รัฐบาลรายงานสถานการณ์พื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาปกติ "บิ๊กเล็ก" ไม่หวั่นหากเขมรลักไก่ช่วงไทยเกิดสุญญากาศการเมือง ลั่นมีกฎการใช้กำลังอยู่แล้ว ขณะที่ ศบ.ทก.ชงแผนสร้างรั้ว 16 กม. ด้านกองทัพภาคที่ 1 เตรียมกำลังในการเคลื่อนย้ายเข้าพื้นที่ปฏิบัติการจังหวัดสระแก้ว พร้อมดำเนินการตามแผนจักรพงษ์ 681 ตรึงการปฏิบัติการของฝ่ายตรงข้าม แม่ทัพขอปิดทองหลังพระ ไม่ชอบฉายแสง
เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2568 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) สรุปสถานการณ์ชายแดน 11 จุด ใน 7 จังหวัด ว่ากองทัพไทยยังคงตรึงกำลังและเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เหตุการณ์โดยทั่วไปปกติ
นายจิรายุกล่าวอีกว่า ส่วนสถานการณ์โดยรวม เมื่อวันที่ 2 กันยายน กองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจพบระเบิดแบบลูก ค. แสวงเครื่อง บริเวณพื้นที่ใกล้ปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ โดยตรวจพิสูจน์แล้วพบว่าเป็นระเบิดของกัมพูชา ซึ่งถือเป็นหลักฐานที่ยืนยันชัดเจนว่าทหารกัมพูชาเข้ามาวางระเบิดในแผ่นดินประเทศไทย พร้อมกันนี้ยังตรวจพบความเคลื่อนไหวของทหารฝ่ายกัมพูชา โดยได้ตรวจพบมีการบินโดรนสอดแนมของกัมพูชาที่บริเวณพื้นที่ช่องอานม้า พื้นที่สัตตะโสม-ภูผี-โดนตวล และพื้นที่ช่องสายตะกู ทั้งนี้ ได้ใช้ระบบแอนตี้โดรนทันทีเมื่อรุกล้ำเข้าเขตอธิปไตยของไทย
ทั้งนี้ รัฐบาล โดยกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้กองทัพและหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง เก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่ตรวจพบ เพื่อนำส่งให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการประท้วงต่อรัฐบาลกัมพูชาอย่างเป็นทางการ พร้อมกำชับให้เพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบก่อเหตุซ้ำอีก ตลอดจนรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดน
นายจิรายุกล่าวต่อไปว่า เช้าวันเดียวกันนี้ เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมวิจิตรวาทการ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม และ ผอ.ศบ.ทก. จะเป็นประธานการประชุม ศบ.ทก.ครั้งที่ 31 เพื่อประเมินแนวโน้มสถานการณ์และพิจารณาการดำเนินการสร้างรั้วในพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณจังหวัดสระแก้ว เพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและการค้ามนุษย์ รวมถึงติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าว
“รัฐบาลยังคงติดตามแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างใกล้ชิด โดยยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่บริเวณชายแดน 7 จังหวัดอย่างต่อเนื่อง และเดินหน้าตอบโต้ประท้วงกัมพูชาผ่านช่องทางทางการทูต และพร้อมปฏิบัติการทางทหารหากถูกละเมิดอธิปไตยไทยอย่างโจ่งแจ้ง" นายจิรายุกล่าว
พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองที่มีแนวโน้มจะยุบสภา การดูแลพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาจะเป็นอย่างไรต่อว่า ไม่มีปัญหา เรามี พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 ซึ่งมีกฎการใช้กำลัง มอบอำนาจให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ แม่ทัพภาค และผู้บัญชาการกองพลไว้ตามลำดับแล้ว ว่าถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรจะสามารถทำอะไรได้บ้าง ซึ่งมีกฎใช้กำลังอยู่แล้ว
เมื่อถามต่อว่า หากกัมพูชาใช้ช่วงเวลาที่การเมืองไทยอ่อนแอ รัฐบาลจะประกาศยุบสภาสร้างเหตุการณ์อะไร พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า เท่าที่ตนได้พูดคุยกับผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารีและกองทัพภาคที่ 2 ยังไม่น่ามีอะไร อีกทั้งกองกำลังที่อยู่แนวชายแดนก็เตรียมพร้อมตลอด การเจรจาก็เจรจากันไป การเตรียมกำลังก็เตรียมกันไป
พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงผลการประชุม ศบ.ทก.ว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วชี้แจงและนำเสนอแนวทางการดำเนินการเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้ประชาชนในพื้นที่บ้านหนองจานและพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว โดยมีแผนจัดสร้างรั้วระยะทาง 16 กิโลเมตร บริเวณหลักเขตแดนที่ 50 ถึง 51 ซึ่งถือว่าเป็นหลักเขตแดนที่มีการสำรวจและได้ข้อยุติเรียบร้อยแล้ว
ขณะที่ น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ในการประชุม ครม. วันที่ 2 ก.ย. มีมติเห็นชอบยกเว้นภาษีเงินได้ สำหรับการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งจะครอบคลุมกรณีผู้เสียชีวิตและทุพพลภาพ 17 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 136 ล้านบาท และกรณีผู้บาดเจ็บสาหัส 37 ราย เป็นเงิน 29.6 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 165.6 ล้านบาท ทั้งนี้ มอบหมายให้กระทรวงการคลังเป็นเจ้าภาพหลักในการดูแลประชาชน เพื่อให้ได้รับเงินเยียวยาในครั้งนี้อย่างครบถ้วนและเร็วที่สุด ขอให้ประชาชนทุกคนมั่นใจเราเร่งแก้ไข ฟื้นฟู และใส่ใจความเป็นอยู่ของทุกคนในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และขอให้เชื่อมั่นว่าเราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง รัฐบาลจะอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชนในทุกๆ ก้าว เพื่อก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน
ที่กองทัพภาคที่ 1 พล.ต.สุรวิชญ์ แดงจันทร์ โฆษกกองทัพภาคที่ 1 แถลงข่าวถึงขั้นตอนการดำเนินการทางยุทธการของแม่ทัพภาคที่ 1 ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาที่รับผิดชอบว่า ได้สั่งการและเตรียมกำลังในการเคลื่อนย้ายกำลังเข้าพื้นที่ปฏิบัติการในจังหวัดสระแก้ว พร้อมดำเนินการตามแผนจักรพงษ์ 681 แต่เช้ามืดวันที่ 26 กันยายนต่อที่หมายพื้นที่ปฏิบัติการเพื่อตรึงการปฏิบัติการของฝ่ายตรงข้ามใน 4 พื้นที่ ตามที่กองทัพบกมอบหมาย
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ชุมชน ทางแม่ทัพภาคที่ 1 เน้นย้ำให้ระมัดระวังและกระทำต่อเป้าหมายทางทหารเท่านั้น ดังนั้นการปฏิบัติที่มีการปกปิดและมีความรอบคอบไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามรู้ตัว ผลการดำเนินการถึงไม่มีการปะทะ การดำเนินการเราใช้หน่วยทหารที่มีศักยภาพสูงกว่าหลายเท่า ทำให้ฝ่ายตรงข้ามยินยอมและล่าถอยไป จากนั้นเข้าถูกทำลายที่ตั้งทางทหารและวางลวดหนาม
จึงย้ำว่าการปฏิบัติการเป็นไปอย่างรอบคอบ ไม่ให้กระทบประชาชนของกัมพูชา ป้องกันไม่ให้นำไปขยายผลต่อเวทีโลกว่าเราปฏิบัติต่อเป้าหมายพลเรือน นี่คือความยากในกลยุทธ์และการดำเนินการของพวกเรา ย้ำว่าตลอดระยะเวลาแม่ทัพภาคที่ 1 ลงพื้นที่อำนวยการยุทธด้วยตัวเอง ประชุมกับผู้บังคับการกรมเพื่อให้เกิดความรอบคอบแต่ละที่หมาย
การซีลชายแดนโดยสมบูรณ์ในพื้นที่กองกำลังบูรพาในจังหวัดสระแก้ว ยืนยันว่าเราปิดด่านทุกประเภทอย่างสนิทและถาวรทุกด่านมาตั้งแต่ก่อนหยุดยิง เป็นมาตรการกดดันกัมพูชา สิ่งที่เราทำเอาออกก็คือซ้อนแนวลวดหนามชายแดนของเรา 165 กิโลเมตร เป็นทางบก 95 กม. เป็นคลอง 70 กม. พอหน้าแล้งก็สามารถเดินข้ามคลองได้ ทั้งนี้ เราได้สั่งให้กองกำลังบูรพาสกรีนแนวชายแดนทั้งหมดอีก 16 กิโลเมตร ซอยเข้าไปด้วยแนวรั้วลวดหนามโดยไม่ให้มีการข้ามแดนผิดกฎหมาย ความหมายคือสกรีนแนวชายแดนร้อยเปอร์เซ็นต์ด้วยด่านปกติและเครื่องมือ นี่คือหัวใจในการที่เราใช้ทางยุทธวิธี ยุทธการ และยุทธศาสตร์ปิดล้อม และกดดันทั้งภาวะเศรษฐกิจด้วย
"การดำเนินการของเรามีผลไปถึงกองทัพภาคที่ 2 ด้วย อีกทั้งเรายังส่งกำลังไปหลายหน่วย แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ถ้าอยากทราบว่าเป็นหน่วยไหน ได้ดูคลิป 5 นาทีที่เหมือนสตาร์วอร์ นั่นคือหน่วยที่มีศักยภาพสูง กองทัพภาคที่ 1 ทำเต็มที่ ขอให้รอดูผลที่จะเกิดขึ้น แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ฝากมาว่าท่านทำทุกอย่างโดยยึดหลักถูกต้องภายใต้คุณธรรม หลักการท่านขอปิดทองหลังพระ ไม่ชอบฉายแสง ยืนยันว่าต่อไปนี้จะไม่ให้ชาวกัมพูชาเข้ามารุกล้ำอธิปไตยของไทย และเราจะไม่เป็นพี่ใหญ่ใจดีอีกแล้ว".
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา
แบบพระเมรุมาศเสร็จม.ค. สานพระราชปณิธานผ้าไทย
"อธิบดีกรมศิลป์" เผยแบบก่อสร้างพระเมรุมาศ “พระพันปีหลวง” แล้วเสร็จ ม.ค.69
หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.
"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.


