เฮ!25จังหวัดดริงก์ถึง5ทุ่ม งัดเทสต์แอนด์โกกลับมา

ศบค.ปรับโซนพื้นที่สีใหม่  หลังประเมิน "โอมิครอน" ไม่รุนแรง ไฟเขียวเพิ่ม 25 จังหวัดสีเหลือง-เขียวดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้ถึง 5 ทุ่ม ศูนย์ประชุม-โรงแรมจัดกิจกรรมคนเกินกว่า 1,000 คนได้ งัด "เทสต์แอนด์โก" กลับมาใช้ดึงคนเข้าประเทศ "นายกฯ" ห่วงช่วงเทศกาลตรุษจีน คลัสเตอร์ผับ-บาร์ พร้อมคาดโทษทางวินัยหากเจ้าหน้าที่ไม่เข้มงวดกวดขัน

เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2565 ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวภายหลังการประชุมว่า ประเด็นสำคัญคือการปรับมาตรการต่างๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ สิ่งใดที่ดำเนินการได้ก็จะเร่งดำเนินการ เพราะเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชน อะไรที่ผ่อนคลายได้ก็จะผ่อนคลายให้ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการ ที่ต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ไม่เช่นนั้นเมื่อเกิดการแพร่ระบาดขึ้นมาอีกจะทำให้ระบบสาธารณสุขเสียหาย ซึ่งสาธารณสุขประเมินว่ายังสามารถควบคุมไว้ได้ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ แม้จะมีสถิติการแพร่ระบาดสูงขึ้น แต่สถิติผู้เสียชีวิตลดลง

"ถึงอย่างไรนายกฯ ก็ไม่สบายใจ ไม่อยากให้ใครเสียชีวิตแม้แต่เพียงคนเดียว วันนี้ต้องไปดูในหลายมาตรการ ทั้งในเรื่องของการผ่อนคลาย การรับนักท่องเที่ยว การประกอบการของธุรกิจต่างๆ ในประเทศ ก็ขอความร่วมมือ ซึ่งรายละเอียดทางโฆษก ศบค.และโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ที่ให้ข้อมูล ขอร้องสื่อว่าอย่าไปตีความกันมาก เพราะสาระสำคัญชัดเจนอยู่แล้ว จึงอยากขอร้องว่าอย่าไปพูดให้เกิดความคลุมเครือ เพราะจะทำให้การแก้ปัญหายากขึ้นไปเรื่อยๆ" นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ยังได้โพสต์เฟซบุ๊กชื่นชมพี่น้องประชาชนทุกคนที่เข้มแข็ง และอดทนต่อสถานการณ์ความยากลำบากที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมระบุว่า ยุทธศาสตร์สำคัญของรัฐบาลและ ศบค.ในการเอาชนะสงครามโรคระบาดครั้งใหญ่ที่ไม่เคยเกิดในโลกมากว่า 100 ปี คือการรักษาสมดุลระหว่างสุขภาพและปากท้อง ที่ยึดถือมาโดยตลอด ในด้านสุขภาพ ปัจจุบันประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการฉีดวัคซีนกว่า 110 ล้านโดส ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี อีกทั้งมีบทบาทนำในเรื่องการฉีดกระตุ้นเข็ม 3 หลายสูตร ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ให้การยอมรับและยกให้เป็นกรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จ และล่าสุดเราก็จะขยายการฉีดวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กๆ วัย 5-11 ปีในเร็วๆ นี้อีกด้วย

ขณะที่ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,129 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 7,861 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 7,776 ราย, มาจากการค้นหาเชิงรุก 85 ราย, มาจากเรือนจำ 54 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 214 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,353,062 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 6,978 ราย ทำให้มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,248,341 ราย อยู่ระหว่างรักษา 82,734 ราย อาการหนัก 533 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 118 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 19 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 21,987 ราย

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ศบค.เห็นชอบขยายระยะเวลาการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก 2 เดือน ระหว่าง 1 ก.พ.-31มี.ค. พร้อมกันนี้ยังเห็นชอบปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักรให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ได้แก่ พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) จากเดิม 69 จังหวัด เหลือ 44 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูงสุด (สีเหลือง) 25 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร ชัยนาท ชัยภูมิ นครพนม นครสวรรค์ นราธิวาส บึงกาฬ ปัตตานี พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ ยะลา ลำปาง ลำพูน เลย สกลนคร สิงห์บุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี หนองบัวลำภู อ่างทอง อำนาจเจริญ อุตรดิตถ์ อุทัยธานี ขณะที่พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) ยังคงไว้ 8 จังหวัดเท่าเดิม ได้แก่ กทม. กาญจนบุรี กระบี่ ชลบุรี นนทบุรี ปทุมธานี พังงา ภูเก็ต และบางอำเภอใน 18 จังหวัด ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้วันที่ 24 ม.ค. 

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมและกิจการที่มีความแตกต่างกันระหว่างพื้นที่สีส้มและสีเหลือง อาทิ พื้นที่สีส้ม ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 500 คน ส่วนพื้นที่สีเหลืองห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 1,000 คน ขณะที่การรับประทานอาหารในร้านอาหาร พื้นที่สีส้มสามารถบริโภคในร้านได้ตามปกติ แต่ห้ามบริโภคสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  ส่วนพื้นที่สีเหลือง เปิดบริโภคในร้านได้ตามปกติ โดยไม่ห้ามบริโภคสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน นอกจากนี้ ยังมีการปรับเวลาเปิดให้บริโภคแอลกอฮอล์ภายในร้านอาหารในพื้นที่สีฟ้าและสีเหลือง จากเดิมถึงเวลา 21.00 น. เป็นถึงเวลา 23.00 น. เฉพาะร้านที่ผ่านมาตรฐาน SHA+ หรือไทยแลนด์สต็อปโควิด 2 Plus และมีมาตรการโควิดฟรีเซตติง

"ในส่วนนี้ฝ่ายความมั่นคงที่จะลงพื้นที่ตรวจต้องมีความเคร่งครัด หากร้านไหนไม่สามารถดำเนินการได้ จำเป็นต้องสั่งปิดก็ให้ปิด หากไม่สามารถทำได้ ผอ.ศบค.ระบุว่าต้องพิจารณาบทลงโทษเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบหรือย่อหย่อนในการรับผิดชอบนั้นๆ ซึ่ง ผอ.ศบค.เน้นถึงในเรื่องนี้ถึง 2-3 รอบ ในส่วนผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่จะดำเนินการปรับรูปแบบให้เป็นร้านอาหารที่ต้องมีการขออนุญาตคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด จากเดิมกำหนดระยะเวลาขออนุญาตภายในวันที่ 15 ม.ค. เป็นไม่มีกำหนดระยะเวลา แต่ขอให้รักษามาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด"

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ขณะที่มาตรการเวิร์กฟรอมโฮม ไม่ขยายระยะเวลาเพิ่ม แต่ให้เป็นไปตามความเหมาะสมและการพิจารณาของแต่ละหน่วยงาน ส่วนการเปิดสถานศึกษา ที่ปัจจุบันมีกว่า 3 หมื่นแห่ง แต่มีการเปิดเรียนเปิดสอนเพียงกว่า 1.7 หมื่นแห่ง นายกฯ ได้มอบหมายให้ ผอ.ศปก.ศบค.หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าควรให้นักเรียนได้กลับมาเรียนในโรงเรียนหรือไม่ อย่างไร และควรมีมาตรการอย่างไร หากสามารถกลับมาเรียนในพื้นที่ได้แล้ว การสวมหน้ากาก รวมถึงการตรวจ ATK ตามความเหมาะสมจะเป็นสิ่งจำเป็น

สำหรับมาตรการเดินทางเข้าประเทศด้วยรูปแบบเทสต์แอนด์โกนั้น ผู้ที่เดินทางเข้ามาในรูปแบบดังกล่าวมีส่วนทำให้ประเทศได้ประโยชน์ เพราะมีการเข้ามาลงทุน ดังนั้นที่ประชุมจึงมีมติเปิดรับการลงทะเบียนแบบเทสต์แอนด์โกอีกครั้ง เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. โดยไม่จำกัดประเทศ ผู้ที่เข้ามาต้องมีการจองโรงแรมสำหรับวันที่ 1 และ 5 ที่อยู่เมืองไทย เพื่อทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ RT-PCR และเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยแล้ว จะต้องมีการซื้อประกันที่ครอบคลุม รวมถึงลงทะเบียนในแอปพลิเคชันหมอชนะทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ เพื่อให้สามารถติดตามตัวได้ นายกฯ เน้นย้ำว่าต้องมีระบบการตรวจสอบย้อนกลับในนักท่องเที่ยวทุกคนที่เข้ามา ขณะที่พื้นที่แซนด์บ็อกซ์ มีการขยายพื้นที่เพิ่มเติมในพื้นที่ อ.บางละมุง เมืองพัทยา อ.ศรีราชา อ.เกาะสีชัง อ.สัตหีบ เฉพาะ ต.นาจอมเทียนและ ต.บางเสร่ ของ จ.ชลบุรี รวมถึง จ.ตราด เฉพาะเกาะช้าง

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า แผนบริการการให้วัคซีน ทางกระทรวงสาธารณสุขรายงานเรื่องการบริหารวัคซีนที่ผ่านมาว่า เป็นไปตามเป้าหมายอย่างดี ครอบคลุม 72.1% ของประชากรทั้งหมด 69.6 ล้านคน หรือ 70 ล้านคนโดยประมาณ เป็นตัวเลขที่จะใช้ในการบริหารการฉีดวัคซีนในปี 65

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีห่วงใยต่อเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง กำชับทุกส่วนราชการต้องมีมาตรการที่กำชับ เด็ดขาดและรัดกุมขึ้น โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดชุดตรวจ สายตรวจ เข้าตรวจบริเวณพื้นที่ที่มีการจัดงานเซ่นไหว้ต่างๆ ว่ามีการดำเนินการตามมาตรการทางสาธารณสุขที่ครบถ้วนหรือไม่ หากไม่ครบจะต้องยุติ ปิด หรือยกเลิกการจัดงาน โดยให้ดำเนินการอย่างเข้มงวด รวมทั้งในเรื่องการทำความสะอาดสถานที่ต่างๆ ที่มีการจัดรวมคน ต้องให้มีการทำความสะอาดพื้นที่ที่จะจัดงานให้เห็นอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

"รวมถึงต้องมีมาตรการทางเข้า-ออกและการตรวจ ATK หากพบว่าไม่มีการปฏิบัติตามมาตรการของภาครัฐ เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่จะต้องรับผิดชอบ และหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบจะต้องได้รับโทษทางวินัย หากมีการปล่อยปละละเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานประกอบการที่เปิดอย่างผิดกฎหมาย มีการเล่นการพนัน ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายความมั่นคง รวมถึงหน่วยงานในสังกัดทุกกระทรวงที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องจะต้องรับผิดชอบ เพราะการรวมคนจำนวนมาก หรือการจัดงานที่มีการรวมคนถือเป็นความเสี่ยงสูง ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐระดับปฏิบัติจะต้องมีความเข้าใจ ปฏิบัติหน้าที่อย่างเสียสละและอดทน" นายธนกรกล่าว. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชงไทยบี้เมียนมา งดขายน้ำมันให้ เจรจาสันติภาพ

"โรม" เสนอให้ไทยงดขายน้ำมันให้ "เมียนมา" ปูดใช้ไทยฟอกเงินเครือข่ายซื้ออาวุธที่ใช้ปฏิบัติการ เตือนถูกดึงไปเอี่ยวร่วมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์