จบข่าว! ภูมิธรรมเปิด 18 รายการห้ามใช้เงินหมื่น “มือถือ-เครื่องใช้ไฟฟ้า” โดนด้วย โอ่มีร้านค้ารอเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ตอื้อ โพลตบหน้ายุคอยู่ดีกินดี 79% ระบุชัดยุคแห่งความยากจนและหนี้สินรุมเร้า จี้รัฐบาลช่วยหาช่องสร้างรายได้-ลดดอกเบี้ยกู้
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 ก.ค. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (พณ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมร้านค้าเพื่อเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่คาดว่าจะเริ่มในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมความพร้อมร้านค้าไว้เรียบร้อยแล้ว โดยในส่วน พณ. มีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมการค้าภายในเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนหน่วยงานอื่นที่เป็นเจ้าของฐานข้อมูลร้านค้า ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย (มท.), กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้ส่งฐานข้อมูลร้านค้าให้สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ สพร. เพื่อรวบรวมในฐานข้อมูลกลาง เพื่อเตรียมความพร้อมลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันแล้ว
นายภูมิธรรมกล่าวว่า ร้านค้าในส่วนของ พณ.มีนิติบุคคลที่ขึ้นทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จำนวน 910,000 ราย ซึ่งในนี้มีผู้ประกอบการธุรกิจอยู่เป็นจำนวนมาก มีร้านธงฟ้า 146,000 แห่ง และร้านอาหารธงฟ้า 5,000 แห่ง ที่กรมการค้าภายในดูแล มีร้านค้า (โชห่วย) หาบเร่ แผงลอย ร้านค้าอาหาร ร้านค้าตลาดนัด ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มท.ดูแล 400,000 แห่ง มีกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ที่ กษ.ดูแล 93,000 แห่ง และห้างค้าส่ง-ปลีก และร้านสะดวกซื้อ ที่สมาคมค้าปลีกไทยดูแล โดยดำเนินการผ่าน พณ. 50,000 แห่ง ซึ่งกำหนดการลงทะเบียนเบื้องต้นไว้ตั้งแต่เดือน ส.ค.2567 ที่จะเปิดลงทะเบียนกลุ่มร้านค้า สมาคมค้าปลีก-ค้าส่ง ตามด้วยกลุ่มซัพพลายเออร์และร้านค้าทั่วไป
“ที่มองว่าการลงทะเบียนร้านค้าเอื้อประโยชน์ให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะจะเน้นร้านค้าขนาดเล็ก ซึ่งร้านค้าบุคคลธรรมดา ร้านธงฟ้า ร้านกองทุนหมู่บ้าน วิสาหกิจชุมชน ร้านค้ารายย่อย ร้านค้าปลีกและร้านโชห่วยท้องถิ่น ร้านสหกรณ์ ผู้ผลิตสินค้าชุมชน โอท็อป ร้านจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม ร้านขายของชำ มีสิทธิ์หมด รวมถึงร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก แต่ไม่รวมห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก-ค้าส่งขนาดใหญ่ระดับประเทศ และระดับท้องถิ่น”
สำหรับสินค้าสามารถเข้าร่วมโครงการได้ทุกประเภท โดยได้กำหนดสินค้าที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ 18 รายการ ได้แก่ สลากกินแบ่งรัฐบาล, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ผลิตภัณฑ์ยาสูบ, กัญชา, กระท่อม, พืชกระท่อม, ผลิตภัณฑ์จากกัญชาและกระท่อม, บัตรกำนัล, บัตรเงินสด, ทองคำ, เพชร, พลอย, อัญมณี, น้ำมันเชื้อเพลิง, ก๊าซธรรมชาติ, เครื่องใช้ไฟฟ้า, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องมือสื่อสาร ซึ่ง พณ.สามารถพิจารณาปรับปรุงรายการสินค้าได้ หากเห็นว่ามีความจำเป็น โดยเฉพาะสินค้าบางชนิดที่จำเป็นต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือใช้สร้างอาชีพ
วันเดียวกัน สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่องคนไทยกับความยากจน หนี้สิน และการเลิกจ้างงาน โดยมีกลุ่มตัวอย่าง 1,146 คน โดยเมื่อสอบถามว่าประชาชนคิดว่าปัจจุบันปัญหาความยากจน หนี้สิน และการเลิกจ้างงานเป็นปัญหาที่รุนแรงหรือไม่ พบว่า 78.80% รุนแรง และ 21.20% ยังไม่ค่อยรุนแรง
เมื่อถามว่า ประชาชนมีหนี้สินส่วนตัวหรือไม่ พบว่า 70.07% มี และ 29.93% ไม่มี ถามต่อว่าหนี้สินส่วนตัวที่มีคิดเป็นร้อยละเท่าใดของรายได้ต่อเดือน พบว่า 39.72% มีหนี้ 20-50% อันดับสอง 26.90% มีหนี้ 51-80% อันดับสาม 24.66% มีหนี้น้อยกว่า 20% และสุดท้าย 8.72% มีหนี้ 81% และเมื่ออีกว่าประชาชนคิดว่ารัฐบาลควรดำเนินการอย่างไรเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชน พบว่า 79.16% สนับสนุนการสร้างรายได้ให้กับประชาชน, 70.14% ลดดอกเบี้ยเงินกู้ และ 62% ขยายระยะเวลาชำระหนี้
ถามอีกว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ตัวประชาชนเองหรือคนใกล้ตัวเคยถูกเลิกจ้างงานหรือไม่ พบว่า 52.01% ไม่เคย และ 47.99% เคย ส่วนเมื่อถามว่าประชาชนคิดว่ารัฐบาลควรดำเนินการอย่างไรเพื่อแก้ไขปัญหาผู้ที่ถูกเลิกจ้างงาน พบว่า 77.34% ส่งเสริมการสร้างงานใหม่/ช่วยหางานใหม่, 66.23% สนับสนุนธุรกิจขนาดย่อม และ 59.14% ฝึกอบรมเพื่อเพิ่มทักษะ
ทั้งนี้ เมื่อสอบถามว่าประชาชนคิดว่ารัฐบาลควรดำเนินการอย่างไรเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน พบว่า 79.02% เพิ่มโอกาสในการทำงาน/จ้างงาน, 67.57% ส่งเสริมการฝึกอาชีพ และ 66.78% มีระบบประกันสังคมที่เข้มแข็ง สุดท้ายเมื่อถามว่าในมุมมองของประชาชน คิดว่าควรทำอย่างไรคนไทยจึงจะกินดี อยู่ดี ไม่มีหนี้สิน พบว่า 34.06% ต้องมีงานทำ มีรายได้ มีความเป็นอยู่ที่ดี, 21.38% เร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ กระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น และ 14.86% สร้างวินัยทางการเงินให้กับประชาชน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศาลรธน.ยังไม่นัดวินิจฉัยสถานะ 'ภูมิธรรม-ทวี' ปมแทรกแซงคดีฮั้วสว. รอความเห็นพยาน
ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการพิจารณาคำร้องที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของสมาชิกวุฒิสภาที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 42
มั่นใจ‘ชาวหาดใหญ่’ใช้ชีวิตปกติ
"มท.3" สั่งทุกหน่วยระดมกำลังเร่งฟื้นฟูพื้นที่น้ำท่วม ตามเป้า “7 วันกลับบ้าน 14 วันสะอาด” ห่วง 11-14 ธ.ค.ฝนถล่มซ้ำ
คนรุ่นใหม่สำนึก พระราชปณิธาน ‘พระพันปีหลวง’
กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวาย “สมเด็จพระพันปีหลวง” พสกนิกรทั่วถิ่นไทยกราบพระบรมศพ ชาวโพธารามน้อมสำนึกน้ำพระทัยแผ่ไพศาล
ชงครม.ซื้อคืน‘รถไฟฟ้า’ กฤษฎีกาเทเงินออมหวย
“พิพัฒน์” เตรียมชง ครม. 9 ธ.ค. เคาะหัวเชื้อซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้า
เพื่อไทยขู่ยื่นฟันจริยธรรมก่อนดันซักฟอก!
"ไตรศุลี” โพสต์ อุ๊ย! สมัยเป็นเลขาฯ มท.1 ยืนยันข่าว "อนุทิน" ปฏิเสธสัญญาณบ้านจันทร์ส่องหล้า ไม่ให้สัญชาติ
ชายแดนระอุอีกรอบ ปะทะเดือดทหารไทยเจ็บ2/อนุทินลงพื้นที่8ธ.ค.
ชายแดนไทย-กัมพูชาเดือดอีกรอบ! ยิงสนั่น “ภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน”

