พรรคฝ่ายค้านของเกาหลีใต้เคลื่อนไหวถอดถอน "ประธานาธิบดียุน ซ็อกยอล" ออกจากตำแหน่ง ภายหลังเขาประกาศกฎอัยการศึกที่มีผลบังคับใช้เพียงไม่กี่ชั่วโมง ส่งผลให้ผู้ประท้วงหลายพันคนออกมาเดินขบวนบนท้องถนนในกรุงโซลเรียกร้องให้เขาลาออก ด้านรัฐมนตรีกลาโหมของเกาหลีใต้ประกาศไขก๊อกรับผิดชอบ "นายกฯ อิ๊งค์" ขอคนไทยหลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมนุม ติดตามข่าวสถานทูตใกล้ชิด
เมื่อวันพุธที่ 4 ธันวาคม สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า ความพยายามอันน่าตกตะลึงของประธานาธิบดียุน ซ็อกยอล ที่จะระงับการปกครองของพลเรือนเป็นครั้งแรกในรอบกว่าสี่ทศวรรษ ทำให้เกาหลีใต้ตกอยู่ในความโกลาหลอย่างหนัก และทำให้ชาติพันธมิตรใกล้ชิดวิตกกังวล ก่อนสมาชิกรัฐสภาเข้ามาคลี่คลายด้วยการลงมติล้มล้างกฎอัยการศึกในค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดรามา
แม้ผู้นำเกาหลีใต้ประกาศยกเลิกกฎอัยการศึกไปแล้วก่อนรุ่งสาง แต่อนาคตทางการเมืองของยุนต่อจากนี้ จะสั่นคลอนด้วยคำครหาและแรงกดดันสูงจากทั้งภาคการเมืองและประชาชน
พรรคฝ่ายค้าน 6 พรรคของเกาหลีใต้ ซึ่งนำโดยพรรคประชาธิปไตยที่เป็นพรรคฝ่ายค้านหลักของเกาหลีใต้ซึ่ง สส.ปีนข้ามรั้วอาคารรัฐสภา และต่อสู้กับกองกำลังความมั่นคงเพื่อฝ่าวงล้อมเข้าไปลงคะแนนเสียงเพื่อล้มล้างกฎอัยการศึก เคลื่อนไหวด้วยการยื่นญัตติถอดถอนยุนออกจากตำแหน่ง
กำหนดประชุมใหญ่ของสมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้เพื่อเสนอญัตติถอดถอนประธานาธิบดียุนอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นหลังเที่ยงคืนของวันพุธ
คิม ยองมิน สส.จากพรรคประชาธิปไตย กล่าวว่า เราได้ยื่นญัตติถอดถอนประธานาธิบดียุน ซ็อกยอล อย่างเร่งด่วนแล้ว เราไม่สามารถเพิกเฉยต่อกฎอัยการศึกที่ผิดกฎหมาย เราจะไม่ปล่อยให้ประชาธิปไตยต้องล่มสลายอีกต่อไป
ทั้งนี้ สมาชิกพรรคฝ่ายค้านทั้งหมดของเกาหลีใต้มีเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งในรัฐสภา ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะลงมติเมื่อใด แต่คาดว่าจะลงมติได้เร็วที่สุดในวันศุกร์นี้
พรรคฝ่ายค้านครองเสียงข้างมากในรัฐสภา 190 คน จากทั้งหมด 300 คน และต้องการเพียงคะแนนบางส่วนจากพรรครัฐบาลเพื่อให้ได้เสียงข้างมากสองในสามที่จำเป็นในการผ่านญัตติถอดถอนดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ พรรคประชาธิปไตยกล่าวว่าจะยื่นฟ้องข้อหาก่อการกบฏต่อประธานาธิบดียุน, รัฐมนตรีกลาโหมและรัฐมนตรีมหาดไทย รวมถึงบุคคลสำคัญในกองทัพและตำรวจที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้บัญชาการกฎอัยการศึกและผู้บัญชาการตำรวจ
สหภาพแรงงานที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ยังเรียกร้องให้มีการหยุดงานประท้วงอย่างไม่มีกำหนด เพื่อกดดันให้ประธานาธิบดียุนลาออกจากตำแหน่งโดยเร็ว
ชาวเกาหลีใต้หลายพันคนเดินขบวนไปยังทำเนียบของประธานาธิบดียุนกลางกรุงโซลเมื่อคืนวันพุธ เพื่อร่วมกับสมาชิกพรรคฝ่ายค้านในการกดดันให้ถอดถอนผู้นำประเทศออกจากตำแหน่ง หลังจัดการชุมนุมที่จัตุรัสกวางฮวามุน
ที่ปรึกษาอาวุโสหลายคนที่ทำงานให้กับประธานาธิบดียุนระบุว่า จะลาออกจากตำแหน่งพร้อมกันเพื่อรับผิดชอบในเรื่องการประกาศกฎอัยการศึก ซึ่งเป็นความพยายามของประธานาธิบดียุนที่จะห้ามกิจกรรมทางการเมืองทั้งหมดและมีการเซ็นเซอร์สื่อมวลชน
หัวหน้าพรรคพลังประชาชนซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของเกาหลีใต้เรียกร้องให้ปลดคิม ยงฮยอน รัฐมนตรีกลาโหม และให้คณะรัฐมนตรีทั้งหมดลาออก
ต่อมา รัฐมนตรีกลาโหมของเกาหลีใต้ประกาศว่า จะลาออกจากตำแหน่งเพื่อรับผิดชอบเต็มที่สำหรับความสับสนและความกังวลที่เกิดขึ้นจากการประกาศกฎอัยการศึก
วันเดียวกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่าน X และเฟซบุ๊กว่า "ดิฉันได้รับรายงานล่าสุดจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ @AmbPoohMaris ถึงสถานการณ์ในสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) โดยหวังว่าสถานการณ์จะคลี่คลายโดยเร็วต่อไป ขอให้คนไทยที่อยู่ในเกาหลีใต้ยังคงใช้ความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมนุม ติดตามข่าวสารของทางการ และสถานทูตไทยอย่างใกล้ชิดต่อไป".
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
นายกฯยังห่วงหาดใหญ่ ประเดิมพ.ย.เว้น‘ค่าไฟ’
"อนุทิน" รับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน นำประชาชนกลับบ้านแล้ว 90% “เท้ง” แซะบอร์ดมีไว้แค่ให้พาดหัว
อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก
นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม
พสกนิกรทั่วไทย เข้าถวายสักการะ ‘พระพันปีหลวง’
พระราชวงศ์บำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ พสกนิกรทุกสารทิศหลั่งไหลเข้ากราบพระบรมรูปในหลวง ร.9 และสักการะพระบรมศพ
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท


