ชง‘รองนายกฯ-กห.’ดึง‘พปชร.’

“อนุทิน” เปิดใจเป็นฝ่ายค้านแล้ว   ไม่จัดตั้งรัฐบาลสู้ “ภูมิธรรม” ตีปี๊บพรรคร่วมที่เหลือเสียงปึ้ก “ไผ่” โวมีเสียง 263 บวกๆ “รทสช.” ฟุ้งมติพรรคชัดเจน ต้องเปลี่ยนนายกฯ หึ่ง! พีระพันธุ์เคลียร์นายใหญ่เพิ่มโควตาแล้ว “ลุงป้อม”  นั่งหัวโต๊ะย้ำไม่กลับไปร่วมหอลงโรงแน่ แฉเอาเก้าอี้รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม มาหลอกล่อ

เมื่อวันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่นำรถบรรทุก 6 ล้อ ติดสติกเกอร์รถของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) มาขนย้ายสิ่งของในห้องทำงานที่ตึกบัญชาการ 1 ชั้น 3 ซึ่งเป็นห้องทำงานประจำตำแหน่งรองนายกฯ โดยส่วนใหญ่เป็นพระพุทธรูป สิ่งของในห้องทำงาน รวมถึงเอกสารต่างๆ

ต่อมานายอนุทินให้สัมภาษณ์ครั้งแรกหลังถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ถึงกระแสข่าวนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พูดคุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส. เพื่อสนับสนุนให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เป็นนายกฯ ว่า ไม่มี วันนี้พรรคภูมิใจไทยถอนตัวออกมาแล้ว เราเป็นมืออาชีพ ไม่มีเรื่องแบบนี้รับรองได้ จึงต้องขอความกรุณาให้ช่วยวิเคราะห์ข่าว มิเช่นนั้นเดี๋ยวเชื่อกันไปกันมาก็กลายเป็นการสาดโคลนใส่กัน

“ไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลสู้ มีแต่ข่าว สส.ถูกดึงไปจากพรรคภูมิใจไทยไม่รู้กี่คนแล้ว และยืนยันว่าไม่ได้มีการไปขอเสียงจากพรรคประชาชนมารวมเป็นรัฐบาล ยังไม่ได้พูดคุยอะไรกับใครเลย” นายอนุทินระบุ

ส่วนกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ  และ รมว.กลาโหม แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ระบุว่าพรรค ภท.ไม่ควรฉวยโอกาสเรื่องคลิปเสียงเพื่อออกจากพรรคร่วมรัฐบาล นายอนุทินยืนยันว่า ไม่เคยฉวยโอกาส ไม่มีเรื่องคลิปก็ออกอยู่แล้ว เพราะเลขาธิการนายกฯ มาบอก ท่านให้ไปคิด 2-3 วัน ก็ปฏิเสธทันทีในวินาทีว่ารับข้อเสนอไม่ได้ และพร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน การตัดสินใจมันเกิดขึ้นวันนั้นเรียบร้อยแล้ว ไม่มีคลิปก็ออกอยู่แล้ว

ด้านนายภูมิธรรม กล่าวถึงสถานการณ์รัฐบาลว่า รัฐบาลยังไม่ได้ลาออกหรือยังไม่ได้พ้นสภาพ เพราะฉะนั้นที่มาถามเรื่องว่าจะตั้งใครขึ้นมาใหม่ ยังไม่ใช่ตอนนี้ เป็นเพียงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่จะปรับเล็กปรับใหญ่อยู่ที่นายกฯ ยืนยันรัฐบาลยังอยู่เหมือนเดิม เพียงแต่พรรคภูมิใจไทยได้ออกไป

เมื่อถามว่า สัญญาณที่นายภูมิธรรมได้รับทุกพรรคยังสนับสนุน น.ส.แพทองธารต่อไปใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า “ก็เป็นอย่างนั้นครับ” ถามย้ำว่าวันนี้ยังมั่นใจในพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลือใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า “มั่นใจครับ”  เมื่อถามอีกว่าจะมีใครเข้ามาเติมเสียงรัฐบาลอีกหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เดี๋ยวไปดูตามกระบวนการ

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าพรรค รทสช.เสนอให้เปลี่ยนตัวนายกฯ เป็นนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ พรรค พท. นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่ได้ยินเช่นนั้น คิดว่าทุกอย่างจบแล้ว

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง และรองหัวหน้าพรรค พท. กล่าวถึงการปรับเปลี่ยนเก้าอี้รัฐมนตรีภายหลังพรรค ภท.ถอนตัวว่า เป็นอำนาจของนายกฯ และเห็นว่าไม่มีรัฐบาลพรรคใดไปพูดคุยต่อรอง ทุกคนเห็นประโยชน์กับการขับเคลื่อนของประเทศไปข้างหน้า ไม่มีการพูดคุยเรื่องตำแหน่ง

รับเสียงปริ่มน้ำเสี่ยง

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีการลาออกของนายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย จากตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 2 ว่ายังไม่ได้หารือกันในพรรคหรือพรรคร่วมรัฐบาล เพราะต้องรอให้การปรับ ครม.แล้วเสร็จ และไม่ต้องรีบ เพราะมีประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ยังทำหน้าที่ได้อยู่ ดังนั้นรอไปได้อีก 1-2 เดือน

เมื่อถามว่า หลังจากพรรคภูมิใจไทยถอนตัว กังวลต่อสถานะของเสียงข้างมากปริ่มน้ำหรือไม่ ประธานวิปรัฐบาลกล่าวว่า ยอมรับว่าเป็นแบบนั้น และเป็นงานหนักของประธานวิปรัฐบาลที่ต้องทำหน้าที่ ขอให้ สส.ทุกคนเข้าร่วมการประชุมสภาทุกนัด หาก สส.เขตคนใดที่เป็นรัฐมนตรีต้องเข้าร่วมประชุมทุกครั้งให้มาทำงานในสภา เพราะมีห้องทำงานหลายห้อง ส่วน สส.บัญชีรายชื่อที่ได้เป็นรัฐมนตรีต้องลาออกจาก สส.

นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร และเลขาธิการพรรคกล้าธรรม (กธ.) กล่าวถึงกรณีโพสต์ข้อความตัวเลข 263++ มีนัยอะไรหรือไม่ ว่าเป็นตัวเลขที่มีความมั่นใจในการจะร่วมเป็นรัฐบาลด้วยกัน ส่วนที่พรรค รทสช.มีมติขอให้ น.ส.แพทองธารลาออกเพื่อเปลี่ยนตัวนายกฯ นั้น ได้มีโอกาสคุยกับสมาชิกของพรรค รทสช.ในห้องประชุมงบประมาณ ก็ไม่มีเรื่องดังกล่าว 

“นายกฯ ทำดีแล้ว ก็ทำต่อไปก่อน ส่วนที่ผิด ก็มีการออกมายอมรับแล้ว หลังจากนี้ ท่าทีคงเข้มข้นขึ้น และถือเป็นสิ่งที่ดี” นายไผ่กล่าว และว่า ได้ยินข่าวดีมาเรื่อยๆ อาจจะไม่ใช่แค่ 260 แต่อาจเป็น 280 ก็ได้ใครจะไปรู้ เป็นไปตามที่พูดตลอด ส่วนมาจากพรรคใหญ่หรือไม่ ไม่รู้

ด้านพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เผยแพร่แถลงการณ์ของที่ประชุมกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคว่า กก.บห.พรรคมีความเห็นเป็นฉันทามติร่วมกัน คือ 1.ยืนยันที่จะดำรงสถานะพรรคร่วมรัฐบาลต่อไป เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดิน และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของประเทศที่เผชิญอยู่ได้รับการคลี่คลายอย่างต่อเนื่องต่อไป 2.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนบทบาท และท่าทีต่อปัญหาความสัมพันธ์กับประเทศกัมพูชาอย่างจริงจัง เพื่อรักษาไว้ซึ่งอำนาจอธิปไตย เกียรติภูมิ และผลประโยชน์สูงสุดของประเทศไทยและประชาชนไทย โดยต้องแสดงออกให้เป็นที่ประจักษ์เพื่อเรียกความเชื่อมั่นของประชาชนให้กลับคืนมาโดยเร็วที่สุด 3.ขอให้ตระหนักถึงเสียงสะท้อนของประชาชนต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในทุกมิติ รัฐบาลต้องใส่ใจ ยอมรับความคิดเห็นที่หลากหลาย พร้อมเร่งสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และ 4.พรรคยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ในระบบรัฐสภา ไม่สนับสนุนให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองใดๆ ที่นอกเหนือกติกาประชาธิปไตยและบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ

สำหรับมติที่ประชุม กก.บห.พรรค คะแนนเสียง 19 ต่อ 7 เสียง เห็นชอบให้ ปชป.อยู่ร่วมรัฐบาลต่อไปนั้น โดย 7 เสียงข้างน้อย ประกอบด้วย 1.น.ต.สุธรรม ระหงษ์ รองหัวหน้าพรรค 2.นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรค 3.นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครฯ 4.นายประกอบ รัตนพันธ์ กรรมการบริหาร 5.นางกันตวรรณ ตันเถียร กุลจรรยาวิวัฒน์ รองเลขาธิการ 6.นายชนินทร์ รุ่งแสง รองเลขาธิการ และ 7.นางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท กรรมการบริหารสำรอง

ส่วนนายจุติ ไกรฤกษ์ สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค รทสช. กล่าวถึงกระแสข่าวมติพรรค รทสช.เสนอเปลี่ยนนายกฯ ว่า มติของพรรคคือ น.ส.แพทองธารต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก ถ้านายกฯ ไม่ลาออก พวกเราก็ลาออก ด้วยมารยาทที่ทำงานร่วมกันมา จึงได้มอบหมายให้นายพีระพันธุ์นำมติดังกล่าวไปแจ้งต่อนายกฯ เพื่อเป็นการให้เกียรติ ซึ่งเมื่อหัวหน้าพรรค รทสช.ได้คุยกับนายกฯ แล้ว ผลเป็นอย่างไรจะต้องมาแจ้งในพรรคให้ทราบอีกครั้ง

รทสช.ขู่ไขก๊อกหากอิ๊งค์อยู่

 “ถ้าชัดเจนว่านายกฯ ไม่ลาออก เราก็ต้องลาออก อันนี้ถือเป็นมติชัดเจน อย่าไปเชื่อข่าวลือ เพราะมติพรรคไม่ได้เปลี่ยนเป็นรายชั่วโมง มติก็คือมติ”

เมื่อถามว่า สถานการณ์ขณะนี้ ในพรรค รทสช.ได้คุยกันหรือไม่ว่าเก้าอี้นายกฯ อาจพลิกผันมาที่นายพีระพันธุ์ นายจุติกล่าวว่า ไม่ได้คุยกันเลย คุยกันแต่ว่าน่าจะตกอยู่ที่นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย

รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุม กก.บห.พรรค รทสช. ไม่มีการเชิญกลุ่ม 18 สส. ที่นำโดยนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ และรองหัวหน้าพรรค ซึ่งท่าทีของกลุ่มนั้น ยังยืนยันพร้อมสนับสนุน น.ส.แพทองธารต่อไป โดยปฏิเสธการยอมรับมติ กก.บห.ที่มีเฉพาะคนของนายพีระพันธุ์

 “พอไม่มีพรรคภูมิใจไทยร่วมรัฐบาล มติกรรมการบริหารของ รทสช.ที่ต้องการให้เปลี่ยนตัวนายกฯ มาเป็นนายชัยเกษม ใครก็รู้ว่าติดข้อจำกัดเรื่องสุขภาพ รทสช.สายนายพีระพันธุ์คงมองว่าเป็นโอกาสที่หัวหน้าพรรคตัวเองมีความเหมาะสมจะขึ้นนายกฯ แทน” แหล่งข่าวระบุ

มีรายงานแจ้งว่า เมื่อค่ำวันที่ 19 มิ.ย. นายพีระพันธุ์ได้เดินทางเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า เพื่อนำมติพรรคไปแจ้งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้รับทราบ และเพื่อให้นายทักษิณนำเรียนต่อนายกฯ ขณะเดียวกันนายพีระพันธุ์ยังได้พูดคุยกับนายทักษิณถึงเก้าอี้รัฐมนตรี เนื่องจากขณะนี้พรรค รทสช.เป็นพรรคร่วมรัฐบาลอันดับ 2 จะต้องปรับเพิ่มโควตาเก้าอี้รัฐมนตรี ซึ่งนายทักษิณระบุว่าแจ้งเรื่องต่อนายกฯ แล้วจะแจ้งผลกลับมา นายพีระพันธุ์จะเรียกประชุม กก.บห.เพื่อแจ้งที่ประชุมว่าพรรคจะได้โควตารัฐมนตรีกี่เก้าอี้และกระทรวงอะไรบ้าง ซึ่งคาดว่าจะเป็นในสัปดาห์หน้า

สำหรับความเคลื่อนไหวของพรรคฝ่ายค้านนั้น นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ย้ำว่า ทางออกเดียวคือการยุบสภา เพราะบัญชีแคนดิเดตนายกฯ ที่เหลืออยู่ก็ไม่สามารถหาทางออกให้กับประเทศได้ ปัญหาสำคัญ เช่น การปฏิรูปกองทัพ การแก้ไขปัญหาระหว่างประเทศ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงเรื่องอื่นๆ การรวมตัวกันของรัฐบาลที่เหลืออยู่คงไม่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้

ส่วนกรณีที่นายภูมิธรรมระบุว่ารัฐบาลจะอยู่ครบเทอม นายณัฐพงษ์กล่าวว่า อย่างที่บอกว่าตอนนี้ยังเกาะกลุ่มรวมตัวกันได้อยู่ ถึงจะไปได้ก็เป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำที่มีสภาพแบบนี้มากขึ้นเท่าไหร่ น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ มากขึ้นเท่าไหร่ก็จะยิ่งทำลายความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนอีกหลายคน

เมื่อถามว่า หากรัฐบาลรวมกันไม่ได้พรรค ปชน.จะรวมกับพรรค ภท.ตั้งรัฐบาลและเสนอชื่อนายอนุทินที่มีชื่อเป็นแคนดิเดตเป็นนายกฯ หรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ไม่มีแน่นอน ในบัญชีแคนดิเดตนายกฯ เรายืนยันมาโดยตลอดว่าในหน้ากระดานที่เป็นอยู่ เราไม่สามารถสนับสนุนให้ใครก็ตามมาดำรงตำแหน่งนายกฯ ได้ต่อ ณ ตอนนี้ เพื่อแก้ไขสถานการณ์ จึงยืนยันในจุดยืนเดิมว่าเราอยู่ในฐานะพรรคฝ่ายค้าน

ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. นำ สส.และกรรมการบริหารพรรค แถลงยืนยันว่า พรรค พปชร.จะไม่เข้าร่วมรัฐบาลอย่างเด็ดขาด เราจะเป็นพรรคฝ่ายค้านที่มีมีศักดิ์ศรีและมีคุณภาพเพื่อประชาชน ส่วนกรณีการอัดคลิปเสียง ไม่ว่าใครก็เอามาเผยแพร่ไม่ได้ เพราะเป็นสิ่งที่ละเมิดสิทธิบุคคล ส่วนเรื่องที่ 2 สิ่งที่ผู้นำประเทศได้พูดกับใครก็แล้วแต่ที่จะหมิ่นศักดิ์ศรีคนไทย ทำให้ประเทศชาติขาดความเชื่อมั่น และขาดศรัทธาจากประชาชน ซึ่งเรื่องนี้ผู้นำประเทศทำให้เกิดความเสียหายกับประชาชน เพราะฉะนั้น ผู้นำประเทศจะต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งนายกฯ

แฉต่อสาย พปชร.กลับ

รายงานแจ้งว่า ในที่ประชุมพรรค พปชร. ช่วงหนึ่งนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมพรรคกรณีที่มีกระแสข่าว 6 สส.เพชรบูรณ์จะไปร่วมกับรัฐบาลว่า ไม่เป็นความจริงพร้อมกับยืนยันว่าจะอยู่กับพรรค พปชร. ไม่ได้ไปไหน ส่วนเรื่องปรากฏภาพรับประทานอาหารกับนายเนวินและนายอนุทิน ไม่มีอะไร เป็นการรับประทานอาหารทั่วไป และไม่เคยมีการคุยกับ 6 สส.เพชรบูรณ์เรื่องนี้เลย ขณะที่นายวรโชติ สุคนธ์ขจร สส.เพชรบูรณ์ ได้ลุกขึ้นกล่าวเสริม โดยยืนยันว่า “พวกเราไม่ไปไหน จะอยู่กับนาย”

นอกจากนี้ ยังมีอีกช่วงหนึ่งของการประชุม  พล.อ.ประวิตรได้เล่าให้ที่ประชุมฟังว่า มีการติดต่อมาให้พรรค พปชร.กลับไปร่วมรัฐบาล โดยเสนอให้ตนเองไปนั่งเป็นรองนายกฯ และ รมว.กลาโหม แต่ได้ปฏิเสธไปแล้ว

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีสถานการณ์การเมืองขณะนี้ ที่เสียง สส.ในสภาของฝ่ายและรัฐบาลมีการปรับเปลี่ยนว่า การเมืองก็เปลี่ยนไปตามวาระของการเมือง สภาเราเคยผ่านมาหลายยุคหลายสมัย ทั้งที่มีเสียงข้างมากค่อนข้างเด็ดขาด เวลาบริหารก็อาจจะมีปัญหาได้เหมือนกัน และเสียงปริ่มน้ำก็เคยบริหารมาแล้ว ซึ่งก็มีปัญหา แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายบริหาร สภาไม่เข้าไปก้าวก่ายกับฝ่ายบริหาร สภาทำหน้าที่ของสภา เพื่อให้การบริหารดำเนินไปได้

ถามถึงการต้องเลือกนายกฯ ใหม่แคนดิเดตเดิมของพรรคการเมืองที่มียังสามารถใช้ได้อยู่ใช่หรือไม่นั้น นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า ยังคงเป็นไปตามรัฐธรรมนูญปี 2560 คือต้องเป็นรายชื่อที่เคยเสนอต่อ กกต.แล้ว และยังมีชื่อค้างอยู่หลายคน ซึ่งต้องเอาชื่อนั้นมาเสนอ

ร.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อ กกต.ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯ ได้ต้องมี สส. 5% ของ สส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ซึ่งขณะนี้มี สส.ในสภา495 คน 5% คือ 24.75 คน ซึ่งพรรค พปชร.มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน

ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี

อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก

นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม

ส้มขีดเส้นโหวตก่อนปีใหม่!

'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'

พร้อมหน้า นายกฯหนู โพสต์ภาพพาครอบครัวกินห่านพะโล้ในวันพ่อแห่งชาติ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า พาพ่อ แม่เมีย น้อง หลาน ไปกินห่านพะโล้เนื่องในวันพ่อ #ฉั่วคิมเฮง