'กรณ์' พร้อม2ว่าที่ผู้สมัครส.ส.ภูเก็ต ร่วมขบวนส่งพระปิดเทศกาลถือศีลกินผัก ชูเศรษฐกิจเชิงวัฒนธรรม

'กรณ์' พร้อม สองว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ภูเก็ต ร่วมขบวนส่งพระปิดเทศกาลถือศีลกินผักภูเก็ต ชูยุทธศาสตร์ เศรษฐกิจเชิงวัฒนธรรมความเชื่อ สร้างรายได้เข้าชุมชน

5 ต.ค.65 - ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ภูเก็ต ว่า ในระหว่างวันที่ 30 กันยายน – 4 ตุลาคม 2565 นายกรณ์ จาติกวณิช กรรมการบริหารพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วย น.ส.อรทัย เกิดทรัพย์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต เขต 2 และนายเทมส์ ไกรทัศน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต เขต 3 เข้าร่วมงานเทศกาลกินผัก เจี๊ยะฉ่าย พร้อมส่งพระ คึกคักมาตลอด 9 วันเต็ม มีนักท่องเที่ยวและชาว จ.ภูเก็ต เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

โดยนายกรณ์ กล่าวภายหลังร่วมพิธีส่งพระ ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของประเพณีถือศีลกินผัก ว่าบรรยากาศของงานครึกครื้นเต็มไปเสน่ห์เทียบชั้นเทศกาลสงกรานต์ โดยเปลี่ยนจากการสาดน้ำ เป็นการโยนประทัดสนั่นหวั่นไหวทั้งเมือง เมื่อดูจากจำนวนนักท่องเที่ยวเชื้อสายจีนทั้ง มาเลเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน ฮ่องกง คิดว่าถึงเวลาที่นอกจากเราจะมาสนับสนุนการต่อยอดสืบสานประเพณีอันทรงคุณค่านี้แล้ว ในแง่เศรษฐกิจ นี่คือยุทธศาสตร์ White Economy หรือเศรษฐกิจเชิงวัฒนธรรมความเชื่อ ที่จะสร้างรายได้มากมายให้ชุมชนได้อย่างแท้จริง

นายกรณ์ กล่าวว่า ตนได้เดินทางมา จ.ภูเก็ตและเข้าร่วมประเพณีถือศีลกินผัก มาตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน จนถึงวันสุดท้ายของประเพณี ได้มีโอกาส พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับชาวบ้าน ผู้นำชุมชน ผู้หลักผู้ใหญ่ในพื้นที่ เพื่อรับทราบปัญหาของประชาชนอย่างแท้จริง โดยได้ถือโอกาสแนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 2 คน ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ ขยัน มีความรู้ มีความสามารถ และ เป็นที่รู้จักของทุกคน ซึ่งตรงกับเจตนารมณ์ของพรรคที่ต้องการเลือกคนที่มีความรู้มีประสบการณ์ และมีความมุ่งมั่นทุ่มเท และมีความตั้งใจ ที่จะนำประสบการณ์มาพัฒนา จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตนเอง

สำหรับนโยบายในการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตของพรรคชาติพัฒนากล้านั้น อย่างที่ทราบจังหวัดภูเก็ตมีของดีมากมาย แต่ปัญหาที่สำคัญคือจะทำอย่างไรให้ของดีของภูเก็ตเป็นโอกาสของทุกคน เพราะภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ดังนั้นจึงต้องมีโอกาสในการบริหารจัดการภูเก็ตเอง เป็นพื้นที่เฉพาะด้านสำหรับเศรษฐกิจท่องเที่ยวหลักคิดภูเก็ตจังหวัดจัดการตนเองแบบพิเศษ จำเป็นต้องทำเพราะระบบราชการประจำไม่ครอบคลุม การบริหารพื้นที่เพราะภูเก็ตมีปริมาณนักท่องเที่ยวและประชากรแฝงจำนวนมาก ในหลักเศรษฐศาสตร์แล้วจะนำระบบงบรายหัวของประชากรในพื้นที่มาจัดสรรอย่างเดียวไม่ได้

น.ส.อรทัย เกิดทรัพย์ หรืออ้อ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต เขต 2 มีประสบการณ์ในการทำงานทางด้านการเงินและต่างประเทศมากว่า 20 ปี รวมทั้งเป็นประธานกลยุทธ์ของบริษัทใหญ่ๆ มาหลายที่ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า ถึงเวลาแล้วที่เราควรจะนำความรู้ ความสามารถกลับมาพัฒนาบ้านเกิด เพื่อให้บ้านเกิดของเราพัฒนาเติบโตขึ้น เพื่อให้ประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ตได้มีโอกาสยิ้มได้กว้างขึ้น ณ วันนี้ขอยืนยันว่าพร้อมที่จะรับใช้ประชาชน และพร้อมที่จะนำความรู้ความสามารถทั้งหมดมาใช้เพื่อพัฒนาภูเก็ตให้ก้าวต่อไป

ด้านนายเทมส์ ไกรทัศน์ ว่าที่ผู้สมัคร สส.เขต 3 เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรคกล้า เป็นคนรุ่นใหม่ ที่มีความตั้งใจจะพัฒนาจ.ภูเก็ตให้เจริญรุ่งเรือง โดยเขากล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ประกาศตนเองมาโดยตลอดในระยะสองปีกว่าๆ ว่าจะเป็นผู้สมัคร ส.ส.ตัวแทนของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ต ซึ่งในช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา ภูเก็ตเราผ่านอะไรมาเยอะมากมายและตอนนี้เรื่องของสถานการณ์ต่างๆก็ดีขึ้นแล้วการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาเศรษฐกิจเริ่มดี แต่จะกลับให้ไปเป็นเหมือนช่วงที่ก่อนโควิดนั้นก็คงต้องใช้เวลาอีกซักระยะใหญ่ๆ แต่ว่าในช่วงกินผักภูเก็ตนี้ก็เห็นด้วยว่าภูเก็ตเองมีความคึกคักขึ้นมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มขึ้น และคาดว่าในช่วงปลายปีต้นปีหน้านี้ก็จะเห็นการท่องเที่ยวเริ่มขยับตัวดีขึ้นไปอีก

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สุวัจน์' แจงเหตุรับ 'สส.แจ้' ย้ายซบชาติพัฒนากล้า

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรีสมัครเข้าพรรคชาติพัฒนากล้า ว่า ทางพรรคฯโดยนายทะเบียนพรรคฯก็ได้ตรวจสอบคุณสมบัติต่างๆและได้รับเข้าเป็นสมาชิกพรรค

‘กรณ์’ ยกศาล รธน.เยอรมัน วินิจฉัยกู้เงินเกินเพดาน เตือนสติกู้มาแจก

ที่เยอรมัน ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่า ‘รัฐบาลทำผิดกฎหมายจากการกู้เงินเกินเพดานเงินกู้ที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้’ รัฐบาลอาจอยู่ยากเพราะหลายโครงการที่พรรคร่วมคาดหวังว่าจะได้รับงบสนับสนุนต้องถูกยกเลิกไป

'อรรถวิชช์' ชงปธ.สภาฯ ดันกม.ปฏิรูปเครดิตบูโร แก้หนี้นอกระบบ

'อรรถวิชช์' นำภาคปชช. ยื่นประธานสภาฯ ดัน กฎหมายปฏิรูปเครดิตบูโร แก้หนี้นอกระบบ เลิกแช่แข่งลูกหนี้ ขอ "เศรษฐา" สนับสนุนกฎหมายภาคประชาชนร่วมเป็นวาระแห่งชาติ

ซัดตรง! ‘กรณ์’ ชี้นโยบายแจกเงินหมื่น หวังผลการเมือง อันตรายต่ออนาคตศก.

นโยบายแจกเงินดิจิทัลเป็นนโยบายที่คิดมาไม่ละเอียด หวังผลทางการเมืองมากกว่าการพัฒนา และเป็นแนวนโยบายที่อันตรายต่ออนาคตเศรษฐกิจของเราอย่างมาก

'กรณ์' เตือนรัฐบาลแบกภาระดอกเบี้ยเพิ่ม จากโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท

นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุถึงเรื่อง ว่าด้วยนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ กับ ภาระทางการคลัง

'ชาติพัฒนากล้า' จัดประชุมใหญ่เลือกหัวหน้า-เปลี่ยนชื่อพรรค 'สุวัจน์' แบะท่าหวนคืน

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า(ชพก.)ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมใหญ่พรรคเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ หลังจากที่นายกรณ์ จาติกวณิช ลาออกจากหัวหน้าพรรค ว่า เมื่อนายกรณ์ ลาออก ส่งผลให้ กรรมการบริหารพรรคสิ้นสภาพ และต้องมีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 60 วัน