"ภูมิธรรม" รับลูก “เศรษฐา” ดึงเจ้าสัว ปตท.-ซีพี-ไทยเบฟ-ห้าง-ปั๊มน้ำมัน ช่วยซื้อผลผลิตทางการเกษตรไปจำหน่าย หรือนำไปทำตลาดเพื่อดูแลเกษตรกร เผยพืชเศรษฐกิจที่ต้องดูแล ผลไม้ 11 ชนิด ผัก 4 ชนิด และพืชหัว 3 ชนิด
เมื่อวันจันทร์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงแผนงานและมาตรการดูแลสินค้าเกษตรและพืชเกษตรตัวรองในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ไปดำเนินการ โดยให้ประสานความร่วมมือกับบริษัทรายใหญ่ โดยเฉพาะบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ให้เข้ามาช่วยดูแลผลผลิตทางการเกษตรในประเทศ ทั้งการช่วยรับซื้อ การนำไปขาย หรือนำไปทำตลาด เพื่อดูแลเกษตรกรให้ขายผลผลิตได้ราคาที่ดีขึ้น
“ปกติบริษัทใหญ่ๆ หรือบริษัทเจ้าสัว เขามีการทำงาน หรือทำกิจกรรมเพื่อสังคม หรือ CSR อยู่แล้ว ก็ขอให้เขาเข้ามาช่วยกระทรวงพาณิชย์ในการดูแลพืชผลทางการเกษตร จะใช้วิธีการแบบเดิมๆ พอมีปัญหาด้านราคาก็เข้าไปแทรกแซง เข้าไปซื้อ มันไม่ยั่งยืน เราต้องดึงเจ้าใหญ่มาช่วย ซึ่งเท่าที่ได้หารือกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เขาพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์”
สำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่ อาทิ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี), เครือไทยเบฟ, ห้างค้าส่งค้าปลีกสมัยใหม่ ทั้งเทสโก้ โลตัส, บิ๊กซี แม็คโคร, ท็อปส์, โก โฮลเซลล์, เซ็นทรัล, เดอะมอลล์, ไอคอนสยาม, เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์, เอเชียทีค, ห้างท้องถิ่นรายใหญ่ รวมถึงสถานีบริการน้ำมัน อาทิ พีทีที สเตชัน, พีที, เชลล์, บางจาก เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า พืชเกษตรเศรษฐกิจตัวรองที่จะต้องเข้าไปดูแลมีจำนวน 18 ชนิด แยกเป็นผลไม้ 11 ชนิด ได้แก่ 1.ทุเรียน 2.มังคุด 3.เงาะ 4.ลองกอง 5.ลำไย 6.สับปะรด 7.ลิ้นจี่ 8.ส้มโอ 9.ส้มเขียวหวาน 10.มะยงชิด 11.มะม่วง ผัก 4 ชนิด ได้แก่ 1.มะนาว 2.มะเขือเทศ 3.ฟักทอง 4.พริกขี้หนูจินดา และพืชหัว 3 ชนิด ได้แก่ 1.หอมแดง 2.หอมหัวใหญ่ 3.กระเทียม
โดยสถานการณ์ราคาพืชผลเกษตรเศรษฐกิจตัวรองล่าสุด ในส่วนของผลไม้ ราคาอยู่ในเกณฑ์ดีทุกชนิด โดยเฉพาะผลไม้ภาคตะวันออก ที่ถือเป็นปีทองของชาวสวนอีกปีหนึ่ง และขณะนี้เป็นส่วนของผลผลิตผลไม้ภาคใต้ที่กำลังออกสู่ตลาด ราคาก็อยู่ในเกณฑ์ดีเช่นเดียวกัน ทั้งทุเรียน มังคุด เงาะ ส่วนผลไม้ภาคเหนือคือมะม่วงจบฤดูกาลไปแล้ว เหลือแต่มะม่วงแฟนซี ซึ่งราคาก็อยู่ในเกณฑ์ดี และลำไยขณะนี้กำลังออกสู่ตลาด และราคาดีกว่าปีที่แล้ว สำหรับผักราคาอยู่ในเกณฑ์ดี และพืช 3 หัวก็ราคาดีเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ยังได้เชิญนายวุฒิไกรและนายวัฒนศักย์ไปหารือเรื่องการดูแลราคาและคุณภาพของผลผลิตสินค้าเกษตรที่จะออกสู่ตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง โดยขอให้มีมาตรการรองรับเพื่อดูแลเกษตรกร และหนึ่งในมาตรการที่ว่าก็คือ การดึงผู้ประกอบการรายใหญ่เข้ามาช่วยเหลือ นอกเหนือจากมาตรการบริหารจัดการผลไม้ปี 2567 ที่ได้ดำเนินการอยู่แล้ว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทหารไทยเสียขาที่9คา‘จีบีซี’
ไทยยัน จม.ของ “เตีย เซ็ยฮา” มีนัยขอเจรจาหยุดยิง-เสนอให้ถอยกำลังทหารไปอยู่ที่จุดเดิม
‘นํ้าเงิน-ส้ม’เปิดศึก! ‘หนู’ลั่นพรรคใดแก้ม.112ไม่ร่วมด้วย-‘เท้ง’ท้าแข่งกันจัดตั้งรัฐบาล
“ภูมิใจไทย” ขยับใหม่ ประกาศแคนดิเดตนายกฯ 2 คน “อนุทิน-สีหศักดิ์” ผวา! ส่งชื่อคนเดียวสุ่มเสี่ยง ต้องเผื่อเหลือเผื่อขาดเอาไว้
กรมศิลป์รับมอบไม้จันทน์หอมสร้างพระโกศฯ
กรมสมเด็จพระเทพฯ มีพระราชวินิจฉัยแบบพระโกศจันทน์ยอดมหามงกุฎสมพระเกียรติ "พระพันปีหลวง"
กกต.กทม.คุมเข้ม รับสมัครสส.เขต ที่ศูนย์ไทย-ญี่ปุ่น
กกต.กทม.พร้อม 90% เปิดศูนย์ไทย-ญี่ปุ่น รับสมัคร สส.กทม. 33 เขต 27-31 ธ.ค.
จัดเก็บรายได้วืด2.8หมื่นล. คลังลุยกู้ชดเชยการขาดดุล
คลังจัดเก็บรายได้ 2 เดือนแรกของปีงบ 69 ไม่เข้าเป้า วืด 2.8 หมื่นล้านบาท
21ม.ค.ชี้ชะตา ‘ภูมิธรรม-ทวี’ สว.เคาะ2ปปช.
ศาลรัฐธรรมนูญนัดยื่นคำแถลงปิดคดี 6 ม.ค. ก่อนแถลงคำวินิจฉัย 21 ม.ค.

