
"ดีเอสไอ-สน.บางซื่อ" ลงพื้นที่อาคารตึก สตง.ถล่ม เร่งเก็บวัตถุพยานหลักฐาน เผยคดีนอมินี บ.จีนคืบหน้า 50% กำลังสอบเส้นเงิน ระบุหากตรวจสอบซีเมนต์ตกสเปกจ่อเพิ่มโทษ ส่วนคดี "ฝุ่นแดง" อยู่ระหว่างรอ "อธิบดีดีเอสไอ" อนุมัติ กทม.เผยมีผู้เสียชีวิต 32 คน บาดเจ็บ 9 ราย อยู่ระหว่างการติดตาม 62 คน
เมื่อวันที่่ 12 เมษายน ที่ด้านหน้าอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ถล่ม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภคและโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมกับ พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.บางซื่อ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าทางด้านการเก็บวัตถุพยานหลักฐานในคดี โดย พ.ต.ต.วรณันกล่าวว่า เป็นการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง วันนี้ก็เข้ามาเก็บหลักฐานตั้งแต่ 06.00 น. โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองจะตรวจสอบในเรื่องของคอนกรีต ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่เทคนิคพิเศษเข้ามาช่วยเจาะแผ่นปูนและช่วยในการเก็บพยานหลักฐาน และในวันนี้ทางผู้กำกับ สน.บางซื่อเป็นผู้ประสานไปยังบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 ซึ่งเป็นบริษัทร่วมค้า ประมาณ 2-3 คน ให้เข้ามาร่วมสังเกตการณ์ เพราะจะมีหน่วยงานอื่นด้วย เช่น พิสูจน์หลักฐานตำรวจ, โยธาธิการและผังเมือง และพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ เพื่อดูว่าในการเก็บวัตถุพยานหลักฐานนั้นจะมีการเก็บตรงไหนอย่างไรบ้าง ในส่วนของการตรวจสอบบริษัทว่าการก่อสร้างนั้นได้มาตรฐานหรือไม่
พ.ต.ต.วรณันเปิดเผยภาพรวมที่ดีเอสไอรับผิดชอบเกี่ยวกับการดำเนินคดีอาญาจากเหตุอาคาร สตง.ถล่มว่า มีอยู่ 3 กรณี โดยกรณีแรกคือ การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว หรือนอมินี ที่ดีเอสไอเริ่มการสอบสวนไปแล้วเกือบ 50% และขยายผลว่าไปเกี่ยวข้องกับกฎหมายการเสนอราคาด้วยหรือไม่ ซึ่งการร่วมเก็บพยานหลักฐานในครั้งนี้ จะมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องมาตรฐานของอุตสาหกรรมในส่วนของวัสดุก่อสร้างต่างๆ
"โดยวันนี้ยังมีการเก็บซีเมนต์ไปตรวจสอบว่าเข้าองค์ประกอบที่ตกสเปกหรือไม่ หากมีการตกสเปกก็จะมากล่าวโทษเพิ่มเติม ขณะนี้กำลังติดตามเรื่องของเส้นเงินอยู่ และอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ และให้กระบวนการรวดเร็วขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ติดตามเส้นทางการเงินบ้างแล้ว รวมถึงพยานหลักฐานอื่นๆ และมีการรายงานความคืบหน้าอยู่ทุกวัน"
กรณีที่ 2 ดีเอสไอรับทำคดีแล้ว อยู่ระหว่างเริ่มดำเนินการ เนื่องจากเพิ่งจะได้รับหนังสือจากกรมสรรพากร ซึ่งมาร้องดีเอสไอเมื่อสัปดาห์ที่แล้วให้ตรวจสอบเรื่องของการเลี่ยงภาษีของบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด โดยพบหลักฐานที่มีเหตุบ่งชี้ว่าน่าจะเป็นหลักฐานที่มาจากภาษีที่ไม่ถูกต้อง โดยทางกองคดีภาษีอากรได้แยกรับคดีนี้
ส่วนเรื่องที่ 3 เป็นเรื่องเมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่ดีเอสไอได้รับกรณีที่กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมโรงงาน ได้เข้าตรวจบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ซึ่งดีเอสไอไปร่วมสืบสวนด้วย ในประเด็นฝุ่นแดง 4 หมื่นตัน และตอนนี้อยู่ในขั้นตอนพิจารณา โดยตั้งคณะสืบสวนแล้ว รอเพียงอธิบดีดีเอสไออนุมัติให้สืบสวน ก็จะเข้าไปประสานงานเพื่อรวบรวมข้อมูลต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.บางซื่อ กล่าวว่า ไม่ได้ตั้งกรอบการทำงาน แต่จะเร่งเก็บวัตถุพยานหลักฐานให้ได้เร็วที่สุด โดยที่ไม่ได้รบกวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ภายในไซต์งาน โดยในวันนี้จะทำการเก็บวัตถุพยานถึงแค่ 10.00 น. หลังจากนั้นก็จะต้องให้เจ้าหน้าที่กลับออกมา เนื่องจากเครื่องจักรใหญ่และเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะกลับมาปฏิบัติงานอีกครั้งในเวลานั้น
พ.ต.อ.สนองกล่าวว่า ซึ่งในแต่ละวันการเก็บพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่จะมีช่วงเวลากำหนดอยู่ที่ 05.00-10.00 น. ซึ่งจะใช้กลไกนี้จนกว่าจะเก็บวัตถุพยานหลักฐานครบถ้วน
วันเดียวกัน กรุงเทพมหานคร (กทม.) รายงานความคืบหน้าเหตุอาคาร สตง.พังถล่ม ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 12 เมษายน (รวมระยะเวลา 16 วัน) เวลา 10.00 น. ว่ามีผู้เสียชีวิต 32 คน บาดเจ็บ 9 คน และอยู่ระหว่างการติดตาม 62 คน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ยกคำร้องคดีฮั้วขอนแก่น ‘กกต.’เผยไร้หลักฐานมัด!
“กกต.” ยกคำร้อง 22 ผู้สมัคร สว.ขอนแก่นปมฮั้ว ชี้ไต่สวนพยานและเส้นทางการเงินไม่พบข้อสงสัย ระบุผู้ร้องกล่าวอ้างลอยๆ
กธ.-รทสช.ย้ำไม่นิรโทษ112
“กธ.-รทสช.” ประสานเสียง ไม่นิรโทษฯ คดี ม.112-ทุจริต “ไผ่” การันตีไม่มีเอาใครกลับบ้าน
จีนขอวางตัวเป็นกลาง! โคราชไล่‘อิ๊งค์’ปมเขมร
หนามยอกอก "ฮุน เซน"! “สม รังสี” โพสต์ภาพแฉกลุ่มอาคารที่ตั้งแก๊งอาชญากรรมในกัมพูชา
วิสุทธิ์รับสภาพลากๆกันไป
"เลขาฯ พท." ลั่นการเมืองไม่มีทางตัน เชื่อฝ่าย กม.ช่วย "นายกฯ อิ๊งค์" ได้แน่ "ปธ.วิปรัฐบาล" รับเสียงปริ่มน้ำแต่ต้องลากกันไปต่อ
แทรกแซงอำนาจรัฐ ‘คปท.’จี้รบ.ลาออกปล่อย‘ทักษิณ’ร่วมประชุมสู้ภาษีมะกัน
“ทักษิณ” โผล่บ้านพิษณุโลกร่วมวงถกรับมือภาษีสหรัฐ “พิชัย” บอกเชิญมาให้ข้อคิดเห็น
'อิ๊งค์' นำคณะเพื่อไทย อ้อนคนโคราช ไม่ว่าจะอยู่ในหน้าที่ไหน ก็ยินดีรับใช้ประชาชน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ สส.นครราชสีมา อาทิ นายอภิชา เลิศพชรกมล ,