
‘สร้างอนาคตไทย’ ชำแหละ ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจ ผิดหวังไร้ปฏิรูปงานสอบสวน มองไม่เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ ชง ปรับโครงสร้างเป็นกระทรวง ทอนอำนาจผู้บังคับบัญชา
6 มิ.ย. 2565 – ที่พรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) ถ.ศรีนครินทร์ นายวิเชียร ชวลิต รองหัวหน้าและผู้อำนวยการพรรค สอท. แถลงว่า สำหรับการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. … ที่จะเข้าสู่การพิจารณาสภาในวันที่ 9-10 มิ.ย.นี้ ตนในฐานะอดีตกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. … เห็นว่าภารกิจที่ประชาชนอยากให้มีการปฏิรูปคือ การสอบสวนของตำรวจ แต่กฎหมายฉบับนี้กลับเป็นเรื่องของบุคลากรตำรวจ การบริหารราชการ และโครงสร้าง แต่ไม่ได้มีพูดถึงเรื่องสอบสวน ซึ่งเป็นต้นน้ำของกระบวนการยุติธรรมเลย เพราะที่ผ่านมาตำรวจถูกตั้งคำถามมาตลอดว่าน่าเชื่อถือหรือไม่ ถูกแทรกแซง มีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ รวมถึงเรื่องการถ่วงดุลของเจ้าพนักงาน กฎหมายฉบับนี้ไม่ได้ตอบคำถามและไม่ได้แก้ปัญหา
นายวิเชียร กล่าวว่า ในร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว มีการตั้งคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีการปรับแก้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องดูแลนโยบายและการบริหารงานตำรวจ มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีรองนายกรัฐมนตรีเป็นรองประธาน และมีปลัดกระทรวง ผู้นำองค์กรภาคราชการที่เกี่ยวข้องมาเป็นกรรมการ และมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นเลขานุการ หน้าที่หลักของกรรมการชุดนี้คือการทำนโยบาย ตนเห็นขอบเขตที่เขียนไว้นั้นแคบ เพราะกรรมการชุดนี้ควรจะมีหน้าที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ตอนนี้กระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่รับผิดชอบ แต่ตำรวจไม่ได้อยู่กับกระทรวงมหาดไทย จึงไม่สามารถขับเคลื่อนงานรักษาความสงบได้ อีกทั้งยังมีแต่ฝ่ายประจำมาเป็นกรรมการพิจารณานโยบาย อาจไม่ขับเคลื่อน ดังนั้น คณะกรรมการชุดนี้จึงควรมีฝ่ายการเมืองที่ประกอบด้วย รมว.มหาดไทย รมว.ยุติธรรม รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เข้าไปเป็นบอร์ดด้วย
อีกประเด็นคือ เรื่องการแต่งตั้งบุคลากรตำรวจที่ถูกกล่าวหาว่ามีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง และเป็นไปตามหลักคุณธรรมหรือไม่ ซึ่งก็ไม่มีคำตอบอยู่ในร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้เช่นกัน ดังนั้น ดูจากร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้แล้วคงไม่แตกต่างจากเดิมเท่าไหร่ เป็นสิ่งที่น่าผิดหวัง อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ ส.ส. ซึ่งเป็นผู้แทนของประชาชนไม่ได้มีโอกาสและอำนาจในการแก้ไขทั้งที่เป็นหน้าที่โดยตรงของฝ่ายนิติบัญญัติ แต่ต้องเข้าสู่การพิจารณาร่วมกับ ส.ว. ซึ่งมาจากการแต่งตั้ง นอกจากนี้ การเสนอกฎหมายปฏิรูป ส.ส. ไม่สามารถร่างกฎหมายไปประกบได้ ทำให้กระบวนการนิติบัญญัติและผู้แทนของประชาชนลดอำนาจลงเหลือครึ่งหนึ่ง
นายวิเชียร กล่าวว่า ตนมีข้อเสนอว่าควรจะมีการปรับปรุงโครงสร้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ให้เป็นกระทรวง เพราะปัจจุบัน สตช. มีบุคลากรมากกว่าหลายกระทรวง ตำแหน่งต่างๆ ไม่ได้มีสถานะด้อยกว่าอธิบดี การปรับเป็นกระทรวงเป็นสิ่งที่ดี อำนาจเบ็ดเสร็จจะไม่ได้อยู่ที่ผู้บังคับบัญชาคนเดียว แต่กระจายไปยังหน่วยงานต่างๆ ในกระทรวง เช่น งานสอบสวนให้แยกไปเป็นกรม ป้องกันการถูกแทรกแซง การใช้อำนาจทางการเมืองไม่สามารถก้าวล่วงได้ แต่ถ้าเราไม่แยกงานเฉพาะทาง การควบคุมบังคับบัญชาจะเบ็ดเสร็จอยู่ที่ผู้บังคับบัญชาผู้เดียว
“กฎหมายตำรวจฉบับนี้ไม่ได้ตอบคำถามเรื่องการสอบสวน ซึ่งถือเป็นประเด็นใหญ่ และถ้าโยงไปถึงรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้มีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมที่ต้องทำให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 ปี แต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ใช้มาตั้งแต่ปี 2560 จนตอนนี้ปี 2565 จึงตั้งคำถามว่าผ่านมา 5 ปีแล้ว เรากลับไม่ได้ร่างกฎหมายตำรวจที่เรารอคอย ผมผิดหวังจากสิ่งที่เรารอคอย เราดีใจกันที่จะเข้าสภา จะผ่านการพิจารณาแล้ว แต่ผมกลับไม่เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ในการปฏิรูปเท่าไหร่นัก จึงขอเรียกร้องเร่งรัดให้มีการปฏิรูปเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้” นายวิเชียร ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'บิ๊กตู่' ปลื้มอุตสาหกรรมอัญมณี-เครื่องประดับส่งออกขยายตัวเกือบ 50%
โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ยินดีอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทยส่งออก ปี 2565 กว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ขยายตัวเกือบ 50% รัฐบาลพร้อมสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ
ตั้งคกก.สอบ ส.ส.เล่นพนันในสภาฯ ชี้หากพบผิดจริงต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
ว่าที่ร.ต.ยุทธนา สำเภาเงิน ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ในฐานะโฆษกประจำสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ชี้แจงกรณีที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร
ฝ่ายค้านมีมติโหวตคว่ำ 'พ.ร.ก.อุ้มหาย'
ฝ่ายค้านมีมติคว่ำ 'พ.ร.ก.อุ้มหายฯ' เหตุกระบวนการไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ชี้อาจไม่ต้องยื่นศาล รธน. หากสภาไม่อนุมัติ
หยัน 'บิ๊กตู่' หน้าไม่บางพอรับผิดชอบ 'พ.ร.ก.อุ้มหาย' โดนคว่ำส่งท้าย
จับตา พ.ร.ก.อุ้มหาย ศึกประลองกำลังเกมการเมืองนัดส่งท้าย “ชลน่าน” หยัน “บิ๊กตู่”หน้าไม่บางพอรับผิดชอบ เล็งส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
‘สว.สมชาย’ ปัดแจงสรุปผลสอบ ‘ส.ต.ท.หญิงโหด’ อ้างความลับ
ความคืบหน้าการตรวจสอบข้อร้องเรียนของนายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กรณีการแต่งตั้ง ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม เข้ารับราชการ และการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วุฒิสภา โดยมี นายธานี อ่อนละเอียด ส.ว.เกี่ยวข้องด้วย
ลุ้นสภาสูงโหวต‘ประชามติ’
จับตา 21 ก.พ. สภาสูงโหวตญัตติเสนอ ครม.ทำประชามติยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่