อีสานหนุนหนู/ตุ๋ยเข็นรทสช.

"นิด้าโพล" เผยคนอีสานหนุน  "อนุทิน" เป็นนายกฯ ตามด้วย "ณัฐพงษ์" พร้อมเลือก "ปชน." อันดับหนึ่ง สวนดุสิตโพลชี้ปัญหา  “สแกมเมอร์-MOU แรร์เอิร์ธ" กระทบเชื่อมั่นรัฐบาล “อนุทิน” ลุยเมืองตรัง เปิดตัว “บ้านใหญ่โล่สถาพรพิพิธ” สวมเสื้อ ภท.ให้ 4 ผู้สมัคร สส.  "รทสช." เลือก "พีระพันธุ์" นั่งหัวหน้าพรรคต่อ "ชัชวาลล์" เลขาฯ เดินหน้าสู้ศึกเลือกตั้ง "พท." โยน "จุลพันธ์" คุย ปชน.ยื่นซักฟอกด้วยหรือไม่ โวพร้อมเลือกตั้งทุกมิติ "ศิริกัญญา" ตีปี๊บปล่อยสโลแกน "มีเราไม่มีเทา" ตั้งเป้า 250 เก้าอี้ ลั่นตรวจสอบทุกพรรค

เมื่อวันอาทิตย์ ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจเรื่อง “กระแสการเมือง ภาคอีสาน” ระหว่างวันที่ 27-30 ตุลาคม 2568  จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กระจายทุกระดับการศึกษา อาชีพ จำนวน 2,000 หน่วยตัวอย่าง

เมื่อถามถึงบุคคลที่คนอีสานจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 32.40 ระบุว่ายังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้,  อันดับ 2 ร้อยละ 19.70 ระบุว่าเป็นนายอนุทิน  ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย), อันดับ 3 ร้อยละ 18.55 ระบุว่าเป็นนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ  (พรรคประชาชน), อันดับ 4 ร้อยละ 8.80 ระบุว่าเป็นนายชัยเกษม นิติสิริ (พรรคเพื่อไทย), อันดับ 5 ร้อยละ 6.10 ระบุว่าเป็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (พรรคประชาธิปัตย์), อันดับ 6 ร้อยละ 4.80 ระบุว่าเป็นคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย), อันดับ 7 ร้อยละ 2.80 ระบุว่าเป็น พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ (พรรคเศรษฐกิจ), อันดับ 8 ร้อยละ 2.70 ระบุว่าเป็น พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา, อันดับ 9 ร้อยละ 1.55 ระบุว่าเป็นนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (พรรครวมไทยสร้างชาติ)

ร้อยละ 2.50 ระบุอื่นๆ ได้แก่ นายวราวุธ ศิลปอาชา (พรรคชาติไทยพัฒนา), ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (พรรคไทยก้าวใหม่), พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ (พรรคพลังประชารัฐ), พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง (พรรคประชาชาติ), นายรังสิมันต์ โรม (พรรคประชาชน), ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ (พรรคกล้าธรรม), นายจาตุรนต์ ฉายแสง (พรรคเพื่อไทย), นายเทวัญ ลิปตพัลลภ (พรรคชาติพัฒนา), นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา (พรรคประชาชาติ), นายวสวรรธน์ พวงพรศรี (พรรคไทรวมพลัง) และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย)

เมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่คนอีสานจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 26.05 ระบุว่าเป็นพรรคประชาชน, อันดับ 2 ร้อยละ 24.65 ระบุว่ายังหาพรรคการเมืองที่เหมาะสมไม่ได้, อันดับ 3 ร้อยละ 16.85 ระบุพรรคเพื่อไทย, อันดับ 4 ร้อยละ 15.75 ระบุพรรคภูมิใจไทย, อันดับ 5 ร้อยละ 5.55 ระบุพรรคประชาธิปัตย์, อันดับ 6 ร้อยละ 3.45 ระบุพรรครวมไทยสร้างชาติ, อันดับ 7 ร้อยละ 2.75 ระบุพรรคไทยสร้างไทย, อันดับ 8 ร้อยละ 2.05 ระบุพรรคเศรษฐกิจ, อันดับ 9 ร้อยละ 1.50 ระบุพรรคพลังประชารัฐ

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ  เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนตุลาคม  2568” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 2,126 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 28-31 ตุลาคม 2568 พบว่า กลุ่มตัวอย่างให้คะแนนภาพรวมดัชนีการเมืองไทยประจำเดือนตุลาคม 2568 เฉลี่ย 4.02 คะแนน เท่ากับเดือนกันยายน 2568 ที่ได้ 4.02 คะแนน

'สแกมเมอร์-แรร์เอิร์ธ' ฉุดรบ.

ตัวชี้วัดที่ได้คะแนนสูงสุดคือ ผลงานของฝ่ายค้าน เฉลี่ย 4.60 คะแนน, ตัวชี้วัดที่ได้คะแนนต่ำสุดคือ การแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ความโปร่งใส 3.58 คะแนน นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลที่มีบทบาทโดดเด่นประจำเดือนคือ อนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 48.01 ด้านนักการเมืองฝ่ายค้านที่มีบทบาทโดดเด่นประจำเดือนคือ รักชนก ศรีนอก ร้อยละ 37.85 ผลงานฝ่ายรัฐบาลที่ชื่นชอบประจำเดือนคือ เปิดใช้จ่ายคนละครึ่งพลัส ร้อยละ 64.42 ผลงานฝ่ายค้านที่ชื่นชอบประจำเดือนคือ ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ร้อยละ 53.34          

ดร.พรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า ดัชนีการเมืองไทยเดือนตุลาคม 2568 ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า สะท้อนภาพรวมที่ประชาชน “เฝ้าดูแต่ยังไม่มั่นใจ” ต่อผลงานรัฐบาลชุดนี้ แม้จะพยายามเร่งขับเคลื่อนนโยบายทั้งคนละครึ่งพลัส และการแก้ปัญหาไทย-กัมพูชา  แต่กระแสสังคมต่อประเด็น “สแกมเมอร์” และกรณี MOU แรร์เอิร์ธ ยังเป็นเรื่องที่ถูกตั้งคำถามทำให้กระทบต่อความเชื่อมั่นรวมถึงความโปร่งใสของรัฐบาล

ที่ จ.ตรัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พร้อมนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯ ในฐานะแกนนำพรรค ลงพื้นที่ จ.ตรัง เพื่อไปที่บ้านพักของนายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีต สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และเป็นบิดาของ น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคภูมิใจไทย 4 เขต ประกอบด้วย เขต 1 นายเอกพล ณ พัทลุง นายก อบต.บ้านควน หลานชายนายจำนงค์ นาวาแก้ว หรือกำนันนงค์ อดีตกำนันตำบลบ้านควน ซึ่งรอบที่แล้วเป็นสปอนเซอร์ให้กับนายถนอมพงศ์ หลีกภัย ลงในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.), เขต 2 นายทวี สุระบาล สส.ตรัง พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.), เขต 3 น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ และเขต 4 นายพิชัย เจริญศิริสุนทร หรือ สจ.ล้าน สจ.อำเภอกันตัง หลานชายนายพิพัฒน์

ทั้งนี้ การลงพื้นที่ของนายอนุทิน ถือเป็นการตอกย้ำการปิดดีลย้ายพรรคเป็นที่เรียบร้อย หลังจากก่อนหน้านี้นายสมชายประกาศชัดว่า หาก ปชป.มีนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รองหัวหน้าพรรค ปชป. จะไม่มีนายสมชาย

นายอนุทินให้สัมภาษณ์ถึงกรอบยุบสภาวันที่ 31 ม.ค.69 ว่า ขอให้ทุกฝ่ายเตรียมพร้อมการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง เชื่อว่าประชาชนจะเปิดใจให้พรรคภูมิใจไทย และปี 62 พรรคภูมิใจไทยได้รับเลือกตั้งในภาคใต้ 8 ที่นั่ง เพิ่มขึ้นอีกในการเลือกตั้งปี 66 สะท้อนความไว้วางใจจากพี่น้องภาคใต้

จากนั้นนายอนุทินได้สวมเสื้อพรรคภูมิใจไทยให้กับว่าที่ผู้สมัครทั้งหมด

ที่สโมสรราชพฤกษ์ กรุงเทพฯ พรรครวมไทยสร้างชาติจัดประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2568 เพื่อเลือกตั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค กรรมการบริหารพรรค และตำแหน่งอื่นของพรรค แทนตำแหน่งที่ว่างลง โดยมีผู้บริหารพรรค พร้อมด้วย สส.และสมาชิกพรรคเข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเลือกบุคคลดำรงตำแหน่งดังต่อไปนี้ 1.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค 2.นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรค 3.นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร รองหัวหน้าพรรค 4.นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค 5.นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรค 6.นายชื่นชอบ คงอุดม รองหัวหน้าพรรค 7.นายสามารถ มะลูลีม รองหัวหน้าพรรค 8.นายโกวิทย์ ธารณา รองหัวหน้าพรรค  9.พ.อ.เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา รองหัวหน้าพรรค 10.นายชัชวาลล์ คงอุดม เลขาธิการพรรค 11.นายนิติศักดิ์ ธรรมเพชร รองเลขาธิการพรรค 12.น.ต.ดร.ปุญณัฐส์ นำพา รองเลขาธิการพรรค 13.ว่าที่ ร.ต.อ.หญิงอัยรดา บำรุงรักษ์ รองเลขาธิการพรรคฯ 14.นายปรากรมศักดิ์ ชุณหะวัณ เหรัญญิก และ 15.นายสยาม บางกุลธรรม นายทะเบียนฯ

นายพีระพันธุ์ได้กล่าวขอบคุณสมาชิกพรรคทุกคนที่ให้ความไว้วางใจเลือกตนให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค รทสช.ต่อไป พร้อมระบุว่า ตลอด 2 ปีเศษที่ผ่านมา ตนได้มีโอกาสเข้าไปปฏิบัติภารกิจให้กับประเทศในการกำกับดูแลพลังงาน ทำให้ รทสช.เป็นพรรคการเมืองพรรคแรกที่สามารถบริหารจัดการโครงสร้างพลังงานของประเทศให้เกิดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม

 “ผมอาจจะช่วยให้ทุกคนรวยขึ้นไม่ได้ แต่ผมทำให้ทุกคนประหยัดค่าใช้จ่ายได้ ประเทศไทยในวันนี้ต้องการคนทำงาน คนที่ตั้งใจแก้ปัญหาให้ประเทศ จึงขอให้คำมั่นกับสมาชิก รทสช.ว่า พรรคจะเดินหน้าทำงานต่อไปอย่างเต็มที่ และหากได้เข้าไปบริหารประเทศ ผมจะแก้ทุกปัญหาที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่ในทันที ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความมั่นคงทางชายแดน ความมั่นคงทางพลังงาน และปัญหาความมั่นคงด้านอื่นๆ” นายพีระพันธุ์กล่าว

ด้านนายชัชวาลล์กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับนายพีระพันธุ์และ รทสช. เพราะนายพีระพันธุ์เป็นคนดี มีความซื่อสัตย์ เสียสละ ทำงานให้ประเทศเต็มที่ และมุ่งมั่นตั้งใจทำงานแก้ไขปัญหาให้ประเทศเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ตนตัดสินใจอยู่กับ รทสช.ต่อไป

พท.จ่อถก ปชน.ยื่นซักฟอก

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ในพรรคเพื่อไทยมีการพูดคุยกันเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ว่า มีการพูดคุยกันว่าหากจะยื่นจะมีการยื่นในช่วงเปิดสมัยการประชุมสภาผู้แทนราษฎร หรือปิดสมัยประชุมนี้ รอฟังกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพูดคุยกันอีกครั้ง

เมื่อถามว่า จะมีการพูดคุยกับพรรคประชาชน (ปชน.) ว่าจะร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ต้องให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ และหัวหน้าพรรค พท. ไปเจรจาว่า ปชน.จะเอากับเราหรือไม่ เพราะไม่แน่ใจว่า ปชน.จะร่วมกับ พท.หรือไม่ ขอให้นายจุลพันธ์ได้ทำหน้าที่ก่อน ส่วนจะอภิปรายคณะรัฐมนตรีหรืออภิปรายเป็นรายบุคคล ขณะนี้กำลังดูกันอยู่ เพราะตอนนี้กำลังติดตามการทำงานของแต่ละรัฐมนตรีว่า ท่านใดมีข้อบกพร่องเสียหาย หรือส่อในทางทุจริต เราจะมี สส.หลายคนที่ประกบดูและติดตาม

เมื่อถามย้ำว่า กังวลหรือไม่อาจมีการยุบสภาก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ถ้ายุบสภาเมื่อไหร่เราก็พร้อมเลือกตั้ง ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. กล่าวถึงการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเสียงข้างน้อยว่า รัฐบาลกำลังเผชิญกับปัญหาสแกมเมอร์ ทุนเทา-ดำข้ามชาติ ความมั่นคงชายแดน จะเป็นจุดเปราะบางรัฐบาลเสียงข้างน้อย ที่ประชาชนจับตามอง และอาจเป็นจุดตายรัฐบาล ขณะนี้ภายในพรรคมีการหารือกันอย่างรอบคอบ โดยมี 2 แนวทางหลักคือ กลุ่มที่เห็นว่าควรยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยประชุมหน้า เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศไม่ให้ได้รับความเสียหายจากการบริหารงานที่ไร้เสถียรภาพ  ขณะที่อีกกลุ่มเห็นว่าควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกไทม์ไลน์ในบันทึกข้อตกลง (MOA) ระหว่างฝ่ายค้ำและรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพื่อให้เป็นบทพิสูจน์ชัดเจนว่า แท้จริงแล้วดีลดังกล่าวมิได้นำพาประโยชน์ใดๆ มาสู่ประเทศชาติและประชาชน

 “พท.พร้อมแล้วในทุกมิติ ไม่ว่าการยุบสภาจะเกิดขึ้นเมื่อใด พท.เป็นพรรคแรกที่มีความพร้อมส่งผู้สมัครคุณภาพทั่วประเทศ และพร้อมนำประเทศไทยกลับคืนสู่เส้นทางแห่งโอกาส ด้วยความเชื่อมั่นเต็มหัวใจว่า พท.จะกลับมาบริหารประเทศ และขับเคลื่อนประเทศไทยให้ไปได้ไกลกว่าที่เคยเป็นมาอีกครั้งหนึ่ง” นายอนุสรณ์กล่าว

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค ปชน. กล่าวถึงกรณี ปชน.ใช้สโลแกนมีเราไม่มีเทา จะเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การหาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ว่า เป็นแคมเปญเลือกตั้งระยะเริ่มต้นที่อาจมีหลายข้อความ แต่ที่จริงมีหลายเรื่อง และเราเอาจริงทุกเรื่อง แต่เรื่องอื่นอาจจะไม่เซ็กซี่เท่ามีเราไม่มีเทา แต่ถ้ามีเราก็จะมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีเศรษฐกิจที่สดใส ซึ่งผลตอบรับออกมาค่อนข้างดี หมายความว่าประชาชนสนใจให้ความสำคัญกับเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน การฟอกเงิน และทุนเทาต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ ปชน.เอาจริงมาตลอดอยู่แล้ว แต่จะทำได้ดีทำได้จริงก็ต่อเมื่อเราเป็นรัฐบาลพรรคเดียว ก็สอดคล้องกับเป้าหมาย 250 เสียง

เมื่อถามถึงผลสำรวจของนิด้าโพล ที่คนอีสานสนับสนุนแคนดิเดตของ ปชน.เป็นอันดับ 3  และยังคงเลือก ปชน.เป็นอันดับ 1 น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ขอบคุณผลโหวตประชาชนชาวอีสานของนิด้าโพลที่สนับสนุน โดยพรรคจะใช้ผลโหวตนี้เป็นกำลังใจและนำไปปรับปรุงกระบวนการทำงานภายในพรรค เพื่อให้โดนใจประชาชนมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามระยะเวลาไปจนถึงการเลือกตั้ง ยังมีเวลาให้ ปชน.ได้ปรับตัว ปรับกลยุทธ์ในพรรค  เพื่อทำให้แคนดิเดต นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ปชน. ขึ้นมาเป็นอันดับ 1

เมื่อถามถึงกรณีมีคนวิเคราะห์และโยงไปถึงการตรวจสอบของ ปชน. ที่พุ่งเป้าเพียงพรรคร่วมรัฐบาล ไม่พุ่งเป้าไปยัง ภท. น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า จริงๆ ปชน.กระทุ้งไปที่นายอนุทินตลอดในฐานะนายกฯ ซึ่งเป็นคนแรกที่ต้องลุกมาสอบสวนในเรื่องนี้ ปชน.ยังเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาทุนเทา เพราะไม่มีใครเหมาะสมไปมากกว่านายอนุทิน ซึ่งไม่มีความเกี่ยวโยงเชื่อมไปถึงนายกฯ แต่ ปชน.ยังตรวจสอบอย่างเข้มข้นตลอดเวลา ดังนั้นไม่ได้เป็นการเลือกที่รักมักที่ชัง เรายังคงตรวจสอบเข้มข้นในทุกพรรคการเมือง หากเรามีข้อมูลข้อเท็จจริง

เมื่อถามว่า ตอนนี้ ปชน.มีข้อมูลเพียงพอที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยประชุมหน้าหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ตอนนี้เราเก็บรวบรวมข้อมูลกันอยู่ จะมีข้อมูลเป็นรายคน และคงจะเก็บข้อมูลในสมัยปิดประชุม เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจว่าจะมีการยื่นอภิปรายในสมัยประชุมหน้าหรือไม่.