คุม‘ณฐพร-ลูก’เข้าคุก! วืดประกัน‘คดีฟอกเงิน’

นักร้องขาลง! ศาลอาญารับฟ้อง  “ณฐพร” กับลูก คดีสมคบกันฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่น กว่า 249 ล้าน ก่อนสั่งไม่ให้ประกัน คุมตัวเข้าเรือนจำทั้ง 2 คน ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง "ณฐพร" ให้เอาผิด กกต.ฐานปล่อยฮั้ว สว. ส่วน "สว.สำรอง" แห่ให้กำลังใจประธาน กกต. อย่าเพิ่งลาออก แต่ให้ "เลขาฯ กกต." พิจารณาตัวเอง

เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2568 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4  เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน   อายุ 72 ปี นายรัฐสิทธิ์ โตประยูร บุตรชาย อายุ 50 ปี เป็นจำเลย ในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน

โจทก์ยื่นฟ้องว่า สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด มีฐานะเป็นนิติบุคคล มีวัตถุประสงค์เป็นสหกรณ์ ที่เป็นสถาบันการเงินและสวัสดิการชุมชน  ส่งเสริมให้สมาชิกช่วยตัวเองเพื่อดำเนินธุรกิจและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ส่งเสริมการออมทรัพย์ จัดหาทุนและบริการสินเชื่อเพื่อการประกอบอาชีพและการดำรงชีพ โดยการบริหารและดำเนินการของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น มีนายศุภชัย ศรีศุภอักษร จำเลยที่ 5 สำนวนของศาลอาญานี้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการสหกรณ์ฯ 

ต่อมา คณะพนักงานสืบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ และเจ้าหน้าที่ ปปง. มีความเห็นว่า  พฤติการณ์ของนายศุภชัยกับพวก เป็นการกระทำความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ก่อนมีคำสั่งให้อายัดที่ดินจำนวน 36 แปลง ที่เกี่ยวข้องกับการร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และแต่งตั้งคณะทำงานประสานงานในการดำเนินการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายเพื่อดำเนินการคุ้มครองสิทธิ์ของผู้เสียหาย และมีมติให้นำที่ดินดังกล่าวออกขายเพื่อนำเงินคืนสหกรณ์ฯ  และเยียวยาความเสียหายแก่สหกรณ์ฯ โดยด่วน

จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าพนักงานหรือหน่วยงานของรัฐ และนายศุภชัย และนายโชคอนันต์ ช้อยสุชาติ  จำเลยที่ 2 ในคดีอาญาหมายเลขดำ ฟ.10/2562 ของศาลนี้ ซึ่งศาลอาญาได้มีคำพิพากษาให้ลงโทษ แล้วได้ร่วมกันสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน โดยจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันวางแผนสมคบกัน โดยนายศุภชัยและนายโชคอนันต์โอนเงินจำนวน 249,784,489 บาท ที่ได้รับแคชเชียร์เช็คมาจากผู้ซื้อที่ดิน โดยโอนเงินผ่านระบบธนาคารโอนเข้าบัญชีนายศุภชัย  ก่อนโอนเงินผ่านระบบธนาคารเพื่อนำเงินที่ได้จากการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน โอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของจำเลยทั้งสองกับพวก  หรือให้จำเลยทั้งสองกับพวกรับเงินสดหรือรับโอนเงินไป อันเป็นการสมคบการฟอกเงิน

ก่อนที่จำเลยทั้งสองจะโอนเงินให้แก่พวกของจำเลยทั้งสองซึ่งยังหลบหนีไม่ได้นำตัวมาฟ้อง จึงเป็นการร่วมกันโอนหรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้น หรือจะทำการด้วยประการใดๆ เพื่อปกปิดหรืออำพรางลักษณะที่แท้จริงการได้มาแหล่งที่ตั้ง การจำหน่าย การโอน การได้สิทธิ์ใดๆ ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐานนั้น อันเป็นความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน

เหตุเกิดที่แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ   กรุงเทพฯ ตำบลลาดบัวขาว และตำบลใดไม่ปรากฏชัด อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา และตำบล อำเภอ จังหวัดใดไม่ปรากฏชัดของประเทศไทยเกี่ยวพันกัน ชั้นสอบสวนจำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

การกระทำของจำเลยตามข้อความที่กล่าวมาในคำฟ้อง เป็นความผิดต่อพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3, 5, 9, 10, 60 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2558 มาตรา 10 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2526 มาตรา 4 และขอให้เพิ่มโทษจำเลยที่ 1 สองเท่าตามกฎหมายด้วย

ต่อมาภายหลังศาลประทับรับฟ้อง ซึ่งนายณฐพรและนายรัฐสิทธิ์ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างการพิจารณาคดี ศาลพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหา คดีมีอัตราโทษสูง พฤติการณ์ของจำเลยทั้งสองกับพวกแบ่งหน้าที่กันทำ กระทบต่อความมั่นคงในทางเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนในวงกว้าง กรณีเป็นเรื่องร้ายแรง หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวมีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยทั้งสองจะหลบหนีจึงไม่อนุญาต

ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวจำเลยทั้งสองไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ 

วันเดียวกันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยในคดีที่นายณฐพรและคณะ ยื่นขอคัดค้านคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ 36/2568 ลงวันที่ 9 เม.ย.2568 ที่สั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย กรณีร้องขอให้เอาผิดคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)  เนื่องจากปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบปล่อยให้มีการฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา

โดยนายณฐพรขอให้ทบทวนคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว รวมทั้งขอให้มีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องต่อเนื่องและเอกสารประกอบ มีลักษณะเป็นการขออุทธรณ์คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 ไม่มีบทบัญญัติให้บุคคลมีสิทธิอุทธรณ์คำวินิจฉัยหรือคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ นายณฐพรจึงไม่อาจอุทธรณ์คำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 213 นายณฐพรจึงไม่อาจยื่นคำร้องดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ได้

ศาลรัฐธรรมนูญประชุมพิจารณาคำร้องของประธานวุฒิสภา ส่งให้ศาลวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่

ศาลรัฐธรรมนูญอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัย และเพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณาคดี จึงให้รอความเห็นและเอกสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญเรียกไปก่อนหน้านี้

ที่สำนักงาน กกต. คณะ สว.สำรอง นำโดย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว เข้ายื่นหนังสือต่อ กกต. เพื่อเรียกร้องความสุจริตและโปร่งใสในการตรวจสอบการเลือก สว.ปี 2567 โดยยก 4 ประเด็น โดย พล.ต.ท.คำรบกล่าวว่า มีข่าวว่านายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. จะลาออกก่อนกำหนด จึงมีข้อห่วงใยว่าท่านอาจถูกกดดันด้วยมือที่มองไม่เห็นหรือไม่ หรือเพราะความสัมพันธ์ส่วนตัวของท่านกับใครบางคนที่ทำให้ท่านอึดอัด อยากให้ท่านเข้มแข็ง ดูแลการตรวจสอบการเลือก สว.ที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรมให้เรียบร้อยสะเด็ดน้ำ โดยไม่หวั่นไหวต่อแรงกดดัน

นอกจากนี้ ขอให้ทบทวนคำวินิจฉัยของ กกต.ที่ 5/2568 ลงวันที่ 6 ม.ค.2568 กรณียกคำร้องไม่เอาผิดนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ที่ถูกกล่าวหาว่าละเลยละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ป้องกันการนำโพยจัดตั้งเข้ามาในที่เลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2567 และยืนยันขอให้มีการดำเนินการตั้งคณะกรรมการทางคดีวินัยแก่นายแสวง ตามที่ พ.ต.อ.มนัส นครศรี อดีตผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดสมุทรปราการ ระหว่างนี้ และเรียกร้องขอให้นายแสวงได้พิจารณาตัวเองโดยลาออก หรือเว้นวรรคในการปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ  กกต. จนกว่าการพิจารณาเรื่องตรวจสอบการเลือก สว.ปี 2567 จะแล้วเสร็จ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน

ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี

อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก

นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม