ปปช.ผนึกปปง. สอบMOU‘ดีอี’ ก๊วน‘เบน สมิธ’

"ไชยชนก" โยน "ธรรมนัส-นฤมล" แจงเองปมร่วมเฟรม "เบน สมิธ" เป็นพยานลงนาม  MOU บ.สิงคโปร์ "โรม” ย้ำ ถ้าปราบสแกมเมอร์ไม่ได้ บ่อเงินบ่อทองของ "ฮุน เซน" ก็ยังอยู่ เครื่องจักรสงครามของฮุน เซนก็ยังคงอยู่  “ปปง.-ป.ป.ช.” เดินหน้าลุยตรวจสอบเส้นทางเงิน-ธุรกรรม-โครงการ โยง “เบน สมิธ และบริษัท” ส่อมีเจ้าหน้าที่รัฐเอื้อประโยชน์หรือไม่

เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2568 นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย  ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ กรณีภาพถ่ายการลงนาม MOU กับบริษัทสิงคโปร์ ซึ่งมีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีตรมว.ดิจิทัลฯ และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรมว.เกษตรและสหกรณ์, นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ และนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือ เบน สมิธ ร่วมเป็นพยานว่า ต้องขอขอบคุณสำนักข่าวอิศรา   เพราะพอทราบเรื่องก็ได้สั่งให้ปลัดกระทรวงตรวจสอบภายในกระทรวง และประสานกับทางกระทรวงการต่างประเทศ

โดยปลัดกระทรวงได้รายงานว่า หลังจากลงนามไปแล้วไม่ได้มีกิจกรรมใดๆ ร่วมกันแต่อย่างใด  ตนจึงไปตรวจสอบด้วยตัวเอง จนกระทั่งไปดูภาพกล้องวงจรปิดภายในอาคารของกระทรวง  และดูระบบต่างๆ ที่พอจะหาหลักฐานได้ จนตรวจสอบเจอข้อมูลเพิ่มขึ้นจากภาพถ่ายที่มีเจ้าหน้าที่บันทึกเป็นอัลบั้ม ซึ่งหากจะถามข้อมูลว่าใครเชิญมา ใครรู้จักกับใคร ตนไม่ทราบ เพราะไม่ได้อยู่จุดนั้น อาจจะต้องไปสอบถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น

นายไชยชนกกล่าวว่า ตอนนี้มีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกับเจ้าหน้าที่ที่รู้เรื่องนี้แล้ว  ซึ่งหนังสือที่ลงนามจะมีผลในวันนี้ ตอนแรกตนจะไปนั่งเป็นประธานตรวจสอบเอง แต่มีคำแนะนำว่าไม่เหมาะสม เพราะต้องมีการตรวจสอบทางด้านวินัย จำเป็นต้องหาคนนอกเข้ามานั่งตรวจสอบ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงทั้งหมด โดยตนเน้นย้ำว่า จะต้องตรวจสอบข้อมูลให้เจอ เพื่อไม่ให้เกิดความหวาดระแวงในการทำงาน ซึ่งยืนยันว่าจะดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด

ด้านนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ  สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า โดยปกติควรมีการแสวงหาข้อเท็จจริงว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลังของผลประโยชน์ของกองทุนนี้   ซึ่งหาไม่ยาก เพราะก็อยู่ในห้องที่เซ็น MOU แต่ความคืบหน้าล่าสุดคือ MOU ดังกล่าวได้ยกเลิกไปแล้ว และมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมา เพื่อดูว่ามีรายละเอียดและผู้กระทำความผิดอย่างไรบ้าง แต่ในส่วนของผู้ที่เป็นพยานคือ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ เราก็พยายามสอบถามว่ามีหนังสือเชิญหรือรายละเอียดอะไรถึงเชิญบุคคลเหล่านั้นมาด้วย

โดยเบื้องต้นพบว่าไม่มีหนังสือเชิญ จึงเป็นพฤติการณ์ที่ผิดปกติ เพราะปกติจะต้องมีหนังสือเชิญให้ถูกต้องตามกฎระเบียบ ทั้งนี้ บริษัท Prime Opportunity Fund VCC Singapore ยังมีความเชื่อมโยงกับบริษัทแห่งหนึ่งที่ทำเรื่องเหรียญคริปโตฯ ซึ่งมีการสั่งลบข้อมูลการสแกนม่านตาแล้วกว่า 1 ล้านราย และพบว่ามีการกระทำความผิดและมีการร้องทุกข์ดำเนินคดี ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจมีการสั่งปรับในการกระทำความผิดสูงสุด 5 ล้านบาทต่อหนึ่งไอดี มูลค่ารวมอาจจะถึง 5,000-7,000 ล้านบาท เท่าที่ทราบทาง ก.ล.ต.ได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษแล้ว

นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า กรณีนี้จะเชื่อมโยงไปยังบริษัท Huione Group ทางตำรวจสอบสวนกลางเคยทลายไปแล้วรอบหนึ่ง แต่ก็เป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็ง ซึ่งทางตำรวจสอบสวนกลาง, ปปง.   และตำรวจไซเบอร์ได้ขยายผล ก็คาดหวังว่าจะเจอบุคคลที่เกี่ยวข้องที่ไปลงนาม MOU กับกระทรวงดิจิทัลฯ ซึ่งเชื่อมโยงกับบริษัท Prime Opportunity Fund VCC Singapore

"บริษัททั้งหมดที่ได้กล่าวมานั้น วันนี้เราพบว่าทั้งหมดอยู่ในเครือข่ายเดียวกัน อยู่ในเครือข่ายผู้ที่ต้องสงสัยว่ากระทำการผิดกฎหมายในหลายส่วน  ทั้ง พ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์, พ.ร.บ.ข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงเกี่ยวพันกับสแกมเมอร์ "

นายรังสิมันต์ยังกล่าวว่า กรณีนายเบน สมิธ อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อออกหมายจับ  แต่ในส่วนของนายยิม เลียก และภรรยา ปัจจุบันมีการออกหมายจับแล้ว และขอออกหมายแดงเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นหากเขาไปปรากฏตัวที่ประเทศไหน ก็สามารถทำการจับกุมได้ทันที กรณีที่เขาหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เราก็มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา แม้สถานการณ์ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศขณะนี้ไม่ปกติ แต่ก็น่าจะใช้กลไกนี้ในการดำเนินการขอตัวผู้ร้ายข้ามแดน เข้ามาดำเนินคดีตามกฎหมายไทยได้

 “ถ้าเราปราบปรามสแกมเมอร์ไม่ได้ บ่อเงินบ่อทองของระบอบฮุน เซน จะยังคงอยู่ นั่นหมายความว่า ถ้าบ่อเงินบ่อทองยังคงอยู่ เครื่องจักรสงครามของเขา ของฮุน เซน ก็ยังคงอยู่ นี่คือสงครามของฮุน เซน เป็นความขัดแย้งที่ต้องขีดเส้นให้ชัดว่าเราไม่ได้เกลียดชังหรือสร้างความเกลียดชังกับชาวกัมพูชา ทั้ง 2 ประเทศตั้งอยู่ตรงนี้ และยังอยู่ต่อไป แต่สิ่งสำคัญ ด้วยคนไม่กี่คนที่มีอำนาจอยู่ในกัมพูชาสามารถสร้างความขัดแย้งตรงนี้ได้ ถ้าเราไม่จัดการตรงนี้ให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ผมคิดว่าเราเองจะมีความสัมพันธ์ที่ปกติได้ยาก แต่ผมไม่ได้บอกว่าต้องส่งทหารเข้าไปยึดครองอะไร แต่ในทางปฏิบัติภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศและเงื่อนไขทางการเมืองระหว่างประเทศที่เป็นอยู่ ผมคิดว่าการลงไปที่สแกมเมอร์ และเรามีความชอบธรรมในฐานะที่เราเสียหาย และส่งผลประโยชน์กับทั่วโลก  จะทำให้บทบาทของไทยในฐานะที่เป็นรัฐที่ปราบปรามสแกมเมอร์มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และการที่กัมพูชาไม่เห็นด้วยพยายามรุกด้วยวิธีอื่น เป็นเพียงการตอบโต้ของผู้ที่เป็นฝ่ายสแกมเมอร์ที่กำลังต่อสู้กับผู้ที่ปราบสแกมเมอร์แค่นั้นเอง” นายรังสิมันต์กล่าว

ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. ในฐานะโฆษก ปปง. และนายพัฒนพงศ์ จันทร์เพ็ชรพูล ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร่วมกันเปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมหารือในประเด็นที่ ปปง.ได้ดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์สินเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติกว่า 10,165 ล้านบาท

โดยนายพัฒนพงศ์กล่าวว่า ระหว่างการขยายผลนี้ ปปง.ก็จะดูว่ามีการโอนเงินมาจากแหล่งเงินใดบ้าง แล้วจะนำไปสู่การดูเพิ่มเติมว่าเงินนั้นมีเจ้าหน้าที่รัฐมาเกี่ยวโยงหรือไม่ หรือมีบริษัท หน่วยงานรัฐใดไปทำธุรกรรมร่วมกับตรงนั้นบ้าง อาทิ เรื่องภาษี เป็นต้น

นายพัฒนพงศ์ชี้แจงบทบาทของ ป.ป.ช.ว่า จะตรวจสอบเส้นทางการเงินและเจ้าหน้าที่รัฐทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการโอนเงิน ไม่ว่าจะเป็นระดับปฏิบัติการหรือระดับผู้บริหารนโยบาย หากพบว่ามีการใช้อำนาจมิชอบ หรือเอื้อประโยชน์ จะมีความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หากเจ้าหน้าที่รัฐมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ ป.ป.ช.สามารถไต่สวนเรื่องร่ำรวยผิดปกติได้ รวมถึงการตรวจสอบภาพถ่ายกับบุคคลตามข่าว ซึ่งภาพถ่ายเจ้าหน้าที่รัฐกับผู้ถูกกล่าวหาเป็นเพียงจุดเริ่มต้น จะต้องดูพฤติการณ์ว่ามีการเอื้อประโยชน์โดยมิชอบหรือไม่ โดยไม่ต้องรอเจ้าทุกข์แจ้งเรื่องร้องเรียน ทาง ป.ป.ช.ทำหน้าที่แทนรัฐ สามารถเริ่มไต่สวนได้ทันทีหากมีเหตุอันควรสงสัย

เมื่อถามว่า บางภาพถ่ายก็ปรากฏถึงขนาดมีอดีตนายกรัฐมนตรี ข้าราชการระดับสูง ไปร่วมถ่ายภาพกับนายเบน สมิธ จะต้องเชิญให้ข้อมูลด้วยหรือไม่ นายพัฒนพงศ์ระบุว่า ป.ป.ช.เป็นองค์กรอิสระ เรามีอำนาจตรวจสอบระดับผู้บริหารสูงสุด ทั้งข้าราชการฝ่ายการเมืองและระดับปฏิบัติการ เราเป็นหน่วยงานมืออาชีพอยู่แล้ว ถ้ามีเจ้าหน้าที่รัฐไปเกี่ยวข้อง ป.ป.ช.ก็ต้องถือธงนำดำเนินการ

ด้านนายวิทยา กล่าวกรณีจะมีเจ้าหน้าที่รัฐมาเกี่ยวข้องกับเงินกว่าหมื่นล้านบาท ที่ ปปง.ยึดและอายัดมาจากคดีสแกมเมอร์ข้ามชาติหรือไม่  ว่าเราต้องดูทุกกระบวนการ แต่ในเบื้องต้น ปปง.เน้นไปที่การยึดอายัดทรัพย์สินที่เชื่อได้ว่ามาจากการกระทำความผิดก่อน และหลังจากนั้นจึงจะดูที่กระบวนการโอนเงิน การรับโอน เส้นทางการเงิน ว่ามันมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องในส่วนไหน อย่างไร ส่วนเรื่องบันทึกข้อตกลง MOU ที่กระทรวงดีอีจัดทำร่วมกับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งของสิงคโปร์ ป.ป.ช.ก็มีข้อสังเกตว่ามันจะเป็นเรื่องเดียวกันด้วยหรือไม่ จึงทำให้ ปปง.และ ป.ป.ช.ต้องประสานข้อมูลกันต่อไปสักระยะ เพื่อติดตามดำเนินการต้องร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดแน่นอน

ส่วนกรณีภาพถ่ายคนดังกับผู้ถูกกล่าวหา   นายวิทยายอมรับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการตรวจสอบความสัมพันธ์ แต่ลำพังแค่ภาพถ่ายยังบอกไม่ได้ว่าผิด ต้องพิสูจน์ทราบถึงความสัมพันธ์เชิงลึกและธุรกรรมทางการเงิน ส่วนกรณีที่นายเบน สมิธ ถ่ายภาพร่วมกับบุคคลสำคัญและมีชื่อเสียงระดับประเทศนั้น ก็จะเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาตรวจสอบถึงความสัมพันธ์ โดย ปปง. ระบุว่าภาพถ่ายเพียงอย่างเดียวไม่สามารถชี้ชัดความผิด จะต้องมีปัจจัยอื่นๆ ถึงจะมีความเป็นธรรมกับทุกคน ส่วนกรณีที่กระทรวงดีอีได้ทำ MOU ร่วมกับบริษัทเอกชนในสิงคโปร์ จะต้องมีการติดตามสืบสวนสอบสวนให้เกิดความชัดเจนก่อนว่าเป็นโครงการดำเนินการอย่างไรบ้าง และกรณีที่เคยมีกระทรวงหน่วยงานใดของไทย หรือบริษัทนิติบุคคลใดได้เคยทำโครงการ หรือสัญญาการจ้างกับนายเบน สมิธ หรือบริษัทของนายเบน สมิธนั้น เราก็จะดำเนินการตรวจสอบย้อนหลังเช่นเดียวกัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แฉทหารต่างชาติบังคับโดรน

วุ่นกักตัวคนไทยไม่ให้กลับประเทศ ทบ.ซัดการทูตปอยเปต ใช้พลเรือนเป็นข้อต่อรอง ด้าน กต.เร่งออกเอกสารด่วนให้คนไทยตอนในเดินทางออกทั้งทางบก-อากาศ

ปปง.-ปปช. ลุยสอบจนท.รัฐ-นักการเมือง เอี่ยวสแกมเมอร์ โยงภาพ 'เบน สมิธ' ลงนาม MOU ดีอี-บ.สิงคโปร์

นักการเมืองไทย-เจ้าหน้าที่รัฐมีหนาว! ภาพคู่ "เบน สมิธ" พ่นพิษ หลัง ปปง. - ป.ป.ช. เดินหน้าลุยตรวจสอบเส้นทางเงิน-ธุรกรรม-โครงการโยง "เบน สมิธ และบริษัทฯ"

'โรม' ชี้พฤติการณ์ผิดปกติ 'ธรรมนัส-นฤมล-เบน สมิธ' โผล่ถ่ายภาพลงนาม MOU บ.สิงคโปร์

"โรม" แฉ ไม่พบหนังสือเชิญ "ธรรมนัส-นฤมล" ร่วมเฟรม "เบน สมิธ" เป็นพยานลงนาม MOU บ.สิงคโปร์ ชี้ผิดปกติ เพราะไม่ถูกระเบียบ แย้มมีชื่อ "สุชาติ" เอี่ยว เผย ตร. ออกหมายแดง "ยิมเลียก-ภรรยา" แล้ว หนุนใช้กลไกส่งผู้ร้ายข้ามแดนกลับมารับโทษในไทย