‘เพื่อไทย’ดาหน้าไล่‘หนู’

เพื่อไทยดาหน้าประกาศแยกทางภูมิใจไทย “สุทิน” ชี้ “อนุทิน” แค่อยากรักษาสถานะตัวเอง ใช้วิธีต่อรอง ขู่ จี้ปรับ ครม.เร็วๆ อ้างทำให้นโยบายรัฐบาลเป็นรูปธรรม “วรชัย”   ตะเพิด “อนุทิน” ไปเป็นฝ่ายค้าน “อนุสรณ์” ยุส่งออกจากรัฐบาลไปเสีย อยู่ที่ไหนก็ทำงานเพื่อประชาชนได้

เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2568 นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ประกาศพร้อมเป็นฝ่ายค้านหากโดนยึดเก้าอี้ มท.1 ว่า มองว่าเป็นเรื่องของความพยายามที่อยากจะรักษาสถานะของตัวเอง ไม่เพียงแค่นายอนุทินเท่านั้น แต่รวมถึงทุกคนทุกพรรคที่คาดว่าจะถูกปรับออก ซึ่งก็แสดงออกได้หลายวิธีการ ทั้งการต่อรอง ขู่ หรือขอความเห็นใจ ซึ่งตนเชื่อว่าสังคมพอจะมองออกว่าบุคคลใดใช้วิธีการอย่างไร ทั้งนี้ หากเป็นประเทศที่ไม่คุ้นชินกับการมีรัฐบาลผสมก็เป็นเรื่องที่น่าห่วง แต่ไทยเราเป็นประเทศที่มีประสบการณ์สูงในเรื่องของรัฐบาลผสม แม้ว่าจะรู้สึกน้อยใจ งอน หรือมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่เราก็จะมีวิธีการที่จะหาจุดลงตัวได้เสมอ

“ส่วนตัวผมมองว่าถึงเวลาปรับ ครม.แล้ว  เพื่อให้หลายนโยบายเดินหน้าเป็นรูปธรรม นำไปสู่การผลักดันผลงานต่างๆ เพื่อประชาชน การปรับ ครม.ถือเป็นเรื่องปกติ แต่ในบริบททางการเมืองรวมถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในขณะนี้  หากไม่เอื้ออำนวยให้มีการปรับก็เป็นเรื่องน่าห่วง  ทั้งหมดขึ้นอยู่กับท่านนายกฯ ที่จะชั่งน้ำหนัก รวมถึงต้องดูภูมิต้านทานของรัฐบาลด้วย หากเรามีภูมิต้านทานที่แข็งแรงก็ปรับได้ ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเรามีภูมิต้านทานที่ยังเปราะบางก็ยังไม่เหมาะ แต่ผมเชื่อว่าท่านนายกฯ จะวิเคราะห์สถานการณ์และตัดสินใจเรื่องปรับ ครม.ได้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพราะท่านเองก็มีคณะทำงาน มีทีมที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์ผ่านเรื่องนี้มาเยอะ" นายสุทินกล่าว       

ด้านนายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ  พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า สิ่งที่ประชาชนเห็นอยู่วันนี้เขาเห็นว่ารัฐบาลทำงานกันคนละทิศละทาง ความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยกับภูมิใจไทยมีให้เห็นหลายครั้งในการพิจารณากฎหมายต่างๆ รวมถึงการทำงานของแต่ละกระทรวงก็ไม่สอดประสานกัน ถ้ายังเป็นอยู่อย่างนี้ ประเทศชาติและประชาชนเสียประโยชน์ เมื่ออยู่กันไม่ได้ก็ควรต่างคนต่างเดิน ไม่ควรทำงานด้วยกันต่อ  เพราะเห็นว่าความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทยมีแต่จะลุกลามขยายตัวขึ้นทุกวัน ไม่มีท่าทีจะกลับมาดีเหมือนเดิม ทำให้เห็นว่าประเทศไทยไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้เลย 

“เมื่อคุณอนุทินให้สัมภาษณ์ขู่ว่าพร้อมเป็นฝ่ายค้าน ผมว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุด เพราะคุณอนุทินก็อยู่ในภาวะที่อยู่อย่างอึดอัด ทำงานด้วยกันไม่ได้ควรจะแยกกันเดิน ต่างคนต่างทำหน้าที่ให้ประชาชนในบทบาทที่เลือก ไม่ว่าเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็ทำงานให้ประชาชนได้ ในอนาคตหากพรรคภูมิใจไทยสามารถเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชนจนชนะเลือกตั้งได้ วันนั้นคุณอนุทินก็สามารถเป็นนายกฯ ทำงานให้ประชาชนได้ จึงควรถือโอกาสนี้จังหวะนี้ที่สถานการณ์สุกงอมในการปรับคณะรัฐมนตรี แยกทางในจังหวะที่ประชาชนก็ไม่ได้ต่อว่า ทำให้คุณอนุทินจะไม่เสียหายทางการเมือง” อดีต สส.ผู้นี้กล่าว

ขณะที่ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เลื่อนประชุม ครม.สัญจร พิษณุโลก 23-24 มิ.ย.นี้ออกไปก่อน  เนื่องจากติดภารกิจไปต่างประเทศ และอาจรอให้การปรับ ครม.แล้วเสร็จก่อนว่า การปรับคณะรัฐมนตรีจะปรับเมื่อไหร่ไม่มีผู้ใดทราบ เพราะอำนาจการปรับคณะรัฐมนตรีอยู่ที่ท่านนายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียว ขอให้เชื่อมั่น น.ส.แพทองธาร หากปรับ ครม.การทำงานของรัฐบาลก็จะดีขึ้นด้วย รัฐมนตรีใหม่ วิธีคิด วีธีนำการทำงานแบบใหม่ หากยังไม่ปรับ รัฐมนตรีชุดปัจจุบันก็ยังสามารถทำงานได้ ถ้าสังเกตจะพบว่านายกรัฐมนตรีไม่ติดยึดเรื่องปรับหรือไม่ปรับ ครม. แต่สถานการณ์โลกสถานการณ์ประเทศ ณ เวลานี้ การแข่งขันสูง ทุกคนจึงต้องตั้งตนบนความพร้อมสูงสุด ใช้เวลาในการเป็นรัฐมนตรีให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน 

นายอนุสรณ์กล่าวว่า รัฐมนตรีที่จะปรับเข้ามาใหม่ ก็ขอให้ตั้งตนบนความพร้อม เพราะงานของรัฐบาลรอไม่ได้ ไม่มีช่วงเวลาฮันนีมูนพีเรียด  เพราะความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชนรอไม่ได้ ส่วนการที่พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคจะมีปัญหาภายในก่อนการปรับ ครม.หรือไม่นั้น ถือเป็นวิถีของแต่ละพรรคที่จะต้องบริหารจัดการแก้ไขปัญหาภายในพรรคของตัวเองให้ดี อย่าให้ปัญหาภายในของพรรคของตัวเองส่งผลกระทบต่อรัฐบาล ส่วนกรณีที่บางพรรคแสดงอาการไม่พอใจหากถูกปรับเปลี่ยนกระทรวงนั้น ขอให้เชื่อมั่นนายกรัฐมนตรี แต่หากพรรคร่วมพรรคนั้นอยู่เป็นรัฐบาลร่วมกันแล้วไม่มีความสุข ไม่สามารถพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงเพื่อยกระดับให้งานของรัฐบาลขับเคลื่อนได้ดีขึ้น ก็สามารถตัดสินใจออกไปเป็นฝ่ายค้านได้ ถือว่าเป็นวิถีของการเมืองในระบอบประชาธิปไตย อยู่ตรงไหนก็สามารถทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนได้

“หลายปัญหาทั้งภายในและภายนอกประเทศ เชื่อว่าท่านนายกฯ สามารถแก้ไขได้ ไม่ว่าจะ ครม.เดิมหรือ ครม.ใหม่ เชื่อว่าทุกฝ่ายจะทำหน้าที่ได้อย่างดี” นายอนุสรณ์กล่าว 

นายพลพีร์ สุวรรณฉวี สส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย ตอบโต้นายอนุสรณ์ว่า สส.ท่านนี้เอาอำนาจอะไรมาพูด เพราะอำนาจปรับ ครม.อยู่ที่ท่านนายกฯ พรรคร่วมรอฟังท่านนายกฯ เท่านั้น แต่เสียงแมลงหวี่แมลงวันมันก็ทำให้รำคาญได้ 

นายพลพีร์กล่าวว่า ในฐานะที่เป็น สส.เขต  ลงพื้นที่ตลอด ประชาชนไม่ได้อยากเห็นการปรับ ครม. แต่ชาวบ้านกังวลเรื่องปากท้อง การทำมาหากิน ชาวบ้านอยากเห็นการช่วยเหลือตรงนี้ นี่ต่างหากสิ่งที่นักการเมืองควรลงไปดูแลแก้ไข นอกจากนั้นเรายังมีปัญหาชายแดนที่ลุกลามบานปลาย สุ่มเสี่ยงถึงขั้นเสียดินแดน แบบนี้มันใช่เวลามาสนใจเรื่องปรับ ครม.อีกหรือ รู้หรือไม่ว่าตอนนี้ราคามันที่ตกต่ำมาก ทำให้ชาวสวนมันขาดทุนกันทั่วประเทศ สินค้าทุกอย่างแพง แต่รายได้คนไทยกลับน้อยลง ส่วนข่าวเรื่องปรับ ครม. ก็อย่าไปหมกมุ่นกันมาก ยิ่งวุ่นวายไปภาพลักษณ์ของประเทศยิ่งไม่น่าเชื่อถือ แล้วใครอยากมาลงทุน

“เราควรมาจัดลำดับความสำคัญของปัญหา แล้วเร่งแก้ไข ตอนนี้มีปัญหาปากท้อง ปัญหาชายแดน ก็จัดการไปก่อน ส่วนเรื่องปรับ ครม. ซึ่งเป็นเรื่องการเมือง อย่างที่หลายๆ คนรู้ ก็เพลาๆ ลงบ้าง ส่วนพวกแมลงหวี่แมลงวันก็เลิกส่งเสียงได้แล้ว เราจะได้เห็นข่าวที่มันเชื่อถือได้จริงๆ ไม่ใช่มีแต่เสียงหึ่งๆ ของแมลงวัน หาสาระไม่ได้” สส.นครราชสีมากล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'วิสุทธิ์' จองโควตารองประธานสภาฯ ให้ สส.อีสาน เพื่อไทย

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการโหวตเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 หลังนายภราดร ปริศนานันทกุล

'สส.บุรีรัมย์' ถลกหนัง 'บิ๊กอ้วน' สมัยนั่งกลาโหม ถูกเขมรหยามหนัก อาจถึงขั้นเสียดินแดน

นายสนอง เทพอักษรณรงค์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบุรีรัมย์ ระบุว่า ปัจจุบันพรรคภูมิใจไทยทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างสร้างสรรค์ หลังตัดสินใจถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลเมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา

สื่ออาวุโสซัด ‘ทักษิณ-ตระกูล’ ไม่เคยสำนึก คือต้นตอปัญหาประเทศ!

สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์หลังฟัง “ทักษิณ” เปิดวิสัยทัศน์บนเวทีเครือเนชั่น ชี้อดีตนายกฯ มองแต่คนอื่นคือปัญหาของประเทศ แต่ไม่เคยสำนึกเล

'ดร.ปิติ' ทนฟังไม่ไหว! ยกพุทธศาสนสุภาษิต คนโกหกที่ไม่ทำชั่วนั้น ไม่มี

รศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม ผู้อำนวยการบริหาร มูลนิธิอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย และอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หลังฟัง 2 talks