‘ชัย’ปูดประชุม ครม.เศรษฐกิจ แค่ถกหาไอเดีย

“เศรษฐา” ใช้วันหยุดจัดก๋วยเตี๋ยวเนื้อทรงวาด บอก 10 วันทัวร์นอกกินแต่สปาเกตตี “ชัย” ปูดประชุม ครม.เศรษฐกิจนัดแรกคงมีแต่ไอเดีย หลังนายกฯ สั่งให้ รมต.ไปทำการบ้านหามาตรการระยะสั้นช่วยกลุ่มเปราะบาง-เอสเอ็มอี “อดีตรองอธิการบดี มธ.” จี้ถึงเวลาเลิกนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตหากเห็นผลประโยชน์ชาติ

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ใช้เวลาช่วงวันหยุดหลังจากเดินทางกลับจากปฏิบัติภารกิจที่ต่างประเทศไปรับประทานก๋วยเตี๋ยวย่านทรงวาด โดยระบุว่า เดินทางไปต่างประเทศร่วม 10 วัน ขอมาจัดก๋วยเตี๋ยวเนื้อทรงวาดสักหน่อย ช่วงที่ผ่านมากินแต่เส้นสปาเกตตี วันนี้ได้เส้นเล็กหมี่แห้งเนื้อสดเปื่อย กับโอเลี้ยง อร่อยมากๆ

จากนั้นนายเศรษฐาได้เดินเที่ยวในย่านทรงวาด พร้อมระบุว่า ขอเดินชมถนนสายท่องเที่ยวที่กำลังเป็นที่นิยมของคนไทยและชาวต่างชาติหน่อย ที่นี่มีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขนม แกลเลอรี ศิลปะ และเป็นเมืองเก่าที่มีตึกรามบ้านช่องสวยงาม โดยได้คุยกับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในย่านนี้ เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของทุกคนที่ต้องการจะยกระดับให้ย่านนี้เป็นย่านเศรษฐกิจ คิดว่าจะต้องโปรโมตย่านนี้ให้มากขึ้น จึงได้ประสานกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครให้ช่วยกันจัดทำแผนประชาสัมพันธ์ และดูถึงระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า ประปา และความปลอดภัย เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวย่านนี้ให้ดีขึ้นอีก พื้นที่ศักยภาพแบบนี้ ภาครัฐต้องเร่งส่งเสริม

ต่อมาในเวลา 13.00 น. นายเศรษฐาได้เดินทางลงพื้นที่ชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ เขตคลองเตย เป็นการส่วนตัว โดยไม่มีการแจ้งเป็นภารกิจทางการ เพื่อติดตามชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนชุมชนเมือง นำไปสู่การแก้ไขปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย อาชีพ รายได้ รวมถึงปัญหายาเสพติด โดยนายกฯ รับปากว่าจะไปหาวิธีและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) รวมถึงสถาบันทางการเงินของรัฐเข้ามาดูแลเพื่อแก้ไขความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนในเบื้องต้น ซึ่งอาจจะพัฒนาให้ชุมชนพัฒนาบ่อนไก่เป็นชุมชนต้นแบบนำร่องแก่ชุมชนอื่นๆ จากนั้นนายกฯ ได้ไปตรวจเยี่ยมการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ สน.โคกคราม ในการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ พนันออนไลน์ และยาเสพติด

ด้านนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการที่นายเศรษฐาจะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ครั้งที่ 1/2567 ในวันที่ 27 พ.ค. เวลา 16.30 น. ว่าการประชุม ครม.เศรษฐกิจในครั้งนี้ถือเป็นการเรียกความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจะเน้นการหารือมาตรการระยะสั้น กระตุ้นเศรษฐกิจที่ต้องการจะให้เห็นผลทันที เพื่อที่จะช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะการช่วยเหลือกลุ่มเอสเอ็มอีและกลุ่มเปราะบาง ทั้งนี้ มาตรการระยะสั้น รัฐบาลวางกรอบไว้ว่าจะใช้มาตรการเดิม และมีมาตรการใหม่เสริมเข้าไป ในขณะเดียวกันมาตรการเดิมนั้นจะต้องเร่งให้เร็วขึ้น

นายชัยกล่าวอีกว่า การประชุมในวันที่ 27 พ.ค. นายกฯ ให้แต่ละรัฐมนตรี และแต่ละหน่วยงาน ได้เสนอไอเดียที่จะทำให้ประชาชนได้รับผลประโยชน์อย่างรวดเร็ว ดังนั้นวันที่ 27 พ.ค.จะได้ไอเดียเบื้องต้น เพื่อเป็นการเตรียมมาตรการระยะสั้นมาเสนอต่อที่ประชุมเพื่อที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการประชุม ครม.เศรษฐกิจ เป็นผลมาจากตัวเลขจีดีพีเติบโตเพียง 1.5% ซึ่งนายกฯ เห็นแล้วไม่สบายใจ ทั้งที่ตัวเลขด้านการท่องเที่ยวโดดเด่นมาก แต่ตัวเลขอื่นกลับติดลบ โดยเฉพาะการลงทุนและการบริโภคภาครัฐ ซึ่งติดลบพอสมควร เนื่องจากงบประมาณเพิ่งออกไป ซึ่งนายกฯ ก็เร่งรัดในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน

ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ไปรวบรวมข้อมูลด้านเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องเพื่อนำหารือในการประชุม ครม.เศรษฐกิจ วันที่ 27 พ.ค.นี้ โดยจะมีการหาข้อมูลอย่างรอบด้าน ทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัว แต่จะมีมาตรการอะไรออกมาใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดูแลค่าครองชีพในประเทศ หรือการเพิ่มเป้าหมายส่งออกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็จะต้องมีการหารือในวง ครม.เศรษฐกิจ เพื่อให้เห็นภาพรวมก่อน จึงจะระบุได้ว่าจะมีมาตรการอะไรออกมา

ด้าน รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า นายเศรษฐากลับจากเยือนฝรั่งเศส อิตาลี และญี่ปุ่นถึงประเทศไทย แรกทีเดียวจะรีบประชุมเพื่อแก้ปัญหาที่จีดีพีในไตรมาสแรกขยายตัวเพียง 1.5% ของปีที่แล้ว ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเรื่องภาวะเศรษฐกิจ หวังว่านายกฯ จะอ่านรายงานของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) อย่างละเอียด เพราะตามที่เลขาธิการสภาพัฒน์แถลง การบริโภคภายในประเทศไม่ได้มีปัญหาเลย เพราะยังขยายตัวได้สูง บางคนที่ว่าประชาชนไม่มีกำลังซื้อเลยจึงไม่น่าจะจริง การท่องเที่ยวก็ไม่มีปัญา ที่มีปัญหาก็คือการส่งออกที่ติดลบ การลงทุนภาคเอกชนยังไม่ดี และปัญหาที่สำคัญคือการลงทุนภาครัฐยังไม่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ เพราะงบประมาณแผ่นดินปี 2567 เพิ่งเริ่มใช้ได้มาเพียงกว่า 1 เดือน นั่นเป็นเพราะรัฐบาลชุดนี้ดึงไว้ไม่ยอมนำเข้าสภา เพราะอยากเปลี่ยนแปลงก่อน ทำให้แทนที่จะเริ่มใช้ได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2566 ตามปกติ กลับต้องล่าช้ามาถึงปลายเดือน เม.ย. ปี 2567

“หากการบริโภคยังขยายตัวดีตามที่สภาพัฒน์แถลง ก็หมายความว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวิธีการแจกเงินแล้วบังคับให้ต้องใช้เงินไม่มีความจำเป็นเลย ดังนั้นนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตจึงไม่ควรเดินหน้าต่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องไปกู้เงินมาแจก และขณะนี้มีข่าวว่าจะต้องตั้งงบประมาณกลางปีเพิ่มอีก 1.2 แสนล้านบาท เพราะงบที่ตั้งไว้เดิมไม่พอจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ นั่นหมายความว่างบประมาณปี 2568 ก็จะต้องกู้เพิ่มขึ้นอีก  เช่นนี้แล้ว หากยังดึงดันจะเดินหน้าทำเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตต่อ ก็แสดงว่ารัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทยไม่ได้ยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง ทำให้ข้อสงสัยว่าต้องมีผลประโยชน์อื่นๆ มาแอบแฝง มีความเป็นไปได้สูง” รศ.หริรักษ์ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘เศรษฐา’ ยื่นบัญชีทรัพย์สินเพิ่มเติม พบรวย 1,020 ล้าน มีเงินลงทุนเพิ่ม 2 แสน

บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ยื่นเข้ามาเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2567

นายกฯ เดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรม Aviation Hub

นายกฯ ขับเคลื่อนอุตสาหกรรม Aviation Hub ขอบคุณการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เชื่อมั่นหลังขยายสิทธิการบินไทย-อินเดีย เพิ่มที่นั่งบนเครื่องบินระหว่างกัน 7,000 ที่นั่ง/สัปดาห์ จะส่งเสริมการเดินทางและการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ