ตำรวจเบี้ยวนัด! ปปช.ส่อไม่คืนคดี สอบบิ๊กต่อกู้เงิน

"บช.น." เบี้ยวนัด "ป.ป.ช."  ส่งชุดสอบสวนมายื่นคำชี้แจงเหตุผลขอคืนสำนวนคดีบิ๊กโจ๊กแทน "นิวัติไชย" ยันไม่ได้ประวิงเวลา แจงสอบพบความเชื่อมโยงบัญชีม้า อักษรย่อ พ. ตัวกลางจ่ายเงินต่อบัญชีของตำรวจหลายรายรวมถึงตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับนายพลคนหนึ่ง ปัดปล่อยภาพหลุดบ้านบิ๊กต่อที่อังกฤษ เล็งเรียกแจงปมกู้เงิน 20 ล้าน บอร์ดใหญ่ ป.ป.ช.เตรียมพิจารณาร้อง  "เศรษฐา" ตั้ง ผบ.ตร.มิชอบ

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) วันที่ 5 มิ.ย. นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ช่วงเช้าถึงกรณีกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ส่งหนังสือขอรับการสอบสวนคดีอาญาของ สน.เตาปูน มีเนื้อหาในส่วนของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในความผิดฐานสมคบกันกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน ในคดีเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน หลังศาลอาญาออกหมายจับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ว่า ข้อเท็จจริงเรื่องนี้คือ บช.น.กับ ป.ป.ช.มองข้อกฎหมายคนละมุม

"เมื่อความเห็นข้อกฎหมายไม่ตรงกัน  ป.ป.ช.จึงเชิญ บช.น.มาเคลียร์เรื่องนี้ ซึ่งยืนยันว่าไม่ล่าช้า และคาดว่าจะได้ข้อสรุปในวันนี้ (5 มิ.ย.) หลังจากนั้นจะนำเสนอที่ประชุมใหญ่คณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อพิจารณาเลยว่าจะตั้งไต่สวนเรื่องนี้หรือไม่" เลขาฯ ป.ป.ช.กล่าว

อย่างไรก็ตาม ช่วงบ่ายนายนิวัติไชยแถลงว่า หลังจาก ป.ป.ช.นัด บช.น.มาหารือในเวลา 13.30 น. เมื่อถึงเวลากลับไม่ได้เดินทางมาตามนัดหมาย ส่งเพียงหนังสือชี้แจงมาเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ทางพนักงานสอบสวนได้สอบสำนวนคดีนี้เสร็จสิ้นแล้ว พบว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์และพวกไม่มีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ จึงจะขอสำนวนนั้นกลับไป แต่ในส่วนนี้คณะกรรมการไต่สวน ป.ป.ช.มีความเห็นต่างกับพนักงานสอบสวน เนื่องจากพบความเชื่อมโยงของบัญชีม้า อักษรย่อ พ. ที่เป็นตัวกลางในการจ่ายเงินต่อไปยังบัญชีของตำรวจหลายนาย รวมถึงตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับนายพลคนหนึ่งด้วย ซึ่งทั้งหมดเป็นเส้นทางการเงินที่รวบรวมจากข้อเท็จจริงของพนักงานสอบสวน จึงต้องพิจารณาต่อว่าสำนวนของคดี สน.เตาปูน มีความผิดเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องของการได้รับผลประโยชน์

"ได้เห็นหนังสือชี้แจงของ บช.น.แล้ว และมีความเห็นว่าควรจะส่งต่อให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.เป็นผู้พิจารณาต่อว่าจะคืนหรือไม่คืนสำนวนให้กับ บช.น. คาดว่าจะเร่งดำเนินการพิจารณาให้แล้วเสร็จ และจะส่งให้ ป.ป.ช.พิจารณาในวันเดียวกัน และยืนยัน ป.ป.ช.ไม่ได้ประวิงเวลา และการสอบสวนคืบหน้าแล้ว ไม่ได้ล่าช้าแต่อย่างใด" นายนิวัติไชยกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.สราวุธ บุตรดี รองผู้กำกับการ สน.สายไหม ชุดสอบสวนคดี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ได้มายื่นหนังสือดังกล่าว พร้อมระบุว่า ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ต.วสันต์ เตละอัครเกษม รอง ผบช.น. ให้เป็นตัวแทนมายื่นหนังสือชี้แจงเหตุผลการขอคืนสำนวนคดีเว็บพนันออนไลน์ สน.เตาปูน

"รายละเอียดเหตุผลอยู่ในหนังสือชี้แจงหมดแล้ว และคงจะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ ป.ป.ช.ว่าจะส่งคืนสำนวนคดีให้หรือไม่ หากได้รับคืนขั้นตอนต่อไปคงจะสรุปสำนวนการสอบสวนและมีความเห็นทางคดีส่งให้พนักงานอัยการ แต่หากไม่ได้รับคืน ก็เป็นอำนาจของ ป.ป.ช.ดำเนินการต่อไป" ชุดสอบสวนคดีพล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าว

วันเดียวกัน นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาฯ ป.ป.ช. ชี้แจงกรณีมีภาพถ่าย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.กับภรรยาถ่ายภาพบ้านที่ประเทศอังกฤษ ทำให้ถูกมองว่าเป็นการปกปิดบัญชีทรัพย์สินว่า เรื่องการยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินที่ผ่านมา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ได้ยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. 2 รอบ ในการเข้ารับตำแหน่งรอง ผบ.ตร. เมื่อวันที่ 1 ต.ค.62 ซึ่งเป็นไปตามที่มีหน้าที่ต้องยื่นและต้องยื่นทุกๆ 3 ปี ซึ่งครบ 3 ปีเมื่อวันที่ 1 ต.ค.65 จากนั้นได้เข้ารับตำแหน่ง ผบ.ตร.เมื่อปี 66 แต่กรณีเข้ารับตำแหน่งนี้ไม่จำเป็นต้องยื่นทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. เพราะเป็นการรับตำแหน่งในช่วงที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินแล้ว จึงไม่ต้องยื่นซ้ำในช่วงเวลา 3 ปี

"เมื่อครั้งที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ยื่นบัญชีทรัพย์สินตอนดำรงตำแหน่งรอง ผบ.ตร.พบว่ามีการกู้เงินวงเงิน 20 ล้านบาท และชี้แจงว่าเป็นการกู้เงินเพื่อไปทำธุรกิจและแนบภาพถ่ายบ้านที่อังกฤษ ซึ่งเป็นเพียงภาพตัวบ้านอย่างเดียวเท่านั้น กรณีที่ปรากฏภาพบ้านและมีท่านกับคู่สมรสยืนอยู่ไม่ใช่ภาพถ่ายที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. ส่วนมาจากใครต้องกลับไปดูคนที่ยื่นเรื่องร้องเรียนว่ามีใครบ้าง" นายนิวัติไชยกล่าว

ถามว่า กรณีกู้เงิน 20 ล้านบาท ได้สอบถาม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์หรือไม่ เลขาฯป.ป.ช.กล่าวว่า ป.ป.ช.ได้ให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์มาชี้แจงเพิ่มเติมว่าผลการลงทุนเป็นอย่างไรบ้าง ทำไมไม่มีการชี้แจง ซึ่งก็ได้ส่งทนายความมาขอขยายเวลา 30 วัน ดังนั้นภาพถ่ายที่หลุดออกไป ไม่ได้ออกไปจาก ป.ป.ช.แน่นอน เป็นภาพคนละชุดกับที่ ป.ป.ช.มีอยู่ รวมทั้งการดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.ก็ไม่จำเป็นต้องยื่น เพราะจะยื่นทุกๆ 3 ปี

นอกจากนี้ เลขาฯ ป.ป.ช.ยังแถลงถึงความคืบหน้าคำร้องกล่าวหานายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้ง ผบ.ตร.โดยมิชอบว่า ปัจจุบันสำนักงาน ป.ป.ช.ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น และรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริง พยานหลักฐานแล้ว คาดว่าจะนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อพิจารณาในเร็วๆ นี้

"ถ้ามีมูลจะมีการตั้งเรื่องไต่สวน แต่ถ้าไม่มีมูลก็ไม่รับคำร้องกล่าวหา เรื่องนี้อยู่ที่ข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน และดุลพินิจของที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช." เลขาฯ ป.ป.ช.กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง