'อนุทิน' กร้าว! พรรคร่วมไม่หนุนกันเอง ใกล้เลือกตั้งเลิกเกรงใจ

‘อนุทิน’ ลั่นดีเสียอีกแบบนี้ พรรคร่วมไม่สนับสนุนกันเอง ใกล้เลือกตั้งไม่ต้องเกรงใจ ปัด ภท. เร่งหาเสียงจากกัญชาเสรี – กยศ. เผยเข้าพบ ‘บิ๊กตู่’ ยังมีกำลังใจดี

16 ก.ย. 2565 – ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.20 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุจะนัดหารือกับนายอนุทิน เพื่อปรับความเข้าใจ หลังเกิดความขัดแย้งระหว่างพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์ ในเรื่องร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง และร่าง พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ว่า ไม่ได้มีปัญหาส่วนตัวอะไร เป็นเรื่องการทำหน้าที่และการตัดสินใจของแต่ละพรรค สำหรับนายสาธิตได้โทรศัพท์มาแจ้งตนว่าต้องอยู่ดูแลแก้ปัญหาน้ำท่วมหนักที่ จ.ระยอง

เมื่อถามว่า พรรคฝ่ายค้านเสนอว่าระหว่างที่ร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ถูกถอนออกจากวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรไปปรับแก้ไขนั้น ให้ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่เกี่ยวกับกัญชาออกไปก่อน จนกว่ามีกฎหมายแม่ออกมานั้น นายอนุทิน กล่าวว่า คนที่เสนออย่างนั้นไม่ได้ศึกษากฎหมายในเรื่องของกัญชาอย่างละเอียด โดยหลังจากการที่กัญชาได้รับการปลดจากบัญชียาเสพติด ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศต่างๆ มาควบคุมการใช้กัญชา เพื่อคลายความกังวลของประชาชน และที่จริงกระทรวงสาธารณสุขสามารถใช้ พ.ร.บ.การสาธารณสุข ในการควบคุมการใช้ประโยชน์จากกัญชา เพราะวัตถุประสงค์ของการปลดล็อกกัญชาก็เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ จึงต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของกระทรวงสาธารณสุข ส่วนการกระทำอะไรที่อยู่นอกเหนือประกาศกระทรวงสาธารณสุข หรือไม่ใช่การใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ ก็ถือว่าผิดกฎหมาย

นายอนุทิน กล่าวว่า การที่พรรคภูมิใจไทยเสนอ ร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ เข้าสู่สภาฯ เพราะต้องการทำให้ประชาชนคลายความกังวลในเรื่องกัญชาที่เป็นเรื่องใหม่ และคนส่วนใหญ่ยังยึดติดกับภาพความเป็นยาเสพติด แต่การบังคับใช้และการควบคุมนั้นไม่ได้แตกต่างกัน ดังนั้นการบอกให้ รมว.สาธารณสุข ถอนประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องกัญชาออกไปแล้วให้กัญชากลับไปอยู่ในบัญชียาเสพติดนั้น การพูดแค่นี้ก็ผิดแล้ว ขอให้ไปอ่านกฎหมายให้ดี เพราะทุกอย่างและแม้แต่การปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดนั้น มาจากมติคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เสนอมาให้ รมว.สาธารณสุข พิจารณาลงนาม อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ ส.ส. หลายคนพูดกันในสภาฯ ไม่ใช่ข้อเท็จจริงหรือไม่ใช่การคิดถึงประชาชน และสิ่งที่ ส.ส. ทำกันออกมาในสภาฯ เป็นการเอาการเมืองนำประโยชน์ของประชาชน ทั้งนี้เห็นกันอยู่ว่าส.ส.ที่ทำเช่นนั้น พรรคของเขามีสภาพเป็นอย่างไร

เมื่อถามว่า เป็นเพราะขณะนี้ใกล้จะมีการเลือกตั้ง ส.ส. แล้วใช่หรือไม่ จึงนำการเมืองมาผูกโยงเรื่องต่างๆ ในการสร้างคะแนน นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้คงไม่ต้องตอบ ทุกคนก็เห็น

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประชาชนที่ปลูกต้นกัญชาแล้ว เกิดความไม่แน่ใจว่าจะเดินหน้าต่อไปได้ในช่วงนี้ได้หรือไม่ ทั้งประชาชนผู้ปลูกและผู้ประกอบการที่ลงทุน รัฐบาลจะดูแลอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ต้องดูแลอะไร เพราะเรามี พ.ร.บ.การสาธารณสุข และประกาศกระทรวงสาธารณสุขต่างๆ ที่ยังมีผลบังคับใช้ นี่คือความรอบคอบ เพราะเราทราบอยู่ว่าเมื่อเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของสภา จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ไม่เหนือความคาดหมายอะไร จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ต้องเร่งให้มีการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขควบคุมการใช้กัญชา ที่ขณะนั้นถูกวิจารณ์ว่าทำไมไม่รอกฎหมายแม่ก่อน ซึ่งอานิสงส์ในขณะนั้นคือการปล่อยผู้กระทำผิด แล้วถ้าเรายกเลิกประกาศนั้น จะต้องกลับไปเอาคนเหล่านั้นมาเข้าคุกอีกหรือ จะต้องเสียเวลาตีความต่างๆ อีกมากมาย

นอกจากนี้แพทย์แผนไทยและแผนปัจจุบันเริ่มเชื่อผลการศึกษาแล้วนำกัญชามาใช้ จากแพทย์จะต้องกลายเป็นผู้ต้องหาหรือ หรือแม้แต่ธุรกิจที่ลงทุนก็หุ้นลงไปจำนวนมากทั้งที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ขอถามว่าใครเดือดร้อน ก็คือประชาชน ส.ส. และนักการเมืองไม่ต้องเดือดร้อนอะไร แค่เกิดความรู้สึกว่ากฎหมายถูกคว่ำ แต่ความจริงไม่ได้ถูกคว่ำ แม้ไม่มีการพิจารณาประกาศกระทรวงสาธารณสุขยังบังคับใช้ และในข้อเท็จจริง ไม่มีผลกระทบอะไร แม้กฎหมายไม่ได้รับการพิจารณาของสภาในเวลานี้ เพียงแต่ไม่ได้ใช้กฎหมายกัญชากัญชงโดยเฉพาะ แต่เราสามารถใช้ประกาศกระทรวงสาธารณสุขได้ และมีการเขียนระเบียบข้อบังคับชัดเจน

“องค์การอะไรที่ออกมาแสดงความคิดเห็น มีการลงนามจากบุคคลที่ออกมาต่อต้าน หลายๆ ท่านก็เป็นกรรมการบริษัทสุราที่ติดง่ายกว่ากันกัญชาเสียอีก อันตรายและก่อให้เกิดความเสียหายมากกว่า แล้วทำไมตรงนั้นจึงไม่เป็นอะไร มาเบรกกัญชา แต่เป็นกรรมการสุรา เรื่องนี้ขอประชาชนคิดเองแล้วกัน จุดนี้นี่แหละมันจึงวุ่นวายกันไปหมด เพราะคนไปให้ค่ากับสถานะทางสังคม และด้อยค่าคนที่ตั้งใจทำงานจริงจังเพื่อประชาชน” นายอนุทิน ระบุ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในทางการเมืองมองอย่างไรกับเสียงวิจารณ์ที่ว่าพรรคภูมิใจไทย เร่งหาเสียงจากเรื่องกัญชาเสรีและกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคทำงาน พูดแล้วทำ และทำทุกอย่างเพื่อแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนให้ดีขึ้น ไม่ต้องเร่งหาเสียง ทุกคนดูได้ว่าตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงานถึงวันนี้ก็ยังทำงานอยู่ ผลักดันนโยบายต่างๆให้เกิดประโยชน์ ไม่ว่าเรื่องการฟอกไต การรักษาทุกที่ การเชื่อมเส้นทางคมนาคมขนส่ง การปรับปรุงระบบสาธารณสุข อสม. จนจำเกือบไม่ได้ว่าพรรคได้ทำอะไรไปแล้วบ้างเพราะมีมาก แต่ยืนยันว่าทุกอย่างทำเพื่อประชาชน เมื่อทุกอย่างทำเพื่อประชาชนจึงไม่มีอะไรที่ต้องกังวล เพราะถ้าใครมาขวางคนๆนั้นก็ต้องไปตอบให้ประชาชนทราบ

“ดีเสียอีกที่เป็นแบบนี้ พรรคร่วมรัฐบาลไม่สนับสนุนกันเอง ใกล้เลือกตั้ง ไอ้ที่จะต้องเกรงใจอะไรกัน ก็ไม่ต้องเกรงใจ” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุ

เมื่อถามว่า แสดงว่ากระแสการยุบสภาใกล้เข้ามาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ พร้อมกล่าวว่า “ ไปถามท่านนายกฯ ดูแล้วกัน”

เมื่อถามย้ำว่า ได้พูดคุยกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กลาโหม ในช่วง 2-3 วันนี้บ้างหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ได้แวะไปหา พล.อ.ประยุทธ์ ไปกราบท่านเพื่อขอพรวันเกิด พอดีท่านมีเวลาว่างก็ได้ไปพบ โดยไปพร้อมกับ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย

ส่วนกรณีใกล้ถึงวันที่ 30 ก.ย.ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์เป็นอย่างไรบ้างนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า “ก็ดูว่าท่านมีกำลังใจดี วันเดียวกันนี้ก็ลงพื้นที่ จ.ระยอง เพื่อไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนน้ำท่วม ซึ่ง จ.ระยองเป็นพื้นที่ของ รมต.สาธิต ผมจึงไม่ต้องร่วมคณะไปด้วย เพราะบ้านของนายสาธิตอยู่ที่ระยองอยู่แล้ว สามารถที่จะสั่งการสนับสนุนงาน พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะ รมว.กลาโหม อย่างบูรณาการในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ได้อยู่แล้ว เรื่องนี้ รมต.สาธิตก็โทรศัพท์มาบอกกับผม ซึ่งผมได้ยืนยันไปว่าเป็นเขตบ้านของท่านให้ลุยไปได้เลย” นายอนุทิน กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้พูดถึงสัมพันธภาพของพรรคร่วมรัฐบาลบ้างหรือไม่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าวว่า ไม่ได้พูดถึง และไม่ได้พูดคุยในเรื่องการเมืองเลย ซึ่งก็เป็นเรื่องแปลกเหมือนกัน มีแต่เรื่องการให้กำลังใจกัน

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า มองอย่างไรที่กระแสพุ่งเป้ามาที่พรรคภูมิใจไทย โดยโจมตีว่าใช้เรื่อง กยศ. หาเสียง โดยไม่สนใจในเรื่องวินัยการเงินการคลัง นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องวินัยทางการเงินของประชาชนอยู่ที่การปลูกฝัง ยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยไม่ได้บอกให้คนเบี้ยวหนี้ แต่การให้การศึกษากับเยาวชนของชาติความจริงควรจะต้องให้ฟรีด้วยซ้ำไป พรรคภูมิใจไทยก็ไม่อยากไปฝืนกระแสคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะอาจยังไม่พร้อมในเรื่องงบประมาณ แต่เรื่องดอกเบี้ยพรรคภูมิใจไทยได้เขียนมาตั้งแต่ปี 2557 เป็นนโยบายในการเลือกตั้งและถูกเป็นโมฆะไป แต่พรรคยืนยันในนโยบายว่าเยาวชนของชาติต้องได้รับการศึกษาสูงสุดเท่าที่อยากจะเรียน โดยรัฐจะต้องเป็นผู้สนับสนุน เพราถือเป็นการลงทุนในอนาคตของบ้านเมือง ยืนยันว่าไม่มีประเด็นใดๆ ในทางการเมืองเลย เราคิดแต่เรื่องที่เป็นประโยชน์ และเรื่องที่เป็นความมั่นคงของบ้านเมืองในอนาคต เรื่องที่จะทำให้คนในชาติมีการศึกษาสูงต้องมองว่าสิ่งนี้คือการวางรากฐานหรือตอกเสาเข็มที่จะทำให้บ้านเมืองเจริญก้าวหน้าไปได้ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องการหาเสียงแต่เป็นหน้าที่ที่ต้องทำถ้ามีโอกาสเข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน เราไม่ได้คิดอะไรอย่างอื่น ผลงานของเราเป็นสิ่งที่ประชาชนจะได้พิจารณา

เมื่อถามว่า แต่จะถูกมองว่าไม่ถูกต้องกับสถานะการคลังในปัจจุบัน นายอนุทินกล่าวว่า การศึกษาถือเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของชาติในกลุ่มเยาวชน เพราะการศึกษาจะอยู่ไปจนตายไม่ละลายเหมือนวัคซีนหรือยาต่างๆ ที่ใช้แล้วหมดไป เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันในช่วงเวลานั้นซึ่งเราก็เต็มใจที่จะทำให้ นับประสาอะไรกับการที่จะลงทุนให้กับอนาคตของชาติ ซึ่งในอนาคตเราจะต้องพึ่งพาเยาวชนเหล่านี้ พวกเราแก่ตัวไปคนเหล่านี้จะมาเลี้ยงดูพวกเราในสังคมผู้สูงอายุ ดังนั้นเราต้องทำให้คนในชาติมีความรู้มากๆ ทำงานได้และเสียภาษี เพื่อเอาเงินมาดูแลคนในชาติ

นายอนุทิน กล่าวว่า อันนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องวินัยการเงินการคลังเลย เราไปดูในเรื่องการใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุดดีกว่า สิ่งไหนที่ไม่จำเป็นควรซื้อหรือไม่ควรซื้อไปดูในเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน อย่าให้มีการรั่วไหล ตรงนี้เป็นเรื่องของวินัยการเงินการคลังที่หนักกว่า การดูแลให้เยาวชนได้รับการศึกษาโดยเป็นการให้ยืมจากรัฐโดยไม่คิดดอกเบี้ย เยาวชนเหล่านี้จะเอามาคืนในส่วนของเงินต้นและเมื่อทำงานจะคืนในรูปแบบของการเสียภาษี ซึ่งคำนวนแล้วประมาณ 7 ปีผู้ที่ยืมเงินไปใช้เพื่อการศึกษาจะคืนเงินต้นได้ทั้งหมด อีกทั้งแต่ละปีจะมีคนที่เก่งได้เงินจำนวนมากและเสียภาษีให้กับรัฐมากขึ้น และยังมีเวลาเฉลี่ยอีกประมาณ 30 ปี ที่จะทำงานและเสียภาษีคืนรัฐ เราต้องมองในลักษณะแบบนี้ไม่ใช่มองแค่ในระบบราชการ เงินที่รัฐออกไปตรงนี้ก็เหมือนออกไปจากถังๆ หนึ่งกระจายไปใส่กระป๋องเล็กๆน้อยให้กับประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องการไปจ่ายค่าเล่าเรียน เงินเดือนครู ค่าหนังสือ ซึ่งก็เมดอินไทยแลนด์ทั้งนั้น ไม่ได้หายไปไหน และเวลาที่คืนกลับมาใครบอกว่าไม่มีดอกเบี้ย อย่าลืมว่าอีก30 ปีที่เหลือหลังจากจ่ายเงินต้นก็จะจ่ายคืนด้วยรูปแบบภาษีที่ถือว่าหนักกว่าที่จะไปปรับเขา วันนี้ขอให้พวกเขาได้มีโอกาสได้ทำงานเพื่อที่จะเสียภาษี การปลูกต้นไม้เมื่อเขาสามารถยืนต้นได้แล้วก็ไม่จำเป็นต้องไปลดน้ำอะไรอีก แต่กลับจะออกดอกออกผลมาให้เก็บกินได้ทุกวัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลจะดันทุรังแจกเงินดิจิทัล 5 แสนล้าน ถามคนไทย 4 ข้อ จะเลือกข้อไหนดี

นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กกรณีรัฐบาลเดินหน้า โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ว่า

'อนุทิน' ไม่กังวลแบงก์ชาติท้วงแจกเงินดิจิทัล ชี้หากไม่ถูกกฎหมาย กฤษฎีกา-สภาพัฒน์ต้องแจ้งมา

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย มีหนังสือเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาเกี่ยวกับการเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

รัฐบาลกวักมือเรียกผู้กู้ กยศ.ที่ถูกดำเนินคดีเร่งปรับโครงสร้างหนี้ด่วน!

รัฐบาลเชิญชวน ผู้กู้ยืม กยศ. ถูกดำเนินคดีในปี 2557 ที่ยังมีภาระหนี้ค้าง เข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อขยายระยะเวลาชำระหนี้ ปลดภาระผู้ค้ำประกัน

พรรคร่วมฯ เพียงเห็นชอบเชิงหลักการ รัฐบาลเล่นกลแจกเงินหมื่น หาเสียงนิยมให้พท.

'จตุพร' ซัดรัฐบาลเล่นกลซ่อนเจตนากู้เงินแจกหมื่น เชื่อปั่นความหวังเคลมดิจิทัลหาเสียงนิยมให้เพื่อไทย แต่ ปท.ชิบหายแบกหนี้ก้อนโต ชี้พรรคร่วมฯ เพียงเห็นชอบเชิงหลักการเท่านั้น

เย้ยพรรคร่วมรัฐบาล ยืนแถลงหนุน 'ดิจิทัลวอลเล็ต' แค่ลมพัดไหว ไม่มีอะไรในกอไผ่

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกกต. และอดีตรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 โพสต์เฟซบุ๊กว่า

นายกฯ นำรมต.พรรคร่วม ยืนเรียงแถว แถลงครม.เห็นชอบหลักการดิจิทัลวอลเล็ต

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง นำแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ , นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย , นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน