พณ.แค่ฟันลืมแจ้งสต๊อก

“บิ๊กตู่” สั่งคุมเข้มห้ามกักตุนสินค้า วอนทุกฝ่ายอย่าซ้ำเติม ปชช. ช่วงรัฐบาลกำลังเร่งแก้ปัญหาหมูแพง “ตำรวจ” ปูพรมตรวจ 25 ห้องเย็นป้องกันการกักตุนเนื้อหมู เจอ 4 แห่งครอบครองซากสุกรเกิน 5,000 กก. ตามที่ กม.กำหนด “พาณิชย์สงขลา” แถลงผลตรวจห้องเย็นใน อ.จะนะ เก็บเนื้อสุกรของ บ.เบทาโกร 201,650 กิโลกรัม พบผิดแค่ไม่แจ้งปริมาณครอบครอง ไม่มีการกักตุน “พณ.” ตื่นลงสำรวจสินค้าแพงทั่ว ปท.

เมื่อวันที่ 21 ม.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงปัญหาราคาหมูแพงว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการปัญหาเกี่ยวกับหมูทั้งระบบ ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลได้มีหลายมาตรการต่างๆ ควบคู่กัน เพื่อลดปัจจัยปัญหาราคาหมูแพง ทั้งการห้ามส่งออกสุกรมีชีวิตไปนอกราชอาณาจักรทุกกรณี เป็นเวลา 3 เดือน ผู้เลี้ยง ผู้จำหน่าย ผู้ส่งออก ผู้ครอบครองต้องจัดทำบัญชีคุมสินค้า แสดงปริมาณการเลี้ยง ปริมาณการซื้อ ราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณคงเหลือ เพื่อให้ พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ทุกเวลา

 “นายกฯ มีความห่วงใยประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมเพื่อแก้ปัญหาสินค้าราคาแพงทุกชนิด ที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชนหลายมาตรการอยู่ระหว่างดำเนินการ จึงขอวอนทุกฝ่ายเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมกันด้วย อย่าฉวยโอกาสหรือใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ซ้ำเติมภาระให้ประชาชน ในขณะที่รัฐบาลกำลังเร่งแก้ปัญหา” โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว

ส่วนนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงการเข้าตรวจห้องเย็นที่ จ.สงขลา หลังพบมีเนื้อหมูฝากเก็บไว้กว่า 2 แสนกิโลกรัม (กก.) ว่าเรื่องนี้ยังตอบไม่ได้ว่าเข้าข่ายการกักตุนสินค้าหรือไม่ แต่ตนได้คุยกับผู้ว่าฯ สงขลา ในฐานะประธานวอร์รูมติดตามสถานการณ์สินค้าระดับจังหวัดไปแล้ว โดยได้พบความผิดฐานไม่แจ้งสต๊อกตามคำสั่งของกรมการค้าภายใน ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และปรับต่อเนื่องอีกวันละ 2,000 บาท จนกว่าจะมีการดำเนินการให้ถูกต้อง

“จะเข้าข่ายการกักตุนสินค้าหรือไม่นั้น จะต้องรอทางผู้ว่าราชการจังหวัดตรวจสอบข้อมูล และดำเนินการในรายละเอียดก่อน และจะมีการแถลงให้ทราบต่อไป อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดทุกพื้นที่เร่งบูรณาการกับผู้ว่าราชการจังหวัด ออกตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องการไม่แจ้งปริมาณ หรือหากพบมีการกักตุน ก็จะมีความผิดตามมาตรา 29 แห่งพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ” นายจุรินทร์กล่าว 

 ขณะที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7, นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร, พล.ต.ต.อภิชาติ วรรณภักดิ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร, พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ., นายอาวุธ วิเชียรฉาย ปลัดจังหวัด สค., นายชนินทร์ ทิพปภาสมิทธิ์ ปศุสัตว์จังหวัด สค., น.ส.สรณาคมน์ บุญกำเนิด นักชำนาญการพิเศษกลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า (กศ.) สำนักงานพาณิชย์จังหวัด สค. นำกำลังเข้าตรวจสอบห้องเย็นที่มีพฤติกรรมกักตุนเนื้อหมูพร้อมกัน 11 เป้าหมายในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้บูรณาการกำลังกันทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบพร้อมกัน 25 จุด โดยในจังหวัดสมุทรสาครมีการตรวจสอบทั้งสิ้น 11 จุด หลังสืบสวนว่ามี 25 บริษัท ในจังหวัดปริมณฑล เช่น สมุทรสาคร ที่ประกอบธุรกิจห้องเย็น อาจเข้าข่ายมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ในเรื่องการกักตุนเนื้อสุกรเกิน 5,000 กก. โดยไม่แจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบ จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ พบบางบริษัทมีจำนวนเนื้อสุกรเกินกว่ากฎหมายกำหนด โดยบางรายอ้างว่าอยู่ระหว่างดำเนินการแจ้ง  เนื่องจากเพิ่งได้ทราบระเบียบ ซึ่งจะต้องตรวจสอบรายละเอียดให้ชัดเจนต่อไป

 “ผบ.ตร.กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่เร่งประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัด เพื่อตรวจสอบบริษัทห้องเย็นเหล่านี้ หากพบว่ายังมีพฤติกรรมกักตุนเนื้อหมู จนเป็นเหตุให้ราคาเนื้อหมูขึ้นสูงไปอีก ให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด โดยจะมีผู้แทนจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้ร้องทุกข์ และในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ ก็จะมีการบูรณาการกำลังเข้าตรวจสอบเป้าหมายที่เหลืออยู่ทันที”รอง ผบ.ตร.กล่าว

นายณรงค์กล่าวว่า ขณะนี้มี 4 บริษัทห้องเย็นที่มาแจ้งการครอบครองซากสุกรเกิน 5,000 กก.แล้ว และยังมีอีกหลายบริษัทที่อยู่ระหว่างดำเนินการแจ้ง โดยอ้างว่าเพิ่งได้รับหนังสือประกาศสำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคากลางสินค้าและบริการ ฉบับที่ 1 เรื่อง แบบแจ้งตามประกาศคณะกรรมการกลางฯ เมื่อวันที่ 6 ม.ค.65 ที่ผ่านมา

นายณัฐวุฒิ หุ่นมีทอง นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ผู้ครอบครอง สุกรมีชีวิตตั้งแต่ 500 ตัวขึ้นไป และผู้ครอบครองสุกรชำแหละผ่าซีก เนื้อสุกรชำแหละ มีปริมาณตั้งแต่ 5,000 กก.ขึ้นไป ต้องแจ้งปริมาณการเลี้ยง การซื้อ การจำหน่าย มิฉะนั้นจะมีความผิดตาม ม.25 (3), (5) พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการฯ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะแจ้ง

พาณิชย์ตื่นสำรวจของแพง

ที่ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าฯ สงขลา พร้อมด้วยน.ส.ฉัตรสุดา ชุมแสง พาณิชย์จังหวัดสงขลา, พล.ต.ต.อาซาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จว.สงขลา, นายสัตวแพทย์กิตติกรณ์ เจนไพบูลย์ ปศุสัตว์จังหวัดสงขลา และนายณัฐชัย วรสุทธ์ ด่านกักกันสัตว์จังหวัดสงขลา ร่วมแถลงความคืบหน้าการเข้าตรวจสอบบริษัทห้องเย็นใน อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งพบว่ามีการเก็บรักษาเนื้อสุกรจากบริษัท เบทาโกร เกษตรอุตสาหกรรม  พัทลุง จำนวน 201,650 กิโลกรัม ในห้องเย็นดังกล่าว

น.ส.ฉัตรสุดากล่าวว่า หลังการเข้าตรวจเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา การตั้งข้อสังเกตไว้ 4 ประเด็นนั้น พบว่าประเด็นแรก บริษัท ปิติซีฟูดส์ฯ ในฐานะห้องเย็นที่รับฝากสินค้าไม่ได้แจ้งปริมาณการครอบครองตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 2 ปี 2565 ซึ่งข้อนี้เป็นความผิดของบริษัทห้องเย็นปิติซีฟูดส์ และทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสงขลาก็ได้เป็นตัวแทนของจังหวัดสงขลาได้เข้าแจ้งความที่ สภ.จะนะ ดำเนินคดีกรณีที่ไม่แจ้งปริมาณในครอบครองแล้ว

ส่วนประเด็นที่ 2 คือกรณีที่บริษัท เบทาโกร ซึ่งเป็นโรงงานแปรรูปสุกรใน จ.พัทลุง ที่แจ้งปริมาณไม่ตรงกับปริมาณสต๊อกที่เก็บอยู่ที่ห้องเย็นของบริษัท ปิติซีฟูดส์ฯ นั้น ข้อเท็จจริงพบว่าทางเบทาโกรได้แจ้งปริมาณในครอบครองตามประกาศ และในแบบแจ้งปริมาณที่แจ้งมาคือประมาณ 50,000 กิโลกรัมเศษ แต่จากการตรวจสอบที่ปิติซีฟูดส์พบมีเนื้อสุกรอยู่ประมาณกว่า 200,000 กิโลกรัมที่เบทาโกรไปฝากไว้ ดังนั้นจะมีส่วนต่างอยู่ประมาณกว่า 150,000 กิโลกรัม นั่นคือรายการที่ไม่มีอยู่ในแบบแจ้ง เช่น หมูบด ขาหมูเผา ซี่โครง สามชั้นแผ่น ซึ่งไม่มีในแบบแจ้ง ดังนั้นก็ไม่ได้ถือว่าเบทาโกรแจ้งความเท็จต่อพนักงาน และถือว่าเบทาโกรไม่ได้มีความผิดแต่อย่างใด

ประเด็นที่ 3 ทั้งเบทาโกรและปิติซีฟูดส์ได้จัดทำบัญชีคุมถูกต้องตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการฉบับที่ 2 ปี 2565 โดยที่ทั้ง 2 บริษัทได้เอาเอกสารหลักฐานมายื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และหลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่าทั้ง 2 บริษัทได้ทำบัญชีคุมถูกต้องแล้ว

 “ประเด็นสุดท้าย เรื่องของทั้ง 2 บริษัท จะเข้าข่ายการกักตุนสินค้าหรือไม่นั้น จากการตรวจสอบบัญชีของทั้ง 2 บริษัทมีการทำบัญชีรับเข้าและจ่ายออกตั้งแต่เดือนพ.ค.2564-ม.ค.2565 โดยมีการรับเข้าและจ่ายออกเป็นปกติวิสัยที่ทำอยู่ ซึ่งถือว่าไม่เข้าข่ายในการกักตุนสินค้าแต่อย่างใด” พาณิชย์จังหวัดสงขลาระบุ

วันเดียวกัน นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ราคามะละกอ และผักอื่นๆ ที่ตลาดสี่มุมเมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นตลาดขายส่งผักและผลไม้ขนาดใหญ่ โดยนายบุณยฤทธิ์กล่าวว่า จากการตรวจสอบตลาดแจ้งว่าราคาผักและผลไม้ยังเป็นปกติ มีการปรับขึ้นลงตามฤดูกาลที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากหรือน้อย โดยในส่วนของมะละกอ ที่มีข่าวว่ามีการปรับขึ้นราคาจนส่งผลกระทบต่อพ่อค้าแม่ค้าร้านส้มตำ จากการสอบถามเกษตรกรที่นำมะละกอมาลงจำหน่าย บอกว่ามะละกอมีการปรับขึ้นลงเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะในช่วงปีใหม่ที่ราคาจะปรับสูงขึ้น แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค. ราคาจะมีการปรับลดลง โดยราคา ณ วันที่ 21 ม.ค.2565 มะละกอลูกยาว (พันธุ์ดำเนิน) อยู่ที่ 100-130 บาท/ถุง 10 กิโลกรัม (กก.) และมะละกอลูกกลม อยู่ที่ 130-150 บาท/ถุง 10 กก. ซึ่งเป็นราคาปกติในช่วงนี้

 “บางพื้นที่ที่มีปัญหาราคามะละกอแพง พบว่าเป็นเพราะมีปัญหาจากน้ำท่วม ทำให้ผลผลิตออกน้อย เช่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งได้มีการเชื่อมโยงจับคู่ตลาดเพื่อกระจายผลผลิตให้มีความทั่วถึงแล้ว” ปลัดพาณิชย์กล่าว

เช่นเดียวกับที่ จ.สมุทรสาคร นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร พร้อมพาณิชย์จังหวัด ลงพื้นที่ตลาดสดมหาชัย   ติดตามการจำหน่ายราคาเนื้อหมู ไก่ อาหารสด และอาหารทะเลในพื้นที่ พบว่าร้านขายหมูที่เข้าร่วมโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน โดยหมูเนื้อแดง กก.ละ 150 บาท 

จ.ฉะเชิงเทรา นายสัตวแพทย์มนัส  เทพรักษ์ ปศุสัตว์จังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบห้องเย็นแช่เนื้อสัตว์รายใหญ่ ที่ ต.ท่าไข่ อ.เมืองฯ จ.ฉะเชิงเทรา พบมีชิ้นส่วนสุกรและชิ้นส่วนไก่แช่เย็นจำนวนมาก แต่ไม่มีเอกสารใบเคลื่อนย้ายสัตว์และใบค้าสัตว์ และซากสัตว์ประเภทไก่ตัว ชิ้นส่วนไก่ที่แช่เย็นอยู่เกือบ 2 ตัน จึงอายัดไว้ตรวจสอบ

จ.นครราชสีมา นายศารุมภ์ โหม่งสูงเนิน พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา ลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัท โชคอนันต์เกรทคูล จำกัด และบริษัท รุ่งเรืองพัฒนาห้องเย็น จำกัด ในพื้นที่ อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา ซึ่งมีพื้นที่เก็บเนื้อสุกรชำแหละห้องเย็น ไม่พบพฤติกรรมการกักตุนหรือเหตุผิดปกติแต่อย่างใด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง