ไม่มีแพ้ใครอยู่แล้ว! ‘บิ๊กตู่’ประกาศ/สมศักดิ์โวยถูกยัดชื่อวอนทบทวน

“บิ๊กตู่” เปิดเพลงส่งสัญญาณ ลั่น “ไม่มีแพ้ใครอยู่แล้ว” พรรคเล็กโต้ข่าวย้ายขั้วซบ “ธรรมนัส” ยันหนุนรัฐบาลต่อ “ชลน่าน” เย้ย รบ.แค่ผลักก็ล้ม “วิษณุ” การันตีปมตะเพิด ส.ส. ร้องยุบพรรคไม่ได้ ฝ่ายค้านซักฟอกไม่ลงมติ ก.พ.นี้

เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบศ. ครั้งที่ 1/2565 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยใช้เวลาการประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที

ภายหลังการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชน แต่กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า “สวัสดีจ้ะ เดี๋ยวรอฟังจาก press release มีแต่เรื่องดีๆ ทั้งนั้นแหละ”

มีรายงานข่าวแจ้งว่า ในช่วงท้ายก่อนจบการประชุม ศบศ. พล.อ.ประยุทธ์ได้เปิดเพลง อย่ายอมแพ้ ของอ้อม สุนิสา สุขบุญสังข์ จากโทรศัพท์มือถือในที่ประชุม พร้อมกล่าวกับที่ประชุมว่า ตนไม่ยอมแพ้อยู่แล้ว

ต่อมา นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านแอปพลิเคชัน TikTok ซึ่งเป็นคลิประหว่างนายกฯ ร้องคลอตามเสียงเพลงอย่ายอมแพ้ ที่เปิดผ่านไมโครโฟนในห้องประชุม โดยนายกฯ ร้องเนื้อเพลงท่อนที่ว่า “อย่าหยุดยั้ง ก้าวไป ขออย่ายอมแพ้”

จากนั้นนายกฯ ยังได้กล่าวขณะเก็บเอกสารว่า “ผมไม่มีแพ้ใครอยู่แล้ว ทุกคนต้องไม่ยอมแพ้ เพื่อประเทศชาติ ประชาชนที่รักยิ่งของพวกเรานะครับ ขอบคุณท่านรัฐมนตรี ขอบคุณท่านรองนายกฯทุกท่าน เรากำลังทำภารกิจที่สำคัญให้กับประเทศชาติเวลานี้”

โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในตอนท้ายประชุมนายกฯ ได้ประกาศว่า ปี 2565 นี้ เป็นปีแห่งการประเมินผล ชี้วัด ซึ่งทุกหน่วยงานต้องทำงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์ นายกฯ ต้องการทำให้งานสำเร็จด้วยความรักและความสามัคคี

ทั้งนี้ มีการคาดการณ์กันว่า สาเหตุที่ พล.อ.ประยุทธ์เปิดเพลงดังกล่าวในช่วงนี้ น่าจะเกี่ยวข้องกับกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีมติขับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และ 20 ส.ส.ออกจากพรรค

มีรายงานข่าวแจ้งอีกว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้า จะเลื่อนการประชุมเป็นวันจันทร์ที่ 24 ม.ค. จากเดิมประชุมวันอังคารที่ 25 ม.ค. เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ต้องเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย

พรรคเล็กยังหนุน'บิ๊กตู่'

วันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พปชร. ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้เดินทางไปปฏิบัติราชการพื้นที่ภาคเหนือ จ.เชียงราย โดยมี พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรค พปชร. ที่มีกระแสข่าวว่าอาจจะไปเป็นหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ที่กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัสจะไปสังกัด รวมถึงนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหริญญิกพรรค ร่วมคณะไปด้วย

ในช่วงเย็น ที่พรรค พปชร.​ นายสมศักดิ์ พันธ์เกษม ส.ส.นครราชสีมา 1 ใน 21 ​ส.ส.ที่มีมติขับออก ได้ยื่นหนังสือถึง​ พล.อ.ประวิตร​ เพื่อขอให้ทบทวนมติพรรค​ พปชร.ที่ให้สมาชิกออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเมื่อวันที่ 19 ม.ค. โดยหนังสือดังกล่าวมีทั้งหมด 8 หน้า มีสาระสำคัญ 1.ข้าพเจ้าไม่เคยทราบและไม่เคยได้ยินมาก่อนว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า​ ส.ส.พะเยา​ จะเสนอให้มีการปรับโครงสร้างขนานใหญ่ตามที่นายไพบูลย์​ นิติตะวัน​ รองหัวหน้าพรรค​แถลง​ 2.ข้าพเจ้าไม่เคยเรียกร้อง​ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่มีส่วนร่วมใดๆ ในการเสนอข้อเรียกร้องให้ปรับโครงสร้างพรรคของ ร.อ.ธรรมนัสกับพวก 3.ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าเหตุใดจึงมีชื่อข้าพเจ้าเสนอต่อที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคและที่ประชุม ส.ส.เพื่อพิจารณาว่า ข้าพเจ้า และ ร.อ.ธรรมนัส​ และพวก รวม 21 คนเรียกร้องให้มีการปรับโครงสร้างพรรค

4.จากการแถลงข่าวของนายไพบูลย์ ปรากฏว่านายไพบูลย์กล่าวถึง​ ร.อ.ธรรมนัสแต่เพียงผู้เดียวที่อ้างว่าหากไม่มีการดำเนินการปรับโครงสร้างพรรคจะเคลื่อนไหวต่างๆ​ เป็นการกระทำของ​ ร.อ.ธรรมนัสแต่เพียงผู้เดียว ไม่เกี่ยวข้องกับข้าพเจ้า​ และ ส.ส.ของพรรครายอื่นๆ ในรายชื่อ​ 21​ คน​ 5.ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าการปรับโครงสร้างพรรคขนานใหญ่ของข้อเสนอ ร.อ.ธรรมนัสกับพวกทำให้เกิดความเสียหายแก่หลักการแห่งพรรค ​ 6.หากข้อเสนอให้ปรับโครงสร้างพรรคตามข้อเสนอของ ร.อ.ธรรมนัสมีอยู่จริง​ แต่ข้อเสนอดังกล่าวก็ยังไม่นำไปสู่การปฏิบัติหรือดำเนินการใด​ 7.การมีมติให้ข้าพเจ้าออกจากการเป็นสมาชิกพรรค รวมไปกับ ร.อ.ธรรมนัสและ ส.ส.รวม 21 คน​ โดยอ้างเหตุว่ามีการก่อให้เกิดเหตุร้ายแรงต่อหลักการแห่งพรรค เป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงเป็นผลกระทบต่อประวัติและก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง​ ดังนั้น กก.บห.จึงควรตั้งคณะกรรมการสอบสวนหรือคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ถูกต้องและเป็นธรรมแก่ข้าพเจ้าก่อนว่ากระทำตามที่ถูกกล่าวอ้างจริงหรือไม่

และ 8.รัฐธรรมนูญมาตรา 101 (9) วางหลักเกณฑ์ไว้ว่าการพ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของที่ประชุมร่วมกันของ กก.บห. และ ส.ส.แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ในการลงมติในที่ประชุมนั้นมีสมาชิกจำนวนหนึ่งไม่เห็นด้วย และยังมีข้อสงสัยว่าการดำเนินการของที่ประชุมเป็นไปตามข้อบังคับพรรคและกฎหมายหรือไม่​ ด้วยเหตุผลทั้งหมด จึงขอให้หัวหน้าพรรค โปรดยกเลิกมติที่ประชุมร่วม กก.บห.และส.ส.ที่มีมติให้ข้าพเจ้าออกจากการเป็นสมาชิกพรรค

นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคเล็กจะย้ายไปร่วมงานกับ ร.อ.ธรรมนัส ว่าการปล่อยข่าวเช่นนี้สร้างความเสียหายกับกลุ่มพรรคเล็ก เพราะมีการนำไปขยายความต่อว่าศึกครั้งนี้กล้วยที่พรรคเล็กจะได้รับจะได้กันแบบยกทั้งเครือ ทั้งๆ ที่ไม่เป็นความจริง ความขัดแย้งครั้งนี้เป็นความขัดแย้งภายในของ พปชร. พรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ และกลุ่มพรรคเล็กไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย

หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ระบุว่า เชื่อว่า ส.ส.พรรคเล็กจำนวนมากจะคงยืนหยัดทำในสิ่งที่ควรจะทำ สิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม ไม่ได้คิดแต่จะกินกล้วย แต่อาจจะมีบางคน บางพรรคเท่านั้นที่อาจจะตาม ร.อ.ธรรมนัสไป แต่ถ้ามีคงเป็นเพียงส่วนน้อย และในความจริงแล้วพรรคเล็กส่วนมากยังสนับสนุนรัฐบาลอยู่ ขณะที่พลังธรรมใหม่ยังคงยืนหยัดอยู่กับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ให้บริหารประเทศต่อไป

นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเพื่อชาติไทย กล่าวว่า พรรคของตนยังเป็นเอกเทศ และยังอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ คาดว่าน่าจะมีประมาณ 4-5 พรรค ประกอบด้วย พรรคเพื่อชาติไทย พรรคพลังธรรมใหม่ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคพลังชาติไทย และพรรคพลเมืองไทย ที่ยังเป็นเอกเทศ ยืนยันจะร่วมงานกับนายกฯเหมือนเดิม

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า กรณี พปชร.ขับไล่ 21 ส.ส.จะส่งผลบวกต่อการทำงานของฝ่ายค้านในสภาฯ เนื่องจากทำให้เกิดอำนาจการต่อรองในพรรคร่วมรัฐบาลสูงขึ้น ที่มีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน อยู่ในภาวะเสียงปริ่มน้ำ ส่งผลให้รัฐบาลจะต้องใช้ต้นทุนสูง ในการรวบรวมเสียงบริหารจัดการ ฝ่ายค้านค่อนข้างจะเบาใจ เพราะผลักนิดเดียวก็ล้ม

หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า การเจรจาผลประโยชน์ของพรรคร่วมรัฐบาลอาจจะไม่ง่าย ยิ่งหาก 2 ฝ่ายต่างแข็งใส่กัน ยอมหักไม่ยอมงอ จะเข้าทางฝ่ายค้านที่พยายามเรียกร้องให้รัฐบาลคืนอำนาจให้ประชาชน อาจทำให้เกิดภาพที่ฝ่ายค้านต้องการเร็วขึ้นคือการยุบสภา แต่หากทั้ง 2 ฝ่ายอ่อนหากัน ก็สามารถรักษาเสถียรภาพของรัฐบาลให้อยู่ยาวต่อไปได้

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า กระทบเสถียรภาพทางการเมืองของรัฐบาลแน่นอน น่าเสียดาย เพราะตอนนี้ศึกในเข้มข้น แต่ศึกนอกเข้มข้นมากกว่า เพราะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจที่ตนเรียกว่า เศรษฐกิจฟุบ เฟ้อ

ปมตะเพิด ส.ส.ยุบพรรคไม่ได้

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวถึงกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ไต่สวนและวินิจฉัยกรณีที่พรรค พปชร.มีมติขับ 21 ส.ส.จากสมาชิกพรรค เป็นการดำเนินการโดยชอบด้วยข้อบังคับพรรคฯ 2561 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ว่า ไม่น่ากังวลใจ และมั่นใจว่าการดำเนินการเป็นไปตามข้อบังคับข้อ 54 (5) และขอย้ำว่ากรณีของพรรค พปชร.ไม่มีการดำเนินการใดๆ ที่เข้าข่ายความผิดดังกล่าว จึงไม่ใช่เหตุที่จะร้องให้ยุบพรรค

รองหัวหน้าพรรค พปชร.เปิดเผยด้วยว่า ในช่วงเดือนเม.ย.นี้ จะมีการประชุมใหญ่สามัญพรรค พปชร. สามารถนำเรื่องการแต่งตั้งเลขาธิการพรรค รองเลขาธิการพรรค และนายทะเบียนพรรค เสนอที่ประชุมเพื่อพิจารณาและให้สมาชิกรับรองได้ และระหว่างรอการประชุมใหญ่ พล.อ.ประวิตรสามารถใช้ดุลพินิจแต่งตั้งบุคคลให้มารักษาการในตำแหน่งดังกล่าวได้

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ส.ส.ที่ถูกพรรคขับออกไม่พอใจสามารถไปร้องยุบพรรคเก่าได้หรือไม่ ว่า ส.ส.ที่ไม่พอใจต่อมติดังกล่าว สามารถไปร้องคัดค้านมติต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ แต่ไม่สามารถไปร้องยุบพรรค แต่กรณีนี้ดูเขาจะยินดีปรีดาทั้งฝ่ายขับและฝ่ายถูกขับ จึงไม่มีประเด็นอะไร แต่ถ้าจะกลับไปพรรคเก่าอีกมันจะเป็นประเด็น ทั้งนี้ หากมี ส.ส.ไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญจริง การนับเวลา 30 วันให้สังกัดใหม่ต้องระงับไว้ก่อน

ส่วน ส.ส.ที่ถูกขับออกไป จะกลับมาเป็นพรรคร่วมรัฐบาลได้หรือไม่นั้น นายวิษณุตอบว่า ไม่แปลกอะไร การเมืองกลับกันไปกลับกันมาได้เสมอ และในอดีตเคยมีมาแล้ว ที่เป็นรัฐมนตรีอยู่กับรัฐบาลแล้วโกรธ งอนกัน ลาออก หรือถอนตัว จนต้องปรับ ครม. แต่พอปรับก็ได้ชุดเดิมเข้ามาหมด ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น เพราะการเมืองสภาเป็นเรื่องของตัวเลข อยู่ที่จะสวิงไปอย่างไร แต่ไม่ได้เป็นปัญหา ก่อนหน้านี้เคยปรับ ครม. เอานาย ก.ออก พอตั้งใหม่ก็เอากลับเข้ามาก็มีมาแล้ว

เมื่อถามว่า เป็นห่วงหรือไม่ที่เสียง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเริ่มปริ่มน้ำ จากกรณีที่ พรรค พปชร.มีมติขับ ส.ส. 21 คน รองนายกฯ กล่าวว่า ยังไม่เห็นว่าปริ่มน้ำ คำนี้เราเคยพูดเมื่อตอน 2 ปี ที่แล้วตอนจัดตั้งรัฐบาล และต่อมาพบว่าไม่ปริ่ม และอยู่ได้เรื่อยมาถึงวันนี้ จะต้องหักออกไป 19 คน อันนี้เป็นการเมืองเรื่องตัวเลข ฝ่ายการเมืองต้องไปคิดกันเอง ย้ำว่าเวลานี้ยังไม่เห็นว่ามีเสียงปริ่มน้ำ

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการเมืองและการพัฒนา มหาวิทยาลัยรังสิต และอดีต กกต. กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไปไม่ถึงยุบพรรค สาเหตุที่จะนำไปสู่การยุบพรรคตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ระบุไว้ในมาตรา 92 มีอยู่ 4 กรณี ซึ่งประเด็นลงมติให้ ส.ส.ออก ไม่เป็นประเด็นให้ยุบพรรค หากพรรคส่งมติให้ กกต. แต่ กกต.ตรวจพบว่าการลงมติไม่สมบูรณ์ ก็แค่ส่งกลับให้พรรคไปดำเนินการใหม่ให้ถูกต้องเท่านั้น ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น

เมื่อวันศุกร์ ที่อาคารรัฐสภา นพ.ชลน่าน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้ยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร โดย นพ.ชลน่านกล่าวว่า ประเด็นที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายมี 4 เรื่อง คือ 1.เรื่องวิกฤตเศรษฐกิจ 2.เรื่องโรคระบาดโควิดที่ระบาดในคน และโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร 3.วิกฤตทางด้านการเมือง และ 4.ความล้มเหลวการบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งนี้ ฝ่ายค้านขอเวลาอภิปรายไม่น้อยกว่า 36 ชั่วโมง และคาดว่าน่าจะมีการเปิดอภิปรายช่วงวันที่ 16-18 ก.พ.

ขณะที่นายชวนกล่าวว่า ตามขั้นตอน เมื่อได้รับญัตติจากฝ่ายค้านแล้วจะตรวจสอบรายชื่อ คาดว่าจะเปิดอภิปรายในช่วงกลางเดือน ก.พ. ส่วนระยะเวลาที่จะใช้ในการอภิปรายนั้น ให้ตัวแทนผู้ควบคุมเสียงทั้งสองฝ่ายหารือกันต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'จิราพร' คาดได้เป็นเสนาบดีเพราะ'เศรษฐา' ต้องการพลังคนรุ่นใหม่!

'น้ำ จิราพร' เผยได้เป็นรัฐมนตรีป้ายแดงเพราะนายกฯ หวังใช้พลังคนรุ่นใหม่ขับเคลื่อนงาน รับ อายุน้อยสุดในครม. ตื่นเต้นแต่ไม่ตระหนกพร้อมทำทุกหน้าที่

รัฐบาลฟุ้งเดินหน้าศูนย์กลางการบินของภูมิภาค

รัฐบาลมุ่งยกระดับการดำเนินงานในด้านการรักษาความปลอดภัยและนโยบายเกี่ยวกับด้านการบิน เดินหน้าประเทศสู่เป้าหมายการเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค

รัฐบาลตีปี๊บ มิ.ย.ลงทะเบียน 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์

​โฆษกรัฐบาลเผย OFOS สร้างคน ยกระดับ ศักยภาพคนไทย พร้อมลงทะเบียน มิ.ย.2567 ตั้งเป้ายกระดับคนไทยสร้างสรรค์ มีคุณภาพ 296,610 คน ภายในปีงบประมาณ 2567 ต่อยอดพัฒนา 20 ล้านคน ในเวลา 4 ปี