เลขาฯประธานชวน โต้ 'ปารีณา' ฟังให้ได้ศัพท์ก่อนจับไปกระเดียด!

เลขาฯประธานรัฐสภาโต้ ‘ปารีณา’ ฟังให้ได้ศัพท์ก่อนจับไปกระเดียด ยัน ‘ชวน’ ยึดกฎหมายเคร่งครัด ชี้ต่างจากกรณีธนาธรนั่งกมธ.งบปี64โควตาคนนอก

12 พ.ย. 2564 – นายราเมศ รัตนะเชวง เลขานุการประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟซบุ๊กพาดพิง “นายชวน หลีกภัย” ประธานรัฐสภา เรื่องการดำรงตำแหน่งกรรมาธิการวิสามัญของ ส.ส.ที่ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ว่า

หลักการกรณีของนางสาวปารีณา เป็นไปตามคำสั่งศาลที่ได้สั่งในทางคดี เป็นคดีที่ถูกฟ้องต่อศาลฎีกา เรื่องยึดถือ ครอบครอง และใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐโดยมิชอบ ว่าด้วยเรื่องจริยธรรม และศาลได้มีคำสั่งรับคำร้องของ ป.ป.ช. ที่ขอให้ศาลวินิจฉัยการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ เมื่อศาลมีความเห็นเช่นนั้น นางสาวปรีณาก็ต้องปฏิบัติตาม ในฐานะเป็นคู่ความในคดีตามหลักกฎหมาย

“ส่วนที่กล่าวพาดพิงนายชวน หลีกภัย ว่าเคยปกป้องคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กรณีนั่งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีนั้น ปารีณาควรฟังให้ครบ ฟังให้ได้ศัพท์ก่อนจับไปกระเดียด กรณีของคุณธนาธร มีผู้สื่อข่าวถามประธานสภาผู้แทนราษฏร ว่าบุคคลที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. แต่ไปเป็นกรรมาธิการในสัดส่วนคนนอกได้หรือไม่ นายชวนตอบว่า ต้องยึดรัฐธรรมนูญเป็นหลัก บทบาทการเป็น ส.ส.ทำไม่ได้ แต่บทบาทของกรรมาธิการวิสามัญ ภายในกรอบว่าถ้าอะไรที่เกี่ยวกับบทบาทของความเป็นผู้แทนก็ทำไม่ได้ และขณะนั้นยังย้ำว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องวินิจฉัย ประธานสภาผู้แทนราษฏรไม่ใช่ผู้แต่งตั้งกรรมาธิการ สภาฯเป็นคนตั้ง ประธานสภาฯไม่มีอำนาจวินิจฉัย เรื่องนี้มีหลักการอยู่ชัดเจน ไม่มีรัฐธรรมนูญมาตราไหนให้ประธานสภาวินิจฉัยความชอบของคนที่มาดำรงตำแหน่งกรรมาธิการวิสามัญ เป็นเรื่องของสภาที่แต่งตั้ง องค์กรที่เกี่ยวข้องที่มีหน้าที่ตรวจสอบก็ว่ากันไปตามกระบวนการตรวจสอบถ่วงดุล” นายราเมศ ระบุ

เลขานุการประธานรัฐสภา กล่าวตอนท้ายว่า ที่พาดพิงว่าประธานสภาต้องแม่นกฎหมายและคิดก่อนพูดนั้น คงไม่ไปตอบโต้อะไรในประเด็นนี้ แต่ขอย้ำว่านายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ยึดหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซื่อสัตย์ สุจริตเป็นที่ตั้ง ตลอดมา ถึงอยู่มาได้ถึงทุกวันนี้ น.ส.ปารีณาควรใช้เวลาในการต่อสู้คดีจะดีกว่าพาดพิงคนอื่นนักกฎหมายที่แม่นข้อกฎหมายมีหลักการอย่างหนึ่งคือ ในการต่อสู้คดีได้ทนายความที่เก่งที่แม่นข้อกฎหมายคือเรื่องที่ดี แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากเช่นกันคือความจริงของคนที่เป็นลูกความ คือสาระสำคัญที่สุด ต้องติดตามกันต่อไป หลักพื้นฐานกฎหมายสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจําเลยไม่มีความผิด จนกว่าศาลจะมีคําพิพากษาอันถึงที่สุด เชื่อว่าหลายคนรอติดตามจุดสิ้นสุดอย่างใกล้ชิด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตรังคึกคัก! ‘นิพิฏฐ์’ เผย ‘ชวน’  ไม่ได้สู้กับใคร แต่ใครจะสู้กับท่านผมไม่รู้

นาย นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความว่า  ท่านชวน หลีกภัย ไม่ได้สู้กับใคร แต่ใครจะสู้กับท่านผมไม่รู้

ปชป. ตบปาก 'ณัฐวุฒิ' ปลุกเผาเมือง ชดใช้หรือยัง

'ราเมศ' แจงเหตุสลายชุมนุมปี 53 'อภิสิทธิ์' พิสูจน์จนสิ้นกระแสความแล้ว คนใส่ร้ายติดคุก ย้อน 'ณัฐวุฒิ' ปลุกเผาเมือง ชดใช้ค่าเสียหายหรือยัง

กมธ.ฯ ยังไม่ฟันธงเลิก MOU43-44 หรือไม่ เหตุต้องรอบคอบ มองปฏิญญาสันติภาพจุดเริ่มต้นที่ดี

กมธ.MOU 43-44 สว. ยังไม่ฟันควรยกเลิกหรือไม่ เชื่อจะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้รัฐบาลตัดสินใจ มองปฏิญญาสันติภาพเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี หวังกัมพูชาไม่กล้าละเมิด เหตุมีประเทศมหาอำนาจและ 11 ชาติอาเซียนเป็นสักขีพยาน