เลือดใหม่ปชป. ยกก้น‘จุรินทร์’ ผู้นำพร้อมรับฟัง

“รองโฆษก ปชป.” ยันจุรินทร์มีวุฒิภาวะ เปิดกว้างพร้อมรับฟัง “นิพนธ์” ย้ำ 3 จังหวัดใต้มีว่าที่ผู้สมัครครบทุกเขตแล้ว เชื่อเลือกตั้งกวาดเก้าอี้มากกว่าเดิม ส่วนบัญชีรายชื่อยังเกินอยู่  “นิด้าโพล” สำรวจศึกเมืองชล คนส่วนใหญ่หนุน “สนธยา” กลับพลังชล ไม่เห็นด้วย “สุชาติ” อยู่กับพลังประชารัฐ

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 ก.พ. ยังคงมีความต่อเนื่องในปัญหาภายในของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โดยนางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรค ปชป. ระบุว่า  ในฐานะที่เป็นคนหน้าใหม่ของพรรค และได้มีโอกาสร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หัวหน้าพรรค ทำให้ได้เห็นถึงความตั้งใจและทุ่มเททำงานเพื่อแก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชนมาโดยตลอด ทำงานหนักทุกวันทั้งในบทบาทหัวหน้าพรรคและรัฐมนตรี ซึ่งนายจุรินทร์พิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นผู้มีวุฒิภาวะในการทำงาน มีวิสัยทัศน์พร้อมเปิดกว้างให้คนรุ่นใหม่และคนเลือดใหม่เข้ามาทำงานในพรรค ดังจะเห็นได้จากการคัดเลือกผู้สมัครว่าที่สภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ของพรรคที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่มาเป็นตัวแทนพรรคเพื่ออาสาทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน รวมถึงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในกรุงเทพฯ อีกหลายเขตก็ล้วนเป็นคนรุ่นใหม่

 “ยืนยันว่านายจุรินทร์มีวุฒิภาวะ มีเหตุผลในการทำงาน เป็นคนเปิดกว้าง รับฟังคนอื่นพร้อมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ตลอดเวลา ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดีของคนที่เป็นผู้นำ จึงเชื่อมั่นว่านายจุรินทร์จะสามารถนำพาพรรคไปข้างหน้าให้ประสบความสำเร็จได้รับความนิยม” นางดรุณวรรณกล่าว

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ปชป. และประธาน ส.ส. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรองรับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และ ส.ก. ว่าผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามพรรคคือ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ได้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดตัวแล้ว ส่วนผู้สมัคร ส.ก.ที่แถลงข่าวเปิดตัวไปแล้วทั้ง 50 เขต ก็ได้ทำงานอย่างหนักในพื้นที่ช่วยเหลือดูแลพี่น้องประชาชนในช่วงโควิดระบาดอย่างหนักตลอด 2 ปีที่ผ่านมา และพรรคยังได้จัดประชุมผู้สมัคร ส.ก.ทั้ง 50 เขต เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการสมัครรับเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ซึ่งคาดว่าน่าจะสมัครรับเลือกตั้งช่วงปลายเดือน มี.ค. หรือต้นเดือน เม.ย. และน่าจะมีการเลือกตั้งไม่เกิน พ.ค.ที่จะถึงนี้

“เชื่อมั่นว่าทั้ง ศ.ดร.สุชัชวีร์และผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคจะทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องชาว กทม.” นายองอาจกล่าว

ขณะที่นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ปชป. ซึ่งดูแลและรับผิดชอบพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า พรรค ปชป.ได้วางตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้คือ จ.ปัตตานี ยะลา และสงขลา ครบ 12 เขตแล้ว จากผู้ที่เสนอตัวลงสมัครเขตไม่น้อยกว่าเขตละ 1 คน มีบางเขตเท่านั้นที่ยังต้องเฟ้นตัวบุคคลที่ดีที่สุดเข้ามาเสริมทัพให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ซึ่งการเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะเกิดขึ้น พรรคมีความพร้อมมากกว่าครั้งที่ผ่านมามาก เพราะรัฐมนตรีที่อยู่ร่วมรัฐบาลมีผลงานเป็นรูปธรรมจนประจักษ์ที่จับต้องได้ของพี่น้องประชาชน จึงมั่นใจว่าผู้สมัครของพรรค ปชป.จะได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพิ่มขึ้นจากเดิม

 “ในพื้นที่ภาคใต้พรรคได้วางตัวผู้สมัคร ส.ส.ไว้ครบทุกเขตแล้ว มีทั้งอดีตผู้สมัคร ส.ส.ปัจจุบันและเลือดใหม่เพียงบางเขตเท่านั้นที่ยังต้องมีการทำประชามติเชิงลึก และหากมีการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ พรรค ปชป.พร้อมส่งผู้สมัคร ส.ส.ครบทั้ง 400 เขต ส่วนบัญชีรายชื่อยังเกินอยู่ แต่มีคณะทำงานมีการจัดอันดับ” นายนิพนธ์ระบุ

วันเดียวกัน ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เผยผลสำรวจของประชาชนเรื่อง ศึกคนกันเอง ชลบุรี จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านอยู่ในจังหวัดชลบุรี กระจายทุกระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,073 หน่วยตัวอย่าง                    โดยผลการสำรวจเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อศึกวิวาทะคนชลบุรี ระหว่างกลุ่มของนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กับกลุ่มของนายสนธยา คุณปลื้ม  นายกเทศมนตรีเมืองพัทยา พบว่า 26.56% ระบุว่ากลุ่มนายสนธยาต้องการรักษาฐานการเมืองในชลบุรี รองลงมา 24.98% ระบุว่าเป็นแค่ความเข้าใจผิดกันเล็กน้อย, 22.46% ระบุว่ากลุ่มนายสุชาติต้องการขยายฐานการเมืองในจังหวัด,  16.12% ระบุว่ากลุ่มนายสนธยาไม่พอใจในความเคลื่อนไหวของกลุ่มนายสุชาติ,  10.62% ระบุว่ากลุ่มนายสุชาติไม่พอใจในความเคลื่อนไหวของกลุ่มนายสนธยา,  8.39% ระบุว่าจะเป็นการเปิดโอกาสให้กลุ่ม/พรรคการเมืองอื่นแทรกเข้ามาได้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า, 6.99% ระบุว่ากลุ่มนายสนธยากำลังสูญเสียฐานการเมืองในชลบุรี, 2.98 ระบุว่ากลุ่มนายสุชาติไม่มีทางขยายฐานการเมืองในชลบุรีได้มากไปกว่านี้ และ 13.61% ระบุว่าเฉย ๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

เมื่อถามความเห็นประชาชนต่อศึกวิวาทะระหว่างกลุ่มนายสุชาติกับกลุ่มนายสนธยาจะจบลงอย่างไร พบว่า ตัวอย่าง 53.87% ระบุว่าทั้งสองฝ่ายจะเจรจากันเองเพื่อยุติความขัดแย้ง รองลงมา 30.85% ระบุว่าจะมีคนกลางมาไกล่เกลี่ยให้ยุติความขัดแย้ง, 12.30% ระบุว่าจะแตกหักและแข่งขันกันอย่างดุเดือดในการเลือกตั้งครั้งหน้า และ 2.98% ระบุว่าเฉย ๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ ด้านฝ่ายที่จะสนับสนุนในศึกวิวาทะคนกันเองในจังหวัดชลบุรี พบว่า ตัวอย่าง 36.72% ระบุว่าไม่สนับสนุนทั้งสองกลุ่ม รองลงมา 28.89% ระบุว่าสนับสนุนกลุ่มนายสนธยา,  24.98% ระบุว่าสนับสนุนทั้งสองกลุ่ม,  5.87 ระบุว่าสนับสนุนกลุ่มนายสุชาติ และ 3.54% ระบุว่าเฉยๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

สำหรับความคิดเห็นของประชาชนหากกลุ่มนายสนธยาจะกลับพรรคพลังชลในการเลือกตั้งครั้งหน้า พบว่า ตัวอย่าง 40.35% ระบุว่าเห็นด้วยมาก, 28.15% ระบุว่าค่อนข้างเห็นด้วย, 14.91% ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย, 11.09% ระบุว่าไม่ค่อยเห็นด้วย และ 5.50% ระบุว่าเฉยๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนหากกลุ่มนายสุชาติจะยังคงอยู่กับพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งครั้งหน้า พบว่า ตัวอย่าง 33.46% ระบุว่าไม่เห็นด้วยเลย, 22.27% ระบุว่าค่อนข้างเห็นด้วย, 20.60% ระบุว่าเห็นด้วยมาก, 15.47% ระบุว่าไม่ค่อยเห็นด้วย และ 8.20% ระบุว่าเฉยๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง