CARE ปั่นหนักมาก! 13 เรื่อง 'ถ้าระบอบทักษิณยังอยู่ เมืองไทยไปไกลแน่'

14 พ.ค.2565 - เพจเฟซบุ๊ก "CARE คิด เคลื่อน ไทย" เครือข่ายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก โดยมีรายละเอียดดังนี้

“ถ้าระบอบทักษิณยังอยู่ เมืองไทยไปไกลแน่”

ในรายการ CARE Talk x CARE Clubhouse กับ Tony Woodsome เมื่ออังคารที่ผ่านมา พี่โทนี่ได้ฉายภาพให้เห็นสิ่งที่เขาได้ทำ กำลังทำ และคิดจะทำสมัยที่พี่โทนี่ยังเป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้เราได้เห็นว่าประเทศไทยคงดีกว่าวันนี้ หากวันนั้นไม่เกิดการรัฐประหารเสียก่อน

วันนี้ทางทีมงานกลุ่ม CARE จึงขอสรุปให้ชัดๆไปเลยว่า ถ้าพี่โทนี่ยังอยู่ หรือถ้าระบอบทักษิณยังอยู่ เมืองไทยในวันนี้จะปังขนาดไหน...

1. ยาเสพติดจะหมดไป

ถ้าผมอยู่นะ ยาเสพติดไม่มีแบบทุกวันนี้หรอก ประเทศยิ่งจนยาเสพติดยิ่งเยอะ ดังนั้นต้องเอาให้อยู่ วันนี้ราคายาเสพติดถูกมากต้นทุนต่ำเหลือเม็ดละ 20 บาท สมัยผมมันขายเม็ดละ 300-400 บาท เพราะเราเอาจริงมันเลยหายาก แต่วันนี้กลับปล่อยกันเกลื่อนเมือง ถ้าวันนี้เรามีประชาธิปไตย รับรองว่านโยบายนี้จะเป็นนโยบายยืนพื้นเลย เพราะปัญหายาเสพติดเป็นเรื่องใหญ่ ต้องจัดการให้หมดไป

 2. 30 บาทรักษาทุกโรคจะสะดวกกว่าเดิม

เรื่อง 30 บาทรักษาทุกโรคเนี่ย เราตั้งขึ้นมาจากการมอง 2 ขา คือ ขารักษากับขาป้องกัน ถ้าผมยังอยู่ ขารักษาผมจะทำโรงพยาบาลอำเภอ มีคลินิกทันสมัย ศูนย์เอกซเรย์ให้คนในพื้นที่ดูว่าDNAเสี่ยงเจอโรคอะไร แล้วดูแลวินิจฉัย เราจะกระจายอำนาจให้โรงพยาบาลซื้อยาเอง ไม่ต้องเก็บไว้ที่ส่วนกลาง พัฒนาให้สามารถนัดหมอผ่านแอพ ไม่ต้องรอคิวนาน ส่วนขาป้องกัน ตอนนั้นผมรณรงค์ให้ออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกายคือการป้องกันโรค อีกทั้งการกินอาหารตามหลักโภชนาการและกรดูแลสุขภาพจิตก็เป็นเรื่องสำคัญ เราจะมีหมอไปเยี่ยมหรือฝึกอสม.ดูแล วันนี้ทันสมัยแล้ว เราก็ให้ปรึกษาสุขภาพออนไลน์ได้ ส่งเสริมการดูแลสุขภาพที่ยั่งยืน

3. กองทุนหมู่บ้านจะพัฒนาเป็นธนาคารหมู่บ้าน

ต้องเร่งกระจายอำนาจโดยเฉพาะเรื่องทุน เราเคยทำกองทุนหมู่บ้านกระจายเงินลงไปถึงหมู่บ้านเพื่อเป็นทุนหมุนเวียนเศรษฐกิจเลยโตจากฐานราก วันนี้กองทุนหมู่บ้านต้องพัฒนาขึ้นเป็นธนาคารประจำหมู่บ้านแล้ว เพื่อให้การสร้างเนื้อสร้างตัวของพี่น้องทำได้ยั่งยืนมากขึ้น

4. OTOP ไทยต้องไปไกลระดับ Hermes

ก่อนถึงรัฐประหาร ผมเตรียมที่จะทำ Outlet ของแบรนด์ Thailand ให้กระจายตามหัวเมืองใหญ่ทั่วโลกเพื่อโปรโมตสินค้าไทย สินค้าใครไม่แข็งแรง สินค้า OTOP ไม่มีช่องทางขายต่างประเทศ ก็มารวมขายในนี้ และผมจะเร่งอัดฉีดการพัฒนาคุณภาพสินค้า OTOP ให้ใกล้เคียงกับ Hermes เลย เพราะฝีมือคนไทยเก่งไม่แพ้ใครอยู่แล้ว OTOPต้องโกอินเตอร์แน่นอน เป็นเทสต์ระดับโลก ไม่ใช่ลักษณะนิยมไทยๆ แต่เป็นสำเนียงไทยแบบสากล วันนั้นผมลงทุนไป 9 ล้านเหรียญให้กับนักออกแบบว่าทำยังไงให้ไทยเป็นที่นิยมในระดับโลก เสียดายวันนี้คงสำเร็จไปแล้วถ้าไม่รู้รัฐประหารไปก่อน

5. สานต่อครัวไทยสู่ครัวโลก

เรื่องอาหารไทยเราไม่แพ้ใคร และใครๆก็หลงใหลในรสมือคนไทย วันนั้นผมทำครัวไทยสู่ครัวโลกแต่มันหยุดพัฒนาและสานต่อ อันนี้น่าเสียดาย ดังนั้นถ้าผมยังอยู่ ครัวไทยสู่ครัวโลกจะไม่สะดุดหยุดอยู่กับที่ เราต้องเตรียมพัฒนาอาหารไทยให้ปรุงง่าย เพิ่มมูลค่าในรูปอาหารสำเร็จรูป ขยายช่องทางให้การกระจายวัตถุดิบซึ่งก็คือสินค้าเกษตรทำได้ง่าย แล้วส่งตามร้านอาหารไทยทั่วโลกหลายพันสาขา และจะเร่งส่งเสริมให้มีร้านอาหารไทยเพิ่มให้มากขึ้น

6. เกษตรต้องทันสมัยและราคาสูง

วันนี้เกษตรกรเราจนเกินไป ดังนั้นรัฐต้องสนับสนุนให้เอาเทคโนโลยีเข้าไปจับเพื่อควบคุมคุณภาพอาหารจากฟาร์มสู่โต๊ะอาหาร ควบคุมดินฟ้าอากาศ เพิ่มผลิตผลและเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรให้พรีเมียม เพื่อไปประสานเข้ากับนโยบายครัวไทยสู่ครัวโลกต่อไป สินค้าเกษตรต้องราคาดี สมัยนั้นราคาขึ้นทุกปี เพราะผมทำการตลาดตลอด ผมและทูตจะเป็นเซลล์แมนให้ประเทศขายของประชาชนไม่ใช่ไปแค่ถ่ายรูปสวยๆ แต่ต้องคุยจริงจัง

7. สุวรรณภูมิต้องเป็นฮับของเอเชีย

วันที่เราตั้งสุวรรณภูมิ สิงคโปร์กลัวมากถึงขนาดตั้งกรรมการประชุมเลยว่าจะเป็นฮับแข่งกับเรายังไง แต่วันนี้เราเละเทะไปหมด พอเราถูกรัฐประหารปุ๊บ สิงคโปร์ก็ยุบกรรมการชุดนั้นปั๊บ เพราะเขารู้แล้วว่าเขาชนะ น่าเสียดายมาก ทั้งๆที่เราทำโครงสร้างไว้ดีหมดแล้ว ถ้าตอนนี้เขาไม่ทำการบินไทยเจ๊งก่อน ดังนั้นถ้าอยากไปต่อ การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยต้องจับมือร่วมกันกับการบินไทย ให้การบินไทยได้เปรียบความคนอื่นทั้งเรื่องจัดเวลาบิน อำนวยความสะดวกให้ไทยเป็นฮับการบินภูมิภาคเอเชียให้ได้ ทำได้แน่นอน

8. การท่องเที่ยวจะเฟื่องฟู

การท่องเที่ยวเราเน้นขายแต่ของเก่า ขายแต่สมบัติเข้าคุณปู่ มันจะอยู่ไม่นาน ขายแต่ธรรมชาติอย่างเดียวไม่พอ เราต้องสร้างใหม่ขึ้นมาเรื่อยๆ เช่น ที่โบราณสถานเมืองเพทราเราก็ทำแบบนั้นได้ หาช่างฝีมือมาแกะสลักภูเขาร้างๆเสื่อมโทรมมาทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ หรือทำที่ท่องเที่ยวล้ำๆไปเลย แถมเรามีเสน่ห์อยู่แล้วเพราะคนไทยมีใจต้อนรับคนต่างชาติอยู่แล้ว อาหารก็อร่อย ดังนั้นต้องดึงนักท่องเที่ยวมาให้มากขึ้นและกระจายรายได้สู่ชาวบ้าน

9. เทคโนโลยีเพื่อชีวิตที่ดีของทุกคน

เทคโนโลยีต้องเอาลงไปช่วยชาวบ้านทุกคน เราเคยแจกแท็ปเลตแล้วสมัยคุณยิ่งลักษณ์แต่ถูกรัฐประหารก่อน เราต้องแจกเพราะเด็กจะได้เข้าถึงข้อมูลหรือห้องสมุดได้ทั่วโลก ทำแอพให้คนเข้าใจง่าย แถมโลกเมตาเวิร์สจะทำให้ทุกบ้านมีโอกาส โดยเฉพาะครอบครัวที่มีมือศิลปะหรือมีของชิ้นเดียวในโลกเราก็เอามาขายใน NFT จะยิ่งสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ๆให้กับทุกคน

10. คนไทยทั้งประเทศจะหายจน

เราต้องเพิ่มทักษะความชำนาญให้เด็กรุ่นใหม่ ให้มีศักยภาพไม่ต้องไปกินเงินเดือนต่ำ ผมเลยประกาศสงครามกับความยากจน ตอนผมไปทำอาจสามารถโมเดลแก้จน ผมคิดว่าผมจะใช้เงินปีละ 2 แสนล้านเพื่อเพิ่มโอกาสในชีวิตรากหญ้า พัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการคของคนไทยให้มีมูลค่าสูงขึ้น และเชื่อว่าภายใน 4 ปีคนไทยจะหายจน และเราจะใช้อีก 2 แสนล้านเพื่อเปิดทางเปิดโอกาสในภาพรวม เพื่อดึงการพัฒนาจากล่างขึ้นบน จะส่งผลให้ชนชั้นกลางในกทม.มีโอกาสเพิ่มขึ้น เพราะการเคลื่อนพีระมิดต้องเคลื่อนที่ฐาน ต้องดูรากฐานถ้าแข็งแรงจะต่อกี่ชั้นก็ไม่เป็นไร

11. ปฏิรูประบบราชการเป็น E-Government

ผมเคยปฏิรูประบบราชการจากเจ้านายประชาชนเป็นผู้ให้บริการประชาชนมาแล้ว ดังนั้นถ้าวันนี้ผมยังอยู่ผมคงปฏิรูประบบราชการครั้งที่ 2 ให้เป็นดิจิทัลไปหมดแล้ว เราต้องเท่าทันโลกสมัยใหม่ สร้างผู้นำรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์พาประเทศไปให้ทันไม่อย่างนั้นจะตกขบวนทั้งประเทศ เราต้องสร้างระบบราชการดิจิทัลให้เทียบเคียงเอสโตเนีย การจัดการทุกอย่างจะง่ายและเร็ว ทำธุรกิจง่าย ขอใบอนุญาตง่าย และโปร่งใสไม่ต้องเสียเงินเรื่องใต้โต๊ะอีกต่างหาก

12. โครงสร้างพื้นฐานจะพลิกอนาคตประเทศ

ก่อนถูกรัฐประหารผมทำ Modernize Thailand ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งประเทศ แต่วันนั้นเราไม่มีเงิน การระดมทุนในประเทศมีไม่พอ ผมคิดไอเดียได้โดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินซักบาท ผมเปิดให้ต่างประเทศมาลงทุนเลยแล้วผมจะจ่ายด้วยสินค้าเกษตร เพื่อเพิ่มการปลูกแล้วส่งแทนเงิน โครงการตอนนั้นเยอะมาก ตั้งแต่บริการจัดการน้ำทั้งระบบ ถมทะเลป้องกันน้ำท่วมแถมได้พื้นที่สีเขียวป่าชายเลนไม่เสียหายแถมมีที่สร้างเมืองใหม่ ไหนจะแผนทำรถไฟฟ้า 10 สายวิ่งเชื่อมกัน 30 บาทตลอดสาย ถ้าวันนี้ไม่มีรัฐประหาร ป่านนี้เรามีรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมจีนแล้ว เมื่อโครงสร้างพื้นฐานเราพร้อม ต้นทุนเราจะถูกและสะดวก ซึ่งมันจะพลิกอนาคตประเทศ

13. กระจายอำนาจสู่การเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด

นอกจากปฏิรูประบบราชการให้เป็นดิจิทัล เราต้องลดขนาดด้วยการเพิ่มการกระจายอำนาจ เหมือนตอนทำกองทุนหมู่บ้าน ผมกระจายอำนาจให้ชาวบ้านในหมู่บ้านตกลงกันว่าจะทำยังไงโดยกำนันผู้ใหญ่บ้านไม่ต้องยุ่ง ทำให้มันระสบความสำเร็จ ดังนั้นต้องเดินหน้ากระจายอำนาจต่อ เราคงต้องมีการทดลองให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการในบางจังหวัดที่พร้อมก่อน ถ้าได้ผลดีก็ทำขยายต่อให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าทั่วประเทศ แล้วยุบรวมอบจ. เพราะมันจะซ้ำซ้อนกัน

นี่เป็นเพียงน้ำจิ้มตัวอย่างคร่าวๆที่ทำให้เราเห็นภาพว่า หากวันนั้นไม่มีรัฐประหาร ประเทศไทยจะไปไกลขนาดไหน ถ้าวันนี้ระบอบทักษิณยังอยู่ เมืองไทยไม่พังแน่

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สุวัจน์' หวนคืนชื่อเดิม 'พรรคชาติพัฒนา' แต่งตั้ง สส.แจ้ เป็นรองหัวหน้าพรรค

พรรคชาติพัฒนากล้า เปิดการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2567 นำโดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า , นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ,

'ชัยเกษม' ออกตัวไม่เกี่ยวปรับครม. ผู้บริหารพรรคจะใช้ให้ทำอะไรก็ได้ สบายๆ

นายชัยเกษม นิติสิริ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เดินทางมาไหว้ศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตา ศาลยาย โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า การเดินทางมาไหว้วันนี้เกี่ยวอะไรกับการปรับ ครม.หรือไม่

ไทยในสายตาต่างชาติ: สมัยรัชกาลที่เจ็ด (ตอนที่ 20: การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ในสายตาผู้ช่วยทูตทหารฝรั่งเศส)

(ต่อจากตอนที่แล้ว) ในรายงานลงวันที่ 24 กันยายน 1932 (พ.ศ. 2475) ของพันโท อองรี รูซ์ ผู้ช่วยทูตทหารบกและทหารเรือประจำสยาม ประจำสถานอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำสยาม มีความว่า

'เผ่าภูมิ' ปัดนายกฯ ส่งสัญญาณนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวได้เดินทางมารับเอกสารกรอกแบบฟอร์มตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี เรียบร้อยแล้ว ว่า ตนไม่ให้คอมเมนท์ ยืนยันว่าขณะ