
พลิกวิกฤติเป็นโอกาส ปลูกเงินจากดินแก้จน “โฆษกเพื่อไทย” ชี้ประยุทธ์แก้จนล้มเหลว อยู่มา 8 ปี คนจนพุ่งรวม 20 ล้าน หากทำไม่ได้เพื่อไทยทำเอง
12 มิ.ย. 2565 – ที่พรรคเพื่อไทย นส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ แก้ไขปัญหาความยากจนมาตลอดระยะเวลา 8 ปี เหตุใดยิ่งแก้ยิ่งจน บัตรคนจนเพิ่มขึ้นจาก 10 ล้านคน ทะยานสู่ 20 ล้านคนแล้วในปีนี้ นอกจากนี้ช่วงปลายปี 2563 ยังได้ตั้ง คณะกรรมการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนฯ(คจพ.) อยู่ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จึงอดสงสัยไม่ได้ว่าแผนแก้จนของพลเอกประยุทธ์ ที่ประกาศจะเริ่มดำเนินการในเดือนกันยายน ปี 2565 จะสำเร็จหรือไม่
พรรคเพื่อไทยเล็งเห็นว่า หากจะแก้ปัญหานี้ได้ ต้องยึดหลัก เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส พุ่งเป้าไปที่คนไทย 2 กลุ่ม คือ เกษตรกร และประชาชนคนหาเช้ากินค่ำ โดยเริ่มที่ 1.กลุ่มเกษตรกร พรรคเพื่อไทยยึดหลัก พลิกวิกฤต เป็นโอกาส รดน้ำที่ราก โดยต้องส่งเสริมการเลี้ยงปศุสัตว์ที่มีตลาดอาหารส่งออกใหญ่มหาศาล เช่น เนื้อวัว ควาย ที่ตลาดทั้งในและต่างประเทศต้องการ อีกทั้งเป็นวิถีชีวิตดั้งเดิมของเกษตรกรทั่วทุกภาคอยู่แล้ว ดังนั้นจึงควรเพิ่มทางเลือกให้เกษตรกรเพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติมบนผืนดินเดิม โดยพลิกเปลี่ยนจากวิถีเดิมๆ ตามความเคยชิน เช่น บนผืนดินที่เคยปลูกข้าวปีละ 2-3 รอบ เปลี่ยนเป็นปลูกข้าวโพดหลังนา หรือถั่วหลังนา เพื่อเป็นทางเลือกให้กับเกษตรกรเพิ่มขึ้น ชดเชยการนำเข้าจากต่างประเทศ รวมปีละเกือบ 10 ล้านตัน และราคาปุ๋ยกำลังพุ่งสูงกว่า 3 เท่า เนื่องจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทั้งหมดจะเป็นทางเลือกให้กับเกษตรกรในการเพิ่มรายได้
2.กลุ่มประชาชน ราคาน้ำมันที่เป็นต้นเหตุต่อค่าครองชีพสูง เพราะต้นทุนค่าขนส่งเกี่ยวข้องกับการผลิตและการดำรงชีวิตทั้งหมด ขณะนี้ราคาน้ำมันดิบยังพุ่งทะยานไม่หยุด ส่วนโครงสร้างราคาน้ำมันบิดเบี้ยว มีทั้งน้ำมันดิบ ค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้น จากในช่วงเดือนมกราคม 2565 อยู่ที่ 1.35 บาท/ลิตร พุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 5.82 บาท/ลิตร ในเดือนพฤษภาคม ตามที่สหพันธ์ขนส่งทางบกได้เคยให้ข้อมูล นอกจากนี้ยังมีภาษีสรรพสามิต ภาษี VAT และเงินเข้ากองทุน ดังนั้นในภาวะนี้ รัฐต้องหามาตรการแก้ไขเร่งด่วน โดยต้องทบทวนโครงสร้างราคาน้ำมันและลดค่าการกลั่น เพื่อลดภาระค่าพลังงานโดยเร็ว
“เมื่อเกษตรกรมีรายได้เพิ่ม จะมีเงินใช้จ่ายทันที เพราะโดยหลักเศรษฐศาสตร์แล้ว รายได้เกษตรกรที่เพิ่มขึ้น จะหมุนสร้างรายได้ของผู้ขายและผู้ผลิตสินค้า เพิ่มมูลค่ารวม 3 รอบหรือ 3 เท่า รัฐก็จะสามารถเก็บภาษีเพิ่มขึ้น รายได้รัฐจะเพิ่มขึ้นโดยที่ไม่ต้องกู้มากมายเหมือนที่พลเอกประยุทธ์กำลังทำ ถ้ารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ทำไม่ได้ เพื่อไทยจะทำให้ดู” นางสาวธีรรัตน์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เลขาฯเพื่อไทย ขู่ฝ่ายค้านซักฟอกปมชั้น 14 ระวังโดนทักษิณฟ้อง
นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงการที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปราบไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 ว่า เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน สำหรับช่วงสมัยประชุมที่จะต้องมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งในครั้งนี้จะมีการยื่นและอภิปนายในช่วงปลายเดือน
หางแถวเพื่อไทย คำรามลั่นถอนตัวพ้นรัฐบาลไปซะ หากพรรคร่วมขวางแก้รธน.
นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ จ
สว. ซัด ‘พรรคส้ม-แดง’ เล่นเกมแก้รธน. เป็นศรีธนญชัย ‘หมกเม็ด-อำพราง’ แก้รายมาตรา
สว.ไล่อัด”พรรคส้ม-แดง”เล่นเกม แก้ไขรธน.ทำตัวเป็นศรีธนญชัย หมกเม็ด-อำพรางแก้รายมาตรา ลั่นโหวตคว่ำไม่ให้ไปต่อ
'เจี๊ยบ อมรัตน์' ขยี้ซ้ำ พท.ด้อยค่าคนเสื้อแดง แนะไปคุยกับ 'หมอเหวง-อ.ธิดา' และหลายคนดู
นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต ส.ส.พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความว่า
'อิ๊งค์' เฉ่งลูกพรรคแตกสามัคคี อีโก้สูง ทำพลาดเป้าเก้าอี้นายก อบจ.
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวกับที่ประชุม สส.ว่า เลือกตั้งนายก อบจ.มีแพ้ มีชนะ ครั้งนี้พรรคทำเต็มที่ พยายามประสานความเห็นที่แตกต่าง ทำให้เหนื่อยในการเคลียร์ อยากให้ปล่อยวางเพื่อให้ทุกฝ่ายพอใจ และเป็นผลดีกับเรา ถ้ารวมใจกันชนะไ
'คารม' โต้เดือด 'โรม' เสี้ยมเพื่อไทย-ภูมิใจไทยแตกกัน ปมตัดไฟแก๊งคอลฯ
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีการให้สัมภาษณ์ของนายรังสิมันต์ โรม ในฐานะประธานคณะกรรมการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ