป็นตัวเรา เป็นของเรา บุคคลนั้นย่อมประสบสันติในใจตนเอง และย่อมแผ่ขยายอานุภาพ ไปเกื้อกูลสันติภาพในครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติได้ต่อไป

ดิถีวิสาขบูชาปีนี้ จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชน ตั้งปณิธานให้แน่วแน่ ในอันที่จะพัฒนาตนเองตามหลักไตรสิกขา ให้ได้ชื่อว่าเป็นผู้ไม่ประมาท เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และเปิดโอกาสให้สันติสุขที่แท้จริง มาสถิตในจิตใจตนและในสังคม สมด้วยพระพุทธานุศาสนีที่ว่า “กาลทั้งหลาย ย่อมล่วงไป ราตรีทั้งหลาย ย่อมผ่านไป ชั้นแห่งวัย ย่อมละลำดับไป บุคคลเมื่อเห็นภัยนี้ในมรณะ พึงละอามิสในโลกเสีย มุ่งสันติเถิด” จิรํ ติฏฺฐตุ สทฺธมฺโม ธมฺเม โหนฺตุ สคารวา. ขอพระสัทธรรมจงดํารงคงมั่นอยู่ตลอดกาลนาน และขอสาธุชนทั้งหลาย จงมีความเคารพในพระธรรมนั้น เทอญ

ขณะที่พุทธศาสนิกชนทุกจังหวัดทั่วประเทศ ได้ร่วมกันประกอบพิธีทำบุญตักบาตรและจัดกิจกรรมเนื่องในวันวิสาขบูชา อาทิ ที่ จ.นครศรีธรรมราช นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานในกิจกรรมเดินธรรม ยาตรา และพิธีแสดงตนเป็นพุทธมามกะ เนื่องในวันวิสาขบูชา 2567 วันสำคัญสากลของโลก โดยเริ่มเดินขบวนธรรมยาตราจากศาลาประดู่หก สนามหน้าเมือง มาตามถนนราชดำเนิน เข้าสู่บริเวณลานโพธิ์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จากนั้นได้เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตร

ที่วัดป่าแสงอรุณ ต.พระลับ อ.เมืองฯ  จ.ขอนแก่น นายศิริวัฒน์ พินิจพาณิชย์ รองผู้ว่าฯ ขอนแก่น นำพุทธศาสนิกชนและประชาชนในพื้นที่ร่วมกันประกอบพิธีทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ เนื่องในวันวิสาขบูชา ประจำปี 2567 โดยมี พระพรหมวชิรดิลก ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 9 เจ้าอาวาสวัดป่าแสงอรุณ นำพระเถรานุเถระและพระภิกษุสงฆ์ออกรับบิณฑบาต

ขณะเดียวกัน เทศบาลตำบลพระลับ ยังได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ ร่วมจัดกิจกรรมเดินวิ่งวันวิสาขบูชา ครั้งที่ 12 ประจำปี 2567 เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และส่งเสริมการออกกำลังกายและร่วมทำบุญเนื่องในวันพระใหญ่ โดยมีนักวิ่งจากทั่วทั้งภาคอีสาน เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

ที่ จ.พิจิตร นายพิพัฒน์ โล่ห์เรืองทรัพย์ ประธานมูลนิธิโรงเจพิจิตร ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนศรีมาลา อ.เมืองพิจิตร ได้ร่วมกับพ่อค้าประชาชนในเขตเทศบาลเมืองพิจิตร ที่ได้ร่วมกันบริจาคทรัพย์ทำบุญให้กับมูลนิธิโรงเจพิจิตร เนื่องในวันวิสาขบูชา ด้วยการจัดกิจกรรมทำบุญต่อบุญด้วยการทำข้าวกล่องจำนวน 500 กล่อง แจกจ่ายให้กับประชาชนทั่วไปให้ได้อิ่มบุญ อิ่มท้อง และอิ่มใจกับผู้ที่บริจาคเงินในการทำบุญครั้งนี้ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวนี้ มูลนิธิโรงเจพิจิตรได้ทำเป็นประจำต่อเนื่องมาเป็นที่ 3 แล้ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พร้อมเลือกสว.รอบ2

เตรียมการเลือก สว.ระดับจังหวัดทั่วประเทศคึกคัก เลขาธิการ กกต.เตือนผู้สมัคร สว.มารายงานตัวให้ทันเวลาก่อน 09.00 น. ย้ำสายเพียง 1 วินาทีก็ไม่ได้