"บิ๊กป้อม" ปลุกใจลูกพรรคให้สามัคคีทำงานเพื่อ ปชช. โวยการเมืองวนลูปเดิมไม่สร้างสรรค์-ทำลายกันเพื่อผลประโยชน์ โอดตกเป็นเป้า ลั่น พปชร.ยังไปต่อ "ไพศาล”เชื่อ พปชร.จะนำบ้านเมืองออกจากวิกฤต "สนธิรัตน์" มั่นใจมีโอกาสอีกมาก ปลุกพลังอนุรักษ์กลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง ประกาศยุทธศาสตร์ปรับพรรคครั้งใหญ่ "ไพบูลย์" โวไม่มีคนทิ้งลุงป้อมมีแต่เพิ่ม "ทักษิณ" ถาม “บิ๊กป้อม” การเมืองยุ่งเพราะใคร ชวนขาประจำมากินไวน์น้ำเปลี่ยนนิสัย
ที่โรงแรมซี แซนด์ ซัน หัวหิน รีสอร์ท เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 20 มกราคม พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดงานสัมมนาประจำปี 2568 ภายใต้หัวข้อ “Now & Next พรรคพลังประชารัฐ" โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวเปิดงานว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า การเมืองของประเทศเราได้กลับไปสู่ระบบเดิมๆ คือการเมืองที่ไม่สร้างสรรค์ ทำลายกันเพื่อผลประโยชน์ ขาดคุณธรรมจริยธรรม ไม่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง พรรค พปชร.ของเราแม้จะตกเป็นเป้าทางการเมืองเสมอมา
"แต่ผมขอยืนยันด้วยตัวเองว่า พรรคของเรายังคงเดินไปข้างหน้าอย่างสร้างสรรค์และมั่นคง เรามี สส. 20 คนกระจายทั่วทุกภูมิภาค มีบุคลากรการเมืองที่มีความรู้ความสามารถ และมีประสบการณ์ในการบริหารประเทศ รวมถึงมีอดีตรัฐมนตรี สส.และ สว.ที่มีฝีมือและผลงานมากมาย"
พล.อ.ประวิตรกล่าวต่อว่า พรรค พปชร.มีความพร้อมและแนวทางที่ชัดเจน ในการยึดมั่นพิทักษ์รักษาสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ ดังนั้นการสัมมนาในครั้งนี้เป็นการแสดงจุดยืน ในการทำงานการเมืองด้วยหัวใจที่มุ่งมั่น สร้างอนาคตที่ดีให้ประเทศและประชาชน ตนยืนยันว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อให้ประเทศพัฒนาเจริญรุ่งเรือง ประชาชนอยู่ดีกินดี มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นถาวรสืบไป และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังสามารถ เพื่อให้ความรักและสามัคคีเป็นหนึ่งเดียว พร้อมเดินหน้าอย่างมั่นคงเพื่อประเทศและประชาชนต่อไป
ด้านนายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี) กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “อนาคตประเทศไทยในปี 2568 การสร้างพรรคการเมืองของประชาชน" ว่า ตนร่วมงานกับ พล.อ.ประวิตรมายาวนาน ในช่วงที่ พล.อ.ประวิตรดำรงตำแหน่งทางการเมือง หลายๆ ปัญหาสามารถแก้ไขได้อย่างลุล่วง อย่างเช่นประเทศแถบอาเซียน พล.อ.ประวิตรก็สามารถเจรจาได้กับทุกประเทศ แต่วันนี้ประเทศไทยมีโชเฟอร์ที่ไม่รู้จักเส้นทางมานำพาประเทศ
"สถานการณ์บ้านเมืองวันนี้ไม่สามารถรองรับความขัดแย้งได้อีกต่อไป เพราะจะทำให้ชาติล่มจม พล.อ.ประวิตร จึงต้องการก้าวข้ามความขัดแย้ง สร้างสามัคคีให้กับประชาชนไทยทั่วประเทศ และนำชาติเข้าสู่ยุคศิวิไลซ์ให้ได้ มิฉะนั้นทุกคนก็จะอยู่ไม่ได้ ซึ่ง พปชร.พร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางสร้างความสามัคคีภายในชาติ ยุติความขัดแย้งภายในชาติ โดยเฉพาะความขัดแย้งในเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวจะต้องปิดฉากได้แล้ว โดย พปชร.ต้องการสร้างพรรคการเมืองของประชาชน โดยการนำของ พล.อ.ประวิตรที่นำพาบ้านเมืองออกจากวิกฤตได้" นายไพศาลกล่าว
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานศูนย์นโยบายและวิชาการ พรรค พปชร. ซึ่งเป็นอดีต รมว.พาณิชย์และ รมว.พลังงาน กล่าวในการสัมมนาหัวข้อ "Now & Next" ว่า หากมองไปยังการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่างๆ บนกระดานการเมืองเวลานี้ ตนมั่นใจว่าพปชร.ยังมีโอกาสทางการเมืองอีกมาก โดยมีปัจจัยสำคัญจากการโต้กลับของพลังอนุรักษนิยม ที่จะขยายตัวกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ จากการบริหารงานของรัฐบาลปัจจุบัน ซึ่งเอาแต่จะขับเคลื่อนนโยบายเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง เช่น กรณีกาสิโนเสรี พนันบนดิน และเมื่อดูโพลต่างๆ ก็พบว่า พปชร.ยังคงเป็นพรรคที่อยู่บนกระดานการเมือง อยู่ในใจประชาชน ยังมี สส. ในสภาไว้เป็นปากเป็นเสียง มีกลุ่มการเมือง มีบ้านใหญ่ต่างๆ รวมพลังกันอย่างเหนียวแน่น
”เราต้องปลุกคลื่นพลังอนุรักษนิยมให้กลับมาเข้มแข็งอีกครั้งหนึ่ง ใช้จุดเด่นของบุคลากรพรรค คือเรื่องปากท้อง เศรษฐกิจ มีมือเศรษฐกิจที่มีประสบการณ์ มาร่วมกันวิพากษ์วิจารณ์ ให้ข้อเสนอแนะต่อการดำเนินนโยบายของรัฐบาลอย่างสม่ำเสมอ"
นายสนธิรัตน์ยังกล่าวนำเสนอ ยุทธศาสตร์การทำงานของพรรคในช่วงเวลา 2 ปีข้างหน้า ที่รัฐบาลจะหมดวาระและมีการเลือกตั้งว่า เราจำเป็นต้อง 1.สร้างและรวมพลังชุดความคิดใหม่ ใช้ความคิดอนุรักษนิยมทันสมัย เป็นชุดอุดมการณ์ที่จะใช้เพื่อชนะทางความคิด เพื่อชนะทางการเมือง 2.เตรียมการทำงานในพื้นที่เป้าหมาย สร้างความเข้มแข็งของพื้นที่ และขยายฐานผู้สนับสนุนของเราออกไปให้กว้าง 3.เร่งปรับภาพลักษณ์ สร้างแบรนด์ ทำให้พลังประชารัฐเป็นพรรคการเมืองแห่งความหวัง เป้าต่อไปคือชนะพรรคประชาธิปัตย์ และเบียดกับพรรคภูมิใจไทยให้ได้ ถ้าเราเบียดขึ้นไปได้ พรรคที่ตกลงมาคือพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐนั้นเป็นพรรคที่มีความหวังพร้อมจะได้ใจจากผู้ลงคะแนน และเป็นพรรคที่มีความพร้อมที่สุด
นายสนธิรัตน์กล่าวด้วยว่า ภายใน 2 ปีเราจะเตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งอย่างเป็นระบบให้ชัดเจน มั่นใจต่อให้เป็นรองก็ล้มแชมป์ได้ โดยในการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคจะช่วงชิงชัยชนะกลับมา
ต่อมานายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พปชร. ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมงานสัมมนาว่า วันนี้เป็นวันสำคัญของพรรค พปชร. ที่แสดงให้เห็นการขับเคลื่อนพรรค ความพร้อมเพรียงและพลังในการเดินหน้าต่อไป ซึ่งหลายฝ่ายอาจมีข้อทักท้วงกันก่อนหน้านี้ แต่จะเห็นได้ว่ามีทั้ง สส.และผู้ประสงค์ลงสมัคร สส.ในนามพรรคมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก และเชื่อว่ามีอีกจำนวนมากที่อยากร่วมงานกับพปชร. เพราะทุกคนเชื่อมั่นใน พล.อ.ประวิตร ว่าจะนำพรรคไปในทิศทางที่มั่นคงและแข็งแรง ถือว่างานสัมมนาในวันนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า งานสัมมนาในครั้งนี้จะสร้างความสามัคคีให้พรรคมากขึ้นหรือไม่ เพราะมีกระแสข่าวว่าหลายคนเตรียมจะทิ้ง พล.อ.ประวิตร นายไพบูลย์กล่าวว่า ไม่มี มีแต่มาหาลุงป้อม เพราะเป็นผู้มีบารมี เอาใจใส่ผู้ที่เข้ามาร่วมงานกับพรรคอย่างแท้จริง ขอย้ำว่าไม่มีทิ้ง มีแต่มาเพิ่มอย่างมากมาย
เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตรระบุว่า พรรค พปชร. ตกเป็นเป้า จากนั้นนายทักษิณก็ย้อนถามว่า ใครกันแน่ที่ทำให้การเมืองวุ่นวาย นายไพบูลย์กล่าวว่า ก็แล้วแต่นายทักษิณ แต่ฟังแล้วไม่เกี่ยวอะไรกับพรรคและ พล.อ.ประวิตร เรื่องการปฏิวัติก็เป็นที่รู้อยู่แล้วว่าท่านไม่เกี่ยวข้อง
ขณะที่ พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณระบุว่าเป็นเป้าทางการเมือง โดนมาเยอะกว่า ว่า “ผมไม่ได้ทำอะไรผิด” ผู้สื่อข่าวถามว่า นายทักษิณบอกด้วยว่าใครเป็นคนปฏิวัติกันแน่ พล.อ.ประวิตรย้อนถามกลับว่า “แล้วใครเล่า ถามอะไรก็ไม่รู้” ก่อนจะเดินทางกลับทันที
ทั้งนี้ ที่ จ.มหาสารคาม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวถึงกรณีที่ประกาศว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ จะเป็นกองหน้าแล้วตนคอยสนับสนุนอยู่ข้างหลัง ต้องระวังเกี่ยวกับขาประจำที่คอยร้องเรียนหรือไม่ว่า ไม่เป็นอะไร เดี๋ยวจะเชิญมากินไวน์กันหน่อย มากินน้ำเปลี่ยนนิสัย เผื่อนิสัยจะเปลี่ยนบ้างถ้าเขายินดี แต่ถ้าไม่มาก็ไม่เป็นอะไร ถ้ามาก็พร้อม ทุกคนเลย ขอเพียงอย่าเอาเสือมา เดี๋ยวจะมากินตน
เมื่อถามว่า กังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อรัฐบาลในภาพรวมหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า ไม่มีหรอก อย่าไปสนใจ วันนี้เราคนไทยต้องพูดภาษาไทยรู้เรื่อง ถ้าพูดไม่รู้เรื่องมันเป็นเรื่องที่ไม่ดี
เมื่อถามว่า หมายรวมถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ด้วยหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า ได้หมดทุกคน
เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรระบุว่าเป็นเป้าทางการเมือง นายทักษิณกล่าวว่า “โอ้ ถามว่าการเมืองที่มันยุ่งทุกวันนี้ เพราะอะไร ถามว่าปฏิวัติทำไม ให้กลไกมันลงตัวของมันเองดีกว่า ในเมื่อปฏิวัติแล้วเขียนกฎหมายไป ก็ติดรูปผมไปด้วย ทำอย่างไรจะต่อต้านผมได้ กฎหมายไม่ได้ทำเพื่อส่วนรวม มันเพื่อรักษาอำนาจ เลยออกมาเป็นเช่นนี้ ซึ่งเราก็ต้องรับสภาพและปรับปรุงแก้ไขไปตามสภาพ”
เมื่อถามว่า มองเรื่องที่ พล.อ.ประวิตรระบุว่าเป็นเป้าทางการเมืองอย่างไรบ้าง นายทักษิณกล่าวว่า “ผมว่าเขาโดนน้อยที่สุด ต้องโดนอย่างผมแล้วจะรู้ ความจริงแล้วการเมืองยังให้เกียรติ เกรงใจแก เป็นผู้ใหญ่ ผมเองเป็นผู้ใหญ่กว่าแกแต่อายุน้อยกว่าหน่อย ยังโดนหนักเลย”.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘อิ๊งค์’ ปลื้มผลงานตัดไฟ
ผลงานชิ้นโบแดง "อุ๊งอิ๊ง" โวลั่นจีนชมไทยเด็ดขาดตัดไฟเมียนมา พร้อมหนุนช่วยปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่สนหม่องประท้วงแบนไทย ยันคนไทยต้องมาก่อน
ไทยจับเรือเมียนมา ขนนํ้ามันข้ามแดน
จับเรือเมียนมา 2 ลำ พร้อมลูกเรือ รุกล้ำน่านน้ำไทยด้านจังหวัดระนอง ฐานลักลอบนำน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร และนำเรือรุกล้ำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต
ตร.เชียงใหม่ตอก ‘ปูอัด’!
ตร.เชียงใหม่ตอบ "ปูอัด" เหตุออกหมายจับไม่ออกหมายเรียก เพราะคดีมีโทษเกิน 3 ปี และทุกอย่างก็อยู่ที่ดุลพินิจของศาล เผยกงสุลไต้หวันเป็นผู้ติดตาม
ห้ามเชือด‘ทักษิณ’ องครักษ์พิทักษ์นายใหญ่แห่ขวางซักฟอกชั้น14อ้างเป็นคนนอก
"อุ๊งอิ๊ง" ยันเพิ่งมาเป็นนายกฯ ยังไม่ปรับ ครม. ต้องการความต่อเนื่องเพื่อความแข็งแรง ยอมรับโดนแน่ซักฟอกชั้น 14 ขณะที่ลูกหาบเพื่อไทยประสานเสียงห้ามอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ฉีกหน้า ‘ทักษิณ’ วางบึ้ม ‘ปัตตานี’ ตร.ดับ1เจ็บอีก4
ตบหน้าพ่อนายกฯ ฟุ้งดับไฟใต้ บึ้ม! ชุดลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยครูที่ปัตตานี สังเวย 1 ชีวิต เจ็บอีก 4 ราย ส่วนเหตุระเบิดรถกระเช้าที่รือเสาะ คาดฝีมือกลุ่มซิ
‘แม้ว’ สั่งถอนสัญชาติไทย เจ้าของตึก 25 ชั้นปอยเปต
“ทักษิณ” จ่อถอดสัญชาติไทยเจ้าของตึก 25 ชั้นที่ปอยเปต “ภูมิธรรม” โต้ข่าวเมียนมาปิดชายแดน บอกถ้าปิดเหมือนล็อกตัวเอง วางกรอบตัดไฟ 6 เดือน