‘อิ๊งค์’ขอตรงๆมท.ให้พท. ‘เสี่ยหนู’ยันทำหน้าที่เดิม

"อนุทิน" ขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าพบนายกฯ หารือ 1 ชม.ครึ่ง อ้างคุยเรื่องงานไม่มีเรื่องปรับ ครม. มั่นใจเก้าอี้ มท.1 เหนียวแน่น โอ่นายกฯ สั่งงานข้ามปี ชี้ “ทักษิณ” ขอ มท.ให้ พท.แค่สวมบทนักวิเคราะห์ อุทาน "โอ้ย โล่งอก" ก่อนเข้าประชุม ภท. ด้าน "โฆษก พท." เผยเตรียมกำชับลูกพรรคหลังไล่ "อนุทิน" พ้นพรรคร่วมฯ รับกังวลหาก "ภูมิใจไทย" แยกทางจริง เหตุเสียงในสภาหายกว่า 70 เสียง เชื่อไม่น่าเกิดขึ้น

ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 14.55 น. วันที่ 16 มิถุนายน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เดินลงจากตึกบัญชาการ 1 เพื่อไปขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า เข้าพบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าเป็นการหารือเรื่องอะไร มีเรื่องการเมืองหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวเพียงว่าคุยหลายเรื่อง 

เมื่อถามว่า หากนายกฯ ประสงค์จะเปลี่ยน รมว.มหาดไทย มองว่าเป็นอำนาจของนายกฯ หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “เห้ย มันไม่ใช่ อันนี้มันเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาล ถ้ามีการหารือกันในการปรับตำแหน่งในโควตาพรรคร่วมรัฐบาล ก็ไม่ใช่การหารือระหว่างนายกฯ กับรัฐมนตรี แต่เป็นการหารือระหว่างหัวหน้าพรรคกับหัวหน้าพรรค” เมื่อถามย้ำว่า จบตั้งแต่ดีลช็อกมินต์แล้วใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ตนก็ยังยืนยันเช่นนั้น

ต่อมาเวลา 16.30 น. นายอนุทินกล่าวภายหลังเข้าพบหารือกับ น.ส.แพทองธาร โดยใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง 30 นาที ว่าไม่ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องการปรับ ครม. พร้อมกล่าวแซวว่าท่านนายกฯ แอบมองมาจากข้างบน (ตึกไทยคู่ฟ้า) แล้ว

 ผู้สื่อข่าวถามว่า คุยกันเป็นชั่วโมงเรื่องอะไรกัน นายอนุทินกล่าวว่า คุยเรื่องงาน งานเยอะมาก ท่านขอให้เน้นไปยังผู้ว่าราชการทุกจังหวัด ในเรื่องยาเสพติดก็ต้องเข้มงวดกว่านี้ ตนก็ได้เรียนท่านนายกฯ ไปว่า เรื่องยาเสพติดต้องให้เป็นหมู่บ้านสีขาว ตนได้รับคำบัญชาจากนายกฯ แล้วว่า ต้องมีมาตรการปราบปรามยาเสพติดอย่างเต็มที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องให้ความสำคัญเป็นเรื่องแรก ย้ำว่าไม่มีเรื่องการปรับ ครม.

เมื่อถามว่า เป็นสัญญาณว่านายอนุทินได้นั่งเก้าอี้ รมว.มหาดไทยต่อใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นครับ” แค่คุยกันว่าเรื่องยาเสพติดมีอะไรล่าช้าไปบ้าง เมื่อถามย้ำว่า มีความกังวลเก้าอี้มหาดไทยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนเคยแสดงความกังวลด้วยหรือ เมื่อถามอีกว่า ได้ย้ำกับนายกฯ หรือไม่ว่าเก้าอี้ รมว.มหาดไทยต้องเป็นของภท. นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ได้ย้ำเพราะไม่ได้คุยเรื่องนี้เลย

ถามว่า นายกฯ ยังไม่แจ้งหรือว่าจะมีการปรับ ครม.หรือยึดเก้าอี้ มท.คืน นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ได้พูด ส่วนกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เคยระบุว่าต้องยึดกระทรวงมหาดไทยให้พรรคเพื่อไทยดู ท่านก็ออกตัวว่าพูดในฐานะส่วนตัวและเป็นนักวิเคราะห์การเมือง แต่คนที่มีหน้าที่รับผิดชอบรัฐบาลคือนายกฯ

เมื่อถามว่า อะไรทำให้มั่นใจว่าจะได้ดูกระทรวงมหาดไทยต่อ นายอนุทินกล่าวว่า “ดูจากท่าทีการสนทนา  เพราะตอนแรกนึกว่าท่านจะพูดเรื่องนี้ แต่ท่านก็ไม่ได้พูด  ท่านเรียกไป ผมก็ไปพรีเซนต์งาน ถามอะไรมาผมก็ตอบทุกเรื่อง ซึ่งท่านไม่ได้ถามเรื่องการปรับ ครม. ยอมรับว่าคิดเต็มหัวเลย แต่ท่านยังสั่งงานข้ามปีอยู่เลย"

ถามว่า ในส่วนของ ภท.ไม่มีการปรับเก้าอี้อะไรใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า พรรค ภท.ก็นิ่งมาตลอด ตั้งแต่สมัยรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ไม่ค่อยมีปัญหาเป็นพรรคเล็ก

"ก่อนผมจะเดินลงมา ก็ยังบอกเลยว่าเรื่องปรับ ครม.ไม่มีการพูดกันนะ เพราะมีคนไปรายงานว่านักข่าวเต็มเลย หนาวเลยตอนผมเดินลงมา" นายอนุทินกล่าวเมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้นายกฯ เคยระบุว่าคิดถึงเรื่องการปรับ ครม. 

เมื่อถามอีกว่า สถานการณ์พรรคร่วมฯ ขณะนี้ควรต้องมีการนัดดินเนอร์เพื่อพูดคุยกันหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ให้คนที่มีปัญหาเคลียร์ใจกันไป ตนไม่มีปัญหากับใคร

ต่อมาที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทินให้สัมภาษณ์อีกครั้งจะมีการนำเรื่องการพบนายกฯ ชี้แจงในที่ประชุมพรรคด้วยหรือไม่ว่า ไม่เกี่ยว เพราะวันนี้เป็นการประชุม สส.พรรค ที่ต้องมาประชุมท่าทีเกี่ยวกับการสนับสนุนงบประมาณปี 69  ของรัฐบาล พร้อมยืนยันว่าที่ได้ขึ้นไปพูดคุยกับนายกฯ ไม่ได้คุยเรื่องปรับ ครม. คุยกันแต่เรื่องงาน

จากนั้นนายอนุทินได้อุทานออกมาว่า “โอ๊ย โล่งอก” ทำให้สื่อรีบถามต่อทันทีว่าโล่งอกเรื่องอะไร นายอนุทินจึงหันมาหาสื่อที่ถาม ก่อนยิ้มพร้อมกับพยักหน้า

ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า นายกฯ ไม่ได้คุยเรื่องปรับ ครม.ใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “โอ้โห เตรียมไปเต็มหัวเลย” ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าเตรียมไปว่าอย่างไร นายอนุทินตอบว่า “ก็ไม่รู้ไง เตรียมไปเผื่อๆ ไว้”

 ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ใช่ข้อมูลตัวเลข สส.ในสภาใช่หรือไม่  หาก ภท.ย้ายไปเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งนายอนุทินไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว แต่หันไปจาม ก่อนหันมาทำนิ้วโอเคให้สื่อ ก่อนเดินเข้าลิฟต์เพื่อขึ้นไปประชุมพรรค

มีรายงานว่า สำหรับการเข้าพบ น.ส.แพทองธารของนายอนุทิน ที่ใช้เวลานาน 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยนายกฯ ได้มีการพูดถึงการปรับ ครม.กับนายอนุทินตรงๆ ถึงการขอให้พรรค พท.กำกับดูแลกระทรวงมหาดไทย แต่นายอนุทินยืนยันความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่เดิม จนกระทั่งสุดท้ายการพูดคุยจึงไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนเก้าอี้รัฐมนตรีในสัดส่วนของ ภท. โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย

ด้านนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี และแกนนำพรรค ภท. ให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกทั่วไทยว่า ตนจะบอกให้ฟังว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลาปรับ ครม. เหมือนตอนนี้หิมะกำลังตก แต่ไปพูดน้ำจะท่วมหรือฝนจะตก ซึ่งผิดฤดูกาล  ขณะนี้การประชุมงบประมาณปี 69 ยังไม่จบ ต้องใช้เวลา 105 วัน เพราะฉะนั้นฤดูการเมืองต้องรอให้งบประมาณผ่านเรียบร้อยไม่ต้องรีบร้อน เขาจะปรับก็คงปรับแน่ วันนี้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องพี่น้องประชาชน น้ำจะท่วมฝนตกหนัก ซึ่งข่าวที่ออกมาทำให้ข้าราชการปล่อยล้อฟรีหมด  เหมือนประเทศไทยหยุดนิ่ง

"ขอถามว่าข่าวแบบนี้ประชาชนได้อะไร และคนที่น่าเห็นใจคือนายกฯ ที่ทำงานก็ปวดหัวอยู่แล้ว กำลังทำงานก็มาเจอแต่เรื่องแบบนี้ จึงไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดเรื่องปรับ ครม. และพรรคภูมิใจไทยมีเกียรติยศ มีศักดิ์ศรี พร้อมทำงานทุกด้าน และไม่ใช่เรื่องที่จะพูดท้าทายกัน ฉะนั้นจะอยู่หรือไปคนตัดสินใจคือนายกฯ” นายชาดากล่าว

เมื่อถามว่า ที่บอกว่าพร้อมในทุกบทบาท หมายถึงพร้อมเป็นฝ่ายค้านด้วยหรือไม่ นายชาดาย้ำด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “นักการเมืองทุกคนพร้อมเป็นทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เราอยู่ในเกียรติยศและศักดิ์ศรีของความเป็นภูมิใจไทย”

ที่พรรคเพื่อไทย นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรค ให้สัมภาษณ์กรณีการประชุม สส.พรรค พท.ในวันที่ 17 มิ.ย.นี้ว่า เป็นการประชุมปกติที่พรรคจะมีการประชุมเดือนละ 1 ครั้ง ในช่วงเวลาที่มีการปิดสมัยประชุมสภา ส่วนช่วงนี้มี สส.ของพรรคออกมาให้สัมภาษณ์ในลักษณะไล่นายอนุทิน ชาญวีรกูล ออกไปเป็นฝ่ายค้าน เป็นเรื่องหนึ่งที่ต้องมีการพูดคุยแน่นอน ซึ่งทราบว่าเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ และประธาน สส.พรรค พท.ก็ออกมาปรามแล้ว ทั้งนี้ส่วนตัวในฐานะโฆษกพรรคก็ได้เช็กในหลายทางแล้ว ว่าเป็นความเห็นของ สส.แต่ละคน พรรคไม่ได้มีการสั่งให้ใครไปไล่ใครให้ออกไปเป็นฝ่ายค้าน ซึ่ง สส.แต่ละคนอาจไปรับความรู้สึกของประชาชนมา จึงอาจทำให้มีอารมณ์ได้ 

"เรื่องนี้จะต้องมีการพูดคุยกันว่าการร่วมรัฐบาล มารยาทในการร่วมรัฐบาลเป็นเรื่องสำคัญมาก ซึ่งนายกรัฐมนตรีรวมถึงผู้บริหารพรรคทุกคนคำนึงถึงเรื่องนี้มาก ฉะนั้นคงจะต้องมีการปราม สส.ของเราเองว่า การออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่พรรคใดจะร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้นควรต้องระมัดระวังมากขึ้น  ไม่ควรให้มีภาพการแตกแยกในพรรคร่วมรัฐบาล  ยืนยัน กก.บห.พรรคไม่ได้สั่งให้ใครออกไปไล่คนอื่นเด็ดขาด"

เมื่อถามว่า กังวลอะไรหรือไม่หากนายอนุทินจะออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลไปเป็นฝ่ายค้านจริง นายดนุพรยอมรับว่า กังวลแน่นอน ซึ่งหาก ภท.ตัดสินใจไม่ร่วมรัฐบาล แน่นอนว่าการที่เสียงหายไป 70 กว่าเสียง มีผลมากในการประชุมสภา เราก็ต้องมีการจัดทัพกันใหม่ ซึ่งอาจจะเหนื่อยหน่อย อีกทั้งยังมีรัฐมนตรีหลายคนที่เป็น สส.อยู่ด้วย ในการโหวตทุกสัปดาห์ สส.ที่เป็นรัฐมนตรีก็ต้องกลับเข้ามาในสภาเพื่อที่จะทำหน้าที่ สส. ฉะนั้นหนึ่งเสียงของทุกคนมีค่ามาก วันนี้เรายังเชื่อมั่นว่านายกฯ จะสามารถประสานรอยร้าวต่างๆ ในพรรคร่วมรัฐบาลได้เป็นอย่างดี และเชื่อว่านายกฯ จะนำปัญหานี้ไปพูดคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกคน  เชื่อว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น.