จ่อเหยียบกรุงเคียฟ เซเลนสกีโอดสู้โดดเดี่ยว รัสเซียประกาศพร้อมคุย

ชาวยูเครนในกรุงเคียฟมาถ่ายรูปและมองดูที่อยู่อาศัยที่เสียหายจากการถูกขีปนาวุธของรัสเซียยิงถล่ม ในตอนเช้าตรู่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565

กองทัพรัสเซียรุกคืบสู่เมืองหลวงยูเครนถึงชานกรุงเคียฟในวันศุกร์  ประธานาธิบดียูเครนอ้างเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่ง แต่ไม่หนีไปไหน พ้อยูเครนสู้ลำพัง เรียกร้องชาวยุโรปมาช่วยต่อสู้ ด้านรัฐมนตรีรัสเซียบอกพร้อมเจรจา แต่กองทัพยูเครนต้องวางอาวุธ "สี จิ้นผิง" ต่อสายคุย "ปูติน" ขณะซีเรีย-เมียนมาเข้าข้างรัสเซียทำถูกแล้ว บิ๊กปั๊ดสั่งคุมเข้ม 2 สถานทูต

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าวิกฤตยูเครน-รัสเซียเมื่อวันศุกร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 วันที่ 2 นับแต่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ออกคำสั่งให้กองทัพรัสเซียเปิดปฏิบัติการทางทหารพิเศษในยูเครน โดยกองทัพยูเครนเปิดเผยในวันศุกร์ว่า กองทัพรัสเซีย ซึ่งเปิดฉากโจมตีจากชายแดนทุกทิศทุกทางทั้งทางบก, น้ำ และอากาศ เคลื่อนกำลังมาถึงชานกรุงเคียฟจากทิศเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว เพิ่มความวิตกว่าเมืองหลวงที่มีประชากร 3 ล้านคนแห่งนี้จะถูกยึดได้โดยเร็ว

เอเอฟพีกล่าวว่า ดมิโตร คูเลบา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยูเครน โพสต์ทวิตเตอร์ภายหลังเสียงระเบิดดังกึกก้องในกรุงเคียฟช่วงเช้ามืดวันศุกร์ว่า จรวดที่น่ากลัวของรัสเซียโจมตีกรุงเคียฟ ครั้งสุดท้ายที่เคียฟเผชิญกับอะไรแบบนี้คือเมื่อปี 2484 เมื่อนาซีเยอรมันโจมตี ยูเครนเอาชนะปิศาจชั่วร้ายนั้นได้ และจะเอาชนะในครั้งนี้เช่นกัน

ก่อนหน้านั้น ทหารรัสเซียยึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เก่า "เชอร์โนบิล" ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเคียฟทางเหนือราว 90 กิโลเมตรไว้ได้เมื่อวันพฤหัสบดี หน่วยงานกำกับดูแลด้านนิวเคลียร์ของยูเครนเผยว่า กองกำลังของรัสเซียซึ่งไม่ติดตราต้นสังกัด ปลดอาวุธทหารยูเครนที่รักษาการณ์โรงไฟฟ้าแห่งนี้ แต่ไม่มีการบาดเจ็บล้มตาย ไม่มีสิ่งใดถูกทำลาย ต่อมารอยเตอร์กล่าวว่า สำนักงานพลังงานนิวเคลียร์ของยูเครนอ้างว่า พบระดับกัมมันตภาพรังสีสูงขึ้นจากโรงไฟฟ้าเก่าแห่งนี้

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนกล่าวว่า การโจมตีเชอร์โนบิลถือเป็น "การประกาศสงครามต่อยุโรปทั้งหมด"

ที่กรุงมอสโกเมื่อวันศุกร์ เซอร์เกย์ ลัฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียพร้อมที่จะเจรจาหากกองทัพยูเครนยอมวางอาวุธ เขาอ้างว่าปูตินตัดสินใจเปิดปฏิบัติการทางทหารเพื่อทำให้ยูเครนปลอดทหารและทำลายลัทธินาซี เพื่อปลดปล่อยยูเครนจากการถูกกดขี่ และชาวยูเครนจะได้สามารถตัดสินอนาคตของพวกเขาได้อย่างเสรี

คำกล่าวของลัฟรอฟบ่งชี้ถึงเจตนาของการรุกรานครั้งนี้ว่าต้องการโค่นระบอบปกครองของยูเครน แต่ลัฟรอฟยังคงยืนกรานว่า รัสเซียไม่ต้องการยึดครองยูเครน และยังปฏิเสธคำกล่าวหาที่ว่าทหารรัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน ทั้งๆ ที่มีหลักฐานแพร่หลายว่าเขตที่พักอาศัยของประชาชนถูกทำลาย

กระทรวงกลาโหมรัสเซียบอกเมื่อวันพฤหัสบดีว่า กองทัพรัสเซียประสบความสำเร็จตามเป้าหมายอย่างสมบูรณ์สำหรับวันแรก และว่า รัสเซียสามารถทำลายเป้าหมายทางทหารของยูเครนได้มากกว่า 70 แห่ง รวมถึงสนามบิน 11 แห่ง

เจ้าหน้าที่ข่าวกรองอาวุโสจากโลกตะวันตกรายหนึ่งยืนยันว่า ยูเครนไม่มีการป้องกันภัยทางอากาศเพียงพอที่จะรับมือกับการโจมตีทางอากาศแบบนี้ และตอนนี้การป้องกันทางอากาศของยูเครนถูกรัสเซียกำจัดหมดสิ้นแล้ว พวกเขาไม่มีกองทัพอากาศที่จะขึ้นบินและปกป้องตนเองอีกต่อไป โดยหลักๆ แล้ว ตอนนี้รัสเซียมีความเหนือกว่าทางอากาศอย่างสมบูรณ์ รัสเซียยังเข้ายึดสนามบินหลายแห่งรอบกรุงเคียฟไว้ได้แล้ว และกำลังระดมทหารมาที่นั่น ซึ่งจะเชื่อมต่อกับทหารราบที่มุ่งหน้าลงใต้มาจากเบลารุส และจะทำให้มีกำลังทหารมากเกินกว่าที่เคียฟจะต่อต้าน

เขากล่าวอีกว่า ข่าวกรองบ่งชี้ว่ารัสเซียต้องการโค่นรัฐบาลของประธานาธิบดีเซเลนสกี ไม่ว่าผ่านการ "เด็ดหัว" หรือผ่านการกดดันอื่นๆ

ในขณะที่เกิดต่อสู้อย่างดุเดือดในแนวรบหลายแห่ง เซเลนสกีเผยแพร่วิดีโอเตือนว่า "ข้าศึกหมายหัวผมเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่ง" และว่า ครอบครัวของเขาเป็นเป้าหมายอันดับสอง ข้าศึกต้องการทำลายยูเครนทางการเมืองด้วยการทำลายประมุขของรัฐ แต่เขาจะอยู่ที่เมืองหลวง และครอบครัวของเขาก็ยังอยู่ในยูเครนด้วย

เมื่อวันพฤหัสบดี เซเลนสกีออกคำสั่งเกณฑ์ทหารและกำลังพลสำรองทั่วประเทศเพื่อต่อสู้กับรัสเซีย และเปิดเผยว่า การสู้รบวันแรก มี "วีรบุรุษ" ถูกฆ่าตายอย่างน้อย 137 คน เขายังตัดพ้อด้วยว่า ยูเครนถูกทิ้งให้ต่อสู้เพียงลำพัง "ใครพร้อมจะต่อสู้เคียงข้างเรา? ผมไม่เห็นใครเลย" ตอนนี้ "ม่านเหล็กใหม่" กั้นระหว่างรัสเซียกับส่วนอื่นของโลก เหมือนกับยุคสงครามเย็น

ในวันศุกร์ ขณะที่กองกำลังของรัสเซียรุกคืบเข้าใกล้กรุงเคียฟ ผู้นำยูเครนออกแถลงการณ์เรียกร้องชาวยุโรปที่ "มีประสบการณ์รบ" เดินทางมาเข้าร่วมกับยูเครนเพื่อปกป้องยุโรป

สหรัฐและพันธมิตรประกาศคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมอีกเมื่อวันพฤหัสบดี โดยพุ่งเป้าที่ชนชั้นนำและธนาคาร แต่รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ย้ำหลายครั้งว่า จะไม่ส่งทหารอเมริกันไปสู้รบในยูเครน ขณะที่นาโตแม้จะเริ่มใช้ "แผนป้องกัน" สำหรับประเทศสมาชิกนาโต แต่เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก กล่าวว่า นาโตไม่มีแผนส่งกำลังทหารเข้ายูเครน ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกองค์การ

ในคำแถลงที่ทำเนียบขาวเมื่อวันพฤหัสบดี ไบเดนประกาศควบคุมการส่งออกไปยังรัสเซียซึ่งจะตัดการนำเข้าสินค้าไฮเทคเกินครึ่งหนึ่งของรัสเซีย ควบคู่กับการแซงก์ชันกลุ่มชนชั้นสูงที่เขาเรียกว่าเป็นพวก "มหาเศรษฐีขี้ฉ้อ" และธนาคารหลายแห่ง

ส่วนสหภาพยุโรป (อียู) ประกาศมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหญ่ต่อภาคพลังงานและการเงินของรัสเซีย ซึ่งโจเซ็ป บอร์เรลล์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของอียู คุยว่าเป็นมาตรการแซงก์ชันที่รุนแรงที่สุดเท่าที่อียูเคยบังคับใช้

ประเทศในกลุ่มบอลติก ลิทัวเนียซึ่งมีพรมแดนติดกับเบลารุส ประกาศภาวะฉุกเฉินระดับประเทศ นอกจากนี้ รัฐบาลลิทัวเนีย, ลัตเวีย และเช็กเกีย ยังระงับการออกวีซาแก่ชาวรัสเซียด้วย

ในเมืองใหญ่ทั่วยุโรปและหลายประเทศทั่วโลก ผู้ประท้วงจำนวนมากออกมาชุมนุมประณามการรุกรานของรัสเซีย ที่กรุงมอสโกก็มีผู้ประท้วงต่อต้านสงครามชุมนุมกันกลุ่มเล็กๆ แต่ถูกตำรวจขัดขวางอย่างรวดเร็ว มีรายงานว่าตำรวจจับกุมผู้ชุมนุมประท้วงทั่วรัสเซียไว้มากกว่า 1,700 คน ผู้ลี้ภัยชาวยูเครนชุดแรกเริ่มหลั่งไหลข้ามแดนเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้านในฝั่งตะวันตก ทั้งฮังการี, โรมาเนีย และโปแลนด์ โดยองค์การสหประชาชาติกล่าวว่า มีชาวยูเครนพลัดถิ่นฐานเพราะการสู้รบนี้แล้ว 100,000 คน

ที่กรุงปักกิ่ง สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของจีนรายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง โทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีปูติน โดยประธานาธิบดีสีกล่าวไปว่า เขาสนับสนุนให้รัสเซียและยูเครนแก้ปัญหาผ่านการเจรจา

เนื้อหาการสนทนาที่รายงานโดยสื่อของทางการจีนเผยว่า ปูตินแจกแจงเหตุผลที่รัสเซียเปิด "ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ" และบอกกับสีว่า นาโตและสหรัฐเพิกเฉยต่อความกังวลด้านความมั่นคงที่สมเหตุสมผลของรัสเซียมาช้านาน ปูตินกล่าวด้วยว่า รัสเซียพร้อมจะจัดการเจรจา "ระดับสูง" กับยูเครน

แม้จะเผชิญการต่อต้านและประณามจากค่อนโลก แต่ปูตินได้รับการสนับสนุนอย่างเปิดเผยจากประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาด แห่งซีเรีย ซึ่งโทร.หาเขาในวันเสาร์ และยกย่องการรุกรานยูเครนว่าเป็น "การแก้ไขประวัติศาสตร์" และฟื้นฟูสมดุลของระเบียบโลกภายหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต

ส่วนรัฐบาลทหารเมียนมากล่าวในวันเดียวกันว่า ปฏิบัติการของกองทัพรัสเซียนั้น "ชอบด้วยเหตุผล" เพื่อความยั่งยืนของอำนาจอธิปไตยของรัสเซีย และแสดงให้โลกเห็นจุดยืนของรัสเซียในฐานะชาติมหาอำนาจของโลก

ทั้งนี้ รัสเซียเป็นพันธมิตรสำคัญของอัสซาดที่เข้าแทรกแซงสงครามกลางเมืองของซีเรียปี 2558 ด้วยการโจมตีทางอากาศกองกำลังกบฏ ขณะเดียวกันก็เป็นผู้ส่งออกอาวุธรายใหญ่ให้แก่เมียนมา

ด้านความเคลื่อนไหวในไทย กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ได้ให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือคนไทยในยูเครน ที่เมืองลวิฟ, โรงแรม Цісар หรือ Tsisar ตั้งอยู่ที่ถนน Horodotska ตั้งแต่วันที่ 25 ก.พ.โดยให้เจ้าหน้าที่ของสถานทูตไปประจำเพื่อใช้เป็นที่พักชั่วคราวของคนไทยที่จะเดินทางออกมาจากเมืองต่างๆ ที่สุ่มเสี่ยงต่อความไม่ปลอดภัย และศูนย์ประสานงานกับฝ่ายยูเครนในการช่วยเหลือคนไทย ทั้งนี้ เมืองลวิฟจะเป็นฐานในการรวบรวมคนไทยจากพื้นที่เสี่ยงภัยเป็นการชั่วคราวเพื่อเดินทางกลับประเทศไทย

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยต่อสถานการณ์ความรุนแรงในยูเครน โดยได้สั่งการอย่างใกล้ชิดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี กต.เป็นหลัก ในการวางแผนให้ความช่วยเหลือคนไทย ซึ่งการให้ความช่วยเหลืออาจต้องปรับแผนให้เหมาะสมเนื่องจากมีคำสั่งปิดน่านฟ้า จึงอาจจะทำให้ไม่สามารถใช้เครื่องบินบินออกจากยูเครน จึงอาจต้องพิจารณาแผนอื่นๆ ที่ได้เตรียมไว้ เช่น เช่าเครื่องเหมาลำจากโปแลนด์หรือประเทศอื่นๆ ในทวีปยุโรปแล้วบินกลับมาไทย หรือนำเครื่องบินจากไทยบินไปรับ ซึ่งทั้งหมดนี้ กต.จะดำเนินการช่วยเหลือคนไทยในยูเครนตามบัญชานายกฯ เต็มที่

ด้าน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า  พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กำชับให้ติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และได้มีคำสั่งให้กำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยและเฝ้าระวังป้องกันสถานการณ์ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายได้ โดยให้ทุกกองบัญชาการ ทำการสืบสวนหาข่าวเชิงรุก ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และเพิ่มมาตรการการรักษาความปลอดภัยให้กับสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียและสถานเอกอัครราชทูตยูเครน

วันเดียวกัน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ได้ประชุมร่วมกับผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ เพื่อประเมินสถานการณ์ และติดตามมาตรการการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของ 6 ประเทศว่าจะมีผลกระทบอย่างไรต่อการส่งออก-นำเข้าของไทย รวมทั้งการประเมินสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก ซึ่งจากการประเมินในเบื้องต้น มีทั้งด้านลบและบวก โดยสถานการณ์ที่น่าห่วงคือ เรื่องราคาน้ำมันที่ราคาสูงขึ้นแตะ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และยังไม่สามารถประเมินได้ว่าราคาจะขึ้นสูงกว่านี้ไปอีกหรือไม่ ส่วนด้านบวก ยังไม่มีผลกระทบต่อการส่งออกและนำเข้า แต่พบว่ามีสินค้าบางอย่างที่ไทยมีศักยภาพและสามารถเข้าไปทดแทนตลาดโลกที่เป็นตลาดเดิมของรัสเซียหรือยูเครนได้ หากเกิดสงครามที่ยืดเยื้อ เช่น ผลิตภัณฑ์ยาง และสินค้าประมง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ทบ.' เปิดแผนรับมือ สถานการณ์สู้รบชายแดนไทย-เมียนมา

รายงานข่าวจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก เปิดเผยแนวทางการปฏิบัติในการรองรับสถานการณ์ความไม่สงบด้านเมียนมา กรณีการปะทะระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังชนกลุ่มน้อย

ทอ. เตรียมส่ง UAV สนับสนุนรักษาความปลอดภัยแนวชายแดน อ.แม่สอด

เพจ กองทัพอากาศไทย Royal Thai Air Force ได้เผยแพร่ภาพ และข้อมูลว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนด้านตรงข้าม อ. แม่สอด จว.ตาก กองทัพอากาศ โดยศูนย์ยุทธการทางอากาศ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพอากาศ

'เศรษฐา' เตรียมบินไปแม่สอด 23 เม.ย. หลังปะทะเดือดใกล้ชายแดนเมียนมา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ทวิตข้อความผ่าน x ว่า “จากสถานการณ์การปะทะกันบริเวณสะพานมิตรภาพ 2 ฝั่งเมียนมา