ภท.โยงณฐพรพันฟอกเงิน ‘กุสุมาลวตี’ยื่นสอบ‘อนุทิน’

"อนุทิน" เผยฟ้อง "กุสุมาลวตี" เรื่องอยู่ในศาลแล้ว ตอนนี้ขอเงียบ ปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมทำงาน "ศุภชัย" เปิดสายสัมพันธ์ “ณฐพร” และผู้ต้องหาคดีฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่นโยง “ธาริต” จี้ถาม "ดีเอสไอ" เหตุไม่ฟ้องคดีอาญาทั้งที่ล่วงเลยตั้งแต่ปี 60 กังขารวมหัวดึงคดีหวังใช้เล่นงาน ภท. “กุสุมาลวตี” ย่องเงียบบุกสภายื่นสอบจริยธรรม “อนุทิน” โว “แมว” ไม่อยากดังเลยแอบมา “หนู” จะได้หายซ่า ด้าน "สว.สำรอง” บุก ป.ป.ช.ยื่นสอบจริยธรรม 92 สว.จุ้นสอบฮั้ว สว.

ที่กระทรวงมหาดไทย วันที่ 26 พฤษภาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์กรณีการดำเนินการฟ้องนางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท  อดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่ทำให้พรรค ภท.เสียหายและใส่ร้ายบิดเบือนว่า ตอนนี้ทนายความของพรรคภท.ได้ดำเนินการแล้ว เป็นการป้องกันการว่ากล่าวให้ร้ายของผู้อื่น ซึ่งเรื่องอยู่ที่ศาลแล้ว ส่วนผู้ฟ้องก็ได้ฟ้องไปที่ศาลแล้วเช่นกัน พรรคจะไปดำเนินการให้การแก้ข้อกล่าวหา ส่วนที่ฟ้องกลับก็ดำเนินการตามกฎหมาย เมื่อเรื่องไปอยู่ที่ศาลแล้วก็ต้องหุบปากแล้วก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมที่เราต้องเคารพ ส่วนที่นางกุสุมาลวตีเตรียมฟ้องหมิ่นประมาทเรียกค่าเสียหาย 30 ล้านบาทตนนั้น อยู่ในคำฟ้องอยู่แล้ว ตอนนี้อยู่ระหว่างรอว่าศาลจะให้ไปเบิกความอย่างไร แต่ก็ต้องเตรียมตัวหาทนายความไปเป็นตัวแทนให้

ผู้สื่อข่าวถามถึงคดีการเลือก สว. กรณีที่มีนักวิชาการแสดงความเห็นว่าเป็นเกมตัวแทนระหว่างฝ่ายสีแดงและสีน้ำเงิน โดยนายอนุทินตอบกลับว่า มันไม่มีตัวแทน เพราะไม่เกี่ยวข้องกับพรรค ภท. ตนเป็น สส.และรัฐมนตรี ส่วนที่จะเกี่ยวข้องกับ สว.มีเพียงแค่การถูกเรียกไปตอบกระทู้ชี้แจงและพบกรรมาธิการเท่านั้น

นายศุภชัย ใจสมุทร ทีมกฎหมายพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลจากสำนักข่าวอิศรา เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2564 มาอย่างต่อเนื่อง พบว่านายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็น 1 ใน 14 ผู้ถูกกล่าวหาคดีฟอกเงินการขายที่ดินของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น วงเงิน 477 ล้านบาท ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา 14 ราย ตั้งแต่ปี 2560 แต่สำนักงานอัยการคดีพิเศษ 4 สำนักงานอัยการสูงสุด ยังไม่มีความเห็นสั่งฟ้องคดีต่ออาญาต่อศาล จึงอยากเรียกร้องให้ดีเอสไอ และสำนักงานอัยการพิเศษ 4 ออกมาชี้แจงความคืบหน้าในส่วนของคดีอาญา ว่าทำไมยังไม่มีการสั่งฟ้อง    โดยพบข้อพิรุธของ 4 ผู้ต้องหาคดีฟอกเงินจาก 14 ราย   ได้แก่ ข้อ 1 นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ทราบว่ามีการสืบพยานโจทก์ครบแล้ว ปัจจุบันสืบพยานจำเลย ข้อ 2 นายณฐพร โตประยูร ที่มีความสนิทกับนายธาริต (เพ็งดิษฐ์) อดีตอธิบดีดีเอสไอ โดยพนักงานสอบสวนดีเอสไอได้ส่งสำนวนฟ้องไปยังอัยการพิเศษ 4 แล้ว แต่มีการเลื่อนไม่ส่งตัวฟ้องมาหลายปี ข้อ 3 พันตรีหญิง นาฏยา มุตตามระ   อดีตผู้อำนวยการส่วนช่วยอำนวยการและประชาสัมพันธ์ดีเอสไอ และข้อ 4 พันโท อมร มุตตามระ เมื่อช่วงดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่คดีพิเศษชำนาญการ สมัยนายธาริต เพ็งดิษฐ์ เป็นอธิบดีดีเอสไอ

 “บุคคลที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะนายณฐพร และอดีตข้าราชการดีเอสไอทั้งสองคน เป็นคนสนิทของนายธาริต ซึ่งเคยเป็นอัยการ และช่วยราชการสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รัฐบาลไทยรักไทย ก่อนย้ายมาเป็นอธิบดีดีเอสไอ จึงขอตั้งข้อสังเกตว่า ในเมื่อนายณฐพรซึ่งมีคดีฟอกเงินที่ดีเอสไอเป็นผู้สืบสวนสอบสวน และสำนักงานอัยการพิเศษพิเศษ 4 เป็นผู้มีหน้าที่สั่งฟ้อง แต่วันนี้ยังไม่เข้ากระบวนการพิจารณาชั้นอาญา จึงเรียกร้องให้ทั้งสองหน่วยงานดังกล่าวออกมาชี้แจง ว่าทำไมถึงยังไม่ฟ้องทั้งที่เวลาเนิ่นนานมามากแล้ว เพราะไม่ต้องการให้ถูกมองว่าเป็นการดึงเรื่องเพราะมีสายสัมพันธ์ที่ดีและเกื้อกูลกัน รวมถึงอาจใช้นายณฐพรเป็นเครื่องมือทางการเมืองมาเล่นงานพรรคภูมิใจไทยอยู่ในเวลานี้ใช่หรือไม่" นายศุภชัยกล่าว

ที่รัฐสภา นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีตผู้สมัคร สว. มายื่นหนังสือต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร  เพื่อร้องเรียนจริยธรรมนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย โดยเดินทางมาแบบไม่แจ้งสื่อมวลชนประจำรัฐสภาล่วงหน้า แต่ปรากฏว่าผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภาพบเข้าโดยบังเอิญ นางกุสุมาลวตีจึงกล่าวว่า วันนี้ตนไม่อยากดัง จึงแอบมายื่นร้องจริยธรรมนายอนุทิน ในฐานะ สส.และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย การรักษาศักดิ์ศรีเพราะเป็นปฏิบัติการรักษาศักดิ์ศรีของตัวเอง ปกป้องผลประโยชน์ของชาติ

 “คุณจะทำอะไรอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ คุณต้องเข้าใจหลักการ คุณต้องเป็นสุภาพบุรุษ การทำแบบนี้คือมันฟ้องศาลอาญาแล้ว ก็เลยมาแจ้งจริยธรรมในฐานะที่นายอนุทิน เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคภูมิใจไทย ผิดจริยธรรม และพี่ก็จะยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด้วย เอาให้หายซ่าไปเลย รู้จักแมวน้อยไป" นางกุสุมาลวตีกล่าว

เมื่อถามว่า จะเดินหน้าเต็มที่ไม่มีถอยใช่หรือไม่ นางกุสุมาลวตีกล่าวว่า ไม่มี ใครจะห้ามตนไม่ได้ ตอนนี้ก็มีคนห้ามตน ไม่ใช่มาสนับสนุน บอกว่าอย่าไปทำเขา เขาเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ตนจึงบอกว่าไม่เกี่ยวกับรัฐบาลไหนทั้งนั้น คุณทำผิดคุณก็ต้องรับผิด

 “คุณด่าฉัน คุณทำร้ายฉัน ก็ต้องมีบทลงโทษ ไม่ใช่จะทำอะไรก็ได้นะจ๊ะ” นางกุสุมาลวตีกล่าว

ที่สำนักงาน ป.ป.ช. คณะ สว.สำรอง นำโดย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว มายื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.เพื่อร้องขอให้ดำเนินคดีกับ สว.จำนวน 92 คน กรณียื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.เมื่อปลายเดือนที่แล้วเอาผิดนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง  รมว.ยุติธรรมและอธิบดีดีเอสไอ ในเรื่องการทำคดีฮั้วเลือก สว.ไม่ถูกต้อง โดย พล.ต.ท.คำรบกล่าวว่า การยื่นร้องของ สว.ดังกล่าวนั้นเป็นการก้าวก่ายการทำงานของข้าราชการประจำ เข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 185 (1) คณะ สว.สำรองจึงเดินทางมายื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. ในฐานความผิดมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรงของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

 "ท่านก้าวก่ายการทำงานของนายภูมิธรรม พ.ต.อ.ทวี  แม้พวกท่านจะเป็นข้าราชการฝ่ายการเมือง แต่ถือว่าท่านได้ดำรงตำแหน่งในฐานะประธานและรองประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ จึงถือเป็นการดำเนินงานของฝ่ายข้าราชการประจำ ดังนั้นการที่ท่านมาก้าวก่ายฟ้องร้อง คิดว่าท่านใช้อำนาจฝ่ายนิติบัญญัติกระทำการเพื่อประโยชน์ของตัวเอง ถือเป็นการกระทำผิดตามมาตรา 185 (1) และอาจถือว่าผิดตามมาตรา 111 (7) ทำให้หมดสมาชิกสภาพการเป็น สว.ได้เลยเมื่อขาดจริยธรรม" พล.ต.ท.คำรบกล่าว.