เดือนเดียวเคลียร์จบ ‘ศบ.ทก.’เร่งสางปมชายแดน/ห้ามคนไทยข้ามไปปอยเปต

“เขมร” ทำตามฮุน เซน สั่ง ทุกด่านห้ามนำเข้าผัก-ผลไม้ไทย “ปรัก” กลับดำเป็นขาวต่อหน้าทูตนานาชาติ อ้างเหตุการณ์ช่องบกไทยยิงก่อนพร้อมหวังชิงดินแดน “กองทัพบก” ยกระดับมาตรการห้ามคนไทยไปทำงานบ่อน-กาสิโน-สถานบันเทิงทุกชนิดในปอยเปต “ครม.” เคาะตั้ง “ศบ.ทก.” แล้ว “บิ๊กเล็ก” ประกาศประชุมทุกวัน พร้อมเป็นศูนย์แถลงข่าว หวังทำงานจบภายใน 1 เดือน  รับไทยก็หันกระบอกปืนไปทางกัมพูชาไม่ต่างกัน  “แพทองธาร” ปัดทิ้งข้อเสนอสภาสูงเปิดอภิปราย  บอกไม่อยากให้ขยายความขัดแย้ง

เมื่อวันอังคารที่ 17 มิ.ย.2568 สำนักข่าว Khmer Times รายงานว่า พล.ท.โสก เวสนะ อธิบดีกรมตรวจคนเข้าเมือง ประเทศกัมพูชา ได้สั่งการให้ด่านตรวจคนเข้าเมืองทุกด่านในกัมพูชาระงับการนำเข้าผักและผลไม้ทุกประเภทจากประเทศไทยเข้าสู่กัมพูชาทุกด่านแล้ว ภายหลังสมเด็จฮุน เซน   ประธานวุฒิสภากัมพูชา ได้ยื่นคำขาดให้ฝ่ายไทยกลับมาเปิดด่านชายแดนตามเวลาปกติภายใน 24  ชั่วโมงได้สิ้นสุดลง

ขณะเดียวกัน นายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศของกัมพูชา เชิญเอกอัครราชทูตจากหลายประเทศฟังการชี้แจงเรื่องสถานการณ์บริเวณชายแดนกัมพูชา-ไทย โดยระบุถึงเหตุการณ์ในเช้าวันที่ 28 พ.ค. ที่ อ.ช่องบก จ.อุบลราชธานี ว่ากองทัพไทยได้รุกล้ำดินแดนกัมพูชาบริเวณสามเหลี่ยมมรกตและเปิดฉากยิงใส่ทหารกัมพูชาจนเสียชีวิต 1 นาย และกล่าวหากัมพูชาว่าเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อน โดยไทยดำเนินมาตรการแต่ฝ่ายเดียวจนทำให้ความสัมพันธ์ของกัมพูชาและไทยและสถานการณ์บริเวณชายแดนตึงเครียดมากยิ่งขึ้น รวมทั้งไทยมีการกระทำและได้ละเมิดและคุกคามกัมพูชา มีทั้งการลดชั่วโมงเปิด-ปิดประตูด่านแต่ฝ่ายเดียว ขู่ตัดอินเทอร์เน็ต และระงับการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กัมพูชา

 “กัมพูชาเพียงแค่ต้องการความยุติธรรม ความถูกต้อง และความชัดเจนในการปักปันเขตแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อที่คนรุ่นหลังจะได้ไม่มีปัญหาที่ไม่มีวันจบต่อกัน กัมพูชาไม่ต้องการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนของประเทศอื่นแม้เพียงมิลลิเมตรเดียว แต่ก็จะไม่ให้ใครเข้ามายึดดินแดนแม้แต่มิลลิเมตรเดียวด้วยเช่นกัน” นายปรักระบุ

ด้านกองทัพบกได้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ยืนยันว่า ตามที่กองทัพบกได้ดำเนินมาตรการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ด้านความมั่นคง ล่าสุดวันนี้ (17 มิ.ย.) ตั้งแต่เวลา 08.00 น. กองกำลังบูรพาได้ปรับมาตรการจำกัดการผ่านแดนของจุดผ่านแดนถาวรและจุดผ่อนปรนเพื่อการค้าทุกจุดใน จ.สระแก้ว โดยไม่อนุญาตให้คนไทยที่เป็นพนักงานทุกประเภทของบ่อนการพนันและกาสิโน รวมถึงสถานบันเทิงทุกชนิด ในกรุงปอยเปตเดินทางออกจากราชอาณาจักรไทย เพื่อความปลอดภัยอย่างสูงสุดของประชาชนไทยและกัมพูชาในบริเวณแนวชายแดน

ขณะที่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนไทย-กัมพูชา ในประเด็นการส่งออกสินค้าผลผลิตทางการเกษตร ว่ามาตรการควบคุมจุดผ่านแดนทุกจุดของฝ่ายไทย มิได้มีการจำกัดการส่งออกสินค้าทางการเกษตรแต่อย่างใด ดังนั้นข่าวที่เกษตรกรและผู้ประกอบการไม่สามารถส่งออกสินค้าทางการเกษตรจนสินค้าตกค้างนั้น เป็นผลมาจากมาตรการจำกัดสินค้านำเข้าของกัมพูชา

พล.ต.วินธัยกล่าวอีกว่า พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้กำชับให้คงมาตรการผ่อนปรนเพื่อช่วยเหลือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องตามหลักด้านมนุษยธรรม และกิจกรรมในด้านการศึกษา ที่อนุโลมให้นักเรียนชาวกัมพูชาสามารถเดินทางเข้ามายังสถานศึกษาในไทยได้ รวมถึงการส่งตัวผู้ป่วยเจ็บเข้ารักษาตามโรงพยาบาลก็ยังทำได้ โดยเจ้าหน้าที่จะใช้ดุลยพินิจพิจารณาอนุญาต ส่วนมาตรการคัดกรองคนไทยที่จะเดินทางออกนอกประเทศ โดยพิจารณาอนุญาตเฉพาะผู้จำเป็นจริงต่อการดำเนินชีวิตพื้นฐานเท่านั้น สำหรับกรณีการออกไปเพื่อไปเล่นการพนันหรือออกไปนอกเหนือจากที่กล่าวไป ยังคงถูกจำกัดอยู่ในช่วงนี้  รวมทั้งล่าสุดตามที่มีการประกาศเพิ่มมาตรการห้ามคนไทยที่เป็นพนักงานทุกประเภทของบ่อนการพนัน กาสิโน และสถานบันเทิงทุกชนิด เดินทางออกจากราชอาณาจักรไทยนั้น ก็เพื่อจำกัดการผ่านแดนในกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมาย

ทั้งนี้ พล.ต.เบญจพล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ได้ทำหนังสือราชการถึงผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว เรื่องมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนถาวร จุดผ่อนปรนเพื่อการค้าฯ ในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว โดยมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 17  เม.ย.2568 ตั้งแต่เวลา 08.00 น.

ขณะที่จุดผ่านแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ระบุว่า ได้รับคำสั่งจากกองกำลังบูรพาตั้งแต่ค่ำวานนี้ และถือปฏิบัติตั้งแต่เวลา 08.00 น.  จึงฝากประชาสัมพันธ์ถึงคนไทยที่อยู่ในฝั่งปอยเปตว่าหากไม่จำเป็นใดๆ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ขอให้รีบเดินทางกลับมายังฝั่งไทย ขณะที่คนไทยที่จะข้ามไปยังฝั่งกัมพูชาขณะนี้ หากไปทำงานในบ่อนหรือสถานบันเทิงต่างๆ ขอให้งดเดินทางข้ามไป โดยจะอนุญาตให้เฉพาะกรณีที่จำเป็นจริงๆ ในการไปติดต่อธุรกิจต่างๆ ซึ่งต้องแสดงหลักฐาน

ส่วนที่ด่านชายแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด มีรถขนส่งสินค้ากว่า 30 คัน ทั้งผัก ผลไม้ อาหารสด อาหารทะเล อาหารแช่แข็ง และสินค้าอื่นๆ เพื่อรอข้ามแดนไปยังจังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา โดยเมื่อเปิดด่านรถขนส่งสินค้าประเภทอาหารสด อาหารทะเล อาหารแช่แข็ง ผ่านด่านชายแดนหาดเล็กได้ ส่วนสินค้าประเภทผักและผลไม้ไม่อนุญาต แต่รถขนส่งผักและผลไม้ยังคงจอดรออย่างมีหวัง หากมีการเจรจาระหว่าง 2 ด่านใหม่อีกครั้งเพื่อให้รถผักผลไม้ผ่านไปได้

ด้านความเคลื่อนไหวในส่วนกลางนั้น นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ตั้งศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ขึ้นเพื่อบูรณาการการปฏิบัติงานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมุ่งหมายแก้ไขความตึงเครียดและความขัดแย้งที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนบนหลักการทวิภาคีและด้วยสันติวิธี เคารพซึ่งกันและกันในเอกราช อธิปไตย ความเสมอภาค และบูรณภาพแห่งดินแดน รวมทั้งเป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น

เปิดรายละเอียด ศบ.ทก.

นายจิรายุกล่าวอีกว่า ศบ.ทก.ประกอบด้วย 1.รมช.กลาโหม ผู้อำนวยการศูนย์ 2.เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ 3.ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ 4.ปลัดกระทรวงมหาดไทย 5.ปลัดกระทรวงกลาโหม 6.ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 7.ปลัดกระทรวงพาณิชย์ 8.ปลัดกระทรวงแรงงาน 9.เลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร 10.เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา 11.ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ 12.ผู้บัญชาการทหารสูงสุด 13.ผู้บัญชาการทหารบก 14.ผู้บัญชาการทหารเรือ 15.ผู้บัญชาการทหารอากาศ 16.ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 17.อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ 18.อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย 19.อธิบดีกรมสารนิเทศ 20.อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก 21.โฆษกประจำสำนักนายกฯ 22.พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย 23.นายวรณัฐ คงเมือง รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ 24.ผู้แทนหน่วยงานของรัฐ หรือผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่พิจารณา 25.ผู้ช่วยเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ 26.เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร และ 27.ผู้แทน กต.

นายจิรายุกล่าวด้วยว่า ศบ.ทก.มีหน้าที่และอำนาจติดตาม ตรวจสอบ วิเคราะห์ กลั่นกรอง และประเมินสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างใกล้ชิดทุกเวลา และให้ความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับมาตรการที่จำเป็นเพื่อเป็นประโยชน์ในการบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาต่อ สมช. นายกฯ หรือ ครม. แล้วแต่กรณี  และร่วมกันบูรณาการการปฏิบัติงานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ให้มีความเป็นเอกภาพ และเป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง

พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะหัวหน้าทีมไทยแลนด์ ให้สัมภาษณ์ในช่วงเช้าถึง ศบ.ทก.ว่า จะมีการทำงานคล้ายศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แต่ไม่เหมือนเสียทีเดียว เพราะ ศบค.เน้นแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างเดียว แต่ศูนย์มีงานเฉพาะหน้าที่ต้องแก้ไข แต่ที่ไม่เหมือนคือกระบวนการบางอย่าง เช่นกระบวนเจบีซีและไอซีเจจะไม่เข้าไปก้าวก่ายความรับผิดชอบของหน่วยงานนั้นๆ

พล.อ.ณัฐพลยังยกตัวอย่างการทำงานว่า การทำงานของศูนย์นี้เป็นการบูรณาการและขับเคลื่อนงานเฉพาะหน้า เช่น กรณีกัมพูชาประกาศไม่ให้รถบรรทุกผลไม้จากไทยข้ามแดน ต้องเร่งแก้ไขปัญหาทันที หากปล่อยให้หน่วยงานคิดเองจะใช้เวลานาน  ซึ่งตอนนั้นได้เสนอไปยังนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ให้ประสานกับกระทรวงพาณิชย์ช่วยรับซื้อผลไม้ หรือเชิญชวนให้ภาคเอกชนมารับซื้อ ซึ่ง พณ.ดำเนินการอยู่ รวมถึงรับทราบและติดตามงานที่ต้องใช้เวลานาน โดยศูนย์นี้ไม่ควรอยู่นาน ไม่ควรเกิน 1 เดือน โดยจะรีบทำให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด

“ศูนย์แห่งนี้ถูกตั้งขึ้นเพื่อทำให้มีรูปแบบเป็นทางการ ซึ่งอำนาจไม่ได้อยู่ที่ศูนย์ แต่ต้องมีการพิจารณาเพื่อเสนอนายกฯ ให้อนุมัติดำเนินการ” พล.อ.ณัฐพลกล่าวตอบเรื่อง ศบ.ทก.มีอำนาจตอบโต้และยกระดับมาตรการหรือไม่อย่างไร

เมื่อถามว่า ที่ จ.สระแก้วห้ามคนไทยเดินทางข้ามไปกาสิโนฝั่งกัมพูชา เป็นมาตรการตอบโต้ใช่หรือไม่ พล.อ.ณัฐพลชี้แจงว่า เป็น 1 ใน 4 มาตรการเรื่องการเปิด-ปิดด่าน ยืนยันว่าเราเปิดด่านตลอดเวลา เพียงแต่กำหนดเวลา ประชุมจันทร์-ศุกร์

ต่อมา เวลา 13.30 น. ที่ตึกสภาความมั่นคงแห่งชาติ พล.อ.ณัฐพลเป็นประธานการประชุม ศบ.ทก. นัดแรก จากนั้นเวลา 15.00 น. พล.อ.ณัฐพลแถลงหลังประชุมว่า ศบ.ทก.มีกรอบทำงานว่าบูรณาการและขับเคลื่อนงานระยะสั้นติดตามและให้ข้อเสนอแนะงานระยะยาว ซึ่งที่ประชุมจะทำหน้าที่แก้ไขปัญหาหากเกิดเหตุการณ์ในระยะสั้น  ส่วนระยะยาวนั้นจะเป็นการสนับสนุนกระบวนการเจรจาแบบทวิภาคี และติดตามกระบวนการศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) โดยจะประชุมทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ ในช่วงเวลา 09.30 น. ยกเว้นวันอังคารที่จะประชุมเวลา 13.30 น. โดยหลังการประชุมจะแถลงข่าวและถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์ NBT เพื่อสื่อสารตรงไปยังประชาชน

ถามถึงการประชุมชายแดนส่วนภูมิภาค (อาร์บีซี) ในวันที่ 27-28 มิ.ย.นี้ พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า  ทางกัมพูชาได้แจ้งขอเลื่อนประชุมไปก่อนโดยไม่ได้แจ้งเหตุผล ซึ่งในการประชุมอาร์บีซีมีเรื่องเดียวคือการปรับกำลังกองทัพ ส่วนที่กัมพูชาขอเลื่อนการประชุม อาจเกิดขึ้นจากความไม่เข้าใจกัน เพราะการสื่อสารฝั่งไทยให้เสรีภาพกับทุกภาคส่วน จนทำให้กัมพูชาเกิดความสับสนว่าข่าวใดมาจากรัฐบาล ซึ่งนายกฯ ได้สื่อสารกลับไปแล้วว่าผู้บริหารควรฟังจากปากผู้บริหาร จึงจำเป็นต้องใช้ช่องทางหลักจากการแถลงข่าวของศูนย์นี้ เพื่อป้องกันความสับสนของประชาชนคนไทยที่มีผลกระทบไปถึงฝั่งกัมพูชาด้วย

เมื่อถามว่า ฝั่งกัมพูชายืนยันว่าได้หันปากกระบอกปืนมาที่ไทย เป็นขั้นตอนของการป้องกันมาตุภูมินั้น พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ถูกแล้ว เพราะไทยก็หันปากกระบอกปืนไปที่กัมพูชาเหมือนกัน

ในช่วงท้ายของการแถลงข่าว พล.อ.ณัฐพลแสดงความคิดเห็นกับสื่อมวลชนว่า ในอนาคตจะมีการจัดเวทีสัมมนาโดยประสานงานกับสมาคมสื่อมวลชน เพื่อเชิญนักวิชาการมาแลกเปลี่ยนถึงการแก้ไขปัญหาระหว่างไทยและกัมพูชา ว่าตอนนี้มุมมองความคิดเห็นไปคนละทิศคนละทาง ทำให้รัฐบาลทำงานลำบาก เพราะประชาชนมีความเชื่อต่อนักวิชาการ พอรัฐบาลทำงานไปตามแนวนักวิชาการคนอื่นก็ถูกต่อว่า ดังนั้นจึงอยากได้ความคิดเห็นจากนักวิชาการหลายๆ คนมาเป็นข้อสรุปเพื่อเป็นทิศทางเดียวกัน ซึ่งหากได้ข้อสรุปก็จะนำมาเป็นแนวทางในการทำงานต่อไป

ด้านนายภูมิธรรมกล่าวว่า ขณะนี้ไทยยังยืนอยู่จุดเดิมตามที่นายกฯ ได้ชี้แจงไว้ คือมี 4 ขั้นตอน และให้แต่ละส่วน คือกองทัพภาคที่ 1 กองทัพภาคที่ 2 กองกำลังจันทบุรี พิจารณาตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะนี้ยังอยู่มาตรการที่ 1 และ 2 คือการปิดเฉพาะจุดเฉพาะเวลา โดยปรับจาก 06.00-22.00 น. เป็น 08.00-16.00 น. และจำกัดคนเข้า เพื่อให้ค้าขายกันได้ ส่วนนักท่องเที่ยวหากไม่จำเป็นก็จะไม่ให้เข้า ซึ่งไทยไม่เคยปิดด่าน ดังนั้น สิ่งที่พูดมาบางครั้งไม่เห็น และประธานวุฒิสภากัมพูชาออกมาแถลง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของโซเชียลมีเดีย

ถามต่อว่า กัมพูชาใช้โซเชียลในการปล่อยข่าวอยู่ตลอดจะรับมืออย่างไร นายภูมิธรรมกล่าวว่า อย่าไปปั่นกับเขา เพื่อไม่ให้เกิดเหตุบานปลาย ไทยยังยืนยันยึดมั่นในจุดของเรา ซึ่งต่างประเทศก็รับรู้ว่าจุดยืนของไทยปกป้องประเทศ และผลประโยชน์ของประชาชน หากโซเซียลมานำทาง เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แต่ต้องนำโซเชียลมาเสนอข้อเท็จจริง ไม่ใช่ไปปั่นเพราะไม่ส่งผลดีต่อกัน

ขณะที่สถานการณ์ตามแนวชายแดนที่ตึงเครียดขณะนี้ ยังมองว่ากัมพูชายังเป็นมิตรประเทศหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตามหลักการยังไม่ถือว่าเป็นศัตรูกัน และพยายามจะรักษาความสัมพันธ์ ถึงบอกว่าเราต้องปกป้องอธิปไตยและรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย ถึงต้องเดินและพยายามยืนในจุดเหล่านี้

สำหรับกรณีการแต่งตั้ง พล.อ.ณัฐพลเป็นหัวหน้าทีมไทยแลนด์ จะสามารถหาข้อมูลและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า พล.อ.ณัฐพลเป็นนายทหารเก่า เคยเป็นเลขาฯ  สมช. และรองผู้บัญชาการทหารบก ดังนั้นในสายสัมพันธ์การเข้าใจงานในรายละเอียดต่างๆ เป็นคนที่เข้าใจงาน และเป็นตัวแทนของกระทรวงกลาโหม แต่ไม่ได้หมายความว่าให้ พล.อ.ณัฐพลไปทำงานคนเดียว ยังมีรองปลัด กห.ช่วยประสานงานและอยู่ในศูนย์นี้ด้วย ซึ่งศูนย์นี้จะยกระดับนำปลัดกระทรวงทุกกระทรวงอยู่ในนี้ ซึ่งที่ผ่านมาได้มอบหมายภารกิจก็ทำได้ดี ดังนั้นจะเป็นตัวเชื่อมระหว่างกองทัพ เชื่อว่า พล.อ.ณัฐพลจะสามารถประสานงานและเชื่อมกลไกต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

อิ๊งค์ปัดตกข้อเสนอสภาสูง

ด้านบรรยากาศในการประชุม ครม. ช่วงหนึ่ง นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯ ได้ขอหารือกับนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ถึงกรณีที่กลุ่ม สว.เตรียมขอเปิดอภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 153 เพื่อให้ ครม.แถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาสถานการณ์ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเลขาธิการกฤษฎีกาชี้แจงว่า ตามข้อกฎหมาย สว.ทำได้ แต่เรื่องความเหมาะสมนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะเป็นเรื่องความมั่นคงที่ละเอียดอ่อน จากนั้นนายกฯ พูดขึ้นทันทีว่าไม่อยากให้มีเวทีขยายประเด็นชายแดนกัมพูชา

ส่วน น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงสถานการณ์การค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าหากมีเหตุการณ์ปิดด่านจริงๆ อย่าหวั่นไหวหรือสั่นคลอน เพราะทางฝั่งไทยมีสรรพกำลัง มีเม็ดเงิน มีสายป่านที่ยาวกว่า เพียงแต่ว่ารัฐบาลต้องแสดงเจตจำนงต่อผู้ประกอบการทางฝ่ายไทย ว่ายินดีที่จะเยียวยาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการปิดด่าน หากทำแบบนี้ได้ เสียงบ่นหรือเสียงต่อต้านจากพื้นที่ก็จะน้อยลง หรือหากต้องมีกลไกอื่นเข้าไปช่วยเหลือเรื่องแรงงานต่างชาติขาดแคลน ควรจะมีการผ่อนปรน MOU ชั่วคราว เพื่อที่จะช่วยล้งผลไม้หรือสวนผลไม้ เราเตรียมทางออกเรื่องนี้ได้ หากเตรียมพร้อมมากพอ

เมื่อถามว่า ตัวเม็ดเงินเราพร้อมมากน้อยแค่ไหนในการกระตุ้นเศรษฐกิจ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า หากพูดเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจ งบ 157,000 ล้านบาท อาจมองว่ามีคนจับจ้องแล้ว แต่จริงๆ ตอนนี้งบกลางยังเหลืออยู่เกือบ 60,000 ล้านบาท และส่วนที่สภาอนุมัติไปเกือบแสนล้านบาท จึงมองว่าน่าจะมีเม็ดเงินหน้างานเพียงพอ แต่มันเป็นเรื่องที่ต้องโชว์เจตจำนง มิฉะนั้นความเดือดร้อนของประชาชนที่อยู่บริเวณด่านอาจเกิดกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ยืนยันว่าสามารถรับมือเรื่องนี้ได้ ถ้าเราเตรียมความพร้อมมากพอ

วันเดียวกัน กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีเกิดเหตุอากาศยานเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพบกเสียการควบคุมจนต้องทำการร่อนลงฉุกเฉิน เนื่องจากเกิดเหตุขัดข้องขณะปฏิบัติภารกิจสับเปลี่ยนกำลังพลและส่งเสบียงให้กับฐานปฏิบัติการในพื้นที่อำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยปัจจุบันได้รับรายงานว่ากำลังพลในภารกิจดังกล่าวไม่มีการเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ปัจจุบันกำลังนำส่งโรงพยาบาลในพื้นที่แล้ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.

"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.