แย่แล้ว! นั่งร้านอุ๊งอิ๊ง เด็ดหัวบิ๊กตู่ ก่อนไทยต้องล้มละลายเหมือนศรีลังกา

“พิชัย”ได้ที จวก“ประยุทธ์”ไร้วิสัยทัศน์ บริหารพลังงาน หวั่นซ้ำรอย ศรีลังกา แนะ เก็บเงินก๊าซ LPG ที่ส่งเข้าอุตสาหกรรมปิโตรเคมี กก. ละ 5-8 บาทได้เงินเป็นหมื่นล้าน ทำได้ทันที ชี้ ออก 8 มาตรการแทบไม่ช่วยเหลือประชาชน

28 มิ.ย.2565 – นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า สถานการณ์เศรษฐกิจของไทยยังน่ากังวลอย่างมากใน 4 ปัญหาที่คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยได้เตือนไว้แล้วตั้งแต่ต้นปีคือ ปัญหาราคาพลังงาน ทั้งราคาน้ำมัน ก๊าซ และไฟฟ้า ปัญหาข้าวของแพงและอัตราเงินเฟ้อสูง ปัญหาหนี้ ทั้งหนี้ประเทศและหนี้ประชาชน และ ปัญหาดอกเบี้ยขาขึ้น โดยทั้ง 4 ปัญหานี้จะเป็นปัญหาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ได้ออก 8 มาตรการ โดยอ้างว่าเป็นการช่วยเหลือประชาชน แต่ในความเป็นจริงเป็นการช่วยเหลือที่น้อยมาก หรือแทบไม่ช่วยเลย ที่ช่วยก็ช่วยเฉพาะคนกลุ่มที่เล็กมาก แถมหลายมาตราการยังเป็นการซ้ำเติมมากกว่าจะเป็นการช่วยเหลือโดยขอวิเคราะห์ดังนี้

  1. มาตราการช่วยแม่ค้าหาบเร่แผงลอย ที่ถือบัตรสวัสดิการของรัฐ และผู้ถือบัตรสวัสดิการแก่งรัฐ เป็นค่าก๊าซหุงต้มเดือนละ 100 บาท ซึ่งเท่ากับช่วยวันละ 3.33 บาท ซึ่งน้อยมาก
  2. มาตราตรึงราคา NGV สำหรับแท็กซี่ ภายใต้โครงการลมหายใจเดียวกัน ซึ่งก็ดีแต่มีคนจำนวนไม่มากนักที่ได้ประโยชน์
  3. วางกรอบขายปลีก LPG ที่ 408 บาท / ถัง 15 กก. ไม่ใช่ช่วยแต่เป็นการเพิ่มราคาก๊าซหุงต้ม เพราะปัจจุบันยังขายอยู่ที่ 363 บาท สำหรับถัง 15 กก. โดยรัฐจะขึ้นราคาไปอีก 3 ครั้งจนถึง 408 บาทซึ่งไม่ใช่เป็นการช่วยเหลือเลย
  4. มาตราสนับสนุนการท่องเที่ยวโดยให้เอกชนสามารถนำมาหักภาษีได้ 1.5 เท่า เมืองรอง 2 เท่า แต่รัฐบาลกลับมีแนวคิดจะเก็บค่าเหยียบแผ่นดินคนละ 300 บาท ซึ่งเป็นการย้อนแย้งกับมาตรานี้ ทั้งที่การดึงดูดเงินจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศน่าจะสำคัญและจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของไทยมากกว่า
  5. อุดหนุนราคาดีเซล 50% ในส่วนที่สูงเกิน ลิตรละ 35 บาท นี่เท่ากับเป็นการประกาศว่าจะขึ้นราคาน้ำมันดีเซลเกินกว่าลิตรละ 35 บาท และ อาจจะสูงเกินลิตรละ 38 บาทอีกด้วย ไม่ได้เป็นการช่วยเหลือแต่อย่างใด
  6. ขอความร่วมมือจากโรงกลั่น ในการส่งกำไรจากส่วนต่างของน้ำมันเบนซินและดีเซล ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะได้ผลไหม โรงกลั่นต้องไปถามผู้ถือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ก่อนหรือไม่ ถ้าทำได้ก็ดี
  7. ช่วยเหลือมอเตอร์ไซด์รับจ้างที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการชนส่งทางบก เดือนละ 250 บาท หรือ วันละ 8 บาทกว่า เท่านั้น แถมมอเตอไซด์รับจ้างที่ขึ้นทะเบียนมีเพียง 157,000 คนเท่านั้น
  8. ขอความร่วมมือประหยัดพลังงาน ยังงงว่าเป็นการช่วยเหลือได้อย่างไร

นายพิชัยกล่าวว่า จะเห็นได้ชัดว่าทั้ง 8 มาตรการ แทบไม่ได้ช่วยเหลือประชาชนเลย แถมยังซ้ำเติมความยากลำบากอีกด้วย โดยเฉพาะเรื่องขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม เละ ขึ้นราคาน้ำมันดีเซล เป็นการเพิ่มภาระอย่างชัดเจน

ขอแนะนำวิธีการหาเงินที่ถูกต้องและสามารถทำได้ทันที คือการเก็บเงินจากก๊าซ LPG ที่ส่งเข้าอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในประเทศ โดยในอดีตสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ตนเป็น รมว. พลังงาน ได้สั่งให้เก็บเงินจากการส่งก๊าซ LPG เข้าอุตสาหกรรมปิโตรเคมีแล้ว ในอัตรา กก. ละ 1 บาทเข้ากองทุนน้ำมัน ทั้งนี้เพราะก๊าซ LPG ได้มาจากก๊าซในอ่าวไทยโดยผ่านจากโรงงานแยกก๊าซและ ก๊าซ LPG ยังได้มาจากการกลั่นน้ำมัน ขนาดประชาชนซื้อก๊าซ LPG หรือ ก๊าซหุงต้มนี้ ยังต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนน้ำมันและจ่ายภาษีเลย แต่อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกลับไม่ได้จ่ายเลยในขณะนั้น จึงสั่งให้จ่าย แต่ต่อมามีการยกเลิกการเก็บไป ซึ่งไม่ทราบเพราะสาเหตุใด และเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องที่ยกเลิกการเก็บนี้ และเป็นการเอาเปรียบประชาชน ดังนั้นจึงควรกลับมาเก็บใหม่และควรจะเก็บมากขึ้นเป็นอัตรา กก. ละ 5-8 บาท เพราะราคา LPG ปัจจุบันสูงขึ้นกว่าเดิมมาก และตอนนี้ธุรกิจปิโตรเคมีก็มีกำไรกันอย่างมหาศาลซึ่งมีผลกระทบน้อยมาก แต่จะทำให้กองทุนน้ำมันได้เงินเป็นหมื่นล้านบาท และสามารถทำได้ทันทีและถูกกฎหมายด้วย และสามารถนำมาช่วยลดราคาก๊าซ LPG ที่ประชาชนใช้อยู่ จึงอยากให้พลเอกประยุทธ์นำไปพิจารณาเร่งทำเพื่อช่วยเหลือประชาชน

อยากให้พลเอกประยุทธ์ได้เปิดใจรับฟังเหมือนตอนที่ตนเสนอให้ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลิตรละ 5 บาท พลเอกประยุทธ์ก็บอกเองว่าทำไม่ได้ แต่สุดท้ายก็ต้องทำ เรื่องนี้ก็เช่นกัน สามารถทำได้แน่นอนเพราะตนเคยทำมาแล้ว โดยอยากให้พลเอกประยุทธ์ได้ฝึกคิดเรื่องที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์บ้างไม่ใช่คิดแต่เรื่องย้อนยุคเช่น เตาอั้งโล่ เอามาตั้งชื่อใหม่เป็นเตามหาเศรษฐี ซึ่งทั้งล้าสมัยและสร้างมลภาวะอย่างมาก เพราะทั้งทำลายป่าเพื่อนำไปทำถ่าน และการเผาจะทำให้เกิด PM 2.5 อย่างมาก ไม่ทราบว่าคิดออกมาได้อย่างไร เรื่องเก็บเงินก๊าซ LPG จากธุรกิจปิโตรเคมีนี้ พลเอกประยุทธ์ต้องอย่าเห็นประโยชน์ของ ปตท. มากกว่าประโยชน์ของประชาชน ซึ่งถ้าพลเอกประยุทธ์ไม่ทำ พรรคเพื่อไทยจะทำแน่ถ้าชนะการเลือกตั้งเพราะเป็นความชอบธรรมและเป็นประโยชน์กับประชาชน

ในภาวะวิกฤตเช่นนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้นำต้องมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนเพื่อนำประเทศให้หลุดพ้นจากปัญหาที่รุมเร้า ไม่อยากให้ประเทศไทยต้องล้มละลายเหมือนกับประเทศศรีลังกาที่ประชาชนกำลังลำบากกันอย่างมาก เพราะมีผู้นำที่ขาดวิสัยทัศน์และขาดความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เสธ.หิ' เผย 'พีระพันธุ์' สั่งทบทวน 3 เรื่อง ประมูลพลังงานสะอาด ชะลอสรรหาบอร์ด กกพ. สอบปมเหมืองแม่เมาะ

นายหิมาลัย ผิวพรรณ ผู้อำนวยการพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์เฟซบุ๊กว่า ปฐมบทของเรื่องนี้ เกิดมาจากการอภิปรายที่ผ่านมา ในเรื่องของการประมูลพลังงานสะอาด หลังจากฟังการอภิปรายแล้ว

'พิชัย' ชวนสมาชิกหอการค้าอเมริกันลงทุนไทยเพิ่ม

“พิชัย” ชวนสมาชิกหอการค้าอเมริกัน AMCHAM ลงทุนไทยเพิ่ม เร่งใช้แต้มต่อ FTA ไทย ผลักดัน ศก. ไทยเติบโตรวดเร็ว หลังเตรียมเยือนดาวอส ประกาศความสำเร็จ FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกกับยุโรป

'พิชัย' ประกาศความสำเร็จ FTA ไทย-เอฟตา ชูไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมใหม่ AI

“พิชัย” เปิดงาน GCNT Forum 2567 ประกาศความสำเร็จ FTA ไทย-เอฟตา ดันเศรษฐกิจ เชื่อมั่น ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมใหม่ PCB และ AI โลก หนุนสร้าง SME รุ่นใหม่ ส่งออกสินค้าทั่วโลก

พาณิชย์ เผย ครม. เคาะมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าว-ข้าวโพด วงเงินเฉียดหมื่นล้าน

“พาณิชย์” เผย ครม.สัญจร เคาะ! มาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าว-ข้าวโพด ปี 67/68 กว่า 9,900 ล้านบาท ช่วยพี่น้องเกษตรกรไทยยั่งยืน