‘เศรษฐา’ฉุนโต้ลงพื้นที่! รอชงกม.ให้ฝรั่งเช่า99ปี

“เศรษฐา” รำคาญ โดนแขวะเน้นปริมาณ แต่ไม่มีคุณภาพ บอกไม่เก็บมารกหู ลุยพื้นที่ต่อ แย้ม “พิชัย” เตรียมแถลงใหญ่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เหน็บผู้ว่าฯ ธปท.จ้อแต่สื่อต่างชาติ เปิดเอกสาร ครม.สั่ง มท. แก้ กม.ช่วยอสังหาฯ เปิดช่องต่างชาติซื้อคอนโด 75% จากเดิม 49%   

เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์เฟซบุ๊กเชิญชวนประชาชนติดตามรายการคุยกับเศรษฐา ซึ่งเทปแรกจะออกอากาศวันเสาร์ที่ 22 มิ.ย.นี้ เวลา 08.00-08.30 น. ทาง NBT - ช่อง 5 สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ทั่วประเทศ 09.30-10.00 น. ทางช่อง 9 MCOT และเวลา 18.00-18.30 น. ทางวิทยุ อสมท โดยนายเศรษฐาเปิดเผยว่า ครั้งแรกที่ออกมาเล่าให้ฟังเบื้องหลังการคิด การทำงาน และก็ความสำคัญของเรื่องต่างๆ ที่เราทำรอบนี้ขอเริ่มที่ตึกไทยคู่ฟ้า แต่เปลี่ยนมาดจากนายกรัฐมนตรีเป็นคนทำงาน ครั้งหน้าที่ไหนติดตามชม

วันเดียวกัน นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีถูกวิพากษ์วิจารณ์ลงพื้นที่เยอะ ได้แต่ปริมาณ ไม่ได้คุณภาพ ว่า จากการที่ตนได้ลงหลายพื้นที่ จะใช้เวลาวันเสาร์และอาทิตย์ซึ่งเป็นวันหยุด ฉะนั้น เรื่องการบริหารราชการแผ่นดินเชื่อว่าไม่ได้เสียเวลาตรงนี้ ตนไปต่างประเทศบ่อยก็ว่า ไปต่างจังหวัดดูแลปัญหาพี่น้องประชาชนก็ว่า อย่างกรณีที่จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งต่อไปที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งตนได้ถือโอกาสเดินทางไปตั้งแต่วันศุกร์ที่ 28 มิ.ย. และต่อเนื่องไปวันเสาร์ อาทิตย์ จันทร์ อังคาร ทัวร์ตั้งแต่อีสานไล่ลงมา เพราะถ้าเราไม่ลงก็ไม่ทราบปัญหาจริงๆ

 “ตรงนี้ก็คงเป็นเรื่องการเมืองมากกว่ามั้ง ผมไม่อยากเอามารกหู เรามีหน้าที่ต้องทำก็ทำไป” นายเศรษฐาระบุ

ผู้สื่อข่าวถามว่า เสียงค่อนแขวะเหล่านี้ เป็นที่น่ารำคาญของนายกฯ หรือไม่ นายเศรษฐายอมรับว่า ก็บอกตรงๆ ก็ต้องรำคาญบ้างเป็นธรรมดา แต่ตนแน่วแน่ในหลักของการทำงานอยู่แล้ว ตนก็คนคนหนึ่งเหมือนกัน แต่ไม่ได้คิดอะไรมาก

ลงพื้นที่ต่อ แต่ขอลดจุด

เมื่อถามอีกว่า สอดคล้องกับผลโพลที่พบว่า การลงพื้นที่ไม่มีคุณภาพ นายกฯ ชี้แจงว่า ตรงนี้ก็มีสาระอันหนึ่งเหมือนกัน ซึ่งไม่ใช่ทุกอย่างเป็นเรื่องที่น่ารำคาญหรือรกหูอย่างเดียว เราต้องมานั่งดู อย่างเช่น มีเสียงออกมาว่าลงพื้นที่ถี่ไปไม่ลึกพอ อาจจะลงจังหวัดหนึ่งหลายจุดเกินไป ซึ่งในพรรคเพื่อไทยก็มีการคุยกันว่า ตนควรจะลงในระยะเวลาเท่าเดิม แต่จำนวนอาจจะลดจาก 4 จุดเหลือ 2 จุด เพื่อที่จะลงลึกพูดคุยปัญหาได้เยอะ ตรงนี้ตนรับฟัง ไม่ใช่ทุกเรื่องเป็นที่น่ารำคาญหรือไม่รับฟัง

เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ว่า จะมีการปรับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล จะมีผลต่อเสียงที่ลงมติหรือไม่ นายกฯ ปฏิเสธว่า ตนยังไม่ได้คุยอะไรเลย และตนยังไม่เคยคุยว่าจะปรับอะไรเลย ไม่เคยพูดอะไรเลย และเรื่องนี้ไม่ได้มาจากตน เพราะตนยังไม่เคยพูดอะไร และตนบอกได้เพียงว่าตนเจอกับทุกคนยังพูดคุยดีกันอยู่

เมื่อถามย้ำว่า ยืนยันใช่หรือไม่จะไม่มีการปรับอะไรในตอนนี้ นายกฯ ตอบว่า ถ้าเกิดอยู่ครบ 4 ปี จะไม่ปรับเลยคงไม่ได้ อย่าไปคาดเดาถึงตรงนั้นเลย ช่วงนี้เรามีเรื่องสำคัญอีกเยอะแยะ ต่อข้อถามว่า เป็นการปล่อยข่าวสร้างกระแสให้สั่นคลอนในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายกฯ ระบุว่า ไม่ทราบว่าข่าวมาจากไหน แต่อย่าลืมว่าคนที่จรดปากกาคือตน และตนคิดว่ายังไม่มี วันนี้เรามานั่งดูปัญหาเป็นหลักดีกว่า เราเล่นการเมืองให้มันน้อยลงหน่อยดีกว่า เมื่อถามอีกว่า ถือเป็นการให้ความมั่นใจกับพรรค พปชร.ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนให้ความมั่นใจกับประชาชนมากกว่า เราเอาปัญหาของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก

มีรายงานว่า ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ วันที่ 22 มิ.ย. นายกฯ จะลงพื้นที่พัทยา จ.ชลบุรี เพื่อติดตามการท่องเที่ยว จากนั้นวันที่ 23 มิ.ย. นายกฯ และคณะมีกำหนดการลงพื้นที่ จ.ชลบุรี และระยอง โดยเวลา 10.45 น. นายกฯ เดินทางถึงสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา เพื่อพูดคุยหารือประเด็นปัญหาและการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ เพื่อรองรับการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ขณะที่ในช่วงบ่าย นายกฯ พร้อมคณะ ศึกษาดูเส้นทางการแข่งขัน F1 ที่บริเวณเขาพระตำหนัก อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ก่อนเดินทางไปยังท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อติดตามและเร่งรัดการสร้างโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ที่ท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และเดินทางกลับกรุงเทพฯ

ต่อมาเวลา 16.30 น. วันที่ 21 มิ.ย. ที่อาคารรัฐสภา นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ก่อนเดินทางกลับ ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า นายกฯ มีสีหน้าอิดโรย โดยนายกฯ ยอมรับว่ายังไม่ค่อยหายดีเท่าไหร่ เดี๋ยวขอกลับไปพักผ่อน มันยังไม่หายดีเต็มที่ เดี๋ยวจะกลับไปพัก

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เปิดเผยผลการประชุมบูรณาการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 ซึ่งประกอบด้วย จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์และสุรินทร์ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุม ครม.สัญจร ระหว่าง 1-2 ก.ค.ว่า การประชุม ครม.สัญจรในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง หรือที่เรียกกันว่า นครชัยบุรินทร์ ถือเป็นประตูสู่ภาคอีสาน เป็นด่านแรกที่ผู้คนจะ เดินทางเข้าไปในภาคอีสานจะต้องผ่าน จึงต้องเน้นในเรื่องของเอกลักษณ์ความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่เชิงเกษตรกรรม ระบบโลจิสติกส์คมนาคมขนส่ง การท่องเที่ยว เศรษฐกิจในทุกระดับ ทั้งนี้ จะผลักดัน 4 ด้านสำคัญคือ เชื่อมโยงพื้นที่เศรษฐกิจชุมชนกับโครงข่ายคมนาคมหลัก รวมไปถึงยกระดับการท่องเที่ยวสู่การเป็นจุดหมายในระดับสากล อีกทั้งพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคตและเศรษฐกิจชีวภาพ เรื่องการพัฒนาชีวิตและแก้ปัญหาความยากจน

นายอนุทินกล่าวอีกว่า การประชุมครั้งนี้ได้เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนแสดงความเห็นอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นไปตามปกติเมื่อมีการประชุม ครม.นอกสถานที่จะมีการแบ่งลงพื้นที่ของบรรดารัฐมนตรีทั้ง 4 จังหวัด โดยไม่ได้มีการแบ่งเป็นพรรค แต่ทำเพื่อประชาชนส่วนรวม และจัดสรรงบประมาณจากงบกลาง เพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการต่อยอด เป็นแบบ Quick win ให้เกิดประโยชน์กับพื้นที่สูงสุดให้กับชาวบ้าน คาดว่าจะมีเงินสะพัดในกลุ่มจังหวัดกว่า 200 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ เช่น การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว พัฒนาเรื่องการศึกษา สร้างศูนย์อาหารมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

วันเดียวกัน นายเศรษฐาเปิดเผยถึงกรณีพูดคุยกับ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง เมื่อคืนวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า ได้คุยกันไปหลายเรื่อง นั่งทานข้าวกันถึงดึก ปรึกษาปัญหาเรื่องตลาดหลักทรัพย์ และเรื่องอะไรอีกหลายอย่าง เข้าใจว่า ในวัน 24 หรือ 25 มิ.ย. จะมีการแถลงใหญ่ถึงมาตรการระยะสั้น กลางและยาว ส่วนจะเป็นไทม์ไลน์หรือข่าวดี เดี๋ยวคอยฟังดีกว่า ตนไม่อยากไปก้าวล่วงตรงนั้น แต่เรามีการคุยกันเยอะ

เปิดช่องต่างชาติซื้อคอนโด 75%

เมื่อถามถึงกรณีนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ ระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับการปรับกรอบเงินเฟ้อ ตรงนี้รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร นายเศรษฐากล่าวว่า ต้องพูดคุยกันต่อไป เป็นหน้าที่ของนายพิชัย เมื่อถามย้ำว่า แต่ทางรัฐบาลยังเห็นการปรับกรอบเงินเฟ้อยังเป็นแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เป็นอีกหนึ่งในหลายแนวทางที่เราสามารถพูดคุยกันได้ ท่านคุยกับสื่อต่างประเทศอย่างเดียวเลยหรือ ไม่คุยกับสื่อไทยเลยหรือ 

เมื่อถามถึงกรณีสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ประกาศเตรียมระดมพลผู้ประกอบการรถบรรทุกจัดคาราวานเพื่อนขบวนรถบรรทุกทุกภูมิภาค เข้า กทม.ในวันที่ 3 ก.ค. หลังจากที่ยื่นหนังสือถึงนายกฯ แล้วไม่ได้รับการตอบรับ ตรงนี้จะมีมาตรการช่วยเหลือและตรึงราคาน้ำมันดีเซลอย่างไร นายกฯ ตอบว่า เดี๋ยวต้องไปพูดคุยกับกระทรวงพลังงานก่อน

ขณะที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ประกาศสำเนาด่วนที่สุด เรื่อง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ ถึง รมว.มหาดไทย อ้างถึงหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 9 เม.ย.67 โดยมีรายละเอียดว่า ตามที่ได้ยืนยันมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 เม.ย.67 เรื่อง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ และการเตรียมการเพื่อรองรับการดำเนินการยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเมือง แห่งอุตสาหกรรมระดับโลก (Thailand Vision) ไปเพื่อดำเนินการ ความละเอียดแจ้งแล้วนั้น ในคราวประชุม ครม.เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.67 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ รักษาราชการแทนนายกฯ เสนอว่า ตามที่ ครม.ได้มีมติ 9 เม.ย.67 เรื่อง มาตรการ  กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษามาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องนั้น เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับมหภาค ตลอดจนดึงดูดนักลงทุนขนาดใหญ่ให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยมีปัจจัยต่างๆ ที่จะส่งเสริมการเข้ามาทำงานของชาวต่างชาติที่มีศักยภาพ จึงขอให้กระทรวงมหาดไทยศึกษาความเป็นไปได้ ดังต่อไปนี้

1.การพิจารณาทบทวนการกำหนดระยะเวลาของทรัพย์อิงสิทธิตามพระราชบัญญัติทรัพย์อิงสิทธิ พ.ศ.2562 โดยกำหนดให้ทรัพย์อิงสิทธิมีกำหนดเวลาได้ไม่เกิน 99 ปี 2.การพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการให้สิทธิคนต่างด้าวสามารถถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุด จากเดิมไม่เกินร้อยละ 49 เป็นไม่เกินร้อยละ 75 โดยอาจกำหนดเงื่อนไขอื่นที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการของนิติบุคคลอาคารชุด เช่น การจำกัดสิทธิการออกเสียงของคนต่างด้าว และนิติบุคคลต่างด้าวที่ได้เข้ามาถือกรรมสิทธิ์ในภายหลังจากที่เกินอัตราส่วนร้อยละ 49

ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องตราหรือแก้ไขปรับปรุงกฎหมายประการใดเพื่อรองรับการดำเนินการในเรื่องนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินการตามขั้นตอนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยให้ปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย ระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดด้วย และเสนอ ครม.โดยเร็วต่อไป ซึ่ง ครม.พิจารณาแล้วจึงได้ลงมติเห็นชอบตามที่นายภูมิธรรม รองนายกฯ รักษาราชการแทนนายกฯ เสนอ จึงเรียนยืนยันมา และขอได้โปรดดำเนินการตามมติ ครม.ในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง