คริสตชนทั่วโลกสุดปลื้ม โป๊ปองค์ใหม่‘เลโอที่14’

ชาวคริสต์ทั่วโลกปลาบปลื้ม หลังประชุม 4 รอบได้พระสันตะปาปาองค์ที่ 267 แล้ว  “พระคาร์ดินัลโรเบิร์ต ฟรานซิส พรีโวสต์” เป็นพระสันตะปาปาองค์แรกจากสหรัฐ เลือกพระนาม “เลโอที่ 14”

เมื่อวันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานภาพและข่าวควันสีขาวจากปล่องไฟของโบสถ์น้อยซิสทีนพวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ในวันที่สองของการลงคะแนนลับโดยคณะพระคาร์ดินัลเพื่อประกาศการเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ ขณะที่ระฆังจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์และโบสถ์ต่างๆ ทั่วกรุงโรมดังขึ้น เป็นสัญญาณการเดินทางของคริสตจักรโดยผู้นำคนใหม่

พระคาร์ดินัลโรเบิร์ต ฟรานซิส พรีโวสต์ กลายเป็นพระสันตะปาปาองค์แรกจากสหรัฐอเมริกา  หลังจากที่พระคาร์ดินัลจากทั่วโลกเลือกพระองค์เป็นประมุขของชาวคาทอลิก 1,400 ล้านคน ภายใต้นามพระสันตะปาปาว่า เลโอที่ 14

ผู้คนนับหมื่นที่มารวมตัวกันในจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ต่างโห่ร้องแสดงความยินดีเมื่อสมเด็จพระสันตะปาปาปรากฏพระองค์บนระเบียงมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ พร้อมโบกพระหัตถ์ทั้งสองข้าง แย้มพระสรวล ค้อมพระองค์ต่อศาสนิกชน และตรัสว่า “ขอสันติสุขจงมีแด่ท่านทั้งหลาย” ในสุนทรพจน์ครั้งแรกของพระสันตะปาปาองค์ที่ 267

พระสันตะปาปาองค์ใหม่ ซึ่งสืบต่อจากพระสันตะปาปาฟรานซิสชาวอาร์เจนตินา ได้รับการแนะนำพระองค์เป็นภาษาละตินด้วยนามพระสันตะปาปาที่พระองค์ทรงเลือกเอง พระองค์ตรัสต่อฝูงชนว่า “ขอให้ทุกคน ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหนทั่วโลก จงมีสันติสุข ขอให้ช่วยเหลือกันและกันในการสร้างสะพานเชื่อมผ่านบทสนทนา ผ่านการพบปะ เพื่อให้มารวมกันเป็นหนึ่งเดียวและอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

“เรายังคงได้ยินเสียงของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสที่อวยพรกรุงโรมอย่างอ่อนโยนและหนักแน่นอยู่เสมอ” พระองค์ตรัสโดยอ้างถึงสุนทรพจน์ในวันอีสเตอร์สุดท้ายของสมเด็จพระสันตะปาปาชาวอาร์เจนตินา ก่อนการสิ้นพระชนม์

“เราต้องร่วมกันแสวงหาวิธีที่จะเป็นคริสตจักรแห่งผู้รับใช้พระเจ้า และคริสตจักรแห่งสะพานเชื่อมซึ่งดำเนินการพูดคุย, รับฟัง และเปิดกว้างอยู่เสมอ”  พระสันตะปาปาองค์ใหม่ตรัส

การรวมตัวของพระคาร์ดินัลจำนวน 133 องค์จาก 5 ทวีป ทำให้พิธีคอนเคลฟครั้งนี้ยิ่งใหญ่ที่สุดและเป็นสากลมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมีพระคาร์ดินัลจาก 70 ประเทศเข้าร่วม ซึ่งหลายองค์ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนด้วยซ้ำ พวกเขาเริ่มประชุมลับกันตั้งแต่ช่วงบ่ายวันพุธ ภายใต้คำสาบานว่าจะรักษาความลับไว้ มิฉะนั้นจะถูกขับออกจากคริสตจักร โดยวิธีเดียวที่จะแจ้งความคืบหน้าให้โลกภายนอกทราบได้ก็คือการส่งควันขึ้นไปทางปล่องไฟของโบสถ์น้อยซิสทีน

การลงคะแนนรอบต่อไปในเย็นวันพุธและอีกครั้งในช่วงเที่ยงวันพฤหัสบดี ควันที่ออกมานั้นยังคงดำสนิท ทำให้ผู้เฝ้ารอหลายหมื่นคนถอนหายใจด้วยความผิดหวัง แต่ในบ่ายวันพฤหัสบดี เวลาหลัง 18.00 น.เล็กน้อย ควันที่พวยพุ่งออกมาเป็นสีขาวเป็นเครื่องยืนยันว่าคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกได้ผู้นำทางจิตวิญญาณคนใหม่แล้ว

ไม่มีการเปิดเผยว่าต้องใช้บัตรลงคะแนนเสียงกี่ใบในการเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่ครั้งนี้ แต่ที่แน่ๆ คือใช้เวลาเพียงไม่ถึงสองวัน หลังการลงคะแนน 4 รอบก็ได้ผลการเลือก โดยตามธรรมเนียมแล้ว พระองค์จะเสด็จเข้าไปในห้องแห่งน้ำตา ซึ่งเป็นที่ที่พระสันตะปาปาที่เพิ่งได้รับเลือกจักได้แสดงความรู้สึกของตนได้อย่างอิสระ และทรงฉลองพระองค์ด้วยชุดพระสันตะปาปาเป็นครั้งแรก ก่อนจะเสด็จกลับเข้าไปในโบสถ์น้อยซิสทีนเพื่อให้คณะพระคาร์ดินัลกล่าวปฏิญาณ

พระองค์จะเสด็จไปที่ระเบียงพร้อมกับพระคาร์ดินัลอาวุโสซึ่งจะประกาศต่อฝูงชนที่รออยู่ว่า "Habemus Papam (เรามีพระสันตะปาปาแล้ว)"

จากนั้น พระสันตะปาปาจะตรัสสั้นๆ และทรงอวยพร "Urbi et Orbi (แด่โรมและโลก)" เป็นครั้งแรก

การเลือกผู้นำคนใหม่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์อย่างมาก เช่นเดียวกับความขัดแย้งภายในคริสตจักร โดยพระสันตะปาปาองค์ใหม่ต้องเป็นผู้นำท่ามกลางความขัดแย้งที่โหมกระหน่ำทั่วโลกและการเพิ่มขึ้นของพรรคชาตินิยมสุดโต่ง นอกจากนี้ คริสตจักรยังประสบปัญหาในการปรับตัวเข้ากับโลกสมัยใหม่ เนื่องจากจำนวนบาทหลวงลดลงและกระแสการเข้าโบสถ์น้อยลงในโลกตะวันตก

หลังจากนี้ สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 พระชนมายุ 69 พรรษา จะทรงประกอบพิธีมิสซาแด่คณะพระคาร์ดินัลที่โบสถ์น้อยซิสทีนในเวลา 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันศุกร์ จากนั้นสมเด็จพระสันตะปาปาจะทรงปรากฏพระองค์ต่อสื่อมวลชนทั่วโลกในเช้าวันจันทร์ ตามรายงานของสำนักข่าววาติกัน

สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 ทรงมีพระนามเดิม พระคาร์ดินัล โรเบิร์ต ฟรานซิส พรีโวสต์ ประสูติที่เมืองชิคาโก ในรัฐอิลลินอย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 14 ก.ย.2498 หลังทรงสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาคณิตศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยวิลลาโนวา  ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเอกชน เมื่อปี 2520 พระองค์ทรงตัดสินพระทัยเข้าสู่ศาสนจักร โดยทรงเริ่มจากการเข้าร่วมคณะนักบวชเมื่อเดือน ก.ย.2520 แล้วทรงสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านเทววิทยา จากสถาบันเทววิทยาคาทอลิก ในเมืองชิคาโก เมื่อปี 2525

บาทหลวงพรีโวสต์ทรงได้รับการแต่งตั้งจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสให้ทรงดำรงตำแหน่งพระคาร์ดินัล เมื่อปี 2566 และสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงเลื่อนสมณศักดิ์ให้พระคาร์ดินัลพรีโวสต์ เป็นพระคาร์ดินัลภาคมุขนายก เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งพระคาร์ดินัลพรีโวสต์มีแนวคิดสายกลาง ไปในทางเดียวกับสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน

ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี

อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก

นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม