“ทวี-แม่ทัพ 4-นิพัทธ์” ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟใต้ เผย 22 ปีเสียชีวิตรวม 5,989 ราย ชี้ความรุนแรงไม่ใช่คำตอบ-ถึงเวลาเปลี่ยนน้ำตาเป็นพลังแห่งการเยียวยา-สร้างสรรค์
เมื่อวันที่ 17 ส.ค.2568 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ, นายยู่สิน จินตภากร ผู้ช่วย รมว.ยธ. และคณะ เดินทางมาจังหวัดปัตตานี เพื่อร่วมกิจกรรมงานทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ วัดตานีนรสโมสร พระอารามหลวง อ.เมืองปัตตานี โดยมี พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.), พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยรักษาความมั่นคงภายในภาค 4, นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าฯ ปัตตานี และผู้แทนจากส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ และมีครอบครัวชาวไทยพุทธผู้สูญเสียราว 1,200 คน เข้าร่วมพิธี
พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า กิจกรรมสำคัญวันนี้คือการที่เราทุกคนมาร่วมทำบุญ เพื่ออุทิศส่วนกุศลแด่ผู้ล่วงลับ การทำบุญครั้งนี้มีความหมายอย่างยิ่ง เพราะไม่เพียงเป็นการน้อมรำลึกถึงผู้ที่จากไป แต่ยังเป็นการส่งกำลังใจให้กับครอบครัว และผู้ที่ยังอยู่กับเราทุกคน โดยตลอดกว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมา เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ได้สร้างความสูญเสียมหาศาล ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บรวมกันกว่า 20,000 คน หากนับรวมครอบครัวที่เกี่ยวข้อง มีผู้ได้รับผลกระทบไม่ต่ำกว่า 200,000 คน
“วันนี้เราจึงมาร่วมกันยืนยันว่า ความรุนแรงไม่เคยสร้างคำตอบ มีเพียงฝากน้ำตาให้กับรุ่นแล้วรุ่นเล่า ถึงเวลาแล้วที่เราจะเปลี่ยนน้ำตาให้กลายเป็นพลัง พลังแห่งการเยียวยา พลังแห่งการสร้างสรรค์ และพลังแห่งสันติภาพ”
ต่อมาในช่วงบ่าย พ.ต.อ.ทวีพร้อมคณะเดินทางต่อไปยังหอประชุมสิริสวัสดิธร สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา ต.ท่าสาป อำเภอเมืองฯ จังหวัดยะลา เพื่อเป็นประธานเปิดงาน “ซอลาวาต มาฮับบะห์ นบี สร้างความรักและสร้างกำลังใจ” สำหรับครอบครัวผู้สูญเสียชาวไทยมุสลิม โดยมีผู้เข้าร่วมประมาณ 2,000 คน ซึ่งทั้งสองกิจกรรมจัดขึ้นเพื่อเยียวยาจิตใจและตอกย้ำความสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในพื้นที่
รายงานข่าวแจ้งว่า ด้านความสูญเสีย 22 ปี ตั้งแต่ปี 2547-2568 ที่ผ่านการรับรองสามฝ่าย รวมทั้งสิ้น 10,059 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 5,989 คน แบ่งเป็นศาสนาอิสลาม 3,133 คน (สูงสุด), ศาสนาพุทธ 2,849 คน และศาสนาคริสต์ 7 คน ผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 13,445 คน แบ่งเป็นศาสนาพุทธ 8,792 คน (มากที่สุด), ศาสนาอิสลาม 4,645 คน และศาสนาคริสต์ 8 คน
เมื่อแยกตามปี พบว่าช่วงแรกของสถานการณ์มีความรุนแรงสูงสุด โดยปี 2550 มีจำนวนเหตุการณ์มากถึง 1,407 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 892 คน และบาดเจ็บกว่า 1,551 คน ขณะที่ในช่วงหลังความรุนแรงมีแนวโน้มลดลง โดยปี 2568 (ม.ค.-ส.ค.) มีเหตุการณ์ 93 ครั้ง เสียชีวิต 38 คน และบาดเจ็บ 310 คน อย่างไรก็ตาม ตัวเลขสะท้อนความสูญเสียตลอด 22 ปี สะท้อนว่าความรุนแรงส่งผลกระทบต่อชีวิตผู้คนทุกศาสนาอย่างลึกซึ้ง ทั้งครอบครัวชาวพุทธและมุสลิมต่างสูญเสียคนที่รักไปอย่างมิอาจทดแทนได้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชวนซื้อOTOP ช่วยคนในชาติ ที่กำลังลำบาก
นายกฯ เปิดงาน OTOP CITY 2025 ปลื้มตียอดแตกรายได้มากกว่าทุกปี
‘ช่อ’แจ้งความปิดปาก! ปัดให้ทหารบอกแผนรบ
"ช่อ-พรรณิการ์" หิ้วหลักฐานแจ้งความ อ้าง "นักการเมือง-IO ทหาร"
สอบอดีตบิ๊กดีอีพันMOU ห่วงกระทบปชช.1.2ล้าน
"ไชยชนก" ชี้เป็นหน้าที่ “ดีเอสไอ” สอบสวน หลังพบข้อมูลนักการเมือง
หนูแบไต๋ร่วมได้ทุกพรรค
“อนุทิน” เปิดทางทุกพรรคที่สร้างประโยชน์ให้บ้านเมือง เหน็บ "เด็กพรรคส้ม"
อาเซียนเมินกัมพูชา ไม่หนุนข้อเสนอหยุดยิง-ถกจีบีซี24ธค./สมรภูมิสระแก้วยังเดือด
ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนสมัยพิเศษเหลว ไร้ข้อสรุปเป็นรูปธรรม “กัมพูชา”
พสกนิกรซาบซึ้ง ‘พระพันปีหลวง’ ทรงให้ไร้ข้อแม้!
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

