"จุลพันธ์” แจง กมธ.วุฒิสภา "เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" ขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ โดยเฉพาะท่องเที่ยว ฟุ้งเดินสายหลายคนเริ่มเข้าใจ ยันพรรคร่วมฯ หนุน ลั่นผ่านสภาวาระแรกพร้อมแก้ไข คาด 2 ปีจบ "อ.จรัญ" แนะทำศูนย์การแพทย์คุ้มทุนกว่า "อภิสิทธิ์" ค้านพนันชี้ธุรกิจใต้ดินขึ้นบนดินแก้ปัญหาผิด กม.ไม่ได้ ตอกรัฐบาลสถานบันเทิงครบวงจรหลายแห่งในโลกไม่มีกาสิโน "ภูมิธรรม” ปัดไม่มีใครรู้เรื่องสลับเก้าอี้ อำนาจนายกฯ คนเดียว คุยกับ "น้องเนวิน" ไร้ปัญหา
ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน เวลา 10.00 น. มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ วุฒิสภา ที่มี นพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) และประธาน กมธ. ทำหน้าที่ประธานการประชุม เชิญนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง มาให้ความเห็นนโยบายเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร
โดยนายอภิสิทธิ์ให้ข้อมูลต่อ กมธ.ว่า ไม่สนับสนุนเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพนัน ทุกรัฐบาลที่มีการเสนอ ตนไม่เห็นด้วย เพราะการนำธุรกิจใต้ดินมาอยู่บนดิน ไม่สามารถลดกิจกรรมที่ผิดกฎหมายได้มากนัก การนำขึ้นมาบนดินต้องมีกฎเกณฑ์กติกากำกับ สิ่งที่ต้องจับตาคือเงื่อนไขให้คนไทยไปเล่นการพนันที่มีหลักเกณฑ์ต้องมีเงินในบัญชี 50 ล้านบาท เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อจำกัดคนเล่นนั้น คงไม่ตอบโจทย์การนำสิ่งผิดกฎหมายขึ้นมาบนดิน ซึ่งรัฐบาลมีความมุ่งมั่นผลักดันนโยบายนี้เป็นพิเศษ เมื่อเทียบกับนโยบายอื่นๆ
อีกเหตุผลที่คัดค้านคือ การส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยอ้างสิงคโปร์เป็นกรณีความสำเร็จ แต่ขนาดประเทศไทยกับสิงคโปร์จะเอามาเทียบเคียงได้จริงหรือไม่ สิ่งที่ห่วงสุดคือยังไม่เห็นการศึกษาของรัฐบาลที่มีสมมติฐานเกี่ยวกับการเปิดสถานประกอบการอันนี้ แล้วจะเกิดประโยชน์ต่างๆ มีแต่หยิบตัวเลขที่กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานคำนวณแบบหยาบๆ และเทียบบัญญัติไตรยางศ์ของสิงคโปร์ ที่น่าเป็นห่วงกว่าคือการใช้ตัวเลขอ้างอิงของการศึกษาภาคเอกชนเชิงธุรกิจ ซึ่งประโยชน์ที่เกิดขึ้นในทางธุรกิจกับผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับประเทศเป็นคนละเรื่องกัน รู้สึกหงุดหงิดที่คนในรัฐบาลต่อว่าสถานบันเทิงครบวงจรคือกาสิโนเป็นการบิดเบือน ไม่แน่ใจคนบิดเบือนเป็นใครกันแน่ เพราะจริงๆ สถานบันเทิงครบวงจรหลายแห่งในโลกไม่มีกาสิโน
จากนั้น นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง ชี้แจงต่อ กมธ. ถึงความคืบหน้าและที่มาที่ไปของร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ..... ว่า ไอเดียนี้เริ่มตั้งแต่ยุคนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตัวใหม่ จึงมีการตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง จากนั้นกฎหมายเข้าไปสู่กระทรวงการคลัง มีการปรับปรุง ก่อนจะรับฟังความคิดเห็นทำประชาพิจารณ์ถึง 3 รอบ พบว่ามีคนเห็นด้วยถึง 80% ซึ่งทันทีที่เปิดสมัยประชุมสภาจะมีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดคุยเป็นเรื่องแรก ทั้งนี้ หากผ่านสภาวาระแรกไปแล้วจะมีการแก้ไขก็ยินดี เพราะรัฐบาลไม่มีธง ถ้าจะแก้ไขให้สบายใจเป็นเรื่องของสภา แต่มั่นใจว่าเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว
นายจุลพันธ์กล่าวว่า ในช่วงปิดสมัยประชุมสภา ได้เดินสายพูดคุยกับฝ่ายต่างๆ ทั้งหอการค้าฯ สภาอุตสาหกรรมฯ ซึ่งได้รับการสนับสนุนที่ดี แต่มีความเป็นห่วงเรื่องสังคม เราพูดคุยกับโอเปอเรเตอร์ ซึ่งเขามีความสนใจ เพราะที่ผ่านมามีการประสานงานมาเป็นปีแล้ว แต่ตนปฏิเสธตลอด แต่วันนี้กฎหมายเข้าสภาแล้ว จึงจำเป็นต้องรับฟังผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจนี้มา และจากการรับฟังความคิดเห็น มีการเสนอให้มีมาตรฐานระดับโลก มีกฎหมายค่อนข้างรัดกุม มีการป้องกันการติดการพนันและการฟอกเงินด้วย
กมธ.ติงรัฐบาลย้อนแย้ง
หลังจากนั้น นายคํานูณ สิทธิสมาน อดีต สว. ในฐานะ กมธ. ตั้งคำถามว่า เป้าหมายของรัฐบาลดูเหมือนย้อนแย้งกัน ทางหนึ่งต้องการเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว แต่อีกทางต้องการจะขจัดการพนันเถื่อน ซึ่งทั้ง 2 เรื่องนี้ไปพร้อมกันไม่ได้ พร้อมถามว่ามีข้อมูลหรือไม่ว่ากาสิโนจะมีจุดคุ้มทุนเมื่อมีสัดส่วนของผู้เล่นในประเทศเท่าไหร่ ซึ่งกฎหมายนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงเรื่อยๆ เพราะเมื่อผ่านชั้น สส. ต้องไปเจอ สว. เหมือนการผจญภัย
ทำให้นายจุลพันธ์ตอบว่า ไม่ใช่เรื่องย้อนแย้งกัน เป้าหมายเรามี 2 มิติอยู่แล้ว เรื่องแรกคือรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เพราะการลงทุนแสนกว่าล้าน จีดีพีก็ขึ้น อีกเรื่องคือการลดการพนันผิดกฎหมาย ถ้าจะบอกให้หมดไปเลยคงไม่ได้ ส่วนข้อกังวลเรื่องการฟอกเงินนั้น ข้อเท็จจริงกลไกและเทคโนโลยีในปัจจุบันทำให้กระบวนการในการฟอกเงินที่นี่ไม่ใช่ตัวเลือก เพราะยากลำบาก มีกล้องจับอยู่ตลอดเวลา กระบวนการนำเงินเข้าสามารถตรวจสอบได้ว่าเงินมาจากแหล่งไหน ถ้ากลไกและการกำกับดูแลของเราเป็นไปโดยรัดกุมป้องกันได้
ด้านนายจรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในฐานะ กมธ. ตั้งคำถามว่า ทำไมไม่ทำศูนย์การแพทย์ ซึ่งจะคุ้มทุนมากกว่า จะมีรายได้เข้าประเทศเยอะมาก ตนคิดแบบบ้านๆ เราได้ 30% เจ้าของทุนได้ 70% เป็นแบบนี้หรือไม่ แล้วทำไมรัฐบาลไม่ลงทุนเอง เงิน 5 แสนล้านบาทที่ละลายแม่น้ำ เอามาลงทุนให้เกิดขึ้นจริง
จากนั้นนายจุลพันธ์ชี้แจงว่า กระบวนการแก้กฎหมายหลักการและเหตุผลทำได้ยาก แต่โมเดลการทำเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เป็นแบบนี้จริงๆ ซึ่งจะมีผลในเรื่องของการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีนัยสำคัญ แต่อย่างอื่นๆ เราไม่ได้ละทิ้ง ทั้งในเรื่องของสุขภาพ การลงทุนที่เป็นอินดอร์สเตเดียม เราดึงการแข่งขันที่เป็นระดับโลก
ก่อนการประชุม นายจุลพันธ์ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเสนอการถอนเรื่องกาสิโนออกไปจากการทำธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรว่า เรื่องนี้เป็นโมเดลทางธุรกิจที่ต่างประเทศใช้เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว จะตัดกาสิโนออกไปได้หรือไม่ ต้องยอมรับว่าธุรกิจแบบนี้ เช่น อยากได้คอนเสิร์ต หรือจัดเวทีรับกิจกรรมระดับโลก ที่ต้องลงทุน 3-5 หมื่นล้านบาท ขนาดความจุ 7 หมื่นที่นั่ง การลงทุนแบบนี้เมื่อไรจะคืนทุน การตัดสินใจลงทุน ต้องดูองค์ประกอบต่างๆ เช่น ความคุ้มค่าทางธุรกิจ หากจะดึงเขามาวันนี้โดยใช้เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะเป็นได้จริง
เมื่อถามถึงความคืบหน้าการเดินสายทำความเข้าใจกับพรรคภูมิใจไทยที่ยังเห็นต่าง นายจุลพันธ์กล่าวว่า ไม่ได้ยิน เป็นความเห็นของ สส. ในคณะรัฐมนตรีมีหัวหน้าทุกพรรคและผู้บริหารอยู่หลายคน ทั้งนี้ การส่งกฎหมายโดย ครม. ทางพรรคร่วมรัฐบาลได้ให้ความเห็นชอบมาแล้ว ส่วนรายละเอียดเป็นเรื่องปกติ ไม่มีกฎหมายหรือความเห็นเรื่องใด ที่เห็นตรงกันทั้งหมด ไม่งั้นรวมพรรคกันไปแล้ว ซึ่งในวันนี้มีความเห็นต่างและขั้นตอนต้องใช้สภา จึงไม่ต้องเคลียร์ เพราะทุกฝ่ายเข้าใจตรงกัน
ผู้สื่อข่าวถามถึงการผลักดันร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ก่อนหมดสมัยประชุมสภา นายจุลพันธ์กล่าวว่า เป็นโจทย์ที่จะพยายามทำให้เสร็จ เพราะคือการสร้างความมั่นใจให้การลงทุนทุกประเภท หากสามารถเดินหน้ากฎหมายสำคัญทำให้เป็นรูปร่าง จับต้องได้จริงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งเวลา 2 ปี เพียงพอที่จะแก้ไขให้เหมาะสม ส่วนกรณีที่อาจมีประเด็นที่ สว.เห็นแย้งและต้องชะลอกฎหมายออกไป ถือเป็นขั้นตอนทางสภา
อ้วนคุยเพิ่มพูนไร้ปัญหา
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) โยกไปนั่ง รมว.ศึกษาธิการ โดยพรรคเพื่อไทยจะยอมเสียเพิ่มอีก 1 กระทรวงให้พรรค ภท. มีความเป็นไปได้หรือไม่ ว่าเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี และขณะนี้ทุกคนไม่ได้หวั่นไหว หรือบอกว่าตัวเองจะไปอยู่ตรงไหน เพราะเราต่างคนต่างมีหน้าที่ที่ต้องทำจนกว่าจะมีคำสั่งหรือมีการปรับที่เป็นจริงเกิดขึ้น ไม่มีใครรู้เลยเรื่องจะสลับเก้าอี้หรืออะไร
นายภูมิธรรมกล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ได้นั่งรับประทานอาหารกับ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เราคุยกันดีทุกอย่าง ไม่มีปัญหาอะไรเลย ตนยืนยันรอนายกฯ ดำริ ซึ่งคิดอยู่ในใจ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจ ถ้านายกฯ บอกภูมิธรรมออกไปอยู่พรรค ตนก็ต้องออก หรือย้ายไปกระทรวงไหนก็ต้องไป อยู่ที่เดิมต้องทำหน้าที่
เมื่อถามอีกว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้ จะเป็นการเซตซีโรตำแหน่งในรัฐบาลใหม่ทั้งหมด ไม่เหมือนข้อตกลงเดิมใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เป็นความคาดหวัง หรือเป็นการคาดเดาของประชาชนหรือของสื่อมวลชน เราไม่ได้คิดอะไรไปตามคำถามที่เพิ่มมากขึ้น แต่ถ้าเริ่มมีการคิด การคุย แล้วมาถามว่าจะไปตรงนั้นตรงนี้ อันนั้นค่อยว่ากันอีกที แต่ตอนนี้ยืนยันได้ว่าไม่มี
วันเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย ในคดีที่นายพีรพงษ์ ทรัพย์กิจธนากุล ขอให้ศาลวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) หรือไม่ จากเหตุนำชื่อของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ ทั้งที่รู้หรือควรรู้ว่าบุคคลดังกล่าวกระทำผิดตามคำพิพากษาของศาลออสเตรเลีย มีประเด็นข้อกังขาเกี่ยวกับจริยธรรมและความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) และมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (5) โดยศาลรัฐธรรมนูญอภิปรายแล้วเห็นว่า นายพีรพงษ์ ผู้ร้องมิได้เป็นผู้มีสิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ในคดีนี้ได้ กรณีไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา170 ประกอบมาตรา 82 ที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะรับไว้พิจารณาวินิจฉัย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา
หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.
"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.
แบบพระเมรุมาศเสร็จม.ค. สานพระราชปณิธานผ้าไทย
"อธิบดีกรมศิลป์" เผยแบบก่อสร้างพระเมรุมาศ “พระพันปีหลวง” แล้วเสร็จ ม.ค.69


