พท.ซัดรัฐประหารทำพัง คุณหญิงกัลยาซบดร.เอ้!

“พท.” โอดรัฐประหาร 19 ก.ย.49   สะเทือนถึงปัจจุบัน "ไอติม" จี้ ภท.โชว์จริงใจ ลุยเชิงรุกคุย สว.แก้ รธน.คุณหญิงกัลยา” ทิ้ง ปชป.ไปพรรค ดร.เอ้  ด้าน สส.พัทลุงประกาศอุ้ม “พีระพันธุ์” กมธ.นิรโทษฯ ปิดจ๊อบ ต.ค.

เมื่อวันที่ 19 ก.ย. พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ตอบคำถามถึงกรณีครบรอบ 19 ปี เหตุรัฐประหาร 19 ก.ย.49  บทบาทกองทัพเปลี่ยนแปลง ซึ่งจากเหตุการณ์สู้รบทำให้ทหารได้รับการยอมรับมากขึ้นว่า คิดว่าการยอมรับของประชาชนมาจากการเสียสละของคนทั้งเลือดเนื้อและชีวิต อีกทั้งความเสียสละของผู้นำกำลังทหารต่างๆ ที่แสดงว่าเป็นทหารอาชีพ  กองทัพเห็นว่าสิ่งเหล่านี้เหมาะและควร เราจะต้องดำรงเจตนาของนักรบและทหารของแผ่นดินเพื่อรักษาไว้

ขณะที่ เพจพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ถึงการครบรอบ 19 ก.ย.49 ตอนหนึ่งว่า การเมืองไทยหลังรัฐประหารปี 2549 คือจุดหักเหครั้งใหญ่ที่ทำให้หลักนิติรัฐและระบอบประชาธิปไตยถูกสั่นคลอนอย่างรุนแรง สิ่งที่ถูกนำเสนอว่าเป็นการ  “แก้ปัญหาระบอบทักษิณ” แท้จริงแล้วกลับเป็นการทำลายโครงสร้างทางการเมืองที่ตั้งอยู่บนเสียงประชาชน คล้ายกับการ “จุดไฟเผาทั้งป่าเพื่อล่าหนูเพียงตัวเดียว”

เพจพรรคเพื่อไทยระบุว่า ประเทศไทยในเวลานั้นไม่ได้สูญเสียเพียงนายกรัฐมนตรีชื่อทักษิณ ชินวัตร หรือพรรคไทยรักไทย แต่สิ่งที่หายไปคือโอกาสเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ และสังคมที่กำลังเดินหน้า เสียงของประชาชนที่ถูกให้ความหมายผ่านการเลือกตั้ง กลับถูกตีตราด้วยวาทกรรม “โง่ จน เจ็บ” เพื่อบั่นทอนความชอบธรรมของ 1 สิทธิ 1 เสียง การเมืองที่เคยเป็นเครื่องมือยกระดับชีวิตผู้คน กลับถูกหยุดยั้งด้วยการยุบพรรค การเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ และการถ่ายโอนอำนาจให้กับวุฒิสภาที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง

บทเรียนจากปี 2549 ทำให้เห็นสูตรสำเร็จของการโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอย่างเป็นระบบ เริ่มจากการระดมมวลชนรายสัปดาห์ ใช้ข่าวปลอมและวาทกรรมโจมตีเพื่อสร้างความชอบธรรม ก่อนจะตามมาด้วยบทบาทของตุลาการและองค์กรอิสระในการตัดสินใจแทนเสียงประชาชน และปิดฉากด้วยการเข้ายึดอำนาจโดยกองทัพ สูตรสำเร็จนี้ไม่เพียงล้มรัฐบาลไทยรักไทย แต่ยังสร้างแบบแผนที่ส่งผลสะเทือนต่อการเมืองไทยเรื่อยมา

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงการครบเหตุการณ์รัฐประหาร 19 ก.ย.49 ว่า เป็นโอกาสที่ดี ช่วง 4 เดือนข้างหน้าที่เราพยายามจะเปิดประตูการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประชาชน และขอย้ำว่าการแก้รัฐธรรมนูญไม่ใช่วาระของนักการเมือง แต่ต้องเป็นวาระของประชาชนและประเทศ เพราะจะได้เป็นการแก้ไขปัญหาที่เรื้อรังมา 19 ปี

นายพริษฐ์ยังกล่าวถึงผลการประชุมเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 18 ก.ย.ว่า มีตัวแทนจากพรรคการเมืองทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคประชาชน และ สว. เกี่ยวกับความคืบหน้าในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญเพื่อแก้ไขมาตรา 256  หมวด 15/1 ซึ่งพรรคภูมิใจไทยไม่ได้มาร่วมประชุม แต่ได้หารือนอกรอบในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร และยืนยันไทม์ไลน์เดิมว่า ทั้ง 3  พรรคจะยื่นร่างแก้รัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในสัปดาห์หน้า คาดว่าจะพิจารณาวาระ 1 ได้ต้นเดือน ต.ค. และวาระ 2-3 ในเดือน ธ.ค. พร้อมยุบสภาในเดือน ม.ค.69 และจัดทำประชามติรอบแรกในการเลือกตั้ง สส.ทั่วไป คาดว่าจะเป็นช่วงเดือน มี.ค.หรือ เม.ย.69

นายพริษฐ์กล่าวอีกว่า ทั้ง 3 พรรคการเมืองเห็นตรงกัน 2 เรื่อง เรื่องแรกคือการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะมีการตั้งกลไกที่ยึดโยงกับประชาชนให้เข้ามามีส่วนร่วม และสอง โมเดล ส.ส.ร.ของทั้ง 3 พรรค ที่จะมีตัวแทนระดับพื้นที่และตัวแทนระดับประเทศ โดยขอให้ประชาชนจับตาดูในอีก 3 ประเด็นเพิ่มเติม คือ 1.กลไกจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุด และใกล้เคียงกับการเลือกตั้งทางตรงมากที่สุด 2.วิเคราะห์บทบาทของ สว. 3.โมเดล ส.ส.ร.ต้องไม่นำไปสู่โมเดลการกินรวบ

ส่วนที่พรรคภูมิใจไทยไม่เข้าร่วมประชุมนั้น   นายพริษฐ์ระบุว่า ได้สะท้อนความเห็นเรื่องนี้ไปตรงๆ กับตัวแทนของพรรคภูมิใจไทย ว่าทางที่ดีควรที่จะมาเข้าร่วมประชุมด้วย เพราะจะได้เป็นการสื่อสารสองทาง ไม่ใช่แค่มานำเสนอ แต่จะยังให้ความมั่นใจให้กับประชาชนที่จับตาเรื่องนี้อยู่  ยอมรับว่าตนตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดพรรคภูมิใจไทยไม่เข้าร่วมประชุม ทั้งที่พรรคภูมิใจไทยมีคณะทำงานเรื่องนี้ หากมีการส่งบุคคลจากคณะทำงานดังกล่าวมาจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงาน  แต่อย่างไรก็ตาม พรรคภูมิใจไทยให้คำมั่นว่าจะมีการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมในสัปดาห์หน้า และคำถามเรื่องนี้ควรที่จะโยนไปถามพรรคภูมิใจไทยด้วย

จี้ภูมิใจไทยคุย สว.แก้ รธน.

โฆษกพรรคประชาชนกล่าวอีกว่า ส่วนรูปแบบ ส.ส.ร.ของพรรคภูมิใจไทยนั้น จากการพูดคุยเบื้องต้นมีรายละเอียดคล้ายๆ กับพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย คือมีกลไกมาเสริมของรัฐสภา และมีกลไกที่มาจากตัวแทนประชาชน ส่วนท่าทีของ สว.นั้น ตัวแทนจากคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ วุฒิสภา มีท่าทีสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว

“ขณะนี้ยังไม่เห็นท่าทีที่ชัดเจนของ สว.เสียงข้างมาก ซึ่งยังไม่เคยแสดงความเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเลย จึงขอเชิญชวน สว.มาร่วมกันผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ และเรียกร้องไปถึงพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย แกนนำรัฐบาลให้ทำงานเชิงรุกพูดคุยกับ สว.เพื่อให้ได้เสียง 1 ใน 3 เห็นชอบ” โฆษกพรรคประชาชนย้ำ

เขากล่าวด้วยว่า พรรคประชาชนพร้อมที่จะเดินสายพูดคุยกับ สว. ซึ่งในส่วนของพรรคประชาชนทำเต็มที่ และพร้อมทำต่อไป แต่เวลานี้ตนอยากจะเรียกร้องไปยังพรรครัฐบาลพรรคภูมิใจไทยให้ทำตรงนี้เช่นกัน

มีความเคลื่อนไหวการเปลี่ยนแปลงในพรรคประชาธิปัตย์ โดยคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุตอนหนึ่งว่า ขอเรียนแจ้งความประสงค์ในการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขอขอบพระคุณพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้มอบโอกาสและความไว้วางใจเสมอมา ข้าพเจ้าขอส่งความปรารถนาดีต่อพรรคประชาธิปัตย์ ให้ประสบความสำเร็จในภารกิจเพื่อประชาชนและประเทศชาติสืบไป

จากนั้นคุณหญิงกัลยาได้เดินทางมาที่ทําการพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค และนำมาลัยมากราบลาพระแม่ธรณี พร้อมกับเปิดเผยถึงกระแสข่าวตั้งพรรคใหม่ ของนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่า คุยกันมาพักใหญ่แล้ว รู้สึกว่าพรรคเขาเป็นหลักเป็นฐานขึ้นแล้ว ส่วนเรื่องการเปิดตัวพรรคทางการนั้น ต้องถามนายสุชัชวีร์ แต่เข้าใจว่าคงไม่นาน เร็วๆ นี้

เมื่อถามว่า อยากฝากอะไรไว้กับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ คุณหญิงกัลยาตอบว่า “กราบขอบพระคุณ ท่านชวน ท่านอภิสิทธิ์ ท่านบัญญัติ และท่านจุรินทร์ หัวหน้าพรรคที่เราอยู่ด้วย 4 ท่าน ซึ่งเป็นต้นแบบประชาธิปัตย์ เป็นต้นแบบสนับสนุน ส่งเสริมให้ทำสิ่งที่มีความเชื่อมาโดยตลอดว่าเป็นสิ่งที่ดีงามกับประเทศชาติ แต่ตอนนี้ทุกอย่างถดถอยลงไปมากแล้ว จึงน่าจะเป็นโอกาสที่เราจะใช้ยุทธศาสตร์ เทคโนโลยี การศึกษา เรื่องน้ำ มาแก้วิกฤตประเทศชาติในตอนนี้"

คุณหญิงกัลยาระบุว่า สำหรับพรรคที่จะไปต่อนั้น ชื่อว่าพรรคไทยก้าวหน้า เราจะเดินไปด้วยกัน ด้วยก้าวใหม่ รวมใจคนรักลูกหลานทําการเมือง

วันเดียวกัน นายนิติศักดิ์ ธรรมเพชร สส.พัทลุง พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า ได้นำตัวแทนคณะผู้นำท้องถิ่นจังหวัดพัทลุง ประกอบด้วย คณะเทศบาล, คณะนายกองค์การบริหารส่วนตำบล จังหวัดพัทลุง และพื้นที่ภาคใต้ เดินทางมายังพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อแสดงจุดยืนอันชัดเจนในการสนับสนุนนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เป็นผู้นำในการขับเคลื่อนพรรครวมไทยสร้างชาติให้เป็นสถาบันการเมืองที่เข้มแข็งและมุ่งมั่น ทำเพื่อประเทศชาติและคนไทยต่อไป

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เข้ายื่นต่อ กกต. เพื่อขอให้เชิญนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ มาให้ข้อมูล จากการที่นายเทพไทได้ให้สัมภาษณ์ถึงการซื้อตัว สส.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เกรด A 80 ล้านบาท, เกรด B 50 ล้านบาท และเกรด C 30 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าของการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สร้างเสริมสังคมสันติสุข สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นประธาน กมธ.ว่า ในการประชุมเมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา มีการพิจารณาเรื่องของการคืนเงินให้คดีทางแพ่ง มาตรา 8 ในกรณีที่การกระทำผิดตามมาตรา 6 ก่อให้เกิดความเสียหายทางแพ่งแก่หน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ ให้ความรับผิดทางแพ่งต่อหน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจนั้นเป็นอันระงับสิ้นไป

โดยจากร่างเดิมที่หากถูกดำเนินคดีทางแพ่งแล้วมีการชำระเงินไปแล้วต้องคืนเงินให้ด้วย เช่น กรณีของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยชุมนุมปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิ  มีความเสียหายที่ทางบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT สนามบินสุวรรณภูมิฟ้องหลักพันล้านบาท และบังคับคดีมาได้แล้ว 5 ล้านบาท หากเป็นกฎหมายเดิม สนามบินสุวรรณภูมิต้องชดใช้ให้ผู้ที่ถูกบังคับมา แต่ในที่ประชุม กมธ.ได้ข้อสรุปคือ หักมาแล้วถือว่าแล้วไป หากร่างกฎหมายนี้ผ่าน คือไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มแล้ว และครอบคลุมไม่เป็นบุคคลล้มละลาย ให้พ้นจากการรับผิดทางแพ่ง และคืนทรัพย์ให้

โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบมาตรา 8 ข้อความว่า ในกรณีที่การกระทำความผิดตามมาตรา 6 ก่อให้เกิดความเสียหายทางแพ่งแก่หน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ ให้การดำเนินคดีทางแพ่งโดยหน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจนั้นเป็นอันยุติลง และมิให้หน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจนั้นฟ้องร้องเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเสียหายดังกล่าวกรณีตามวรรคหนึ่ง ถ้าศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ผู้ใดชำระค่าเสียหายแก่หน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจใด ให้การชดใช้ค่าเสียหายหรือการบังคับคดีให้หน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจเป็นอันยุติลง ทั้งนี้ ไม่กระทบต่อการชำระหนี้หรือการบังคับคดีที่ดำเนินการเสร็จสิ้นไปก่อนแล้ว

อย่างไรก็ดี คาดว่า กมธ.จะพิจารณาร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวแล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พท.ผวา ‘มันนีโพลิติกส์’

พรรคประชาชนเดินหน้าฝันแลนด์สไลด์ได้ สส. 250 ที่นั่ง จัดตั้งรัฐบาลประชาชน ดูจากตัวเลขผู้บริจาคให้พรรคมากกว่าแสนคน ขณะที่เพื่อไทยต้อนรับทีมสุวัจน์

ยึดเนิน350ได้แล้ว! ร่าง2ทหารกล้ากลับมาตุภูมิ/ส่งสัญญาณเตือนชนชั้นนำเขมร

ข่าวดี! ทหารไทยควบคุมเนิน 350 ได้แล้ว อยู่ระหว่างการสถาปนาความมั่นคง นำร่าง 2 วีรบุรุษกลับมาตุภูมิ ขณะที่กองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ ตรวจพบการปะทะเป็นระยะ