ไร้เงา 7 จำเลยคดีตากใบเข้าให้ปากคำศาลจังหวัดนราธิวาสตามนัด "ศาล" นัด 28 ต.ค.ประชุมพิจารณาคดีเพื่อมีคำสั่งและคำพิพากษา “ภูมิธรรม” เผย “พล.อ.พิศาล” ส่งหนังสือลาออกจาก สส.เพื่อไทยแล้ว อ้างห่วงสร้างผลกระทบให้พรรค บอกป่วย ถ้าดีขึ้นจะกลับมาชี้แจง “ขจิตร” จ่อเลื่อนเป็น สส.บัญชีรายชื่อแทน "นายกฯ อิ๊งค์" รับทราบข่าวลาออก สั่งตำรวจประสานอินเตอร์โพลตามตัวดำเนินคดี "วิสุทธิ์" ฉุนโดนซัก พท.จะรับผิดชอบอย่างไร ลั่นลาออกจากพรรคถือว่าจบ อึ้ง! "อดิศร" บอกผู้ต้องหาหนีคดีลาออกจากพรรคเป็นลูกผู้ชาย "ฝ่ายค้าน" จี้รัฐบาลแสดงความจริงใจตามตัวมารับผิด ลั่นไม่ใช่เรื่องส่วนบุคคล พรรคการเมืองต้นสังกัดปฏิเสธไม่ได้
ที่ศาลจังหวัดนราธิวาส วันที่ 15 ตุลาคม 2567 ศาลจังหวัดนราธิวาสออกนั่งบัลลังก์ จากการที่ได้นัดสอบคำให้การของจำเลยคดีตากใบ ซึ่งเป็นคดีที่ญาติผู้เสียชีวิตจากคดีตากใบ 48 คน เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องอดีตเจ้าหน้าที่รัฐ จำนวน 7 คน และศาลจังหวัดนราธิวาสได้ออกหมายจับจำเลย 6 คน เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 และจำเลยที่ 7 พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ออกหมายจับเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา
โดยเมื่อถึงเวลา 11.00 น. จำเลยทั้ง 7 คนไม่มาปรากฏตัวต่อศาล และยังไม่มีการจับกุมตัวได้ จึงไม่สามารถดำเนินการสอบคำให้การ คดีนี้จะหมดอายุความในเที่ยงคืนของวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ศาลจึงให้เวลาสำหรับจำเลยทั้ง 7 คนมามอบตัวต่อศาล และให้ทางตำรวจซึ่งมีหน้าที่ในการติดตามจับกุม
ทั้งนี้ ศาลได้นัดประชุมพิจารณาคดี รวมถึงมีคำสั่งและคำพิพากษาในวันที่ 28 ตุลาคม 2567 เวลา 09.00 น. ว่าคดีนี้หลังจากสิ้นสุดอายุความ 20 ปี หากมีการติดตามตัวจำเลยได้ ไม่ว่าคนใดคนหนึ่ง ทั้งจากการมามอบตัวหรือจากการติดตามจับกุม จะถือว่ามีจำเลยที่เข้าสู่การพิจารณาใหม่ ศาลก็จะดำเนินการที่เกี่ยวข้อง ส่วนกรณีไม่สามารถติดตามจับกุมตัวจำเลยได้ ศาลก็จะมีคำสั่งในคดีนี้ในวันที่ 28 ตุลาคมต่อไป
สำหรับจำเลยที่ 1 พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แต่ไม่มารายงานตัวตามวันที่กำหนด ศาลจึงออกหมายจับ, จำเลยที่ 2 พล.ท.สินชัย นุตสถิตย์ อดีต ผบ.ร.5 (ยกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง), จำเลยที่ 3 พล.อ.เฉลิมชัย วิรุฬห์เพชร ผบ.พล ร.5, จำเลยที่ 4 พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจส่วนหน้า, จำเลยที่ 5 พล.ต.ท.มาโนช ไกรวงศ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9, จำเลยที่ 6 พล.ต.ต.ศักดิ์สมหมาย พุทธกูล อดีตผู้กำกับการตำรวจภูธรตากใบ, จำเลยที่ 7 พ.ต.อ.ภักดี ปรีชาชน รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา (ยกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง), จำเลยที่ 8 นายศิวะ แสงมณี ผอ.กองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุข และจำเลยที่ 9 นายวิชม ทองสงค์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านพักของจำเลยทั้ง 7 คน แต่ไม่พบตัว
นายรัษฎา มนูรัษฎา ทนายความจากสภาทนายความฯ ในฐานะทนายโจทก์ กล่าวว่า วันนี้ไม่มีจำเลย 7 คนที่ศาลได้ออกหมายจับมาที่ศาล มีแต่เพียงทนายความจำเลยที่ 8, 9 ซึ่งเป็นพนักงานอัยการแก้ต่างมา โดยแถลงต่อศาลว่าไม่ได้รับการติดต่อจากจำเลยที่ 8, 9 และได้มีทนายความฝ่ายโจทก์ที่ร้องขอให้ศาลออกหมายเรียกเอกสารสำนวนสอบสวนของ สภ.หนองจิก 4 แฟ้ม ซึ่งเคยส่งไปทางอัยการ และศาลมีหมายเรียกแล้วแต่ไม่ส่งมา อยากให้สำนวนคดีที่สอบปากคำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ปรากฏไว้ในสำนวนคดีของศาล ซึ่งในเรื่องนี้แล้วแต่ศาลจะพิจารณา ส่วนรายงานการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงซึ่งเคยส่งมาบางส่วน แต่ยังไม่ครบถ้วน อยากให้สำนักนายกรัฐมนตรีส่งมาให้ครบถ้วน เพราะเป็นรายงานสำคัญ
ขอผู้ต้องหาตากใบพิสูจน์ตัว
“ศาลจะดูผลของการติดตามตัว จับกุมจำเลยตามหมายจับได้หรือไม่ หรือจะมามอบตัวต่อสู้คดี ซึ่งเป็นโอกาสสุดท้าย โอกาสที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อพิสูจน์ว่าเหตุการณ์วันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ทำไปตามหน้าที่ครบถ้วนถูกต้องแล้วอย่างไร เป็นโอกาสที่จะมาพูดความจริง และจะคลายความสงสัย หากจำเลยหลบหนี โดยอาจมีคำแนะนำว่าหนีคดีไปให้พ้นอายุความ แล้วค่อยกลับมา จะบอกว่าอายุความทางกฎหมายขาด อายุความแห่งความทรงจำเรื่องราวของประชาชนไม่มีวันขาด จะมีข้อสงสัยว่าทำไมคนตาย 85 คน แล้วใครรับผิดชอบบ้าง อยากให้จำเลยมามอบตัวต่อสู้คดี ซึ่งเป็นโอกาสสุดท้าย โอกาสที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม" ทนายความจากสภาทนายความฯ ระบุ
ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 09.45 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีสังคมกดดันพรรคเพื่อไทยที่มี พล.อ.พิศาล สส.บัญชีรายชื่อของพรรคตกเป็นจำเลยในคดีตากใบ แต่หนีคดีไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทั้งที่คดีจะขาดอายุความในวันที่ 25 ต.ค.นี้ว่า พล.อ.พิศาลได้ส่งตัวแทนมายื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย
จากนั้นนายภูมิธรรมได้โชว์เอกสารการลาออกต่อสื่อมวลชน พร้อมอ่านรายละเอียดโดยสรุปว่า เรียนหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตามที่ตกเป็นข่าวว่าเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาของศาลจังหวัดนราธิวาส จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 2547 โดยเหตุที่ตนอยู่ในการรักษาอาการป่วยและพักฟื้น โดยตนได้ยื่นใบลากับสภาและได้รับการอนุมัติตามระเบียบแล้ว
"อย่างไรก็ตาม ผมได้ทราบข้อเท็จจริงว่ามีการนำประเด็นของผมไปเคลื่อนไหวทำให้เกิดความขัดแย้งในสังคมและผูกโยงทำให้พรรคเพื่อไทยได้รับผลกระทบ ทั้งที่พรรคไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวแต่อย่างใด ผมจึงเห็นว่าเพื่อไม่ให้พรรคได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากตัวผม และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงขอลาออกจากเป็นสมาชิกพรรค ส่งผลให้ขาดสมาชิกภาพเพื่อไม่ให้เป็นภาระต่อสภาฯ สำหรับคดีความที่เกิดขึ้น ผมจะขอมาชี้แจงด้วยตนเองเมื่ออาการป่วยทุเลาลง" พล.อ.พิศาลกล่าว
ถามว่า สาเหตุที่ลาออกเพราะ พล.อ.พิศาลทนแรงกดดันจากสังคมไม่ได้จึงลาออกใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตนตอบแทนไม่ได้ ถ้าท่านมาค่อยถามท่าน แต่เอกสารบอกว่าหากอาการทุเลาแล้วท่านจะเข้ามาดำเนินการ แต่ไม่ได้บอกเวลา เมื่อถามว่า พล.อ.พิศาลจะเข้ามาสู่คดีหรือชี้แจงก่อนวันที่ 25 ต.ค.หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่ได้คุยกัน ส่วนคนที่มาเป็น สส.แทน พล.อ.พิศาลก็คือนายขจิตร ชัยนิคม บัญชีรายชื่อลำดับที่ 37 เลื่อนลำดับขึ้นมาเป็น สส.แทน
นายภูมิธรรมกล่าวว่า การดำเนินการหาตัว พล.อ.พิศาล ก็เป็นอย่างเจ้าหน้าที่ชี้แจง ก็เห็นเป็นข่าวที่ไปบุกบ้าน ไปที่จังหวัดสงขลา ซึ่ง ผบ.ตร.และผู้บัญชาการภาคก็ไปเองด้วยซ้ำ และทราบมาว่ามีการแจ้งตำรวจสากลด้วย หลังจากนี้เป็นหน้าที่ตำรวจดำเนินการ
ต่อมาเมื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมาประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีที่ พล.อ.พิศาลถูกออกหมายจับ พรรคจะดำเนินการอย่างไร น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ต้องรอให้มีการประชุมพรรคเพื่อไทยในช่วงเย็น (15 ต.ค.)
ซักว่า พล.อ.พิศาลได้ยื่นหนังสือลาออกแล้ว น.ส.แพทองธารกล่าวว่า อ้าว เพิ่งทราบ ขณะที่นายภูมิธรรมและนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ที่เดินร่วมคณะมาด้วยได้เข้าแจ้งต่อนายกฯ และยื่นหนังสือลาออกของ พล.อ.พิศาลดังกล่าวให้กับนายกฯ ดู และนายกฯ ได้ขึ้นห้องประชุม ครม.
พท.บอกพิศาลลาออกจบ
เวลา 11.30 น. น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์อีกครั้งภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ครม.ว่า เรื่อง พล.อ.พิศาลต้องปล่อยไปเป็นตามกระบวนการทางกฎหมาย ตนเพิ่งได้รับหนังสือลาออกเมื่อช่วงเช้า ก็มีการขยับ สส.บัญชีรายชื่อตามกระบวนการ และในส่วนของพรรค มีการประชุมกันอยู่แล้วว่าจะทำอย่างไรบ้าง แต่เรารอกระบวนการทางกฎหมาย และได้สั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว เพราะเรื่องนี้จริงๆ แล้วเราอยากให้เป็นไปตามกระบวนการ ไม่อยากให้มันยากไปกว่าเดิม
ถามว่า ในมุมของรัฐบาลจะกดดันอะไรไปยัง พล.อ.พิศาลเพิ่มเติมหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เราดำเนินการทุกอย่างแล้ว ตนได้ให้กรอบไปว่าเราได้ให้ความร่วมมือทางกฎหมาย และสุดท้ายเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะติดตามดูว่าอยู่ที่ไหนอย่างไร
ถามต่อว่า มีกระแสข่าวว่า พล.อ.พิศาลเคลื่อนไหวอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องให้อินเตอร์โพล (ตำรวจสากล) เป็นผู้ติดตาม
ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ และประธาน สส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.พิศาลว่า ได้ทราบจากนายภูมิธรรมตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.ว่า พล.อ.พิศาลได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกแล้ว ฉะนั้นก็จะไม่มีใครไปว่าอะไรท่านอีก
“เมื่อ 20 ปีก่อนท่านเป็นข้าราชการ และไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ส่วนเรื่องที่เจ้าหน้าที่ไปปฏิบัติการอะไรเราไม่ทราบ ไม่ได้เกี่ยวกัน วันนี้ถือว่าท่านลาออกแล้ว เหตุการณ์อะไรที่พรรคเพื่อไทยต้องรับผิดชอบถือว่าจบ ต่อไปนี้ก็อยู่ที่กระบวนการยุติธรรม ไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทยแล้ว” นายวิสุทธิ์กล่าว
ถามว่า จะถือว่าเป็นการปัดความรับผิดชอบหรือไม่ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า จะให้รับผิดชอบอย่างไร จะต้องรับผิดชอบอย่างไรอีก หลายฝ่ายถามทุกสัปดาห์ว่าอยากให้ท่านลาออกหรือขับท่านออก แต่เราก็ไม่ได้ขับท่าน ท่านแสดงสปิริตด้วยการลาออกจาก สส. ก็ถือว่ากระบวนการนี้จบแล้ว
"จากนี้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือศาลที่ต้องดำเนินการ แล้วพรรคเพื่อไทยต้องไปทำอะไรอีก ไม่ได้เป็นการปัดความรับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น" นายวิสุทธิ์กล่าว
ถามต่อว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยจะไม่มีการพิจารณาเรื่อง พล.อ.พิศาลแล้วใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า จะไปพิจารณาได้อย่างไร ท่านลาออกแล้ว ไม่ใช่คนของเราแล้ว เราจะไปทำอะไรท่านได้ ท่านจะมาพรรคหรือจะไม่มาพรรคเราก็ไม่มีสิทธิ์ไปตามท่านแล้ว ถือว่าจบสิ้นกระบวนการไปแล้ว
ขณะที่ ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า ยังไม่ได้รับเอกสารลาออกจากการเป็น สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยของ พล.อ.พิศาล หลังได้ยื่นลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยไปแล้ว โดยตามขั้นตอนนั้น พรรคเพื่อไทยอาจจะแจ้งมายังสภาหรือเจ้าตัวจะยื่นตรงมาสภา
นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พล.อ.พิศาลได้ยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยเอง ทำให้การเป็นสมาชิกภาพสิ้นสุดลง และความเป็น สส.ก็สิ้นสุดลงเช่นกัน ซึ่งเป็นไปตามสมัครใจของท่าน
"ทราบว่าท่านก็ไม่ได้หนีไปไหน ท่านป่วยเป็นมะเร็งหลายจุด ซึ่งก็น่าเห็นใจพอสมควร พรรคเพื่อไทยยินดีที่จะให้ทุกคนมาพิสูจน์ตัวเองในกระบวนการยุติธรรม และย้ำว่าเห็นใจ พล.อ.พิศาล และชื่นชมในความเป็นลูกผู้ชาย การที่ลาออกจากสมาชิกพรรค" นายอดิศรกล่าว
ฝ่ายค้านจี้ รบ.จริงใจตามตัว
ส่วน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงการเรียกร้องให้ออกหมายแดง พล.อ.พิศาลว่า การออกหมายแดงเป็นอำนาจของอินเตอร์โพล ซึ่งอยู่ในการดูแลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยหลักการแล้วน่าจะเข้าเกณฑ์ในการขอความร่วมมือ ถือเป็นช่องทางหนึ่งที่มีการปฏิบัติมา
"ส่วนตัวติดตามเรื่องนี้อยู่ กรณีของตากใบผมอยากบอกว่าทางรัฐบาลมีความเห็นใจประชาชน และรัฐบาลอยากให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม รวมถึงต้องให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ทำงาน สำหรับคดีตากใบเราจะแยกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งคืออัยการสั่งฟ้อง 7 คน อีกส่วนหนึ่งเป็นเรื่องที่ศาลรับฟ้อง 7 คน ในจำนวนทั้งหมดนี้มีซ้ำกัน 1 คน หน้าที่ของตำรวจและหน้าที่ของรัฐคือ เมื่อมีหมายจับจะต้องนำตัวผู้ที่ถูกจับไปดำเนินคดีกับศาล ถือเป็นหน้าที่หลัก" พ.ต.อ.ทวีกล่าว
ถามว่า ทางกระทรวงยุติธรรมสามารถประสานกับอินเตอร์โพลเองได้ หรือให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า เรื่องนี้มีช่องทางอยู่แล้ว ปกติจะมีช่องทาง พ.ร.บ.ความร่วมมือทางอาญา ส่วนอีกช่องทางหนึ่งคืออินเตอร์โพล ซึ่งเหมือนคดีแป้ง นาโหนด
ขณะที่ นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณี พล.อ.พิศาลว่า เรื่องนี้เป็นการวัดความจริงใจของรัฐบาล เพื่อคืนความยุติธรรมให้กับประชาชนมากน้อยแค่ไหน ซึ่งการลาออกไม่ได้ส่งผลต่อการดำเนินคดี และการลาออกไม่ได้ส่งผลต่อการทำหน้าที่ของรัฐ ไม่ได้ส่งผลในการทำหน้าที่ประสานขอตัวมาลงโทษ ซึ่งการประชุมคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ทราบว่าผู้ต้องหา 2 ใน 6 คนหนีออกนอกประเทศ ไปอยู่ประเทศญี่ปุ่นและอังกฤษ ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีกับไทย และมีกฎหมายการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน จึงอยากเห็นความพยายามมากที่สุดของรัฐไทยในการนำตัวผู้ถูกดำเนินคดีมาลงโทษ
"การลาออกของ พล.อ.พิศาล เป็นความรับผิดชอบเบื้องต้น ซึ่งไม่รู้ว่าเกิดขึ้นจากความจริงใจที่อยากจะแก้ไขปัญหานี้ หรือดำเนินการตามคำแนะนำของใคร ดังนั้นข้อเรียกร้องในฐานะวิปฝ่ายค้าน ขอให้รัฐบาลมีความจริงใจ เพราะคดีตากใบไม่ใช่เรื่องของผู้เสียหายหรือผู้สูญเสีย แต่คือความเชื่อมั่นของประชาชนในสามจังหวัดชายแดนใต้ และความเชื่อมั่นของประเทศไทยทั้งหมดว่าอาชญากรรมโดยรัฐที่รัฐต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่เพียงบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง" นายณัฐวุฒิกล่าว
ถามว่า พรรคเพื่อไทยมองกรณีนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคล การลาออกถือเป็นการปัดความรับผิดชอบหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของตัวบุคคลหรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แน่นอนว่าความรับผิดชอบส่วนบุคคลเกิดขึ้นด้วยการลาออก แต่ไม่รู้ว่าต้องการที่จะแก้ไขปัญหาสถานการณ์ทางการเมือง มากกว่าที่จะแก้ไขปัญหาบ้านเมืองหรือไม่ จึงอยากเรียกร้องไปยังรัฐบาลไทย อยากเห็นความมุ่งมั่นตั้งใจที่มากกว่านี้ ในการนำตัวผู้ถูกดำเนินคดีมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม อย่างน้อยเพื่อส่งสารถึงคนจังหวัดชายแดนใต้ว่าได้พยายามถึงที่สุด
"ในความเป็นพรรคการเมืองสำหรับพรรคเพื่อไทย คงมีคำตอบต่อคนที่เลือกท่านต่อเรื่องที่เกิดขึ้น พรรคประชาชนในฐานะวิปฝ่ายค้านจะใช้กลไกในการติดตามเรื่องนี้ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับประชาชน ทั้งการสนับสนุนการดำเนินคดีที่ศาลจังหวัดนราธิวาส กลไกผ่านคณะกรรมาธิการคณะต่างๆ ของสภา และการตั้งกระทู้ถามในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร แต่เนื่องจากรัฐบาลนี้เพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้เพียงไม่นาน ฝ่ายค้านจะไม่มีการยื่นขอเปิดอภิปรายทั่วไป และอภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยการประชุมนี้ แต่จะมีการยื่นขอเปิดอภิปรายในสมัยประชุมหน้า ซึ่งจะมีการนำเรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องที่จะอภิปรายรัฐบาล" นายณัฐวุฒิกล่าว
ถามว่า เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบติดตามตัวผู้กระทำความผิด ในกรณีหมดอายุความจะต้องมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่นั้น นายณัฐวุฒิกล่าวว่า คงต้องรอให้ถึงวันนั้นก่อน แต่ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 25 ต.ค. ก็ยังอยากเห็นความพยายามให้มากที่สุด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘หนู’ ลั่นฟังแค่ ‘อิ๊งค์’ ยันร่วมรัฐบาลเป็นไฟต์บังคับ ‘ทักษิณ’ พูดไม่นำพา
"อนุทิน" ลั่น! รับสัญญาณจากนายกฯ อิ๊งค์เท่านั้น ยันที่ "ทักษิณ" พูดไม่ได้หมายถึงรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย "ท่านทักษิณพูดถึงพรรคที่ไม่เข้าร่วมประชุม ผมก็ไม่นำพาไปฟังอะไรมาก"
ใต้อ่วม! ทางรถไฟ-ถนนขาด
ฝนตกหนักน้ำท่วม เส้นทางลงใต้อัมพาต ทางขาดทั้งรถไฟและถนนสายเอเชีย รถไฟไปต่อไม่ได้ ติดค้างที่ชุมพรเพียบ ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก ส่วนที่นครศรีฯ น้ำทะเลจ่อหนุนซ้ำเติม
เตือนภัยบุหรี่ไฟฟ้า ผสมนํ้ายาดองศพ
เตือนภัยบุหรี่ไฟฟ้า พบน้ำยาดองศพ สารก่อมะเร็งในบุหรี่ไฟฟ้าเพียบ เสี่ยงเกิดมะเร็ง แนะผู้ปกครองสอดส่องพฤติกรรมบุตรหลาน ย้ำเตือนเด็กและเยาวชนอย่าหลงเชื่อค่านิยมผิดๆ
บึ้มงานกาชาด สอบเกียร์ว่าง! ตำรวจอุ้มผาง
"ผบ.ตร." สั่งสอบตำรวจพื้นที่ปล่อยปละละเลยหรือไม่ เหตุ 2 คนร้ายปาระเบิดกลางเวทีรำวงงานกาชาดอุ้มผาง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย เจ็บ 48 คน "อุ๊งอิ๊ง"
ปชน.กระทุ้งกต. ปรับท่าทีเชิงรุก เร่งช่วย4ลูกเรือ
กต.นัดถกเมียนมา 19 ธ.ค.นี้ ช่วยลูกเรือไทย 4 คน “โรม” ผิดหวังคำตอบทางการ
แม้วยันเกาะกูดของไทย ไม่ใช่‘ควาย’ยกให้เพื่อน
“ทักษิณ” ลั่นล้านเปอร์เซ็นต์เกาะกูดเป็นของไทย ใครจะบ้ายกให้