‘ตู่’ทุ่มงบแก้หมูแพง ครม.ไฟเขียว574ล้าน/ฝ่ายค้านสบช่องซักฟอกล้มรัฐบาล

ครม.ไฟเขียวงบกลาง 574.11 ล้านบาท เยียวยาเกษตรกรเลี้ยงหมูถูกโรคระบาด 56 จังหวัด "บิ๊กตู่” สั่ง "ก.พาณิชย์" แก้ปัญหาสินค้าราคาแพง ทั้งระยะสั้น-ระยะยาว ขู่ "ปลัด-อธิบดี" ไม่รับผิดชอบงานมีผลเก้าอี้สั่นคลอน “จุรินทร์”ชิงของบกลางเพิ่มทันที “เฉลิมชัย” แจ้งไทยส่อผลิตวัคซีนอหิวาต์สุกรได้ที่แรกของโลก "กรมปศุสัตว์" แถลงพบโรค ASF ที่ฟาร์มหมู จ.นครปฐมแล้ว 1 แห่ง เตรียมประกาศเขตโรคระบาด ขอ ปชช.อย่ากังวลยังกินหมูได้ "พท." เตือนระวังหมูแพงคว่ำรัฐบาล เล็งซักฟอก-ยื่น ป.ป.ช.เอาผิด "กรมการค้าภายใน" ตรึงราคาไก่

ที่ทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 11 ม.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อพิจารณาวาระงานต่างๆ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม. ตอนหนึ่งว่า ครม.มีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 574.11 ล้านบาท เพื่อป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever : ASF) และโรคระบาดร้ายแรงในสุกรหรือหมูป่า ซึ่งเป็นโรคติดต่อในสุกรที่เกิดจากเชื้อไวรัสที่รุนแรง โดยจะจ่ายเป็นค่าชดใช้ราคาสุกรที่ถูกทำลายตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค.2564-15 ต.ค.2564 ตาม ม.13(4) แห่ง พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการประเมินตามกฎกระทรวงกำหนดค่าชดใช้ราคาสัตว์ที่ถูกทำลายอันเนื่องจากโรคระบาด หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคระบาด หรือสัตว์หรือซากสัตว์ที่เป็นพาหนะของโรคระบาด พ.ศ.2560 แล้ว

สำหรับการอนุมัติงบกลางในครั้งนี้ เป็นการของบประมาณเพื่อจ่ายเป็นค่าชดใช้ราคาสุกรที่ถูกทำลายในพื้นที่ 56 จังหวัด ประกอบด้วย ภาคกลาง 10 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี อ่างทอง ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ และสุพรรณบุรี, ภาคตะวันออก 1 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว,  ภาคตะวันตก 3 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี กาญจนบุรี และประจวบคีรีขันธ์, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ชัยภูมิ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี เลย หนองบัวลำภู มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ขอนแก่น อำนาจเจริญ หนองคาย บึงกาฬ ร้อยเอ็ด นครพนม อุดรธานี มุกดาหาร สกลนคร และยโสธร ภาคเหนือ 12 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง แม่ฮ่องสอน น่าน พะเยา แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก ตาก กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์, ภาคใต้ 10 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ตรัง กระบี่ ระนอง นครศรีธรรมราช ชุมพร พัทลุง พังงา และสงขลา

ทั้งนี้ มีเกษตรกรที่กรมปศุสัตว์ได้ทำลายสุกรไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเงินค่าชดใช้ราคาสุกรที่ถูกทำลาย คิดเป็นเงิน จำนวน 574.11 ล้านบาท จำแนกเป็น เกษตรกร 4,941 ราย สุกร 159,453 ตัว

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลดำเนินการอย่างจริงจังในการป้องกันและควบคุมโรคระบาดในสัตว์และโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร โดย ครม.ยกระดับให้เป็นวาระแห่งชาติตั้งแต่ปี 2562  รวมทั้งได้มีการสนับสนุนงบประมาณ เพื่อการวิจัยพัฒนาวัคซีน รวมทั้งชดเชย เยียวยาเกษตรกรรายย่อย เจ้าของฟาร์ม ที่ผ่านมากรมปศุสัตว์ดำเนินระบบการเฝ้าระวังและประเมินความเสี่ยง กำกับดูแลให้เกษตรกร ตลอดจนการป้องกันและควบคุมโรค อาทิ ให้มีรั้วรอบฟาร์ม ให้มีจุดพ่นน้ำนาฆ่าเชื้อ เป็นต้น

สั่งแก้ของแพงทั้งระบบ

จากนั้น นายธนกรตอบคำถามสื่อมวลชนตามที่ พล.อ.ประยุทธ์มอบหมายกรณีการแก้ปัญหาราคาสินค้าแพงว่า  นายกฯ ชี้แจงว่าให้แก้ปัญหาราคาสินค้าแพงทุกชนิดอย่างเป็นระบบครบวงจร ทั้งกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาต้นทุนที่แท้จริง ขอความร่วมมือภาคเอกชนด้วย โดยให้หามาตรการแก้ไขระยะสั้น ระยะยาว ขอความร่วมมือช่วยกันไม่ให้เกิดความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนในช่วงเวลานี้

เมื่อถามว่ามีการวิเคราะห์ว่าปัญหาหมูแพง ของแพง แก้ไม่ได้ ประชาชนยังเดือดร้อนหนัก หมูอาจจะล้มรัฐบาลได้ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า นายกฯ ชี้แจงว่าใครวิเคราะห์ รัฐบาล ครม. หน่วยงานต้องวิเคราะห์หาหนทางในการแก้ปัญหาจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เอาประเด็นเหล่านี้มาสร้างปัญหาเกี่ยวพันไปเรื่อย

"นายกฯ ยังได้ฝากส่วนราชการให้ติดตามการใช้งบประมาณให้มีความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ โดยกำชับรัฐมนตรีแต่ละคนกำกับดูแลในส่วนงานของตัวเอง ทำงานเชิงรุก และชี้แจงกับประชาชนให้เข้าใจในทุกเรื่อง" โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว

มีรายงานว่า ก่อนเข้าวาระการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ได้ปรารภกับรัฐมนตรีว่าช่วงนี้หลายคนอาจจะเหนื่อยหน่อย ทั้งจากงานและการหาเสียง ขอให้กำลังใจ และขอให้ประสบความสำเร็จ แต่ถึงอย่างไรขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนว่าจะเลือกอย่างไร ตอนนี้เรามีปัญหาหลายอย่าง ทั้งราคาข้าวของก็แพงขึ้น หมูแพง โรคระบาด ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูว่าจะแก้ไขอย่างไร  

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังตั้งข้อสังเกตว่า ในขณะที่สินค้าหลายอย่างขึ้นราคา แต่เหตุใดราคาข้าวเหนียวไม่ได้ขึ้น แต่ทำไมยังมีการลดปริมาณข้าวลงอีก ทำให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ชี้แจงว่าขณะนี้ราคาข้าวมีราคาลดลง  

"หลังจากนี้อาจจำเป็นต้องของบกลางเพื่อแก้ไขปัญหาราคาสินค้าในหลายชนิดที่แพงขึ้น ไม่ใช่เฉพาะราคาหมูแพงเท่านั้น อะไรที่จำเป็นก็ต้องของบ อย่างน้ำมันแพง ไฟฟ้าแพง ก็มีการอุดหนุน กระทรวงพาณิชย์เมื่อคราวจำเป็นก็ต้องขอ ไม่เช่นนั้นจะแก้ไม่ได้ ส่วนอะไรไม่จำเป็นก็ไม่ขอ ตรงนี้ผมจะทำรายละเอียดเข้ามานำเสนอในภายหลัง” แหล่งข่าวอ้างคำพูดของนายจุรินทร์

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบนายจุรินทร์ไปว่า “หากเรื่องไหนจำเป็นก็ต้องให้ ให้ทำรายละเอียดของเรื่องเข้ามา ถ้าจำเป็นต้องใช้ก็ต้องใช้ เพราะเราต้องดูแลประชาชนให้ดีที่สุด”

มีรายงานด้วยว่า ระหว่างพิจารณาวาระของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ขออนุมัติงบกลาง 570 ล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาและเยียวยาเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรที่ได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบจากการเกิดโรคระบาดในสุกร พล.อ.ประยุทธ์ได้แสดงความเห็นว่า ก่อนหน้านี้กรมปศุสัตว์ได้มีการของบประมาณเรื่อยมาตั้งแต่ปี 63 ขอมา 2-3 รอบแล้ว แสดงว่าเรามีการดำเนินการอยู่ เรารู้อยู่ว่าเกิดโรคระบาดขึ้น ดังนั้นขอให้เร่งแก้ปัญหาทั้งระบบโดยเร็ว ปัญหาเกิดขึ้นตรงไหนให้แก้ไขปัญหาตรงนั้น หมูแพงเกิดจากอะไร ถ้าเป็นเพราะต้นทุนก็แก้ต้นทุน โรคระบาดก็ต้องรีบแก้ไขปัญหา และขอให้ระวังเรื่องโดนระงับการส่งออก 5 ปี ขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์ดูแลเป็นพิเศษ

 “มีหลายคนบอกผมว่าให้ย้ายอธิบดีปศุสัตว์ ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเขาด้วย ให้เขาชี้แจงแถลงข่าวให้ประชาชนรู้ด้วย และขอให้รัฐมนตรีไปกำชับปลัดกระทรวงและอธิบดีด้วยว่า ใครรับผิดชอบอะไรก็ขอให้ดูด้วย เพราะมีผลต่อตำแหน่งทั้งปัจจุบันและอนาคต แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับเขา” นายกฯ ระบุ

ขณะที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้ชี้แจงว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้สรุปเรื่องโรคระบาดในหมูตลอด 3 ปีที่ผ่านมา และจะแถลงโดยเร็วที่สุด รวมถึงกำลังพิจารณาเกี่ยวกับการนำเข้าเนื้อหมูจากต่างประเทศจะดำเนินการได้หรือไม่ เพราะต้องระวังกระทบกับผู้ค้ารายย่อย แต่ถ้าทำได้จะช่วยในเรื่องราคาเนื้อหมูได้

"อย่างไรก็ตาม มีข่าวดี เนื่องจากที่ผ่านมาโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรยังไม่เคยมีวัคซีนออกมา ไม่มีใครผลิตได้เป็นร้อยๆ ปี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ร่วมกันพัฒนา และน่าจะผลิตได้เป็นที่แรกในโลก หากเรื่องนี้ประสบความสำเร็จจะถือเป็นเรื่องที่ดี" แหล่งข่าวอ้างคำพูดของนายเฉลิมชัย

ที่รัฐสภา นายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะเลขานุการและโฆษกกรรมาธิการ (กมธ.) การพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตนเข้าใจว่ากรมปศุสัตว์ได้รับทราบถึงโรคระบาดและพยายามควบคุมโรคในวงจำกัดไม่ให้เกษตรกรและประชาชนได้รับผลกระทบ แต่รายละเอียดต้องให้กรมปศุสัตว์ชี้แจงต่อกรรมาธิการฯอีกครั้งว่าได้ดำเนินการอย่างไร หลังจากที่รับเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มเกษตรกร โดยสัปดาห์หน้าเมื่อมีการประชุมสภาจะนำเรื่องเข้ากรรมาธิการฯ เพื่อติดตามปัญหา เป็นเรื่องแรกที่ต้องพิจารณาเร่งด่วน

รับไทยพบโรค ASF ในหมู

วันเดียวกัน นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ ในฐานะประธานคณะทำงานด้านวิชาการป้องกัน ควบคุม และกำจัดโรค ASF ในสุกร ออกแถลงถึงการตรวจสอบโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ว่าจากผลการวิเคราะห์ตัวอย่างในเบื้องต้นจากจำนวนทั้งหมด 309 ตัวอย่าง พบผลวิเคราะห์เป็นลบจำนวน 308 ตัวอย่าง และพบผลบวกเชื้อ ASF จำนวน 1 ตัวอย่าง จากตัวอย่างพื้นผิวสัมผัสบริเวณโรงฆ่าสัตว์แห่งหนึ่งที่มาจาก จ.นครปฐม

"ได้สั่งให้จัดชุดเฉพาะกิจลงตรวจสอบสภาวะโรคในพื้นที่เสี่ยง สุ่มตรวจสอบเพิ่มเติมบริเวณโรงฆ่าสัตว์แห่งหนึ่งที่มาจาก จ.นครปฐม ถึงแหล่งที่มาของสุกรและสาเหตุเพื่อควบคุมโรคโดยเร็วต่อไป เพื่อลดผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด" นายสัตวแพทย์สรวิศกล่าว

อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า ล่าสุดได้มีการประชุมคณะกรรมการวิชาการป้องกันควบคุมโรค ASF แล้ว เมื่อทราบผลการตรวจพบเชื้อ ASF จาก 1 ตัวอย่างที่เก็บมาจากโรงฆ่าสัตว์แห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม จากตัวอย่างทั้งหมดที่เก็บมา 309 ตัวอย่าง โดยยืนยันผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการของสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันและควบคุมโรคให้สงบโดยเร็ว กรมปศุสัตว์เห็นควรประกาศประเทศไทยพบโรค ASF และรายงานไป OIE ต่อไป

นายสัตวแพทย์สรวิศกล่าวว่า การดำเนินงานกรณีตรวจพบโรคในประเทศ กรมปศุสัตว์จะต้องดำเนินการประกาศเป็นเขตโรคระบาด และมีการควบคุมการเคลื่อนย้ายในรัศมี 5 กิโลเมตร รอบจุดที่พบโรค ร่วมกับจะต้องพิจารณาทำลายสุกรที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรค หรือมีความเชื่อมโยงทางระบาดวิทยากับฟาร์มที่เป็นโรค และจ่ายค่าชดใช้ราคาสุกรที่ถูกทำลาย อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันได้มีมาตรการในการดำเนินการในการเฝ้าระวัง ควบคุม และป้องกันการเกิดโรค ASF ร่วมกับภาคีเครือข่ายต่างๆ มาตั้งแต่ต้น

"ขอเรียนพี่น้องประชาชนให้ทราบว่าสุกรที่เป็นโรค ASF เป็นโรคที่ไม่ติดต่อสู่คนหรือสัตว์ชนิดอื่น ผู้บริโภคยังสามารถรับประทานเนื้อสุกรได้อย่างปลอดภัย โดยจะต้องให้ความร้อนปรุงสุกที่อุณหภูมิสูงกว่า 70 องศาเซลเซียส" อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าว

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีก้าว หัวหน้าพรรค พท. ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน แถลงกรณีรัฐบาลปกปิดข้อมูลการเกิดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรจนเกิดปัญหาหมูแพงว่า ปัญหาเรื่องหมูแต่ไม่หมู จะเป็นเรื่องล้มรัฐบาลได้ รัฐบาลปล่อยปละละเลยโรคระบาดสัตว์สร้างความเสียหายให้ประเทศใหญ่หลวง เศรษฐกิจฐานรากพังพินาศ ที่ผ่านมามีประกาศชัดเจนให้เรื่องโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมูเป็นวาระแห่งชาติ ตั้งแต่เดือนเม.ย.2562  โดยนายกฤษฎา บุญราช รมช.เกษตรและสหกรณ์ขณะนั้น แต่รัฐบาลกลับไม่ทำอะไร ปีที่แล้วพรรค พท.ตั้งกระทู้ถามเรื่องโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรก็ไม่มีการดำเนินการใดๆ ถือว่าไม่ให้ความใส่ใจจนเกิดความเสียหาย

นพ.ชลน่านกล่าวว่า เรื่องนี้มีการปกปิดหลักฐานการระบาดโรค เพราะกลัวต้องชดเชยเยียวยาเกษตรกรหรือไม่ หากประกาศมีโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมู หรือปกปิดเพราะต้องการทำลายเกษตรกรรายย่อยที่เลี้ยงหมูให้การเลี้ยงหมูอยู่ในการครอบครองของผู้ประกอบการรายใหญ่หรือไม่ นายกฯ อยู่ไหน ไม่ใส่ใจปัญหาความเดือดร้อนประชาชน เรื่องหมูจะเอานายกฯ ออกจากตำแหน่ง ไม่ต้องรอวาระ 8 ปี

"ในวันที่ 18-19 ม.ค. ที่จะเปิดสภา ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติด่วนด้วยวาจาเพื่อหามาตรการแก้ปัญหาให้ประชาชนโดยด่วน รวมถึงตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจากับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องว่าดำเนินการอะไรไปบ้าง ใครเอาเท้าเหยียบปากไว้จึงไม่ยอมบอก นอกจากนี้ ปัญหาเรื่องหมูจะอยู่ในญัตติที่ฝ่ายค้านจะยื่นเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 และอาจจะอยู่ในเนื้อหาการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เมื่อเปิดสภารอบใหม่ในเดือน พ.ค.ด้วย หากยังไม่มีความชัดเจนจากรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และฝ่ายค้านเตรียมยื่นเรื่องต่อป.ป.ช.เอาผิดรัฐมนตรีและข้าราชการเกี่ยวข้อง เพราะทำความเสียหายให้บ้านเมือง การมีรัฐบาลไร้จิตสำนึกไร้ความรับผิดชอบ ไร้ภูมิปัญญา จะตายกันหมดจริงๆ ขอให้นายกฯ รีบแก้ปัญหาและพิจารณาตัวเอง" ผู้นำฝ่ายค้านระบุ

ที่กรมการค้าภายใน นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมได้หารือร่วมกับผู้เลี้ยงไก่ ทั้งสมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย บริษัทรายใหญ่ และกรมปศุสัตว์ มีมติเห็นชอบร่วมกันในการตรึงราคาจำหน่ายไก่มีชีวิตหน้าฟาร์ม และราคาจำหน่ายปลีกชิ้นส่วนไก่สด เป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่ ม.ค.-มิ.ย.2565 เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคในระยะสั้น ส่วนในระยะยาวจะหารือกับกรมปศุสัตว์และผู้เลี้ยงในการเร่งเพิ่มปริมาณการผลิตโดยเร่งด่วน โดยการเลี้ยงไก่ มีระยะเวลา 45 วัน และจะพิจารณาหามาตรการช่วยเหลือผู้เลี้ยงเพื่อแบ่งเบาภาระด้านต้นทุนให้ด้วย

"ส่วนการแก้ปัญหาราคาเนื้อหมูราคาสูงขึ้น ระยะสั้นจะเปิดจุดจำหน่ายหมูเนื้อแดง กก.ละ 150 บาท ผ่านจุดจำหน่าย 667 จุดทั่วประเทศ จนถึงสิ้นเดือนม.ค.2565 และหลังจากนี้จะประเมินสถานการณ์อีกครั้ง และกำลังอยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดของบกลางเพื่อใช้ดูแลค่าครองชีพประชาชน" อธิบดีกรมการค้าภายในระบุ.