เลขาฯ สมช.เผยมาตรการตัดไฟ-น้ำมันเมียนมาเห็นผล ขอรอที่ประชุมประเมินก่อนพิจารณาต่อขยายมาตรการอื่นหรือไม่ ขณะที่้ "ผบ.ทสส." นั่งหัวโต๊ะถกบอร์ด ปชด.นัดแรก ปูทางส่งกลับคนจีน ห่วงชาวเมียนมาเดือดร้อนจากมาตรการฝั่งไทยจะแตกกระจายออกมา ยากต่อการควบคุม ตร.เผยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวไทยฝั่งกัมพูชาจำนวน 100 คน เป็นเด็กและเยาวชน 4 คน
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2568 นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงการครบรอบ 1 เดือนตัดไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตไปยังเมียนมาเพื่อจัดการขบวนการคอลเซ็นเตอร์ว่า ขณะนี้ทาง สมช.กำลังประเมินอยู่ และยังติดตามกันอย่างต่อเนื่อง แต่ผลยังไม่ออก จึงยังไม่มีการขยายมาตรการอะไร โดยขอประเมินให้ชัดอีกครั้งหนึ่งก่อน
ผู้สื่อข่าวถามถึงการแก้ไขปัญหาการข้ามแดนมาเติมน้ำมันในฝั่งไทย เลขาธิการ สมช.ตอบว่า ทางหน่วยงานได้ติดตามกันอยู่ หากผิดเงื่อนไขก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมายและมาตรการที่เราออกไป อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าอาจส่งผลต่อวิถีชาวบ้านส่วนหนึ่ง อย่างการเติมน้ำมันรถจักรยานยนต์ แต่ก็มีการอนุโลมกัน
ถามว่า ได้มีการประเมินตัวเลขเรื่องผลการดำเนินงานขณะนี้บ้างหรือไม่ นายฉัตรชัยกล่าวว่า มีการประชุมกันทุกสัปดาห์ จึงขอตรวจสอบก่อนว่าเป็นอย่างไร เนื่องจากมีการประชุมในปีกย่อยเยอะ แต่ภาพรวมถือว่าเห็นผล
ที่กองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน (ปชด.) โดยมี พล.อ.ธิติชัย เทียนทอง รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด, นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย, พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.), พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะรองประธานกรรมการ ปชด. พร้อมตัวแทนในคณะกรรมการฯ เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
พล.อ.ทรงวิทย์กล่าวถึงผลการประชุมว่า ภารกิจแรกของศูนย์ การสร้างองค์กรที่ทำงานร่วมกันผ่านการประสานสอดคล้องกัน ในวันที่ 6-9 มีนาคมนี้ ทางการจีนจะมีการส่งเครื่องบินมารับเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ผ่านชายแดนไทยที่จังหวัดตาก ดังนั้นศูนย์นี้จะประสานงานตั้งแต่รับตัวจากฝั่งเมียนมา และเข้าสู่กระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมายไทยและส่งตัวขึ้นเครื่องบิน
ส่วนภารกิจที่สองคือ การประเมินว่ามาตรการตัดไฟ ตัดน้ำมันเมียนมา ได้ผลมากน้อยเพียงใด ส่วนอินเทอร์เน็ตได้มอบให้ กสทช.ดูว่าหลังตัดอินเทอร์เน็ตแล้วสัญญาณที่ส่งข้ามมายังประเทศไทยสามารถวัดได้หรือไม่ จะมีการปฏิบัติการหรือใช้อินเทอร์เน็ตจากฝั่งไทยอีกหรือไม่ และการช่วยเหลือในด้านมนุษยธรรม ซึ่งทางเมียนมาได้มีการขอผ่านทางที่ประชุมไตรภาคี กรณีโรงพยาบาล ซึ่งคณะกรรมการฯ นี้ก็จะพิจารณาแล้วส่งข้อมูลทั้งหมดไปยังรัฐบาลว่าจะอนุมัติหรือไม่
ขณะนี้ได้ตรึงกำลังไว้อย่างดี
พล.อ.ทรงวิทย์ยังกล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนล่าสุด ซึ่งมีการลักลอบข้ามแดน หลังจากที่ฝั่งเมียนมารับเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีจำนวนมากกว่า 7,000 คนไม่ไหวว่า ขณะนี้ได้ตรึงกำลังไว้อย่างดี แต่สิ่งที่เป็นห่วง หากเขาเดือดร้อนจากมาตรการฝั่งไทย จะแตกกระจายออกมา และการควบคุมก็จะยากขึ้น ดังนั้นตนจึงขอให้ ผบ.ทบ.สั่งการให้กองกำลังป้องกันแนวชายแดนเจรจากองกำลังที่ควบคุมเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้อยู่ในพื้นที่ ส่วนไทยพยายามแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด แต่ขออย่าสร้างปัญหาเพิ่มขึ้น
ในขณะนี้การสอบสวนทางฝั่งเมียนมาร่วมกับจีนได้ดำเนินไปแล้วกว่า 3,000 คน และพร้อมที่จะส่งออกในช่วงวันที่ 6-9 มีนาคมนี้ประมาณ 1,400 คน พร้อมกันนี้ตนก็ได้มีการขอให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เป็นเสาหลักในการทำกระบวนการเนรเทศ ไทยสามารถรับได้จำนวนกี่คนต่อวัน ซึ่งจะต้องเป็นข้อมูลจริงที่มีนำไปพูดคุยกับต่างชาติว่าจะไม่สามารถที่จะเร่งรัดขั้นตอนได้ เพราะต้องเป็นไปตามกฎหมายไทย หากเร่งรัดเจ้าหน้าที่ก็อาจจะเข้าข่ายมาตรา 157 ได้
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าตำรวจข่มขู่ทหารในพื้นที่ จึงต้องมีการตั้งคณะกรรมการ ปชด. โดยให้กองทัพคุม เพื่อดำเนินการเรื่องนี้โดยเฉพาะ พล.อ.ทรงวิทย์กล่าวว่า ในเรื่องประเด็นที่ทหารถูกตำรวจในพื้นที่ข่มขู่ ตนยังไม่ทราบรายละเอียด ส่วนการจัดตั้งคณะกรรมการ ปชด. ที่มีผู้ช่วยผู้จัดการทหารสูงสุดเป็นประธาน โครงสร้างเดิมที่เคยมีอยู่ในยุคของนายทักษิณ ชินวัตร และในยุคของ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ก็เคยใช้โครงสร้างนี้แก้ไขปัญหาแพร่ระบาดโควิดตามแนวชายแดน
ส่วนปัญหาที่ฝั่งกัมพูชา พล.อ.ทรงวิทย์กล่าวว่า ก็ยังอยู่ในความรับผิดชอบ แต่วันนี้ไม่ได้มีวาระที่พูดถึง แต่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยอมรับว่าคนไทยที่พัวพันกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งกัมพูชามีมากกว่านี้ แต่เมื่อคลี่คลายปัญหาในฝั่งเมียวดีแล้ว คณะกรรมการฯ นี้ก็ต้องไปดูที่จุดอื่นๆ ตามแนวชายแดน เช่น การแก้ไขปัญหาในฝั่งกัมพูชา หากจำเป็นต้องตั้งศูนย์ก็สามารถดำเนินการได้
สำหรับการสู้รบระหว่างชนกลุ่มน้อยและรัฐบาลเมียนมาเป็นการสู้รบโดยใช้กำลังทางอากาศนั้น จากการประเมินสถานการณ์ ยังไม่มีผลกระทบในการส่งกลับบุคคลสัญชาติต่างๆ เหล่านี้ โดยในวันที่ 6 มี.ค. ศอ.ปชด.ส่วนหน้า จะลงพื้นที่เป็นวันแรก เพื่อจะได้รวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมให้มากขึ้น ซึ่งก็จะทำให้เห็นว่าสถานการณ์ในพื้นที่เป็นอย่างไร
พบคอลเซ็นเตอร์เด็ก
ด้าน พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงผลคดีสำคัญในกรณีที่คนไทยถูกจับกุมโดยตำรวจกัมพูชา ในการกระทำความผิดอาชญากรรมทางด้านเทคโนโลยีที่ประเทศกัมพูชา แล้วส่งตัวกลับประเทศไทยเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2568 จำนวนทั้งสิ้น 119 คน ตามความต้องการของไทยที่ได้ไปหารือกับทางตำรวจกัมพูชาในการร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และขอทางประเทศกัมพูชาส่งตัวคนไทยให้มาลงโทษตามกฎหมายไทย
จเรตำรวจแห่งชาติกล่าวต่อว่า การคัดแยกเหยื่อโดยสหวิชาชีพและการสืบสวนขยายผลของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ใน 119 คน มีคนที่เกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์จำนวน 100 คน ซึ่งเป็นเด็กและเยาวชนจำนวน 4 คน อยู่ระหว่างการดำเนินการของสหวิชาชีพ และอีก 15 คนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อไป ซึ่งศาลอาญาได้อนุมัติออกหมายจับจำนวน 102 คน โดยเป็นคนไทย 100 คน และขยายผลไปยังหัวหน้าแก๊งชาวจีนอีก 2 คน ในข้อหา "ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ซ่องโจร, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ตามคำร้องขอของคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568
จากการสัมภาษณ์และคัดแยกกลุ่มตามสถานที่ที่บุคคลเหล่านี้ไปทำงานในประเทศกัมพูชา พบว่าคนไทยที่ทำงานที่ตึกภูมิตาสวน สามารถออกหมายจับคนไทย 100 ราย และบอสชาวจีน 2 ราย ในการหลอกลงทุนเทรดหุ้น โรแมนซ์สแกม เว็บพนันออนไลน์ การหลอกเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ และกรมที่ดิน ส่วนอาคาร K2 พบคนไทยจำนวน 15 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ พล.ต.อ.ธัชชัยกล่าวว่า ขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ที่ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่สามารถดำเนินคดีในข้อหาหนักกับคนไทยที่ไปร่วมกับชาวต่างชาติตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกคนไทยในประเทศกัมพูชา ที่มีโทษสูงสุดถึง 15 ปี จากนี้ไปจะไม่มีพวกกลุ่มคนไทยขายชาติใช้ช่องทางการตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์เพื่อหลบหนีการกระทำความผิดอีกต่อไป และทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเอาตัวคนไทยขายชาติเหล่านี้มาลงโทษในประเทศไทย ในข้อหาองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และความผิดอื่นทุกข้อหาที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาดและถึงที่สุดทุกคน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เอาใจซื้อก๊าซสหรัฐ ยันไม่ล้วงทุนสำรอง
"นายกฯ อิ๊งค์" พร้อมต้อนรับ "อันวาร์" จับมือพัฒนาทุกมิติ ยกระดับความร่วมมือเวทีอาเซียน
ลาก‘อิ๊งค์’ขึ้นเขียง! ปชน.จ่อยื่นปปช.ปมชั้น14-ตั๋วPN/เรืองไกรจี้สอบเสียภาษี
ฝ่ายค้านเดินหน้าทาเกลือ! “วิโรจน์” จ่อยื่น ป.ป.ช.ฟัน "อุ๊งอิ๊ง" ข้อหาตั๋ว PN รุกป่าเขาใหญ่
ปรับแผนรับกลับกรุง อุบัติเหตุสงกรานต์ลด
"รัฐบาล" ปรับแผนรับ ปชช.เดินทางกลับจากเทศกาลสงกรานต์ สั่ง บขส.เพิ่มเที่ยวรถวันละ 4,800 เที่ยว
‘ใต้ดิน-บนฟ้า’ชี้ชะตารัฐบาล
ลูกหาบมั่นใจเสถียรภาพรัฐบาล อยู่ยันครบวาระ ชะลอ กม.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ฯ
‘4วันอันตราย’สังเวย138ศพคุมเข้มขากลับ
4 วันอันตรายสงกรานต์ ดับ 138 ราย รัฐบาลชี้สถิติอุบัติเหตุลดลงกว่าปีที่แล้ว 20% หลังกวดขันบังคับใช้กฎหมายเข้มข้น ขณะที่ “ขับรถเร็ว-เมาขับ”
ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระราชพิธีสงกรานต์
“ในหลวง-พระราชินี” เสด็จฯ ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในการพระราชพิธีสงกรานต์ ประจำปี 2568