หนุนกาสิโนเพิ่มเงินคนแก่

“สุทิน” คาด 28-30 พ.ค. เปิดสภาวิสามัญถกงบปี 69 เชื่อความเห็นต่างพรรคร่วมฯ   ปมกาสิโนไม่กระทบเสียงโหวต ดักคอหากใช้อารมณ์มาล้ม ก็เหมือนเด็กมาทำงาน “วราวุธ”  เอาด้วย พ.ร.บ.กาสิโน ประเทศชาติจะมีรายจ่ายมากมาย ยก พม.ร้องขอเบี้ยยังชีพของผู้สูงอายุเพิ่ม

เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2568 นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร  (เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) วุฒิสภา ระบุให้สภาผู้แทนราษฎรรอผลการศึกษาให้เสร็จก่อนดึงดันเสนอร่าง และจะยื่นตรวจสอบมาตรฐานจริยธรรมของผู้ที่โหวตรับหลักการว่า แล้วแต่ สว.จะคิด แต่ระบบนิติบัญญัติเป็นระบบที่ทำกันมาช้านาน และเป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ  ไม่ใช่อะไรก็ตรวจสอบจริยธรรม ต้องมีเหตุผลและความผิดจริงๆ ส่วนจะไปพูดคุยทำความเข้าใจกับ สว.หรือไม่นั้น คงคุยตามรูปแบบที่เป็นไปได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้ยังมีความเห็นต่างในพรรคร่วมรัฐบาล จะส่งผลถึงการทำงานร่วมกันหรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า หากพูดคุยก็คงมีความเข้าใจกัน คงไม่มีปัญหา

เมื่อถามว่า มั่นใจว่าจะทำงานจนครบเทอมใช่หรือไม่ แกนนำพรรคเพื่อไทยผู้นี้ตอบว่า การทำงานของรัฐบาลมีหลายเรื่องต้องทำ ไม่ใช่แค่เรื่องนี้อย่างเดียว และมีหลายเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลต้องทำร่วมกัน เพราะฉะนั้นแต่ละพรรคคงไม่คิดเอาเรื่องนี้เป็นเหตุให้ทำงานต่อไปไม่ได้

ถามว่า เรื่องนี้จะกระทบต่อการโหวตร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 หรือไม่ นายสุทินยืนยันว่า ไม่น่ามีปัญหา ทุกคนต้องรับผิดชอบ  เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่สุดของการขับเคลื่อนประเทศ หากไปเอาอารมณ์เล็กน้อยมาล้มงบประมาณ คงไม่ใช่ผู้ใหญ่ แต่เป็นเด็กมาทำงาน

เขายังกล่าวถึงการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ว่า คาดว่าจะเป็นวันที่ 28-30 พ.ค. เป็นการขอเปิดสมัยประชุมวิสามัญ ทั้งนี้ ยังไม่ได้มีการนัดหมายเป็นทางการ เป็นการพูดภายใน

ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  (พม.) ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนของพรรคชาติไทยพัฒนาต่อร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ว่า ตอนนี้ผ่านขั้นตอนคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปแล้ว  เบื้องต้นเราต้องเข้าใจก่อนว่าสิ่งที่ ครม.เสนอเข้าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นหนึ่งในมาตรการที่จะหารายได้ให้กับประเทศ ต้องเข้าใจก่อนว่าการที่ประเทศชาติจะมีรายจ่ายมากมาย แม้แต่กระทรวง พม. ที่เราร้องขอเบี้ยยังชีพของผู้สูงอายุเพิ่ม  ทุกอย่างล้วนเป็นรายจ่าย แต่รายได้ของรัฐบาลทุกวันนี้มีจำกัด ส่วนรายจ่ายมีมากมายเหลือเกิน  ดังนั้น หน้าที่ของรัฐบาลคือหารายได้

"คิดว่าเป็นเวลาที่ท่านใดมีแนวทางอย่างไร รัฐบาลยินดีรับฟัง และจะเอาแนวทางนี้ไปศึกษาเพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศอย่างเร็วที่สุด ขั้นตอนขณะนี้เบื้องต้นรอสมัยประชุมหน้า คงจะมาถกกันว่าแนวทางของสภาจะมีแนวทางอย่างไรในฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งตอนนั้นคงจะต้องมีการประชุมพรรคอีกครั้ง"

เมื่อถามว่า เห็นด้วยกับแนวทางหารายได้ในส่วนนี้หรือไม่ นายวราวุธตอบว่า คิดว่ามีหลายมุม เช่น ตนทำงานในฐานะ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หากเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์นี้จะเป็นแหล่งสร้างงานให้กับพี่น้องกลุ่มเปราะบางที่พรรคชาติไทยพัฒนาดูแลอยู่ ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะวันนี้คนพิการเกือบ 4 ล้านชีวิต มีงานทำยังไม่ถึงครึ่ง หรือแม้แต่ผู้สูงอายุในปัจจุบันที่เรามีเกือบ 14 ล้านคน หากพวกเขาเหล่านั้นมีรายได้ของตัวเองก็จะแบ่งเบาภารกิจในการเยียวยา ลดการพึ่งพาสวัสดิการของรัฐบาลไป ดังนั้น มันมีทั้งข้อดีและข้อด้อย  การที่จะพิจารณาต่างๆ คงต้องเป็นแนวทางของฝ่ายนิติบัญญัตินำไปพิจารณาต่อ

พม.ทำครบทุกมิติ

นายวราวุธเปิดเผยก่อนการประชุมใหญ่สามัญพรรคชาติไทยพัฒนา ถึงกรณีการเตรียมพร้อมปรับทัพเพื่อสู้ศึกการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า ยังไม่ได้มีการเตรียมพร้อมอะไร เนื่องจากการเลือกตั้งยังอีกไกล วันนี้สิ่งที่พรรคดำเนินการคือ การประชุมกับสมาชิกพรรค ซึ่งเป็นไปตามระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยเดือน เม.ย.นี้ แทบจะทุกพรรคการเมืองจะมีการประชุมพรรค ส่วนจะมีเนื้อหาอะไรก็จะมีการนำเสนอให้กับสมาชิกพรรคได้รับทราบว่า ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาภายใต้รัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีการดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง ซึ่งสิ่งที่พรรคชาติไทยพัฒนาดำเนินการเป็นการดูแลกระทรวง พม. ซึ่งมีการทำครบทุกมิติ แต่การดำเนินการนั้นมีความมากน้อยแตกต่างกันไปตามงบประมาณในแต่ละครั้งที่ได้รับ  รวมถึงศักยภาพของกระทรวงที่มีอยู่ วันนี้เป็นการสื่อสารให้ประชาชนได้รับทราบด้วยว่า พรรคชาติไทยพัฒนามีการดูแลกระทรวง พม.ในมิติใดบ้าง  และหลังจากนั้นจะเป็นการดำเนินงานของฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งบทบาทของ สส.พรรคชาติไทยพัฒนาในสภามีการดำเนินการอะไรไปบ้าง ในส่วนของกรรมาธิการ รวมถึงเรื่องของการจัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายต่างๆ ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับการประชุม

รมว.พม.ยังกล่าวถึงกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีชื่อถูกโยกไปเป็น รมว.การต่างประเทศว่า สงสัยเวลาไปต่างประเทศตนจะถูกแชร์ในโซเชียลเรื่องของการพูดภาษาอังกฤษ แต่การจะเป็น รมว.การต่างประเทศไม่ได้แปลว่าต้องพูดภาษาอังกฤษเก่งอย่างเดียว ต้องมีองค์ความรู้หลายอย่าง และการจะปรับ ครม.หรือไม่ อย่างไร มากน้อยขนาดไหน เป็นดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรี ซึ่งตอนนี้เรายังไม่ได้รับสัญญาณที่จะปรับหรือมีการเปลี่ยนแปลงอะไรใน ครม. ฉะนั้นทำงานไปตามปกติ ไม่มีอะไรน่ากังวล

ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ถ้ามีการปรับ ครม.ก็พร้อมใช่หรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่า อย่าถ้าเลย  เพราะพี่น้องข้าราชการกระทรวง พม.ทุกวันนี้ทำงานกันอย่างขยันขันแข็ง และเราไม่อยากให้เพื่อนข้าราชการเสียกำลังใจกับเหตุการณ์ที่ว่าถ้าอย่างนั้นถ้าอย่างนี้ ตนได้พูดกับข้าราชการไว้ว่า วันนี้ตนยังดำรงตำแหน่ง รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์อยู่ ตนได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่ง รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดังนั้น ยังไม่มีพระบรมราชโองการใหม่ออกมา ขอให้ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องในอนาคตก็แล้วแต่ ให้อนาคตเป็นตัวกำหนด แต่ที่สำคัญที่สุดนายกฯ เป็นคนกำหนดว่าจะเป็นคนปรับ ครม.หรือไม่ คงต้องถามนายกฯ

ระเบิดเวลาลูกใหญ่กำลังจะเกิด

เมื่อถามย้ำว่า มีความพร้อมหรือไม่หากมีการปรับ ครม. นายวราวุธกล่าวว่า ตั้งแต่ตอนดำรงตำแหน่ง รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เราได้แสดงให้เห็นว่าเนื้องานของทุกกระทรวงมีความสำคัญ มีความจำเป็นต่อประเทศไทย ส่วนเรื่องในอนาคตตนยังไม่อยากไปพูดถึง เพราะมันเป็นเรื่องของถ้าอย่างนั้นถ้าอย่างนี้ แต่เราพูดกันในความเป็นจริงว่าวันนี้บริบทของกระทรวง พม. ยังเหลือภารกิจอยู่อีกมาก ความท้าทาย ระเบิดเวลาลูกใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่สิบปี ปัญหาเรื่องผู้สูงอายุ การขาดแคลนแรงงานต่างๆ เหล่านี้ เป็นบริบทที่กระทรวง พม.ต้องเร่งดำเนินการ ตอนนี้ทำงานเต็มที่ในตำแหน่ง รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

นายวราวุธกล่าวถึงเอกภาพของรัฐบาลว่า  หลังจากสมัยประชุมได้ปิดไป ช่วง 3 เดือนนี้เป็นช่วงที่ สส.แต่ละพรรคจะขะมักเขม้นในการลงพื้นที่ จึงเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ในวันนี้มีการจัดประชุมใหญ่พรรคชาติไทยพัฒนาที่ จ.สุพรรณบุรี เพื่อให้ สส.ได้พบปะพี่น้องประชาชน ตนคิดว่าอุณหภูมิทางการเมืองจะเบาลงไป เพราะทุกคนคงจะตั้งหน้าตั้งตาทำงานในพื้นที่มากกว่า และในช่วงเดือน พ.ค. จะมีการเปิดประชุมวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ก่อน หลังจากนั้นจะเปิดประชุมสภา เพื่อพูดคุยเรื่องญัตติและ พ.ร.บ.ต่างๆ

เมื่อถามว่า พรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ มีการแลกกันคนละหมัด ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนามียุทธศาสตร์อย่างไรในการทำงานการเมืองในรัฐบาล น.ส.แพทองธาร นายวราวุธกล่าวว่า คุณพ่อสอนอยู่เสมอ ว่ามีมิตร 100 คนก็น้อยเกินไป มีศัตรู 1 คนก็มากเกินไป ดังนั้น แนวทางการทำงานของพรรคชาติไทยพัฒนาตั้งแต่สมัยนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ผ่านมาถึง น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ซึ่งเป็นพี่สาว จนมาถึงตนเองนั้น เรายืนยันว่าเราเน้นในเรื่องการทำงานและการสร้างพันธมิตรทางการเมืองมากกว่า เพราะการมีพันธมิตรทางการเมืองจะทำให้เราทำงานให้กับพี่น้องประชาชนได้มีประสิทธิภาพ ฉะนั้น เราคงไม่มีหมัดไปแลกกับใคร   

ซักว่าเหมือนไผ่ลู่ลมใช่หรือไม่ รมว.พม.ตอบว่า การเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาล หากเดือดร้อนตรงไหนและมีสิ่งใดให้พรรคชาติไทยพัฒนาที่กำกับดูแลกระทรวง พม.ดูแล เราก็ยินดีที่จะช่วยกันทุกพรรค แม้กระทั่งทำงานร่วมกับพรรคฝ่ายค้าน ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็น สส.ที่เป็นผู้แทนของประชาชน ซึ่งการทำงานของเราจะเอาผลงานเป็นเครื่องแลกเปลี่ยน เรามาทำงานแก้ไขปัญหาให้ประชาชนดีกว่า เรื่องการเมืองก็เอาไว้ก่อน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘สมศักดิ์’พึ่ง10อรหันต์

มติแพทยสภาพักใช้ใบอนุญาต 2  หมอ 3 เดือนกับ 6 เดือน “สมศักดิ์” หาหลังพิงตั้ง 10 อรหันต์ช่วยกรองก่อนส่งความเห็นกลับ