คาดดินเนอร์พรรคร่วม สุมหัวคุยนิรโทษกรรม!

"ธนกร" ฝากวงดินเนอร์พรรคร่วมฯ  21 ต.ค. ถกหาทางออกเหมาะสมร่าง กม.นิรโทษกรรม หลังทุกพรรคค้านไม่เหมาเข่งคดี ม.112 ด้าน "ประเสริฐ" ยันเรื่องนี้จะไม่เป็นปมปัญหาของพรรคร่วมฯ รัฐบาลยังแน่นแฟ้น รักกัน

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2567 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีวงดินเนอร์พรรคร่วมฯ วันที่ 21 ต.ค.นี้ จะมีการพูดคุยเรื่อง กม.นิรโทษกรรมหรือไม่ ว่านักการเมืองเจอกัน ก็ไม่พ้นคุยเรื่องการเมือง ทานข้าวเสร็จก็มาคุยเรื่องการบริหารประเทศและปัญหาของประชาชน ไม่อยากให้คิดว่ามาคุยเรื่องลับอะไร

ซักว่า จะมีการพูดคุยเรื่องร่างศึกษาการนิรโทษกรรมด้วยหรือไม่ นายประเสริฐตอบว่า พรรคการเมืองมีทั้งฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร อะไรที่เป็นประโยชน์กับประชาชนก็คงจะพูดคุยกันได้

เมื่อถามว่า สุดท้ายพรรคเพื่อไทยจะดำเนินการเรื่องดังกล่าวอย่างไร จะถอนร่างรายงานหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการหารือ และยืนยันว่าเรื่องนี้จะไม่เป็นปมปัญหาของพรรคร่วมฯ รัฐบาลยังแน่นแฟ้น รักกัน

ถามว่า สับสนหรือไม่เพราะตอนตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาเรื่องนิรโทษกรรมเห็นพ้องกัน แต่พอเสนอรายงานพรรคร่วมฯ กลับเป็นฝ่ายไม่รับเอง นายประเสริฐกล่าวว่า เป็นเอกสิทธิ์ของ สส. หลายเรื่องที่เข้าไปในสภาก็เคยมีความเห็นที่ไม่ตรงกัน จึงไม่อยากให้มองเป็นเรื่องแปลก  เพราะต่างฝ่ายก็มีความหวังดี ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล

นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรคและ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ตามที่ตนได้อภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรไปแล้วในการประชุมวาระเรื่องรับทราบรายงานผลการศึกษาเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม โดยเห็นแล้วว่าในพรรคร่วมรัฐบาลมีจุดยืนชัดเจนที่ไม่เห็นด้วยหรือคัดค้านการรวมคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 110 และ 112 ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์รวมอยู่ในการได้รับการยกโทษให้นิรโทษกรรม เนื่องจากมองว่าไม่ใช่แรงจูงใจทางการเมือง และเป็นคดีหมิ่นประมาทอาฆาตมาดร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นประมุขของประเทศ เป็นความผิดร้ายแรงไม่สมควรได้รับการยกความผิดนิรโทษกรรมให้อย่างเด็ดขาด ควรดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายอย่างเคร่งครัด         

นายธนกรกล่าวว่า ส่วนที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม ให้สัมภาษณ์สื่อโดยแสดงความคิดเห็นมองว่า สส.บางพรรคยังไม่เข้าใจ หรืออาจจะแกล้งไม่เข้าใจในเรื่องนี้ว่าไม่ใช่การยกเลิกมาตรา 112 นั้น    ตนมองว่ารัฐบาลโดยการนำของพรรคเพื่อไทยควรที่จะมีการหารือ พูดคุยให้ตกผลึกทางความคิด เข้าใจให้ตรงกันในพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อให้เกิดการเดินหน้าพิจารณากฎหมายที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งคดีทางการเมืองที่ไม่ร้ายแรง ตนเห็นด้วยและสนับสนุนให้เกิดการสร้างความปรองดอง ลดความขัดแย้ง เพื่อแก้ปัญหาความแตกแยกทางความคิด แต่ต้องย้ำจุดยืนหลักการให้ชัด ทั้งเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายการนิรโทษกรรมก็ตาม ต้องไม่แตะหมวด 1-2 รวมถึงมาตราสำคัญที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งหมด ซึ่งการรับทราบรายงานผลการศึกษาต่อสภาก็ถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสม ที่สภาผู้แทนราษฎรจะรับรองรายงานที่มีความสุ่มเสี่ยง ควรต้องพิจารณาให้เกิดความรอบคอบรัดกุมและถูกต้อง ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและจริยธรรมได้

“ขอให้พรรคร่วมรัฐบาลได้ใช้โอกาสรับประทานอาหารค่ำร่วมกันที่จะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 21 ตุลาคมนี้ พูดคุยในประเด็นกฎหมายนิรโทษกรรมให้เกิดความชัดเจน และมีทิศทางที่ถูกต้องเห็นตรงกัน ยึดหลักการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นสถาบันหลักของชาติ อย่าเปิดช่องให้เกิดการลดทอนกฎหมายสำคัญนี้ เพราะถือเป็นความเสี่ยงต่ออธิปไตยของชาติ ทั้งนี้ รัฐบาลควรเร่งมือแก้ปัญหาความเดือดร้อนเศรษฐกิจปากท้องของพี่น้องประชาชนมาเป็นเรื่องแรก ลดความเสี่ยงต่อการสร้างแรงกระเพื่อมเพิ่มความขัดแย้งในสังคมจะดีกว่า" นายธนกรกล่าวย้ำ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นิพิฏฐ์' โพสต์ 'หน้าที่รัฐ' ความต่างระหว่างนักการเมืองฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้าน

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตสส.พัทลุง โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "หน้าที่รัฐ" ระบุว่า การถือกำเนิดของรัฐ มาจากหลักการสำคัญประการหนึ่ง คือ “