'สุวัจน์' ยันหากนายกฯยุบสภา 'ชาติพัฒนากล้า' พร้อมเลือกตั้ง แจงพบ 'อนุทิน' ไม่มีการเมือง

'สุวัจน์' แย้มหากนายกฯยุบสภา'ชาติพัฒนากล้า'พร้อมเลือกตั้งมั่นใจได้สส.มากกว่าเดิม ดับฝันแลนด์สไลด์ฟันธงหลังเลือกตั้งรัฐบาลผสม ยันพบ'อนุทิน'มีความสนิทสนมคุ้นเคยกัน แค่ฟังเพลงนึกถึงความหลังไม่มีการเมือง

25 พ.ย.2565 - นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ จ.นครราชสีมา ถึงสถานการณ์ทางการเมืองกระแสข่าวยุบสภาฯ จากปัญหาพรรคใหญ่ 2 ป.แยกทาง ว่า ตอนนี้ภารกิจที่สำคัญในการเป็นเจ้าภาพเอเปกก็จบไปแล้ว ซึ่งคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีที่เราสามารถเป็นเจ้าภาพที่ดีแล้วสร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือน ไมว่าจะเป็นการช่วยกันสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและการลงทุนต่างๆให้กับประเทศถือว่าประสบความสำเร็จและตอนนี้เมื่อเอเปกจบไปแล้วต่อไปก็คงจะไม่มีเรื่องอะไรที่เป็นภารกิจที่ใหญ่ก็คงมาพูดกันถึงเรื่องการเมือง ซึ่งมันก็คงเข้สู่โหมดการนับถอยหลังสู่การเลือกตั้งทั่วไป คิดว่าก็คงจะต้องรอความชัดเจนจากศาลรัฐธรรมนูญด้วย อย่างเมื่อวานนี้ศาลก็ได้ให้คำวินิจฉัยในเรื่องของกฎหมายพรรคการเมืองแล้วต่อไปก็เป็นเรื่องกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งตนคิดว่าบรรยากาศบ้านเมืองตอนนี้ทุกอย่างถือว่าเรียบร้อย ส่วนการเลือกตั้งกติกาอะไรต่างๆก็คงจะต้องรอฟังความชัดเจนจากศาลรธน. และการตัดสินใจของรัฐบาล ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าจะให้มีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ คิดว่าทุกพรรคการเมืองต้องพร้อม ตอนนี้บรรยากาศก็พร้อมแล้วทุกอย่าง

ส่วนปัญหาที่กำลังร้อนแรงจากปัญหาพรรคใหญ่พรรครัฐบาล 2 ป.จะแยกทางกันคิดว่าควรจะยุบสภาฯช่วงนี้หรือเดือนธันวาคมก่อนปีใหม่หรือหลังปีใหม่นั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า ก็แล้วแต่การตัดสินใจของรัฐบาล เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ทุกคนก็พร้อมกันอยู่แล้ว พรรคชาติพัฒนากล้าเราก็พร้อมเต็มที่อยู่แล้ว ชัดเจนเมื่อไหร่ก็ลงสู่สนามเลือกตั้งกัน พรรคชาติพัฒนากล้ามั่นใจจะได้ ส.ส.มากกว่าเดิมแน่นอน มั่นใจว่าดีกว่าเดิมเยอะก็ดูจากผลสำรวจ ดูจากผลงานต่างๆ คิดว่าเที่ยวนี้พรรคชาติพัฒนากล้าจะเข้มแข็งขึ้นจะได้มีโอกาสทำงานให้กับพี่น้องประชาชน เพราะจริงๆแล้วเราอยากจะเข้าไปทำงานในเรื่องของเศรษฐกิจ เพราะว่าตอนนี้เป็นปัญหาจริงๆที่จะต้องไปแก้ไขกัน คิดว่านโยบายกับบุคลากรของพรรคชาติพัฒนากล้ามีความพร้อม มีความมั่นใจก็คิดว่าประมาณช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้พรรคชาติพัฒนากล้าจะเปิดตัวนโยบายพรรคฯ โดยเฉพาะนโยบายเศรษฐกิจว่า ของจะไม่แพงต้องทำอย่างไร ทุกคนจะต้องมีงานทำต้องทำอย่างไร ทุกคนจะต้องมีเงินกันต้องทำอย่างไร

ส่วนการมองเรื่องโพลแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีและพรรคการเมืองคิดว่ามันก็สะท้อนความรู้สึกนึกคิด พรรคการเมืองก็ต้องไปปรับยุทธวิธีให้เหมาะสม การทำโพลก็เป็นวิทยาศาสตร์อย่างหนึ่ง ต่างประเทศเวลาจะเลือกตั้งเรื่องการเมืองพรรคการเมืองก็ใช้โพลเพื่อที่จะมาจัดทำนโยบายและมาปรับกำลังภายในพรรคให้เหมาะสมก็ต้องฟังและมาปรับ อย่างตอนนี้โพลต่างๆที่ออกมาพรรคชาติพันากล้าก็น้อมรับแล้วก็นำมาศึกษาว่าพี่น้องประชาชนเป็นห่วงเรื่องอะไร และอยากเห็นการเมืองแนวไหน อยากเห็นเศรษฐกิจแบบไหน เราก็มาทำในสิ่งที่สะท้อนออกมาจากการทำโพล อย่างเที่ยวนี้เราถึงมั่นใจว่าปัญหาความเจ็บปวดและสิ่งที่พี่น้องประชาชนอยากเห็นมากก็คือนโยบายเศรษฐกิจการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ พรรคชาติพัฒนากล้ามั่นใจ และมั่นใจในคนของเรา มั่นใจในนโยบาย ต้นเดือนธันวาคมนี้กำหนดนโยบาย

ผู้สื่อข่าวถามถึงช่วงนี้มีคนหลายเข้าพบบ่อย โดนเฉพาะการพบกันกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยมีอะไรเซอร์ไพร์สอีก นายสุวัจน์ ก่อนกล่าวถึงกับหัวเราะชอบอกชอบใจ ว่า ไม่มีอะไร นายอนุทิน กับตนสนิทกันมานาน ตั้งแต่สมัยพรรคชาติพัฒนา ตอนพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นหัวหน้าพรรคฯ คุณพ่อนายอนุทิน นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ท่านเป็นผู้ใหญ่ในพรรค และเป็นเพื่อนกับพล.อ.ชาติชาย ตอนนั้นท่านก็เริ่มชีวิตการเมืองด้วยการเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังที่พรรคชาติพัฒนาและตอนหลังนายอนุทินก็เติบโต พรรคชาติพัฒนา ฉะนั้นมีความสนิท มีความคุ้นเคย เพียงแต่วันนี้พอดีมีวงดนตรีจากต่างประเทศ วงแพตเตอร์เป็นนักดนตรีรุ่นเก่า ใครๆก็ต้องรู้จักก็เลยไปเจอกันที่งานก็เลยนั่งโต๊ะเดียวกันก็ฟังเพงนึกถึงความหลังกัน ไม่มีการเมือง

"ขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้ง แต่ว่าจะอย่างไรก็แล้วแต่เถอะคิดว่าที่ผ่านมาเราก็มีรัฐบาลผสมตลอด จะผสมกันอย่างไรก็แล้วแต่คิดว่าต้องผสมกันให้ถูกสัดถูกส่วนคือผสมกันให้เกิดเสถียรภาพ และให้เกิดนโยบายที่ดีสามารถมาแก้ไขปัญหาประเทศได้ อันนี้สำคัญ 2 เรื่อง ผสมกันให้เกิดนโยบายที่ดีในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และผสมกันให้เกิดเสถียรภาพ เพราะปัญหาของประเทศใน 4 ปีข้างหน้านี้เราจำเป็นมากๆที่ต้องได้การเมืองแบบมืออาชีพ มืออาชีพทางด้านเศรษฐกิจและได้การเมืองที่มีเสถียรภาพต่อเนื่องถึงจะดึงนักลงทุนกลับมาได้ ถึงจะสร้างความมั่นใจและสามารถที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่รุมเร้าอยู่ที่เป็นปัญหามากๆ" นายสุวัจน์ วิเคราะห์ถึงหลังการเลือกตั้งจะเป็นรัฐบาลผสมหรือรัฐบาลพรรคเดียวจัดตั้งรัฐบาลที่ตั้งเป้าจะได้แลนด์สไลด์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สุวัจน์' หวนคืนชื่อเดิม 'พรรคชาติพัฒนา' แต่งตั้ง สส.แจ้ เป็นรองหัวหน้าพรรค

พรรคชาติพัฒนากล้า เปิดการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2567 นำโดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า , นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ,

‘สุวัจน์’ ชี้เปรี้ยง ‘อุ๊งอิ๊ง’ เหมาะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อจาก ‘เศรษฐา’

8 ม.ค.2567 - ที่จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงการมองการเมืองปีมังกรทอง 2567 ว่า เมื่อสองวันที่ผ่านมาการเมืองถือว่าเป็นบรรยากาศที่ดีที่สภาให้ความเห็นชอบงบประมาณสำหรับปี 2567 จำนวน 3.48

'สุวัจน์' แนะนายกฯโฟกัสหารายได้เพิ่มให้ประเทศ ใช้ประสบการณ์ทางธุรกิจผลักดันผลงาน

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า(ชพก.) ประเมินผลการทำงานของรัฐบาล 3 เดือนว่า รัฐบาลพยายามทำงานในสิ่งที่สัญญากับประชาชนไว้ตอนเลือกตั้ง โดยเฉพาะปัญหาเฉพาะหน้า เช่น เศรษฐกิจระยะสั้น การตรึงราคาค่าไฟ ค่าน้ำมัน หนี้นอกและในระบบเพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนให้ดี

'เทวัญ' เผยนายกฯไม่ได้ลงรายละเอียดถกงบปี 67 แต่กำชับให้อยู่ครบองค์ประชุม

นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือกับนายกรัฐมนตรีว่า นายกฯได้ฝากให้แต่ละพรรคกำชับสมาชิกให้เข้าร่วมการประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 67 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3-5 ม.ค.67 อย่างพร้อมเพรียง

'สุวัจน์' มองแง่ดี 'รัฐมนตรี' ได้ฉายาแสดงว่ามีตัวตน!

'สุวัจน์' มองฉายารัฐบาล 'แกงส้มผลักรวม' น่ารัก หยิกแกมหยอก ขออย่าซีเรียส ชี้จงภูมิใจได้รับฉายาคือ Someone ไม่ใช่ No One อวดเคยได้รับฉายาถึง 2 ครั้ง