เวทีแถลงนโยบายส่อเดือด ฝ่ายค้านขู่ซัดไม่ยั้ง อนุทิน-ครม.กลางห้องประชุมรัฐสภา พท.แยกเขี้ยวรอฟัด ตั้งข้อหาฉกรรจ์ “4 เดือนยุบคดี กับ 4 หายนะ มีแน่จัดหนักเขากระโดง-ฮั้ว สว. พรรคส้มขึงขังขน 20 สส. จ้องเปิดแผลเก่ารัฐมนตรีติดคดี-มีชนักติดหลัง “นายกฯ หนู” ไม่หวั่น เรียก รมต.ติวเข้มก่อนทำศึก
วันจันทร์ที่ 29 ก.ย. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะนำคณะรัฐมนตรีเข้าห้องประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อแถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งจะมีไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย.
ด้านความเคลื่อนไหวก่อนถึงวันประชุมดังกล่าว นายอนุทินกล่าวถึงความพร้อมในเรื่องนี้ว่า ร่างนโยบายรัฐบาลได้ศึกษาแล้ว ในวันที่ 29 ก.ย. ตามรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีต้องลุกขึ้นอ่านนโยบายเพื่อให้ที่ประชุมสภารับทราบ โดยเรื่องทํางานไม่ใช่เพิ่งเข้ามาทํางานใหม่ เราทําต่อเนื่องมา 6 ปีแล้ว เว้นแต่ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมานี่เองที่มีพักร้อนไป สิ่งที่ทําค้างอยู่ในช่วง 2 เดือน ยังไม่ถึงขั้นต้องยกเลิก สิ่งที่เราอยากทําอะไรก็สานต่อนโยบายใหม่ๆ ในฐานะที่เป็นนายกฯ สามารถมีนโยบายช่วยเหลือประชาชนในการกระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ นายอนุทิน ในฐานะ รมว.มหาดไทย ยังกล่าวถึงการร่วมรับประทานอาหารเมนูห่านพะโล้กับนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยนายอนุทินหัวเราะก่อนกล่าวว่า มันต้องกินใช่หรือไม่ มันต้องกินข้าว การทำงานนึกถึงประโยชน์บ้านเมืองเป็นหลัก จะเอาอย่างไรกับคนก่อนหน้านี้ที่เขาทำมา ย้ายคนแทบหมดกระทรวง แล้วได้ประโยชน์อะไร งานสำเร็จหรือมีผลงานหรือไม่ นอกจากสิ่งที่ไปหลอกลวงกัน ทำไม่สำเร็จเลย แล้วประชาชนได้อะไร ก็ไม่ได้อะไรเลย แต่การทำงานแบบตนเอาประชาชนเป็นหลัก ดังนั้นจะย้ายใครหรือไม่ย้ายใครไม่ใช่เรื่องหลัก ทุกคนต้องทำงาน สิ่งนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าวิธีการทำงานแตกต่างกัน และผลการทำงานก็ต้องแตกต่างกัน
เมื่อถามว่า จะคืนความยุติธรรมให้กับข้าราชการกระทรวงมหาดไทยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “คนที่ไม่ได้รับความยุติธรรมก็จะได้รับความยุติธรรมคืน” เมื่อถามว่าแสดงว่าจะย้ายกลับ นายอนุทินกล่าวย้อนว่า “แล้วใครจะเอาอะไรมายัดปากผม”
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้านายอนุทินได้แต่งกายด้วยชุดเสื้อยืด กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ ขับรถโบราณยี่ห้อซีตรอง ไปรับประทานห่านพะโล้ร้านฉั่วคิมเฮงห่านพะโล้ ซึ่งเป็นร้านชื่อดัง โดยมีนายอรรษิษฐ์ร่วมรับประทานด้วย ซึ่งร้านดังกล่าวเป็นร้านประจำของนายอนุทินและนายอรรษิษฐ์ที่มารับประทานบ่อยครั้งในช่วงที่นายอนุทินเป็น รมว.มหาดไทยครั้งแรก
วันเดียวกันนี้ น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณียุทธศาสตร์การอภิปรายของพรรคเพื่อไทย ที่ตั้งแคมเปญการอภิปรายไว้ว่า 4 เดือนยุบคดี 4 หายนะ และการอภิปรายของพรรคประชาชน ที่ทวงถามถึงไทม์ไลน์การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ตาม MOA ว่า การอภิปรายการแถลงนโยบายของรัฐบาลเป็นอย่างไรนั้น แต่ละพรรคการเมืองจะต้องเตรียมบุคคลที่มาอภิปราย การแถลงนโยบายควรอยู่ในขอบเขตเนื้อหาที่นายกฯ แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เนื้อหาอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการแถลงนโยบายต้องมองว่าเข้ากับวาระการประชุมสภาหรือไม่ หรือให้รออีกนิดหนึ่งที่ฝ่ายค้านบอกว่าจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนที่จะอภิปรายเรื่องที่ดินเขากระโดงและคดีฮั้ว สว. รวมถึงคุณสมบัติรัฐมนตรีมาอภิปราย ต้องดูที่เนื้อหาว่าจะมีการอภิปรายอย่างไร แต่มั่นใจว่าในทุกการอภิปรายแถลงนโยบาย รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องตอบได้ทุกคำถาม
พรรคส้มจัด 20 สส.รออภิปราย
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมอภิปรายการแถลงนโยบายรัฐบาลว่า พรรคประชาชนจัด สส.ไว้อภิปรายประมาณ 20 คน เพื่อให้ครอบคลุมทุกเรื่อง ทั้งนโยบายเร่งด่วนเฉพาะหน้า รวมถึงคุณสมบัติของรัฐมนตรีที่เรามองว่ามีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ ทั้งที่มีคดีอยู่ใน ป.ป.ช. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ตัวรัฐมนตรีก็น่าจะทราบอยู่แล้ว แต่ยังคงแสวงหาอำนาจเดินหน้าทำหน้าที่ฝ่ายบริหารต่อ เราจึงต้องป้องปรามไม่ให้รัฐมนตรีเหล่านี้ไปกำกับดูแลแทรกแซงหน่วยงานระดับกรมภายใต้กระทรวงของตัวเอง เพื่อไม่ให้เกิดความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดการทุจริตคอร์รัปชัน จึงต้องใช้การอภิปรายในการดักคอเพื่อไม่ให้เหตุการณ์เกิดขึ้น
“ส่วนมีรัฐมนตรีคนใดบ้างต้องขออุบไว้ก่อน แต่มีค่อนข้างเยอะ เราไม่ได้เน้นใครเป็นพิเศษ ว่ากันไปตามประเด็น แต่ต้องยอมรับว่าหน้าตาของรัฐมนตรีก็ไม่ได้แตกต่างจากรัฐบาลชุดก่อนๆ สักเท่าไหร่ ทั้งนี้ พรรคประชาชนได้เวลาอภิปรายค่อนข้างน้อย เพราะต้องแบ่งเวลากับพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีจำนวน สส.ใกล้เคียงกัน” แกนนำพรรคประชาชนระบุ
พท.ขึงขังถล่มแหลก 4 หายนะ
ด้านเพื่อไทย ทางนายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเรื่องเดียวกันนี้ว่า เพื่อไทยในฐานะฝ่ายค้านอิสระ จะต้อนรับรัฐบาลใหม่อย่างไม่มีการออมมือ ภายใต้แคมเปญ “4 เดือนยุบคดี กับ 4 หายนะ” เนื่องจากพรรคเพื่อไทยเห็นชัดเจนว่า การตั้งรัฐบาลครั้งนี้แม้จะเป็นรัฐบาลเฉพาะกิจเพียงแค่ 4 เดือน แต่กลับมีภารกิจแอบแฝงอย่างมีนัยสำคัญ สิ่งเหล่านี้จะนำมาซึ่งหายนะ 4 ด้านด้วยกัน คือหายนะที่ 1 การขาดโอกาส คือการทำให้ประเทศหยุดชะงัก นโยบายโครงการต่างๆ ที่เป็นวางรากฐานการลดค่าครองชีพและเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ซึ่งไม่ใช่เพียงนโยบายลดแลกแจกแถม ถูกรัฐบาลใหม่ปัดตกทั้งหมดเพียงเพราะเป็นนโยบายที่รัฐบาลเพื่อไทยเป็นคนคิด และปูทางไว้ หายนะที่สอง การขาดคนมีฝีมือ เห็นได้ชัดเจนรัฐบาลนี้ คือรัฐบาลนอมินีบุรีรัมย์ ที่มีรัฐมนตรีปราสาทสายฟ้าคอนเน็กชัน ถูกวางตัวให้ทำภารกิจสำคัญจำนวนมาก แม้ในคำแถลงนโยบายจะปรากฏข้อความว่า รัฐบาลจะรักษาหลักนิติธรรมอย่างเคร่งครัด จะขจัดทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างเด็ดขาด หรือทำสงครามกับการพนันออนไลน์ ภัยไซเบอร์ และข่าวปลอม สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ดี และต้องการคนมีฝีมือเข้าไปทำงาน แต่นายกรัฐมนตรีกลับเลือก “คนที่เชื่อมือ และคนใกล้ชิด” เข้าไปทำงานแทน
โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวต่อไปว่า สำหรับหายนะที่ 3 การขาดความโปร่งใส เมื่อการจัดวางตำแหน่งแห่งที่ของรัฐมนตรีสำคัญๆ ที่มีบทบาทอำนาจหน้าที่ซึ่งเกี่ยวข้องกับสองคดีใหญ่ คือคดีการบุกรุกที่ดินเขากระโดง และคดีฮั้ว สว. มาจากค่ายบ้านใหญ่สีน้ำเงินแล้ว ความโปร่งใสที่ควรจะเป็นอาจถูกปิดทับด้วยฟิล์มสีดำสนิท และความโปร่งใสไม่อาจเกิดขึ้นได้เมื่อผู้บังคับกฎเกณฑ์มี ‘เจ้านาย’ ที่ไม่ใช่ประชาชน แต่เป็น ‘นายใหญ่บุรีรัมย์’ และหายนะที่ 4 คือ การขาดอนาคตประชาธิปไตย เดิมทีศัตรูคู่ตรงข้ามกับประชาธิปไตยมักแฝงตัวอยู่ในเงามืด และขับเคลื่อนการเมืองอยู่หลังฉาก แต่วันนี้พวกเขาเริ่มปรากฏตัวให้เห็นอย่างเด่นชัดผ่านสถาบันทางการเมืองต่างๆ แบ่งอำนาจและกระจายตัวอยู่ในที่ต่างๆ แต่มีสัญลักษณ์ร่วมกันคือสีน้ำเงิน พวกเขาได้รับการชุบชีวิตจากตั๋วช้างสีส้ม แม้จะมีการอ้างว่า ทำไปด้วยเจตนาที่ดีต่อประเทศชาติ แต่ปลายทางที่รัฐบาลสีน้ำเงินกำลังเดินไป โดยมีพลพรรคสีส้มเป็นผู้ให้กำเนิดนี้ อาจจะนำไปสู่หายนะที่ไม่มีวันย้อนกลับ
“เนื้อหาชุดใหญ่ พรรคเพื่อไทยพร้อมจัดเต็มโดยไม่ออมมือ ไม่ต้องคอยค้ำยันให้รัฐบาล และเราจะใช้เวลา 6 ชั่วโมงอย่างคุ้มค่า เพื่อชี้ให้เห็นปัญหา ผลกระทบ และหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดนี้” โฆษกพรรคเพื่อไทยระบุ
นายประมวล พงศ์ถาวราเดช รักษาการหัวหน้าพรรค ในฐานะประธาน สส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยภายหลังการประชุม สส.พรรคว่า ในการแถลงนโยบายรัฐบาล ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 29-30 กันยายนนี้ ที่ประชุมได้จัดสรรตัวผู้อภิปรายหลักไว้ 4 คน โดยพรรคได้รับเวลาสำหรับการอภิปรายทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง
สำหรับรายชื่อผู้อภิปรายหลักที่ได้รับการวางตัว ประกอบด้วย 1.นายชวน หลีกภัย 2.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ 3.นายชัยชนะ เดชเดโช 4.นายพิทักษ์เดช เดชเดโช ซึ่งการวางตัวอดีตผู้นำพรรคและ สส.ที่มีประสบการณ์ ถือเป็นการส่งสัญญาณว่า พรรคประชาธิปัตย์พร้อมที่จะตรวจสอบ และให้ข้อเสนอแนะต่อนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ที่นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี อย่างเข้มข้น ซึ่งเชื่อมั่นว่าในการอภิปรายของพรรคจะเป็นประโยชน์กับประชาชนอย่างแน่นอน
'อนุทิน' ติวเข้มรมต.รับมือฝ่ายค้าน
ต่อมาในช่วงเย็นวันเดียวกัน ที่พรรคภูมิใจไทย พบว่ารัฐมนตรีหลายคนเดินทางไปยังที่ทำการพรรค เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการประชุมรัฐสภาแถลงนโยบายรัฐบาล เช่น นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินทางเข้ามาเป็นคนแรก โดยเปิดเผยว่า วันนี้เข้ามาหลังได้รับแจ้งว่าให้มาร่วมประชุมก่อนแถลงนโยบายรัฐบาล ในวันที่ 29 ก.ย. ผู้สื่อข่าวจึงแซวว่า ทำงานวันหยุด ก่อนที่นางศุภจีจะหันมากล่าวว่า ไม่มีวันหยุดค่ะ พร้อมชูนิ้วโป้ง และยังมีนายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม, น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม, นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางเข้ามา
จากนั้นนายอนุทินให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมร่วมกับรัฐมนตรีและแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลว่า มีการทำความเข้าใจกันในบทบาทหน้าที่ของรัฐมนตรีและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะเป็นอย่างไร ในการแถลงนโยบายรัฐบาลในวันที่ 29 ก.ย. ซึ่งไม่ได้มีการกำชับอะไรเป็นพิเศษ ทุกคนรู้หน้าที่เป็นอย่างดี โดยรัฐมนตรีทุกคนเข้าใจว่าต้องเตรียมข้อมูลต่างๆ เพื่อชี้แจงข้อสงสัยของสมาชิกรัฐสภา ทั้ง สส.และ สว. ส่วนจะถือเป็นการซักซ้อมสำหรับการชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่นั้น ขออย่าคิดอะไรไปทางการเมืองมากเกินไป เราทำหน้าที่และทำงานอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ ตรงไปตรงมา หากมีข้อสงสัยใดๆ รัฐมนตรีทุกคนต้องมีความพร้อมที่จะตอบให้คลายข้อสงสัย
นายอนุทินยังกล่าวถึงการแบ่งรัฐมนตรีที่จะชี้แจงว่า เรามีกรอบนโยบาย หากมีคำถามของสมาชิกรัฐสภาถามเข้ามาอยู่ในกรอบนโยบายนั้น รัฐมนตรีที่รับผิดชอบดูแลหน่วยงานนั้นๆ ก็จะต้องเป็นคนตอบชี้แจงให้สิ้นข้อสงสัย ซึ่งตนจะอยู่ทั้ง 2 วันจนเลิก เพราะต้องให้เกียรติสมาชิกรัฐสภา และได้กำชับไปว่าบนที่นั่งของ ครม.ในรัฐสภา ต้องมีรองนายกฯ และรัฐมนตรีประจำอยู่ตลอดเวลา โดยให้นายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นคนจัดผลัดรัฐมนตรีให้มารอชี้แจง เพื่อให้การรับฟังข้อชี้แนะหรือข้อเสนอแนะใดๆ ของสมาชิกได้มีการสื่อสารกันอย่างชัดเจน
ส่วนการประชุม ครม.ที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 ก.ย.นั้น นายอนุทินกล่าวว่า จะมีขึ้นหลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งน่าจะเสร็จในช่วงเย็น โดยจะไปประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล เพราะเครื่องมือเครื่องไม้ต่างๆ รวมทั้งข้าราชการประจำที่เกี่ยวข้อง เช่น เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จะไม่ต้องตามมาที่สภา โดยให้ ครม.เคลื่อนไปที่ทำเนียบฯ แทน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
นายกฯยังห่วงหาดใหญ่ ประเดิมพ.ย.เว้น‘ค่าไฟ’
"อนุทิน" รับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน นำประชาชนกลับบ้านแล้ว 90% “เท้ง” แซะบอร์ดมีไว้แค่ให้พาดหัว
อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก
นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม
พสกนิกรทั่วไทย เข้าถวายสักการะ ‘พระพันปีหลวง’
พระราชวงศ์บำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ พสกนิกรทุกสารทิศหลั่งไหลเข้ากราบพระบรมรูปในหลวง ร.9 และสักการะพระบรมศพ
ส้มขีดเส้นโหวตก่อนปีใหม่!
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
พร้อมหน้า นายกฯหนู โพสต์ภาพพาครอบครัวกินห่านพะโล้ในวันพ่อแห่งชาติ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า พาพ่อ แม่เมีย น้อง หลาน ไปกินห่านพะโล้เนื่องในวันพ่อ #ฉั่วคิมเฮง


